หลายคนคงได้ยินคำว่า “ชีวิต คือ การเดินทาง”
ผมว่าคำนี้แหละใช่เลย!!!
โดยเฉพาะผมแล้ว การเดินทางแบบแบ็คแพ็คถือว่าเป็นอะไรที่ สนุกจนเกินคำบรรยาย
แต่หลายคนมองว่าการเดินทางแบบนี้มีข้อจำกัดหลายเรื่อง
นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงมากมาย
เมื่อเทียบกับซื้อทัวร์
อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจครับ
ลองอ่านบทความนี้ดูก่อน
ผมเชื่อว่าเมื่ออ่านจบ ความคิดของคุณจะเปลี่ยนแปลง
1.
ได้เห็นมุมอื่นนอกจากในภาพถ่ายที่เห็น
หากคุณชื่นชอบการถ่ายภาพ
ผมการันตีเลยว่าคุณจะได้เห็นมุมมองที่แตกต่างและงดงามกว่าที่ได้เห็นจากในรูป
เพราะการแบ็คแพ็ค ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของเวลา
ที่ทำให้ต้องเร่งรีบหรือเร่งร้อนเหมือนกำหนดการของบริษัททัวร์
นี่แหละครับเป็นเหตุผลแรกที่คุณควรเริ่มต้นออกเดินทาง
2.
เที่ยวได้ตามใจตัวเอง
การเดินทางด้วยตัวเอง คุณสามารถเที่ยวได้ตามใจตัวเองตามที่แพลนเอาไว้
แม้ในความเป็นจริงแพลนอาจจะถูกปรับเปลี่ยนอยู่บ้างตามสถานการณ์
ประสบการณ์เที่ยวของผมสอนให้รู้ว่า
ไม่จำเป็นต้องวางแพลนไปแบบฟิกซ์ตายตัว
เพราะเมื่อไปถึงเราอาจจะอยู่ซึมซับบรรยากาศ ณ ที่แห่งนั้นนานกว่าที่กำหนดไว้ก็ได้
หรือบางทีอาจได้รับคำแนะนำจากคนท้องถิ่นและปรับแพลนใหม่ให้กระชับขึ้น
แพลนที่คุณกำหนดไว้จึงสามารถปรับตามใจชอบได้ตลอดเวลา
เพราะมันเป็นแพลนของคุณเองไม่ใช่หรือครับ
3.
ได้เพื่อนใหม่
เวลาผมไปเที่ยวด้วยตัวเองผมจะไม่เลือกพักโรงแรมแบบนักท่องเที่ยวทั่วไป
หากแต่ต้องการเสพบรรยากาศการท่องเที่ยวสไตล์แบ็คแพ็คที่ต้องออกรสชาติลุยๆ
ฉะนั้นที่พักที่ผมต้องการ คือ โฮสเทล
หลายคนอาจจะสงสัยว่าโฮสเทลคือที่พักแบบไหน
ถึงเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวขาลุยอย่างผม
สำหรับโฮสเทล คือ ที่พักแบบห้องนอนรวม
แชร์ค่าห้องกับนักท่องเที่ยวคนอื่น
หนึ่งห้องจะมีหลายเตียง มีทั้งเตียงชั้นเดียวและสองชั้น
ที่พักแบบนี้ส่วนใหญ่จะมีพื้นที่ส่วนกลาง เช่นห้องนั่งเล่น และห้องสันทนาการ
เพื่อให้บรรดานักเดินทางทั้งหลายมานั่งรวมตัวพูดคุยและทักทายกัน
นี่แหละสวรรค์ของผมเพราะเราต้องการเพื่อนใหม่ๆ หามิตรสหายจากการเดินทาง
ทำให้ผมได้เพื่อนใหม่ต่างแดนหรือแปลกหน้าจากที่นี่แหละครับ
นี่แหละครับเป็นมนต์เสน่ห์ของการแบ็คแพ็คเที่ยวด้วยตัวเองอย่างหนึ่ง
4.
ได้สร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตให้ดีขึ้น
ผมเชื่อว่า การเดินทาง คือการเก็บเกี่ยวประสบการณ์และสร้างคุณค่าให้กับชีวิตที่ดีขึ้น
ครั้งหนึ่ง St.Augustine เคยกล่าวไว้ว่า “โลกใบนี้เปรียบเสมือนหนังสือหนึ่งเล่ม
โดยคนที่ไม่เคยเดินทางก็เปรียบเสมือนคนที่อ่านหนังสือเพียงหน้าเดียว”
ขณะที่ Samuel Johnson กล่าวว่า “ทุกๆการเดินทางมีข้อดีของมัน
หากเราเดินทางไปยังประเทศที่ดีกว่า เราจะได้เรียนรู้ว่าจะพัฒนาตัวเองอย่างไร
แต่หากเราเดินทางไปยังที่ที่เลวร้ายกว่า เราก็อาจได้เรียนรู่ว่าจะอยู่กับมันให้มีความสุขได้อย่างไร”
ดังนั้น การออกเดินทางก็เท่ากับว่าเราเดินออกจากประตูบ้าน และนำประสบการณ์ใหม่ๆเปิดประตูกลับเข้ามายังบ้านพร้อมกับตัวเราเอง
5.
ได้ความกล้ากลับบ้าน
การเดินทางแบ็คแพ็คด้วยตัวเอง สอนให้เราต้องรู้จักการพึ่งพาตนเอง
เวลามีปัญหาระหว่างการเดินทาง ตัวเราเองนี่แหละที่จะเป็นผู้ตัดสินใจแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
บางทีมีเพื่อนร่วมทางก็ต้องช่วยกันคิดหาทางแก้ไข
ทุกปัญหาต้องจัดการด้วยความกล้า นี่แหละครับ คือสิ่งที่เราจะได้รับจากการเดินทาง
6.
เห็นโลกมากขึ้นกว่าเดิม แต่ใช้งบประมาณน้อยลง
การเที่ยวด้วยตัวเองจะประหยัดเงินกว่าการซื้อทัวร์สำเร็จจากบริษัททัวร์
คุณสามารถเลือกพักที่พักราคาประหยัดได้ เลือกกินอาหารแบบคนท้องถิ่น หรือราคาถูก
เลือกไปสถานที่ที่เราอยากจะไปจริงๆ
ทุกเรื่องการใช้จ่าย คุณสามารถบริหารและควบคุมได้ด้วยตัวเอง
เพราะคุณมีงบการเที่ยวอย่างจำกัดและคุณจะรู้เองว่าใช้เงินไปเท่าไหร่แล้ว
7.
ได้มุมมองชีวิตที่กว้างขึ้น
การออกเดินทางด้วยตัวเอง แน่นอนคุณจะได้เจอกับสถานที่ใหม่ เพื่อนใหม่ , อาหาร, วัฒนธรม
คุณจะได้สัมผัสกับความเป็นอยู่ของคนท้องถิ่น รวมทั้งสิ่งแวดล้อม ที่แปลกหูแปลกตามากขึ้น
ได้เห็นความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นกว่าประเทศเราแต่เขาก็ยังอยู่ได้ด้วยรอยยิ้มและการต่อสู้ชีวิต
ได้พบสังคมเมืองที่เร่งรีบกว่าเรา
ได้สัมผัสถึง แม่น้ำ ขุนเขา ที่ใหญ่โตกว่าบ้านเรา
ได้เห็นถึงความแตกต่างของทุกๆสิ่ง
ความต่างเหล่านี้จะทำให้คุณได้ปรับเปลี่ยนมุมมองและความคิดให้ใหม่และกว้างขึ้น
แล้วคุณจะกลับเมืองไทยพร้อมกับหัวใจที่ใหญ่กว่าเดิม
คราวหน้าผมจะมาต่อในเรื่องของ 7 ข้อ เตรียมตัวแบ็คแพ็คท่องโลก ครับ
____________________________________________________________________________
ดูเรื่องราวเกี่ยวกับการแบ็คแพ็คท่องโลกด้วยตัวเอง ได้ที่
https://www.facebook.com/travelwithlawyer
-ทนายพาเที่ยว-
7 เหตุผล ที่ต้องออกเดินทางด้วยตนเอง
ผมว่าคำนี้แหละใช่เลย!!!
โดยเฉพาะผมแล้ว การเดินทางแบบแบ็คแพ็คถือว่าเป็นอะไรที่ สนุกจนเกินคำบรรยาย
แต่หลายคนมองว่าการเดินทางแบบนี้มีข้อจำกัดหลายเรื่อง
นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงมากมาย
เมื่อเทียบกับซื้อทัวร์
อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจครับ
ลองอ่านบทความนี้ดูก่อน
ผมเชื่อว่าเมื่ออ่านจบ ความคิดของคุณจะเปลี่ยนแปลง
1. ได้เห็นมุมอื่นนอกจากในภาพถ่ายที่เห็น
หากคุณชื่นชอบการถ่ายภาพ
ผมการันตีเลยว่าคุณจะได้เห็นมุมมองที่แตกต่างและงดงามกว่าที่ได้เห็นจากในรูป
เพราะการแบ็คแพ็ค ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของเวลา
ที่ทำให้ต้องเร่งรีบหรือเร่งร้อนเหมือนกำหนดการของบริษัททัวร์
นี่แหละครับเป็นเหตุผลแรกที่คุณควรเริ่มต้นออกเดินทาง
2. เที่ยวได้ตามใจตัวเอง
การเดินทางด้วยตัวเอง คุณสามารถเที่ยวได้ตามใจตัวเองตามที่แพลนเอาไว้
แม้ในความเป็นจริงแพลนอาจจะถูกปรับเปลี่ยนอยู่บ้างตามสถานการณ์
ประสบการณ์เที่ยวของผมสอนให้รู้ว่า
ไม่จำเป็นต้องวางแพลนไปแบบฟิกซ์ตายตัว
เพราะเมื่อไปถึงเราอาจจะอยู่ซึมซับบรรยากาศ ณ ที่แห่งนั้นนานกว่าที่กำหนดไว้ก็ได้
หรือบางทีอาจได้รับคำแนะนำจากคนท้องถิ่นและปรับแพลนใหม่ให้กระชับขึ้น
แพลนที่คุณกำหนดไว้จึงสามารถปรับตามใจชอบได้ตลอดเวลา
เพราะมันเป็นแพลนของคุณเองไม่ใช่หรือครับ
3. ได้เพื่อนใหม่
เวลาผมไปเที่ยวด้วยตัวเองผมจะไม่เลือกพักโรงแรมแบบนักท่องเที่ยวทั่วไป
หากแต่ต้องการเสพบรรยากาศการท่องเที่ยวสไตล์แบ็คแพ็คที่ต้องออกรสชาติลุยๆ
ฉะนั้นที่พักที่ผมต้องการ คือ โฮสเทล
หลายคนอาจจะสงสัยว่าโฮสเทลคือที่พักแบบไหน
ถึงเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวขาลุยอย่างผม
สำหรับโฮสเทล คือ ที่พักแบบห้องนอนรวม
แชร์ค่าห้องกับนักท่องเที่ยวคนอื่น
หนึ่งห้องจะมีหลายเตียง มีทั้งเตียงชั้นเดียวและสองชั้น
ที่พักแบบนี้ส่วนใหญ่จะมีพื้นที่ส่วนกลาง เช่นห้องนั่งเล่น และห้องสันทนาการ
เพื่อให้บรรดานักเดินทางทั้งหลายมานั่งรวมตัวพูดคุยและทักทายกัน
นี่แหละสวรรค์ของผมเพราะเราต้องการเพื่อนใหม่ๆ หามิตรสหายจากการเดินทาง
ทำให้ผมได้เพื่อนใหม่ต่างแดนหรือแปลกหน้าจากที่นี่แหละครับ
นี่แหละครับเป็นมนต์เสน่ห์ของการแบ็คแพ็คเที่ยวด้วยตัวเองอย่างหนึ่ง
4. ได้สร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตให้ดีขึ้น
ผมเชื่อว่า การเดินทาง คือการเก็บเกี่ยวประสบการณ์และสร้างคุณค่าให้กับชีวิตที่ดีขึ้น
ครั้งหนึ่ง St.Augustine เคยกล่าวไว้ว่า “โลกใบนี้เปรียบเสมือนหนังสือหนึ่งเล่ม
โดยคนที่ไม่เคยเดินทางก็เปรียบเสมือนคนที่อ่านหนังสือเพียงหน้าเดียว”
ขณะที่ Samuel Johnson กล่าวว่า “ทุกๆการเดินทางมีข้อดีของมัน
หากเราเดินทางไปยังประเทศที่ดีกว่า เราจะได้เรียนรู้ว่าจะพัฒนาตัวเองอย่างไร
แต่หากเราเดินทางไปยังที่ที่เลวร้ายกว่า เราก็อาจได้เรียนรู่ว่าจะอยู่กับมันให้มีความสุขได้อย่างไร”
ดังนั้น การออกเดินทางก็เท่ากับว่าเราเดินออกจากประตูบ้าน และนำประสบการณ์ใหม่ๆเปิดประตูกลับเข้ามายังบ้านพร้อมกับตัวเราเอง
5. ได้ความกล้ากลับบ้าน
การเดินทางแบ็คแพ็คด้วยตัวเอง สอนให้เราต้องรู้จักการพึ่งพาตนเอง
เวลามีปัญหาระหว่างการเดินทาง ตัวเราเองนี่แหละที่จะเป็นผู้ตัดสินใจแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
บางทีมีเพื่อนร่วมทางก็ต้องช่วยกันคิดหาทางแก้ไข
ทุกปัญหาต้องจัดการด้วยความกล้า นี่แหละครับ คือสิ่งที่เราจะได้รับจากการเดินทาง
6. เห็นโลกมากขึ้นกว่าเดิม แต่ใช้งบประมาณน้อยลง
การเที่ยวด้วยตัวเองจะประหยัดเงินกว่าการซื้อทัวร์สำเร็จจากบริษัททัวร์
คุณสามารถเลือกพักที่พักราคาประหยัดได้ เลือกกินอาหารแบบคนท้องถิ่น หรือราคาถูก
เลือกไปสถานที่ที่เราอยากจะไปจริงๆ
ทุกเรื่องการใช้จ่าย คุณสามารถบริหารและควบคุมได้ด้วยตัวเอง
เพราะคุณมีงบการเที่ยวอย่างจำกัดและคุณจะรู้เองว่าใช้เงินไปเท่าไหร่แล้ว
7. ได้มุมมองชีวิตที่กว้างขึ้น
การออกเดินทางด้วยตัวเอง แน่นอนคุณจะได้เจอกับสถานที่ใหม่ เพื่อนใหม่ , อาหาร, วัฒนธรม
คุณจะได้สัมผัสกับความเป็นอยู่ของคนท้องถิ่น รวมทั้งสิ่งแวดล้อม ที่แปลกหูแปลกตามากขึ้น
ได้เห็นความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นกว่าประเทศเราแต่เขาก็ยังอยู่ได้ด้วยรอยยิ้มและการต่อสู้ชีวิต
ได้พบสังคมเมืองที่เร่งรีบกว่าเรา
ได้สัมผัสถึง แม่น้ำ ขุนเขา ที่ใหญ่โตกว่าบ้านเรา
ได้เห็นถึงความแตกต่างของทุกๆสิ่ง
ความต่างเหล่านี้จะทำให้คุณได้ปรับเปลี่ยนมุมมองและความคิดให้ใหม่และกว้างขึ้น
แล้วคุณจะกลับเมืองไทยพร้อมกับหัวใจที่ใหญ่กว่าเดิม
คราวหน้าผมจะมาต่อในเรื่องของ 7 ข้อ เตรียมตัวแบ็คแพ็คท่องโลก ครับ
____________________________________________________________________________
ดูเรื่องราวเกี่ยวกับการแบ็คแพ็คท่องโลกด้วยตัวเอง ได้ที่
https://www.facebook.com/travelwithlawyer
-ทนายพาเที่ยว-