อยากบอกน้องกระทู้ไม่อยากอยู่บ้าน เกลียดแม่ กับ อีกกระทู้จังเลย ชีวิตเราคล้ายกันมากกกกกก

http://ppantip.com/topic/34206509  --------- ไม่อยากอยู่บ้าน เกลียดแม่
http://ppantip.com/topic/34224791/comment36-4 --------- อีกกระทู้นะ (กรณีนี้เจ้าของกระทู้โดนแบบผมเลย)

ชีวิตเราเหมือนกันมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ผมก็ลูกคนเดียวนะ แล้วเป็นครอบครัวเดี่ยวด้วย ที่สำคัญย้ายบ้านบ่อยมากกกกก เพราะ พ่อรับราชการ แม่ก็รับราชการ แถมเป็นบ้านนอกอีก

ตอนเด็กๆนะ โดนพ่อซัด ....ถีบ.... เตะ สอนหนังสือแล้วทำโจทย์ข้อไหนไม่ได้นี่ .... ตบหัว ... ดึงหู มีครั้งนึงหูไม่ได้ยินไรเลยตอนเรียน ครูเลยพาไปส่งโรงพยาบาลใกล้ๆ

แถมแม่ก็ขี้บ่น ขี้จุกจิก ต้องผับผ้า ต้องเป็นระเบียบ ล้างจ้าน ล้างรถ ขัดห้องน้ำ กวาดบ้าน ถูบ้าน ซักถุงเท้า ซักกางเกงในให้ทั้งบ้าน เอาไปตาก

คิดดูนะ เช้าก็นั่งกินข้าวสามคนพ่อแม่ลูก ผมนี่กินไปคำนึง โดนถามโจทย์คณิตไปด้วย สลับกับสังคม อังกฤษ ถ้าตอบไม่ได้จะโดนบ่นไปด้วยว่าโง่ๆๆๆๆ กินไปก็เอาเรื่องลูกคนอื่นมาพูดเปรียบเทียบ บางทีทนไม่ไหวร้องไห้กลางวงข้าวเลย มันกินไม่ลง จนรถตู้โรงเรียนมารับอ่ะ ได้เจอเพื่อนที่โรงเรียนค่อยมีความสุขหน่อย แต่พอรถมารับกลับบ้านไม่อยากกลับเลยยยยยยยย เพราะกลับบ้านไป ก็ต้องกวาดบ้าน ถูบ้าน กินข้าวตอนเย็น อาบน้ำ ขัดห้องน้ำ ซักถุงเท้า แล้วไปติวหนังซือกับพ่อ โจทยข์ข้อไหนทำไม่ได้นี่ซัดแบบไม่ยั้งอ่ะ เอาสันหนังสือฟาดหัวช้ำไปหมด สอนวันนึงก็สองชั่วโมงได้  ผมนี่ร้องไห้ขี้มูกโป่งตอนพ่อสอนหนังสือเลย หนำซ้ำนะ หลังเค้าสอนหนังสือเสร็จ ผมต้องไปนวดฝ่าเท้า นวดขา นวดหลัง เกาหลัง ถอนหงอกให้พ่ออีกทุกคืน บางทีกำลังนวดขาตดใส่หน้าเราอีก

หรือไม่ก็เค้าจะบ่นเรื่องลูกคนอื่นให้ฟัง ถามวันสำคัญทางประวัติศาสตร์บ้าง ตอบไม่ได้จะโดนเอาตีนถีบหน้า เคยโดนถีบกระเด็นติดทีวีเลย ร้องไห้วิ่งออกไปข้างนอก แต่ไม่รู้วิ่งไปไหน มีแค่พ่อกับแม่ แถมข้างนอกมืดตึ๊ดตื๋อ ไม่มีบ้านคน ก็บ้านราชการอ่ะ แต่เป็นบ้านเดี่ยวๆ แล้วไกลจากในเมืองเยอะเลย ถนนไม่มีรถผ่าน กลัวผีก็กลัว ทุกคืนต้องมานอนร้องไห้ บางทีพ่อมาค้นกระเป๋าเจอหนังสือเรียนแบบมีเขียนการ์ตูนในนั้น โดนเอากระเป๋าหาด สันหนังสือตบ ดึงหู เป็นคอมโบ้เซต

......... คิดดูดิว่ามันเป็นฝันร้ายของเด็กคนนึงขนาดไหน ญาติผู้ใหญ่คนอื่นก็ไม่มี ไปไหนไม่ได้ ต้องอดทนกับนรกตรงหน้าคนเดียว ไม่มีใครช่วย พ่อกับแม่ผมนี่ตอนเด็กๆเกลียดมากๆๆๆๆๆ อย่างพ่อตอนกลางคืนดึกๆ ผมจะหลับอยู่ละ ใช้ให้ไปเอาของที่ใต้ถุน ให้ไปตักน้ำให้ดื่ม ละข้างล่างน่ากลัวมากๆ เคยบอกไม่อยากไป โดนซัดอีก เลยจำใจต้องไป

ส่วนแม่ผมเห็นการกระทำของพ่อก็ไม่ห้าม ไม่พูดอะไร ผมได้แต่บอกแม่ว่าทำไมต้องตี สอนดีๆก็ได้  แม่ก็ตอบว่า สอนดีๆเดี๋ยวไม่ฉลาด จะฉลาดต้องตี พ่อเค้าหวังดี ถามไรก็ได้คำตอบเดิมๆ ไม่ได้แก้ปัญหา อย่างพ่อเมาเหล้ามา แล้วสอนหนังสือจะโหดผิดปกติ ลงมือกับผมแบบเหมือนเป็นที่ระบายอารมณ์เรื่องงาน ด่าทอแม่ บ่นแม่ไป บ่นผมไป เทียบบ้านคนอื่น ลูกคนอื่น แล้ววกมาตัวผม  แม่ก็ได้แต่รีดผ้าไปเรื่อยๆ ไม่สนใจ

ตอนเด็กๆ อิจฉาชีวิตญาติๆมาก ทำไมหนอ ? คนอื่นเค้ามีความสุขกัน มีพี่มีน้อง บ้านอยู่ในเมือง วิ่งเล่นกลางตลาด เพื่อนฝูงรุมล้อมทุกเย็น มีเกมส์ให้เล่น ส่วนผมต้องมาอยู่ในนรก จะปรึกษาพี่น้องก็ไม่มี จะหนีไปหาปู่ย่าตายายก็ไม่มี เงินพกไปโรงเรียนวันละ 10 บาท ส่วนญาติคนอื่นๆเค้าอวดกันจังได้ไป 50 บาท เราก็อยากกินขนมบ้าง มีชุดนักเรียนใหม่ๆบ้าง ไม่ใช่ใส่สามปีเปลี่ยนครั้ง โดนเพื่อนล้อถุงเท้ายานติดตาตุ่ม แล้วชื่อที่พ่อตั้งให้ก็โดนล้ออยู่นั่นแหละ ทำไมต้องตั้งให้แบบนี้ พ่อบอกชื่อที่พ่อตั้งให้เป็นชื่อจากหลวงพ่อที่พ่อเคารพ แต่ผมไม่อยากได้เลย มันน่าอาย

พอมาระดับมัธยมปลายนะ พ่ออยากให้เป็นนายร้อยจปร บอกเมิงจะเป็นนายร้อยหน้าหยก สาวๆรุมล้อม ได้ลอดซุ้มกระบี่ มีเงินเดือนเลี้ยงตัวเองได้ตั้งแต่ตอนนั้น มีอาชีพที่แน่นอน แต่ตัวผมเองรู้ตัวแล้วว่าไม่ชอบสาวๆแม้แต่นิดเดียว ไม่อยากเป็นทหาร ตำรวจ เพราะตอนนั้นผมก็โลกแคบเนอะ ไม่เคยเห็นโลกภายนอก ชีวิตจริงใดๆเลย มันก็ไม่รู้หรอกว่าต้องเจอไรบ้าง คิดว่าถ้าไปเรียนที่นั่นชีวิตคงไม่ต่างจากที่นี่ แต่ถ้าย้อนกลับไปได้จะเรียนนายร้อยตามที่พ่อบอก แต่จะสอบเป็นแพทย์ทหารแทน อยากช่วยเหลือผู้ที่เสียสละ มันได้บุญ ได้กุศล เผื่อชาติหน้าจะได้ไม่ต้องเจออะไรแบบนี้อีก  แต่ตอนนั้นไม่ยอมไปสอบ พ่อก็ยื่นคำขาดว่าถ้าไม่ไปสอบก็จะไม่ส่งเสียแล้วนะ จะให้แม่แกดูแลแทน จะไม่ใยดีแกแล้ว  แล้วผมก็ไม่ไปสอบ เค้าก็ทำอย่างนั้นจริงๆ แถมเอาเงินไปซื้อบ้านใหม่ พักกับเมียน้อยอีก แต่ก็ดีเหมือนกัน พอไกลๆกับพ่อแล้วผมก็โล่ง ไม่ต้องถูกตี ไม่ต้องมาบีบนวดยันสี่ห้าทุ่ม ไม่ต้องมาถอนหงอกเค้า ไม่ต้องมากินข้าวทุกเช้าแล้วโดนกัด โดนว่า กินไม่ลงซักวัน

ชีวิตนี้ผมคิดว่ายังพอมีบุญอยู่บ้าง .. ผมไม่ได้อวยตัวเองนะ แต่ถือว่าหน้าตาเทรนนิยม ไปโรงเรียนมีคนมาจีบ มีส่งจดหมายรักมา มีสาวต่างห้องมาถามว่าคนนั้นชื่ออะไร ตอนวาเลนไทน์กุหลาบตรึม ใครๆก็คิดว่าอนาคตไกล เพราะผมหน้าตี๋ ผิวดี เรียนเก่ง ด้วยแหละมั้ง

อย่างพวกกิจกรรมโรงเรียนนี่เค้าก็มาขอผมไปทำบ่อยๆเหมือนกัน แต่พอบอกกับแม่แล้วจะโดนว่าไง แบบพวกชุดไรงี้มันต้องออกเองอ่ะเนอะ โรงเรียนก็ช่วยส่วนหนึ่ง ตัวนักเรียนก็มีค่าใช้จ่าย แต่ไม่เยอะแยะไรหรอก หลักร้อย แม่ผมก็ไม่สนับสนุน บอกเรียนอย่างเดียวก็พอ เพื่อนไรไม่ต้องไปคบไปตามมันมาก อีกหน่อยก็ไม่ได้ติดต่อกันละ ก็กลายเป็นว่าขนาดมัธยมปลายผมยังต้องกลับบ้านไม่เกินบ่ายสี่ครึ่งเลย เคยแบบไม่ขึ้นรถโรงเรียนกลับ เพราะติดเพื่อนในห้องคนนึง เค้าชอบมาแกล้งเรา มาแหย่เรา ผมก็ขับรถไม่เป็นไง แต่เค้าขับเป็น  ช่วยเหลือเรามาตลอด พาเราไปเที่ยว พาไปเจอเพื่อนเค้าคนอื่นๆ ชีวิตแฮปปี้มากตั้งแต่เจอคนนี้ ตอนไปเรียน รด ก็ไปด้วยกัน กลับบ้านเค้าก็ไปส่ง จนแม่รู้เข้าว่าไม่ใช่แค่เพื่อนแน่ๆ เพราะ แอบมาอ่านมือถือผม แล้วเจอข้อความในมือถือผม ว่าเค้ารักผมนะ ไรงี้ มีหลายข้อความมากๆๆๆๆ

พอแม่จับได้ ก็มาถามผมว่า "แกเป็นเกย์หรอ อย่าคิดว่าทุกอย่างดีหมดแล้วชั้นจะภูมิใจ ทำไมไม่ชอบผู้หญิง ผู้ชายเอากะผู้ชายน่าขยะแขยง" แล้วก็ไม่ให้คบเพื่อนคนนี้ ลองคบอีกจะไม่ให้เงินไปโรงเรียน ละหยิกๆๆๆๆ ผมก็เถียงแหละ ถ้าแม่นี่เถียงได้ เพราะตีไม่เจ็บ แต่จุกจิกได้โล่ ลองสี่โมงครึ่งยังไม่ถึงบ้าน โทรไปหาโรงเรียนเลย บางทีตามมาโรงเรียนเลย มาจ้องหน้าเพื่อนผม เคยทะเลาะกับแม่ ทะเลาะไปแกก้อร้องไห้ไป บอกว่าพ่อแกไปมีคนอื่นสบายใจแล้ว ส่วนแกชั้นต้องมารับภาระ ความหวังชั้นตั้งไว้กับแกเยอะมาก ทำไมแกไม่เคยมีเรื่องอะไรให้ชั้นดีใจเลย  .......... ผมฟังก็อึ้งนะ สงสารก็สงสาร แต่ตอนเด็กๆทำไมผมโดนทารุณขนาดนั้น แม่ไม่เคยมีปากมีเสียง ยังซ้ำเติมจิกหัวใช้ผมอีก แล้วผมต้องกลับบ้านทุกสี่โมงครึ่งเพื่ออะไรหรอ ผมจะมีเพื่อนไม่ได้หรอ มันเหงา เหงาจนเหมือนจะเป็นบ้า แม่ไม่มีเพื่อนกับเค้าบ้างหรอถึงต้องให้ผมมาอยู่เป็นเพื่อน ทำไมไม่ยอมรับความจริงที่เป็นอยู่ ทำไมถึงคิดว่าที่พ่อทำไปมันถูกทุกอย่าง ฯลฯ ผมก็พรั่งพรูทุกอย่างให้แม่ฟัง เค้าก็เงียบ แล้วก็ไม่พูดกับผมหลายวันเหมือนกัน

แต่แม่ผมไม่ได้บอกพ่อนะ ว่าเป็นเกย์ จะด้วยเหตุผลไรก็ไม่รู้ ก็ไม่บอก หรือถ้าบอกกลัวผมเปิดตัวมั้ง แบบพี่เบนอ่ะ เปิดละไปเลย ไม่กลับมาละ สบายใจ 5555+

ถึงผมจะไม่มีโชคด้านกิจกรรม แต่การเรียนเด่นมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พวก คณิต เคมี ชีวะ กะ อังกฤษ เป็นส่วนน้อยที่เด็กจะเก่งไง ผมนี่คะแนนท็อปตลอด แล้วเรียนห้องคิงด้วย คืออะไรที่มันชอบเราจะทำได้ดีโดยอัติโนมัตแหละ อย่างผมสนใจพวกชีวะเป็นพิเศษ แต่อินเตอร์เน็ต เท็กส์บุ๊ครวมภาพเจ๋งๆ ห่างไกลกับการเข้าถึงในสมัยนั้นมาก เคมีโรงเรียนผมแย่มากๆๆๆๆๆ การทดลองต่างๆ สารเคมีต่างๆ เห็นจากชอร์คบนกระดาน สังคมในโรงเรียนน้อยคนจะมาสนใจเรื่องทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ หรือ ทามไลน์ประวัตินักวิทยาศาสตร์โลกเก่งๆกว่าจะคิดแต่ละทฤษฎีได้ ซึ่งผมสนใจแต่ไม่มีปัญญาหาสื่อไรได้หรอก ห้องสมุดโรงเรียนนี่ผมกินข้าวเสร็จจะชอบไปนั่งอ่าน จนบรรณารักษ์จำหน้าได้จำชื่อได้ เพราะมีคนเดียวแหละ  ไม่รู้ชีวิตน้องเค้าจะเป็นแบบนี้ไหมนะ

ตอนเลือกคณะ ผมก็เลือกหมอแหละ ได้ตอนโควต้าเรียนดี 4.00 ทุกเทอม แถมคู่แข่งน้อย ยังไงก็ได้ แต่ตอนเลือกนะ สาบานกับตัวเองว่าจะเลือกไกลๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ยังไงกุว์ก็ไม่อยู่บ้านอ่ะ เกลียด บ้านคือนรก

พอถึงวันประกาศผลจริงๆ มีผมได้แพทย์ กับเพื่อนอีกคนนึงได้ทันตะ อีกสองคนได้เภสัช ก็ฉลองกับโรงเรียนยกใหญ่ แต่เค้าเลือกจังหวัดใกล้ๆบ้านกันนะ มีผมแหละเลือกกรุงเทพ

กลับมาบ้านวันนั้นผมก็รีบบอกแม่เลย ว่าติดหมอนะ แม่ผมก็คงรู้แล้วล่ะมั้งว่าผมได้หมอ เพราะเค้าประกาศทางวิทยุจังหวัด แม่น่าจะรอฟัง แต่สีหน้าแกไม่ดีใจ เพราะผมเลือกกรุงเทพไง ส่วนพ่อพี่นี่ติดเมียน้อยอยู่ ไม่กลับบ้านมาหลายเดือนละ ไม่รู้ไปฉลองกับใครเหมือนกัน มีแค่เสียงโทรศัพท์กับข้อความส่งมาแสดงความยินดี ผมก็นอนอยู่บ้าน ซื้อขนมที่ตัวเองชอบมาฉลองคนเดียวเงียบๆ

พอวันจริงๆที่พี่จะไปกรุงเทพนะ ผมดีใจมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เหมือนชีวิตนี้มันมีออร่าเเห่งความรุ่งโรจน์อ่ะ มันมีปลายทางข้างหน้าจริงๆ เก็บกระเป๋า เอาตั๋วรถมาเรียบร้อย แม่ไม่ให้เงินก็ขอยืมญาติเอา ยังไงเค้าก็หวังผลประโยชน์กับเราอยู่ดีแหละ ก็ให้ยืมสบายๆ พวกกู้เรียนยังไงก็ทำเรื่องได้ หอพักไรค่อยจัดการ หางานทำเสริมเอา ชีวิตอิสระแล้วโว๊ยยยยยยยยยย  แต่ก่อนที่จะไปแม่ดันตรวจพบว่าเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ต้องกินยาตลอด ไม่งั้นจะอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ

คืนนั้นก่อนไปแม่ก็อยู่บ้านกับผมสองคน เป็นบ้านไม้เก่าๆ หลังเล็กๆ พ่อก็ติดเมียน้อยอยู่ ขนาดผมสอบหมอติดยังไม่รู้เรื่องเลย  แม่ใส่ถุงมือกันหนาวไว้ โดนลม โดนน้ำไม่ได้ มันช้ำ มันม่วงไปหมด   คืนนั้นผมเข้าไปไหว้แม่ก่อนไป แม่ก็ร้องไห้ ต่อว่าพี่ทำไมไม่เลือกใกล้ๆบ้าน กรุงเทพห่างจากที่นี่เป็นพันๆโล จะไปทำไม แม่เป็นแบบนี้แล้วยังจะทิ้งแม่ไปอีก แล้วก็นอนร้องไห้น้ำตาท่วมใต้ผ้าห่มแบบนั้น  ตอนนั้นอารมณ์มันก็พลอยสงสารแม่ไปด้วยนะ เราเหมือนมีบุญนะ แต่กรรมในชาตินี้ชอบมาบังเราจัง ผมก็กลั้นใจไหว้ แล้วรีบออกบ้านเลย

วันนั้นนั่งรถทัวร์ไปจนถึงกรุงเทพละ แต่ภาพแม่ในคืนนั้นมันติดตาจริงๆนะ สงสารจับใจ ชีวิตเรามันมีกรรมจริงๆว่ะ  ว่าแล้วก็หารถไฟกลับไปอีก กว่าจะไปถึงก็โหวว ค่ำละนะ สามทุ่มละ

ผมแอบเข้าบ้านไป แอบส่องนอกบ้าน ฝนตก บรรยากาศมืด แม่ปิดไฟหมดบ้าน เห็นแม่กินข้าวคนเดียว ละก็ดูทีวีคนเดียวเงียบๆ เสียงไอแม่นี่จำได้ชัดเจน มือแม่ไม่ใส่ถุงมือมันม่วงมันช้ำไปหมด

ตอนนั้นเลยตัดสินใจไม่ไป เอามหาลัยใกล้บ้านแทน ได้อยู่กับแม่ ได้เรียนจบในเอกที่ไม่อยากเรียน มีงานทำในสิ่งที่ไม่เคยชอบ มีเพื่อนที่ไม่เคยสนใจในวิชาที่คล้ายๆเรา เกรดต่ำมากกกกกกกกกกก ตอนมหาลัยก็อดเที่ยวด้วย เพราะต้องรีบกลับมาดูแม่ ไหนจะรับงานเสริมหาเงินอีก จนตอนนี้ผ่านมาสิบปีละ แล้วแม่ก็ยังอยู่ดีนะ กลายเป็นว่าวัยรุ่น วัยเด็กไม่มีความทรงจำไรดีๆเล๊ยยยยย 55555+

ผมอยากบอกน้องว่า อย่าเอาอารมณ์ชั่ววูบมาเปลี่ยนอนาคตเราเลย อยากแนะนำให้เรียนหมอนะ ผมว่าน้องต้องทำได้ดีแน่ๆ ช่วยคนป่วยมีบุญนะน้อง อยากให้ช่วยสานต่อเจตนาพี่มั่ง เพราะพี่คงไม่มีโอกาสเป็นหมอแร๊ะ อ่อ ที่สำคัญนะตอนน้องจบมาอ่ะ ไปใช้ทุนต่างจังหวัด น้องเอ๊ยยย ชีวิตสนุกจะตายไป  กว่าจะกลับมาบ้าน พ่อแม่น้องก็คงแก่ ไม่มีแรงบ่นแล้วล่ะ อีกอย่างเราทำงานมีเงินเดือน ไปไหนก็ได้อิสระ ถึงเวลานั้นน้องอยากทำไรก็ได้ทำหมดแหละ อย่างปัจจุบันพ่อพี่ก็โดนเมียน้อยทิ้ง ความดันทะลุปรอท เข้าโรงบาลให้พี่ไปนอนเฝ้า เค้าก็รู้แหละว่าเป็นเกย์ มีบ่น มีด่าทุกวันเหมือนเดิม ตัวผมก็จากที่เคยมีรายได้ประจำ โดนไล่ออก ได้พึ่งพ่อให้ใช้หนี้ให้ เคยฆ่าตัวตายมาแล้วแต่ไม่ตาย จนตอนนี้มีงาน มีแฟนใหม่ แต่ก็ใช่จะแฮปปี้นะ สารพัดปัญหาที่ต้องเจอ ไม่ได้สดใสแบบวัยเด็กอีกต่อไป  ส่วนแม่ก็ขี้บ่นจุกจิกเหมือนเดิม ตอนหลังพาไปทำบุญบ่อยค่อยอารมณ์ดี แต่ก็เหมือนเดิม 555+

เชื่อพี่นะ อย่าวู่วาม พลาดแล้วพลาดเลยนะหนู ;)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่