สวัสดีค่ะ เรามีเรื่องอยากจะมาระบายคะ
พ่อของเราเป็นคนที่จู้จี้และเจ้ากี้เจ้าการมาก ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ตั้งแต่สีชุดชั้นใน กระเป๋า หรือรองเท้าของเรายันเรื่องอื่นๆอีกมากมาย แต่เราก็ไม่เคยว่าอะไรเพราะรู้ว่าที่พ่อจู้จี้กับเราเป็นเพราะรัก และห่วงเรามาก ปกติพ่อของเราจะตามใจเรามาก เราอยากได้อะไรก็ให้แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่พ่อไม่ชอบของที่เราเลือกก็จะพูดประมาณว่า "อันนี้ดีหรอ? เอาอันนี้(ของที่พ่อชอบ)ดีกว่ามั้ย? แล้วแต่นะป๊าให้เลือกอยากเอาอันไหนก็ได้ ตามใจ" พูดเหมือนให้เราเลือกแต่จริงๆคือ เราต้องเอาอันที่พ่อเลือกให้เท่านั้น(แล้วจะบอกให้เลือกทำไม?)
พ่อเป็นคนที่ชอบเอาความคิดตัวเองไปใหญ่ถ้าคิดว่าความคิดตัวเองถูกใครจะค้านก็ไม่ได้ แต่ความคิดของท่านส่วนใหญ่จะเป็นความคิดที่มีเหตุผลน่าเชื่อถือมาก(ถึงหลายครั้งความคิดที่ดูน่าเชื่อถือนั้นจะผิดไปเยอะเลยก็ตาม) นั้นทำให้เราไม่เคยเถียง(อาจจะบ้างนิดหน่อยบางครั้ง)หรืออะไรกับท่านเลย แต่มีแค่เรื่องเดียวเท่านั้นที่เราไม่ชอบและไม่ยอมรับเลยคือเรื่อง "เพื่อน" พ่อเรามักจะชอบมองอคติกับเพื่อนสนิทเราทุกคน ขอแค่สนิทกับเราก็พอทุกคนก็จะแย่ในสายตาพ่อทันที และก็ชอบมาพูดกับเราว่าทำไมเพื่อนสนิทเราคนนี้เป็นแบบนั้นแบบนี้ เราเลยถามพ่อว่าแล้วเพื่อนที่ดีควรเป็นยังไง?
1. ต้องโทรศัพท์คุยกันเป็นประจำ >>> ส่วนตัวเราคิดว่าไม่จำเป็นต้องโทรคุยกันก็ได้นิ เพราะเป็นพวกชอบแชทคุยกันซะมากกว่า อย่างเพื่อนสนิทของเราก็เป็นพวกไม่ชอบคุยโทรศัพท์ แต่เราก็แชทคุยกันแทนเกือบทุกวัน แต่พ่อเรากับมองว่าเพื่อนสนิทเราคนนี้ไม่จริงใจกับเรา(?)
2. เวลาไปเที่ยวด้วยกันต้องไปกินอาหารที่ร้านอาหารตามห้าง ดูหนัง แต่ห้ามเดินเล่นกันอย่างเดียว >>> เพื่อนกันเดินเล่นกันอย่างเดียวไม่ได้? เราก็ถามพ่ออีกว่าทำไม พ่อก็บอกว่าเดินอย่างเดียวไม่เห็นจะเกิดประโยชน์ตรงไหนเลย เสียเวลาเปล่าๆ แล้วทุกครั้งเราขอไปเที่ยวกับเพื่อน พ่อก็จะถามว่าไปกินไรหรือทำอะไร พอเราบอกแค่ไปเดินเล่นอย่างเดียว พ่อก็จะบอกว่าที่เพื่อนไม่ไปกินอะไรกันก็เพราะไม่มีตังค์ไปหรอ(พูดออกแนวเหยียดๆ) เราก็โต้กลับไปว่า ไม่มีตังค์ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนิ ทำไมต้องพูดเหมือนดูถูกแบบนี้ด้วย
แต่พ่อเราก็ชอบบอกว่า ไม่ได้วัดคนที่ฐานะ แต่บางครั้งคนที่ฐานะไม่ค่อยดีก็จะส่งผลให้พื้นเพนิสัยคนแย่และเห็นแก่ตัวไปด้วย ถึงจะไมใช่ทุกคนที่ฐานะไม่ดีแล้วจะเห็นแก่ตัว แต่ก็คงมีน้อยจนแทบหาเจอเลยก็ว่าได้ (ปล. บ้านเราไม่ได้มีฐานะร่ำรวย แต่มีฐานะปานกลางพอมีพอใช้ แบบไม่เดือดร้อนอะไร) แล้วพ่อเราก็จะเหมารวมเพื่อนสนิทเราไปด้วยว่าเป็นคนที่ฐานค่อยดีแล้วก็เห็นแก่ตัว
3. เราขอเลื่อนนัดได้ แต่เพื่อนขอเลื่อนนัดไม่ได้ >>> เหตุการณ์ที่พ่อเราไม่ชอบเพื่อนสนิทเราอย่างหนักคือการที่เพื่อนสนิทเราขอเลื่อนนัดไปเที่ยวกับเราถึง2ครั้งเพราะติดธุระอย่างอื่น แล้วพ่อเราก็บอกว่าทำไมเพื่อนเราทำอย่างนี้ นัดกันไว้อย่างดีแล้วมาเลื่อนได้ยังไง เห็นแก่ตัวมาก แต่พอมีครั้งนึงเราต้องไปทำธุระอย่างอื่นกับพ่อ พ่อก็บอกให้ไปเลื่อนนัดกับเพื่อนซะ เราก็บอกว่าอุส่านัดกันไว้แล้วยกเลิกไปมันก็เสียดายแย่เลย พ่อเราก็บอกว่าเรื่อแค่นี้เพื่อนก็ต้องเข้าใจบ้างสิว่าเรามีธุระจำเป็น (แต่พอเพื่อนเลื่อนนัดบ้าง ทำไมพ่อไม่เข้าใจบ้างล่ะ?)
และนี่ก็คือมาตรฐานความเป็นเพื่อนของพ่อเราค่ะ (จริงๆมีเยอะกว่านี้นี่แค่ยกเอาหัวข้อใหญ่ๆมาให้ดู)
ส่วนตอนนี้เรากำลังเคลียดมากจริงๆคือ เทอมนี้เป็นเทอมแรกของการขึ้นม.4ของเรา และเราก็ได้อยู่คนล่ะห้องกับเพื่อนสนิทเรา(เรียนคนละสายกัน) เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พ่อเราดีใจมาก ตอนเปิดเทอมช่วงแรกๆพ่อเราก็แค่บอกว่าดีแล้วจะได้ห่างกับเพื่อนสนิทแย่ๆไปบ้าง ไม่ห้ามที่จะคบกันต่อ แต่เราก็ควรหาเพื่อนสนิทในห้องเรียนใหม่ให้ได้ หลายครั้งพ่อก็ชอบถามว่าเป็นไงบ้างเจอเพื่อนดีๆบ้างรึยัง เราก็จะเงียบไม่ตอบหรือไม่ก็ตอบแบบเลี่ยงๆไปตลอด จนมาถึงช่วงเทอม เราก็เริ่มสนิทกับคนในห้องแล้ว และที่สนิทที่สุดคงจะเป็น W (ขอใช้เป็นนามสมมุตินะค่ะ) เพื่อนคนนี้นิสัยน่ารัก เรียบร้อยมีมารยาท และฐานะดีมาก ถูกใจตรงสเป็คพ่อเราสุดๆ พ่อเราจึงเชียร์ให้เราสนิทคนนี้ให้ได้ (เมื่อก่อนพ่อเราก็เคยเชียร์ให้เราสนิทกับคนนู้นคนนี้อยู๋บ่อยๆ เราก็ชินแล้ว แต่คนนี้พ่อเราชอบมากที่สุด) ทุกๆวันเวลาพ่อเรามารับ-ส่งเราที่รร. ก็จะชอบพูดชอบถามตลอดว่า
- เป็นไงสนิทกับ W ยัง?
- ตอนกลางวันอย่าลืมชวน W ไปกินข้าวด้วยกันล่ะ
- เสาร์นี้ชวน W ไปเที่ยวด้วย
- โทรไปหา W บ้างนะ เดี๋ยว W จะเหงา
- ตอนเย็นจะเดินไปไหนในรร.ก็ชวน W ไปด้วยนะ บลาๆๆ
แล้วพอบางครั้งเราตอบไปว่ากลางวันไปกินกับเพื่อนสนิท พ่อก็จะดูไม่ชอบใจแล้วบอกว่า ทำไมไม่ชวนW? ทำไมไม่ยอมสนิทกับW? Wมีอะไรแย่ตรงไหน? เป็นแบบนี้ทุกวัน จนนานวันเข้าก็ยิ่งหนักข้อขึ้น อะไรๆก็W และก็เริ่มว่า(ด่า)เพื่อนสนิทเราหนักขึ้นเรื่อยๆ เอาWไปเปรียบกันเพื่อนสนิทเราทุกอย่าง ให้เลิกคบซะ เพื่อนแย่ๆก็ควรตัดทิ้งไปยิ่งดี (ไหนตอนแรกบอกจะคบกันก็ไม่ว่าไง?) แล้วพอเราเริ่มสนิทกับW Wก็เป็นพวกชอบโทรคุยมาก ก็โทรมาหาเราบ่อยๆ พ่อเราก็ยิ่งชอบWเข้าไปใหญ่ บางครั้งเห็นเราว่างๆก็บอกให้เราโทรไปคุยกับWบ้างสิ (คือเราไม่ชอบคุยโทรศัพท์ โทรไปก็ไม่รู้จะคุยอะไร ถ้าอีกฝ่ายไม่เป็นคนเปิดประเด็น มันจึงน่าเบื่อมากเวลาคุยโทรศัพท์)
เราจะยกตัวอย่างเวลาพ่อมองยังไงระหว่างเพื่อนสนิทเรากับWให้ดูคะ
- เพื่อนสนิทเรากลับบ้านเอง >> พ่อแม่เพื่อนสนิทเราแย่มากที่เลี้ยงลูกแบบปล่อย ให้ลูกกลับเองได้ไง เป็นวิธีการเลี้ยงลูกที่แย่มาก
- W พ่อมารับตอนเลิกเรียน >> พ่อแม่เอาใจใส่ดีมากที่ไม่ปล่อยให้ลูกกลับเอง ดีมาก (พ่อเราก็มารับ-ส่งเราตลอดเหมือนกัน)
- ไปซื้อขนมหน้ารร.กันแล้วเพื่อนสนิทไม่ซื้อ >> ฐานะไม่ค่อยดี ถึงไม่มีตังค์ซื้อขนม
- ไปซื้อขนมหน้ารร.กันแล้ว W ไม่ซื้อ >> ไม่ว่าอะไร แถมบอกว่า ทำไมเราไม่เลี้ยงเพื่อนล่ะ
เหตุการณ์เหมือนกันแค่ไม่เหมือนกันที่คนก็ต่างกันขนาดนี้แล้ว บอกตรงๆเราอึดอัดและเคลียดมากไม่รู้จะทำไงดี จนเดี๋ยวนี้เวลาเราจะไม่พูดเรื่องเพื่อนหรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับเพื่อน รร.ให่พ่อและแม่เราฟังเลยสักนิด เพราะถ้าเราบอกว่าเพื่อนสนิทไม่ได้เป็นอย่างที่พ่อเข้าใจนะ(พูดประมาณเพื่อนสนิทเราดี ไม่ได้แย่อย่างที่พ่อคิด) พ่อเราก็จะบ่นและอบรมเรื่องเพื่อนให้เราฟังไม่ต่ำกว่าชม. และก็จะบอกให้เราตาสว่างสักทีว่าเพื่อนคนไหนดีไม่ดี คนที่ควรคบคือWไม่ใช่เพื่อนสนิทเรา ยิ่ง2อาทิตย์มานี้เวลานั่งบนรถไปรร.หรือกลับบ้าน เราต้องนั่งฟังเรื่องพวกนี้ทุกๆวัน จนเรารู้สึกอีดอัดและเก็บกดมาก ไม่รู้จะระบายให้ใครฟังดี จะระบายให้เพื่อนสนิทเราฟังก็ไม่ได้ หรือระบายให้แม่ฟังก็ไม่ได้อีกเพราะแม่เชื่อพ่อตลอด จนเราต้องมาระบายในพันทิพแทน
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาฟังเราระบายมากคะ ผิดพลาดอะไรไปต้องขออภัยด้วนนะค่ะ
เคลียดมากกับมาตรฐานความเป็น"เพื่อน"ของพ่อ
พ่อของเราเป็นคนที่จู้จี้และเจ้ากี้เจ้าการมาก ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ตั้งแต่สีชุดชั้นใน กระเป๋า หรือรองเท้าของเรายันเรื่องอื่นๆอีกมากมาย แต่เราก็ไม่เคยว่าอะไรเพราะรู้ว่าที่พ่อจู้จี้กับเราเป็นเพราะรัก และห่วงเรามาก ปกติพ่อของเราจะตามใจเรามาก เราอยากได้อะไรก็ให้แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่พ่อไม่ชอบของที่เราเลือกก็จะพูดประมาณว่า "อันนี้ดีหรอ? เอาอันนี้(ของที่พ่อชอบ)ดีกว่ามั้ย? แล้วแต่นะป๊าให้เลือกอยากเอาอันไหนก็ได้ ตามใจ" พูดเหมือนให้เราเลือกแต่จริงๆคือ เราต้องเอาอันที่พ่อเลือกให้เท่านั้น(แล้วจะบอกให้เลือกทำไม?)
พ่อเป็นคนที่ชอบเอาความคิดตัวเองไปใหญ่ถ้าคิดว่าความคิดตัวเองถูกใครจะค้านก็ไม่ได้ แต่ความคิดของท่านส่วนใหญ่จะเป็นความคิดที่มีเหตุผลน่าเชื่อถือมาก(ถึงหลายครั้งความคิดที่ดูน่าเชื่อถือนั้นจะผิดไปเยอะเลยก็ตาม) นั้นทำให้เราไม่เคยเถียง(อาจจะบ้างนิดหน่อยบางครั้ง)หรืออะไรกับท่านเลย แต่มีแค่เรื่องเดียวเท่านั้นที่เราไม่ชอบและไม่ยอมรับเลยคือเรื่อง "เพื่อน" พ่อเรามักจะชอบมองอคติกับเพื่อนสนิทเราทุกคน ขอแค่สนิทกับเราก็พอทุกคนก็จะแย่ในสายตาพ่อทันที และก็ชอบมาพูดกับเราว่าทำไมเพื่อนสนิทเราคนนี้เป็นแบบนั้นแบบนี้ เราเลยถามพ่อว่าแล้วเพื่อนที่ดีควรเป็นยังไง?
1. ต้องโทรศัพท์คุยกันเป็นประจำ >>> ส่วนตัวเราคิดว่าไม่จำเป็นต้องโทรคุยกันก็ได้นิ เพราะเป็นพวกชอบแชทคุยกันซะมากกว่า อย่างเพื่อนสนิทของเราก็เป็นพวกไม่ชอบคุยโทรศัพท์ แต่เราก็แชทคุยกันแทนเกือบทุกวัน แต่พ่อเรากับมองว่าเพื่อนสนิทเราคนนี้ไม่จริงใจกับเรา(?)
2. เวลาไปเที่ยวด้วยกันต้องไปกินอาหารที่ร้านอาหารตามห้าง ดูหนัง แต่ห้ามเดินเล่นกันอย่างเดียว >>> เพื่อนกันเดินเล่นกันอย่างเดียวไม่ได้? เราก็ถามพ่ออีกว่าทำไม พ่อก็บอกว่าเดินอย่างเดียวไม่เห็นจะเกิดประโยชน์ตรงไหนเลย เสียเวลาเปล่าๆ แล้วทุกครั้งเราขอไปเที่ยวกับเพื่อน พ่อก็จะถามว่าไปกินไรหรือทำอะไร พอเราบอกแค่ไปเดินเล่นอย่างเดียว พ่อก็จะบอกว่าที่เพื่อนไม่ไปกินอะไรกันก็เพราะไม่มีตังค์ไปหรอ(พูดออกแนวเหยียดๆ) เราก็โต้กลับไปว่า ไม่มีตังค์ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนิ ทำไมต้องพูดเหมือนดูถูกแบบนี้ด้วย
แต่พ่อเราก็ชอบบอกว่า ไม่ได้วัดคนที่ฐานะ แต่บางครั้งคนที่ฐานะไม่ค่อยดีก็จะส่งผลให้พื้นเพนิสัยคนแย่และเห็นแก่ตัวไปด้วย ถึงจะไมใช่ทุกคนที่ฐานะไม่ดีแล้วจะเห็นแก่ตัว แต่ก็คงมีน้อยจนแทบหาเจอเลยก็ว่าได้ (ปล. บ้านเราไม่ได้มีฐานะร่ำรวย แต่มีฐานะปานกลางพอมีพอใช้ แบบไม่เดือดร้อนอะไร) แล้วพ่อเราก็จะเหมารวมเพื่อนสนิทเราไปด้วยว่าเป็นคนที่ฐานค่อยดีแล้วก็เห็นแก่ตัว
3. เราขอเลื่อนนัดได้ แต่เพื่อนขอเลื่อนนัดไม่ได้ >>> เหตุการณ์ที่พ่อเราไม่ชอบเพื่อนสนิทเราอย่างหนักคือการที่เพื่อนสนิทเราขอเลื่อนนัดไปเที่ยวกับเราถึง2ครั้งเพราะติดธุระอย่างอื่น แล้วพ่อเราก็บอกว่าทำไมเพื่อนเราทำอย่างนี้ นัดกันไว้อย่างดีแล้วมาเลื่อนได้ยังไง เห็นแก่ตัวมาก แต่พอมีครั้งนึงเราต้องไปทำธุระอย่างอื่นกับพ่อ พ่อก็บอกให้ไปเลื่อนนัดกับเพื่อนซะ เราก็บอกว่าอุส่านัดกันไว้แล้วยกเลิกไปมันก็เสียดายแย่เลย พ่อเราก็บอกว่าเรื่อแค่นี้เพื่อนก็ต้องเข้าใจบ้างสิว่าเรามีธุระจำเป็น (แต่พอเพื่อนเลื่อนนัดบ้าง ทำไมพ่อไม่เข้าใจบ้างล่ะ?)
และนี่ก็คือมาตรฐานความเป็นเพื่อนของพ่อเราค่ะ (จริงๆมีเยอะกว่านี้นี่แค่ยกเอาหัวข้อใหญ่ๆมาให้ดู)
ส่วนตอนนี้เรากำลังเคลียดมากจริงๆคือ เทอมนี้เป็นเทอมแรกของการขึ้นม.4ของเรา และเราก็ได้อยู่คนล่ะห้องกับเพื่อนสนิทเรา(เรียนคนละสายกัน) เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พ่อเราดีใจมาก ตอนเปิดเทอมช่วงแรกๆพ่อเราก็แค่บอกว่าดีแล้วจะได้ห่างกับเพื่อนสนิทแย่ๆไปบ้าง ไม่ห้ามที่จะคบกันต่อ แต่เราก็ควรหาเพื่อนสนิทในห้องเรียนใหม่ให้ได้ หลายครั้งพ่อก็ชอบถามว่าเป็นไงบ้างเจอเพื่อนดีๆบ้างรึยัง เราก็จะเงียบไม่ตอบหรือไม่ก็ตอบแบบเลี่ยงๆไปตลอด จนมาถึงช่วงเทอม เราก็เริ่มสนิทกับคนในห้องแล้ว และที่สนิทที่สุดคงจะเป็น W (ขอใช้เป็นนามสมมุตินะค่ะ) เพื่อนคนนี้นิสัยน่ารัก เรียบร้อยมีมารยาท และฐานะดีมาก ถูกใจตรงสเป็คพ่อเราสุดๆ พ่อเราจึงเชียร์ให้เราสนิทคนนี้ให้ได้ (เมื่อก่อนพ่อเราก็เคยเชียร์ให้เราสนิทกับคนนู้นคนนี้อยู๋บ่อยๆ เราก็ชินแล้ว แต่คนนี้พ่อเราชอบมากที่สุด) ทุกๆวันเวลาพ่อเรามารับ-ส่งเราที่รร. ก็จะชอบพูดชอบถามตลอดว่า
- เป็นไงสนิทกับ W ยัง?
- ตอนกลางวันอย่าลืมชวน W ไปกินข้าวด้วยกันล่ะ
- เสาร์นี้ชวน W ไปเที่ยวด้วย
- โทรไปหา W บ้างนะ เดี๋ยว W จะเหงา
- ตอนเย็นจะเดินไปไหนในรร.ก็ชวน W ไปด้วยนะ บลาๆๆ
แล้วพอบางครั้งเราตอบไปว่ากลางวันไปกินกับเพื่อนสนิท พ่อก็จะดูไม่ชอบใจแล้วบอกว่า ทำไมไม่ชวนW? ทำไมไม่ยอมสนิทกับW? Wมีอะไรแย่ตรงไหน? เป็นแบบนี้ทุกวัน จนนานวันเข้าก็ยิ่งหนักข้อขึ้น อะไรๆก็W และก็เริ่มว่า(ด่า)เพื่อนสนิทเราหนักขึ้นเรื่อยๆ เอาWไปเปรียบกันเพื่อนสนิทเราทุกอย่าง ให้เลิกคบซะ เพื่อนแย่ๆก็ควรตัดทิ้งไปยิ่งดี (ไหนตอนแรกบอกจะคบกันก็ไม่ว่าไง?) แล้วพอเราเริ่มสนิทกับW Wก็เป็นพวกชอบโทรคุยมาก ก็โทรมาหาเราบ่อยๆ พ่อเราก็ยิ่งชอบWเข้าไปใหญ่ บางครั้งเห็นเราว่างๆก็บอกให้เราโทรไปคุยกับWบ้างสิ (คือเราไม่ชอบคุยโทรศัพท์ โทรไปก็ไม่รู้จะคุยอะไร ถ้าอีกฝ่ายไม่เป็นคนเปิดประเด็น มันจึงน่าเบื่อมากเวลาคุยโทรศัพท์)
เราจะยกตัวอย่างเวลาพ่อมองยังไงระหว่างเพื่อนสนิทเรากับWให้ดูคะ
- เพื่อนสนิทเรากลับบ้านเอง >> พ่อแม่เพื่อนสนิทเราแย่มากที่เลี้ยงลูกแบบปล่อย ให้ลูกกลับเองได้ไง เป็นวิธีการเลี้ยงลูกที่แย่มาก
- W พ่อมารับตอนเลิกเรียน >> พ่อแม่เอาใจใส่ดีมากที่ไม่ปล่อยให้ลูกกลับเอง ดีมาก (พ่อเราก็มารับ-ส่งเราตลอดเหมือนกัน)
- ไปซื้อขนมหน้ารร.กันแล้วเพื่อนสนิทไม่ซื้อ >> ฐานะไม่ค่อยดี ถึงไม่มีตังค์ซื้อขนม
- ไปซื้อขนมหน้ารร.กันแล้ว W ไม่ซื้อ >> ไม่ว่าอะไร แถมบอกว่า ทำไมเราไม่เลี้ยงเพื่อนล่ะ
เหตุการณ์เหมือนกันแค่ไม่เหมือนกันที่คนก็ต่างกันขนาดนี้แล้ว บอกตรงๆเราอึดอัดและเคลียดมากไม่รู้จะทำไงดี จนเดี๋ยวนี้เวลาเราจะไม่พูดเรื่องเพื่อนหรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับเพื่อน รร.ให่พ่อและแม่เราฟังเลยสักนิด เพราะถ้าเราบอกว่าเพื่อนสนิทไม่ได้เป็นอย่างที่พ่อเข้าใจนะ(พูดประมาณเพื่อนสนิทเราดี ไม่ได้แย่อย่างที่พ่อคิด) พ่อเราก็จะบ่นและอบรมเรื่องเพื่อนให้เราฟังไม่ต่ำกว่าชม. และก็จะบอกให้เราตาสว่างสักทีว่าเพื่อนคนไหนดีไม่ดี คนที่ควรคบคือWไม่ใช่เพื่อนสนิทเรา ยิ่ง2อาทิตย์มานี้เวลานั่งบนรถไปรร.หรือกลับบ้าน เราต้องนั่งฟังเรื่องพวกนี้ทุกๆวัน จนเรารู้สึกอีดอัดและเก็บกดมาก ไม่รู้จะระบายให้ใครฟังดี จะระบายให้เพื่อนสนิทเราฟังก็ไม่ได้ หรือระบายให้แม่ฟังก็ไม่ได้อีกเพราะแม่เชื่อพ่อตลอด จนเราต้องมาระบายในพันทิพแทน
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาฟังเราระบายมากคะ ผิดพลาดอะไรไปต้องขออภัยด้วนนะค่ะ