เกริ่นก่อนสำหรับคนไม่มีเวลาอ่านนะคะ
app แอพโทสับที่แนะนำเลยคือ กูเกิ้ลแมพ (google map) กูเกิ้ลทรานสเลท (google translate)
เรื่องเงินจะคิดในเรท 100 เยน เท่ากับ 30 บาทนะฮะ เพื่อง่ายต่อการคำนวนจ้า
เงิน ข้าวต่อมื้อ ประมาณ 300 บาท อันนี้แบบเซ็ตธรรมดา นะคะ กินสองมื้อ 600 บาท มื้อเช้ากินเซเว่นประมาณ 100บาท เพราะร้านอาหารที่นู่นเปิด 11 โมงเช้าค้าาาาาาาาาาาาา น้ำเปล่า น้ำหวาน ขวดล่ะ ประมาณ 30 บาทขั้นต่ำ ค่าเดินทางถ้าเที่ยวที่โตเกียว บัตรเจอาร์พาสสำหรับ 1 วันราคา 216 บาท
รวมๆ คือ ค่ากิน ใช้ เดินทาง ประมาณ 1000 บาทต่อวัน อันนี้แบบไม่ประหยัดนะคะ
ค่าที่พัก เราหาที่พักจาก เว็บ airbnb ค่ะ ไม่แนะนำสำหรับสาวๆที่ไปคนเดียวนะ ราคาห้องต่อคืน ห้องเดียวสำหรับ 2 คน ห้องน้ำ รวมบ้าง แยกบ้าง แต่ห้องส่วนตัวตลอด ในโตเกียวจะประมาณ 1000 /คน/คืน ค่าา เราไป 15 ค่าที่พัก 15000 บาท ฮื้อออออออออ
สายชาร์ตโทสับ ไฟที่ญี่ปุ่นเสียบกันได้ไม่ต้องเปลี่ยนค่ะ รูปลั๊กเป็นสองขาแบน เสียบได้พอดีค่ะ
wifi เช่าพอคเกจ ไวไฟ (pocket WIFI) ไปจากเมืองไทยgลยจะเริ่ดค่ะ ไม่ต้องกลัวหลง เที่ยวสนุก มีเน็ตให้หาข้อลูลตลอด และทำให้เราได้ใช้ google translate กับคนญี่ปุ่นได้ เด๋วจะบอกว่ามันเจ๋งเยี่ยงไรนะคะ
กระเป๋า แนะนำกระเป๋าลากแบบสี่ล้อโฟร์วิล 555555555555 มันเริ่ดและชีวิตคุณจะดีขึ้นมากกกกกค่ะ แบบสะพายหลัง สะพายข้าง เหมือนตกนรกทั้งเป็นคือมันเดินไกลจ้าาาา แล้วทุกที่ในญี่ปุ่นมีไว้เพื่อกระเป๋าลากค่ะ สบายใจมิต้องห่วงเบยยย
15 วันมีดังนี้นะฮะ
4 days in Tokyo >> 3 days in Kyoto >>> 3 days in Osaka >>> 1 day in Fuji Mt.>>> 3 days in Tokyo >> fly back to bkk ค้า
เข้าเรื่อง เล่ายาวๆ รูปบานๆ ว่างมาอ่านนะ เดี๋ยวอิชั้นพาเที่ยวสไตล์ไทยผสมฝรั่งยาวๆ 15 วันกันไปเลยยยยย
สวัสดีค่าาา พิมไปเที่ยวญี่ปุ่นมาเดือนนึงได้แล้ว คิดว่าจะเขียนรีวิวหลังกลับมา จะๆๆๆๆๆๆๆ จะ จนครบเดือนก็ถึงเวลาแล้วล่ะคะ ก่อนจะลืมความรู้สึกดีๆไปซะหมดฮื่ออออออออออ เริ่มเลยล่ะกันเนาะ ไปกับ แอร์เอเชียเอ็กซ์ค่ะ ได้โปรโมชั่นพอดี แต่ประเด็นคือเราไม่มีบัครเครดิตใช้ของพี่สาวซื้อจึงต่อรอเลขยืนยันสี่ตัวจาก โทรศัพท์พี่เรา เดินทางวันที่ 2 สิงหา 58 ถึงตอน 1 ทุ่มที่ นาริตะ ราคาแค่ 2xxx ประมาณนี้ ขากลับ รอบเช้า ราคาประมาณ 5xxx รวมกันไปกลับประมาณ เก้าพันก็ส่วนตัวถือว่าโอเครับได้ เพราะเราก็ไปตั้งสิบห้าวัน แต่ก็อีตรงรอเลขจากโทสับพี่สาวอีชั้นนานนี่แหละค่ะ ไม่ส่งมาสักที จะครึ่งชั่วโมงได้
แล้ว จนหมดเวลาจองโทรไปหาทางคอลเซ็นเตอร์บัตรของกสิกรว่าเลขมายังคะ ทำไมมาช้าจัง ฮื่ออออออออ ต้องกดจองใหม่แล้วเนี่ยะพี่ พนักงานก็ดีนะคะ รออยู่ในสายทำไปด้วยกันเลย อีชั้นก็กดจองใหม่ กรอกข้อมูลใหม่ อีกแล้ว เปิดมาปุ้บ ทาด้าาาาาาาาาา!!! ขุ่นพระ ราคาขาไปขึ้นมา 2000 บาท เป็น ห้าพันฟ่าทั้งไปทั้งกลับ อกอีแป้นจะแตก นี่คือสาเหตุที่เลขมาช้าชิมิคร๊ะ โกรธตัวเองงงงงงงงงงงงงงงง จะเปลี่ยนวันก็มิได้ เพราะเพื่อนจองไปแล้ว รับสภาพสิเคอะ รวมไปกลับ หมื่นสองได้มั้ง คร่ำครวญหนักมาก อดได้ของถูก และเจ็บใจ
พิมจองตั๋วก่อนประมาณ สองเดือนได้มั้งนะ ก็เริ่มหาข้อมูลจากพันทิป มีประโยชน์คะ ส่วนใหญ่ก็จะหาอ่านจากในนี้ เดินทางวันที่ 2 สิงหาคม 58 ขึ้นที่ดอนเมืองไฟท์เช้าเดินทางปกติคะ ไม่มีหนังดูนะคะ 6 ชมฟ่าๆ จัดหนัง เพลง เกมส์ไปเองน้าาาา ใครหนาวเอาผ้าพันคอไปก็ได้ หรือไม่ก็ซื้อผ้าห่มกับแอร์บนเครื่องก็ได้ค่ะ แต่เราไม่ได้เอาไรไปเลย ก็หนาวบ้าง แต่ก็ทนได้ เบื่อมากกว่าประเด็น
แล้วแอร์ก็เอาใบตม.มาให้กรอกนะคะ ตัวอย่างการกรอกมีให้ที่ข้างหน้าคุณเลยคร้าาาา ในเมนูอาหารหน้าสุดท้ายค่ะ บังเอิญเปิดไปเจอ (เบื่อค่ะ หยิบอ่านไปเรื่อย) แปลไทยละเอียดยิบ ชนิดโนดิกชั่นนารีค่ะ
กรอกตามนี้ได้เลยค่ะ
ละแล้วววววววววววววววววววว ก็ถึงญี่ปุ่นนนนนนนนน ตื่นเต้นมากกก ถึง ตม. นาริตะ ส่วนตัวไม่ได้เตรียมไรไปอีก เค้าก็จะถามว่า มาทำไร กี่วัน ขอดูตั๋วกลับ เที่ยวคนเดียวหรอ พักที่ไหน จบค่ะ น่ารัก ถามย้ำว่าคนเดียวหรอ อิชั้นก็ใช่คร้าาาาาาาาา จริงๆก็เที่ยวกับเพื่อนแต่เพื่อนไม่ใช่คนญี่ปุ่นก็ไม่รุจะบอกทำไม แล้วเราก็บินมาคนเดียวด้วย ก็เลยบอกว่าคนเดียว (อิชั้นมิได้โกหกนะเคอะ) อย่าลืมจดที่พักของโรงแรมและเบอร์โทสับ ไปกรอกลงในใบ ตม.ด้วย นะ จำไว้ให้ขึ้นใจด้วยก็ได้ เผื่อ ตม.จะถาม เราเป็น ผู้หญิงด้วยเนาะ เพื่อจะตามละเอียด แต่งตัวตามสบายนะคะไม่ต้องจัดเต็ม เพราะเรามีตั๋วกลับโชว์เค้าว่าตูกลับแน่ๆเฟร้ยยย (ขอให้พนักงานเคาเอร์แอร์เอเชียที่เราเช็คอินพริ้นต์สลิปตัวกลับให้ด้วยก็ได้ค่ะ เป็นหลักฐานกับ ตม. ญี่ปุ่นตอนขาเข้า อันนี้พนักงานเค้าแนะนำเราอ่ะค่ะ และเค้าก็ทำให้เราเลย แอบน่ารักนิ)
เอากระเป๋าก็ปกติคะ ซื้อตั๋วรถไปเข้าเมืองตรงหน้าทางออกได้เลยค่ะ จะเป็นเคาร์เตอร์ขายตั๋วรถไฟเข้าเมือง มีหลายราคาค่ะ แพงสุดก็เป็นแบบไม่ต้องต่อรถ ของเจอาร์ แบบของเรา เราเอาแบบขึ้น Keisei - Line Sky Line ประมาณ 2400 เยน ประมาณ 720 บาท แล้วลงป้ายเผื่อที่จะเปลี่ยนไปเป็นสายรถไปที่ใกล้ที่พักเราคะ เช็คกับ กูเกิ้ลเมพดีๆนะคะ แล้วก็ขึ้นตามนั้นโลด
(คืนนี้มาต่อนะคะ จิพาเที่ยว วัด สวนสาธารณะ และชิบูย่าไนท์ไลฟ์ ยืดยาวมากกกกกกก จริงๆ)
ต่อค้าาาาาาาาาาาาาาาา ขอโทษจริงๆนะคะ หายไปหลายวันเลย ขอโทษจริง รู้สึกผิดนิ
วันที่ 1
หลังจากออกจากสนามบินก็มาที่ห้องพักเลยค่ะ เราไม่ได้อยู่โรงแรมค่ะ หาที่พักจาก เว็บ airbnb เอานะค่ะ แล้วก็หักเงินจากบัตรกันไปเลย ถึงก็เกือบประมาณ สี่ทุ่มแล้วค่ะ เจ้าของห้องมารอรับที่ประตูทางออกรถไฟค่ะ เหนื่อยมาก หอบหิ้วเพราะกระเป๋าเราไม่ใช้ลากคิดว่าสะพายจะสะดวกกว่า แต่น้ำตาแทบไหลค่ะ เหนื่อยหนัก หิว เพลียมากก พอถึงห้องพัก อาบน้ำค่ะอย่างแรก แล้วก็ตกลงกันว่าจะไปเซเว่นกัน อาบน้ำเสร็จก็หมดแรงงงง ตกลงกันใหม่คือนอนเถอะ ค่อยกันพรุ่งนี้แล้วกันเนาะ ทั้งวันกินกันมาแค่อาหารก่อนขึ้นเครื่องแล้วก็ไม่ได้กินไรอีกเลย ไส้จิขาดแต่สังขารไม่ไหวจริงๆ หลับค่ะ
วันที่ 2
วันที่ตื่นแว้ว ตื่นสายด้วย มีเวลาหลายวันค่ะ เราเลยไม่รีบ เพลียด้วยหลายอย่าง พออาบน้ำแต่งเสร็จเรียบร้อบ เตรียมกล้องก็ออกเลยค่ะ ซื้อตั๋วเจอาร์พาสแบบ 1 วันค่ะ 720 เยน 216 บาท นั่งตามสายสีเขียวค่ะ ที่แรกที่ลงคือชิบูย่าค่ะ ไม่รุจะไปที่ไหนดี เอาชื่อที่มันดังๆกันก่อน หาร้านข้าวค่ะ มาเร็วไปนิดอีกต่างหาก ร้านอาหารที่นี่เปิด 11 โมงเช้า ท้องกิ่วกันอีกพักค่ะ ตกลงกันที่ร้านนึงใกล้สถานีรถไป เราจำชื่อไม่ได้นะคะ เพราะเป็นภาษาญี่ปุ่นไม่มีอังกฤษเลย จำทางไม่ได้ด้วย ไปญี่ปุ่นเราใช้วิธีว่า รูปน่าร้านน่ากิน บอกราคา มีภาษาอังกฤษบอก มี หมู ไก่ ทะเล คือจบค่ะ เพราะเราไม่กินเนื้อ แล้วก็ใช้วิธีลองไปเรื่อยๆค่ะ คิดว่าร้านนี่น่าจะอร่อย ไม่ไฮโซ ก็เดินดุ่ยๆจัดไปเลยค่ะ 555
เดินออกจากซอบบ้านค้า เป็นร้านอาหารย่อยๆด้วยน่ารักกุบกิบ เดินเล่นเบาๆได้ค่ะ ย่าน Togoshi ด้านล่างของแผนที่ จากชิบูย่าคะ
เมื่อแรกที่ญี่ปุ่นจ้า สั่งกับเครื่อง แมชชีน ใส่เงิน กดเลือก รับตั๋ว เงินทอน แล้วยื่นให้พนักงานค่ะ ทำไม่เป็นหรอกค่ะจริงๆ ให้คนที่ยืนต่อข้างหลังช่วยจร้าาาาา 5555 คือมันเป็นภาษาญี่ปุ่นหมด แต่ที่ปุ่มมันมีรูปอาหารเล็กๆ ก็ยังพอเดาได้ เราสั่งหมู แกงกะหรี่
ของนางสั่งอะไรไม่รุไม่มีเนื้อสัตว์เลย เลยแบ่งเนื้อจากเราให้ด้วย สางสารนิ
อิ่มคร้าาาาาาาาาาา เดินเล่นเลย เราใช้วิธีเดินไปเรื่อย ทางงไหนคนเยอะ ทางไหนมีแสงสีเสียงก็เดินไปทางนั้นเลยค่ะ แดดร้อนมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แต่ก็ไม่เท่าเมษาเมืองไทยนะคะ ฝรั่งนี่โดนแผดเผาตัวแดงเป็นกุ้งลอบสเตอร์ต้มเลยค่ะ ส่วนอิชั้นดำอยู่แล้วมองไม่เห็นค่ะ 555 แต่หน้าดำขึ้นกว่าเดิมเยอะ เดินเล่นที่ชิบูย่าไม่ได้ถ่ายรูปเยอะค่ะ ร้อนใครไม่กลัวดำจิกขาสั้นมาเลยนะคะ โล่งโปร่งสบายค่ะ
นั่งรถไฟต่อไปที่ชินจุกุ ไปสวนสธารณะ โยะโยะงิ มันเป็นพาร์คที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียวค่ะ ใหญ่จริง ร่มรื่น แต่ถ้าใครกลัวอีกา กลัวนก ไม่แนะนำค่ะ อีกาตัวใญ่เท่าแม่ไก่ เท่าลูกหมา เลยอ่ะ ดุด้วย _*_ เดินเข้าไปแล้วออกแนวเหมือนหนังสยองขวัญนิดๆ แต่โดยรวมสวยร่มรื่นกว้างมาก
รูปนี้กับประตูทางเข้าค่ะ
แล้วก็หมดแรงค่ะ จากการเดินแบบไม่มีหลง เพราะไรรุมั้ยค่ะ เพราะเราก็ไม่รุเหมือนกันว่าเราจะไปทางไหนดี 55555 เหนื่อยมาก บ่ายสามกลับมาห้องก่อนนค่ะ เพราะเรามีบัตรรถไฟเจอาร์นั่งได้ทั้งวัน ค่อยออกมาใหม่ค่ะ สุดแล้วจริงๆ ขากลับผ่านเซเว่นก่อนเข้าบ้าน เหมือนอยู่ไทยเลยเนอะ ซื้อน้ำหรือไอติมมากินกันค่ะ ล่ะนางก็จัดเจ้านี้ค่ะ เบียร์แอลกอฮอล์ 9% ราคาเบาๆแต่เมาจริง ถ้าเป็นชะนีคอไม่แข็งกินนี่สักสองป๋องมีเปิงค่ะ ไม่ขม หวานๆ ซ่าๆ มึนๆ เมาๆ เอาไว้กึ่มๆก่อนออกไปเที่ยวได้นะค่ะ เรากินอันนี้กันก่อนออกไปเมาที่โอซาก้าค่ะ สนุกมาก แต่ยังไม่ถึงตอนน้านนนนนนนนน
หลับไปตื่นค่ะ ออกมาชิบูย่าตอนกลางคืน เดินหาของกินค่ะ คึกคักมาก คนเยอะ ฝรั่งเยอะทั้งที่เดินตอนกลางวันฝรั่งน้อยมาก พอตกกลางคืนพรึ่บค่ะ
ราเมงที่ชิบูย่าค่ะ มันย่องเลยอ่ะ อันนี้ไม่ปลื้ม เลี่ยน สั่งไม่รุเรื่องเอง เสียใจ
สี่แยกชิบูย่าค่าาาาาาาาาาา คนเดินไม่ชนกันนะคะ สนุกมากกกกกกกกกกก เดินตั้งหลายรอบ อยากได้รูป แต่ถ่ายไงก็ไม่สวยสักรูปเพลียยยย ได้มามืดๆ รูปนึงเจ้าคะ
วันแรกกินข้าว 2 มื้อ เอง ส่วนใหญ่ก็ สองมื้อประมาณนี้ทุกวันค่ะ เด๋วมาต่อ เดย์ 2 นะคะ พาไปเที่ยวย่านอิเล็กทรอนิกส์ที่ อากิฮาบาระ (Akihabara) และ วัดอาสากุสะ Asakusa วัดยอดนิยมของนักท่องเที่ยว
มาต่อล่ะค้า
วันที่ 3
ไปเดินอากิฮาบาระ ค่ะ เป็นแหล่ง อุปกรณ์อิเล็กทอนิกส์ แล้วก็แหล่งชอปปิ้งสำหรับซื้อของฝาก เป็นที่แบบต้องมาอ่ะคะ ทัวร์จีนก็มาลงเยอะ มาเหมาทุกสิ่งทุกอย่างที่อยากได้ไปค่ะ หิ้วพะรุงพะรังกันเลยทีเดียว ส่วนตัวแค่เดินเล่นค่ะ เพราะเราไม่มีงบสำหรับชอปปิ้งค่ะ 555 ของก็ไม่อยากได้ด้วย พวกเครื่องสำอางค์ที่นี่ก็เยอะค่ะ เดินกันให้หนำใจไปเลย ที่นี่ถ้าซื้อเกิน 5000เยน สามารถเอา tax คืนที่สนามบินได้ค่ะ
เข้าไปได้เลยนะคะ มีชั้นบนด้วยเพลินคะ
อร่างฉ่างมากค่ะ 55 หนังสือการ์ตูนโป้ เกมส์ 18+ sex toy ชุดคอสเพลย์ อุปกรณ์ไฟฟ้า สารพัดจ้า
แอบถ่ายมานิ น่ารัก
เที่ยงพอดีค่ะ หิวมากอีกตามเคย ร้านนี้อยู่ตรงหัวมุมถนน ร้านเล็กๆ พ่อครัวตะโกนเสียงดัง ราคาถูก พนักงานออฟฟิศมากินค่ะ รีบกินมากกกกกกกกกกกกกกก ไม่เกิน 10 นาทีกินเสร็จค่ะ คนที่นู่นไม่พักผ่อนหย่อนใจยามเที่ยงแบบเรา รีบกิน รับไป หลังจากนั้นเราก็ไม่รุว่าเค้าไปไหนค่ะ ไม่รุว่าคนญี่ปุ่นพักเที่ยงกี่นาที แต่รีบจริงๆค่ะ เรากินไม่ถึงครึ่งชาม นางก็เสร็จแล้วบ้ายบายออกจากร้านค่ะ เรากินข้าวหน้าหมู ถูกปาก ถูกสตางค์ 420 เยน 126 บาท
ต่อตอน #2
http://ppantip.com/topic/34236049
[CR] มหากาพย์รีวิว 200 รูป เที่ยวญี่ปุ่นไม่ง้อทัวร์จัดเต็ม 15 วัน อาหาร ที่พัก เงิน ปลั๊กไฟ wifi กระเป๋าเดินทาง App แอพ
app แอพโทสับที่แนะนำเลยคือ กูเกิ้ลแมพ (google map) กูเกิ้ลทรานสเลท (google translate)
เรื่องเงินจะคิดในเรท 100 เยน เท่ากับ 30 บาทนะฮะ เพื่อง่ายต่อการคำนวนจ้า
เงิน ข้าวต่อมื้อ ประมาณ 300 บาท อันนี้แบบเซ็ตธรรมดา นะคะ กินสองมื้อ 600 บาท มื้อเช้ากินเซเว่นประมาณ 100บาท เพราะร้านอาหารที่นู่นเปิด 11 โมงเช้าค้าาาาาาาาาาาาา น้ำเปล่า น้ำหวาน ขวดล่ะ ประมาณ 30 บาทขั้นต่ำ ค่าเดินทางถ้าเที่ยวที่โตเกียว บัตรเจอาร์พาสสำหรับ 1 วันราคา 216 บาท
รวมๆ คือ ค่ากิน ใช้ เดินทาง ประมาณ 1000 บาทต่อวัน อันนี้แบบไม่ประหยัดนะคะ
ค่าที่พัก เราหาที่พักจาก เว็บ airbnb ค่ะ ไม่แนะนำสำหรับสาวๆที่ไปคนเดียวนะ ราคาห้องต่อคืน ห้องเดียวสำหรับ 2 คน ห้องน้ำ รวมบ้าง แยกบ้าง แต่ห้องส่วนตัวตลอด ในโตเกียวจะประมาณ 1000 /คน/คืน ค่าา เราไป 15 ค่าที่พัก 15000 บาท ฮื้อออออออออ
สายชาร์ตโทสับ ไฟที่ญี่ปุ่นเสียบกันได้ไม่ต้องเปลี่ยนค่ะ รูปลั๊กเป็นสองขาแบน เสียบได้พอดีค่ะ
wifi เช่าพอคเกจ ไวไฟ (pocket WIFI) ไปจากเมืองไทยgลยจะเริ่ดค่ะ ไม่ต้องกลัวหลง เที่ยวสนุก มีเน็ตให้หาข้อลูลตลอด และทำให้เราได้ใช้ google translate กับคนญี่ปุ่นได้ เด๋วจะบอกว่ามันเจ๋งเยี่ยงไรนะคะ
กระเป๋า แนะนำกระเป๋าลากแบบสี่ล้อโฟร์วิล 555555555555 มันเริ่ดและชีวิตคุณจะดีขึ้นมากกกกกค่ะ แบบสะพายหลัง สะพายข้าง เหมือนตกนรกทั้งเป็นคือมันเดินไกลจ้าาาา แล้วทุกที่ในญี่ปุ่นมีไว้เพื่อกระเป๋าลากค่ะ สบายใจมิต้องห่วงเบยยย
15 วันมีดังนี้นะฮะ
4 days in Tokyo >> 3 days in Kyoto >>> 3 days in Osaka >>> 1 day in Fuji Mt.>>> 3 days in Tokyo >> fly back to bkk ค้า
เข้าเรื่อง เล่ายาวๆ รูปบานๆ ว่างมาอ่านนะ เดี๋ยวอิชั้นพาเที่ยวสไตล์ไทยผสมฝรั่งยาวๆ 15 วันกันไปเลยยยยย
สวัสดีค่าาา พิมไปเที่ยวญี่ปุ่นมาเดือนนึงได้แล้ว คิดว่าจะเขียนรีวิวหลังกลับมา จะๆๆๆๆๆๆๆ จะ จนครบเดือนก็ถึงเวลาแล้วล่ะคะ ก่อนจะลืมความรู้สึกดีๆไปซะหมดฮื่ออออออออออ เริ่มเลยล่ะกันเนาะ ไปกับ แอร์เอเชียเอ็กซ์ค่ะ ได้โปรโมชั่นพอดี แต่ประเด็นคือเราไม่มีบัครเครดิตใช้ของพี่สาวซื้อจึงต่อรอเลขยืนยันสี่ตัวจาก โทรศัพท์พี่เรา เดินทางวันที่ 2 สิงหา 58 ถึงตอน 1 ทุ่มที่ นาริตะ ราคาแค่ 2xxx ประมาณนี้ ขากลับ รอบเช้า ราคาประมาณ 5xxx รวมกันไปกลับประมาณ เก้าพันก็ส่วนตัวถือว่าโอเครับได้ เพราะเราก็ไปตั้งสิบห้าวัน แต่ก็อีตรงรอเลขจากโทสับพี่สาวอีชั้นนานนี่แหละค่ะ ไม่ส่งมาสักที จะครึ่งชั่วโมงได้
แล้ว จนหมดเวลาจองโทรไปหาทางคอลเซ็นเตอร์บัตรของกสิกรว่าเลขมายังคะ ทำไมมาช้าจัง ฮื่ออออออออ ต้องกดจองใหม่แล้วเนี่ยะพี่ พนักงานก็ดีนะคะ รออยู่ในสายทำไปด้วยกันเลย อีชั้นก็กดจองใหม่ กรอกข้อมูลใหม่ อีกแล้ว เปิดมาปุ้บ ทาด้าาาาาาาาาา!!! ขุ่นพระ ราคาขาไปขึ้นมา 2000 บาท เป็น ห้าพันฟ่าทั้งไปทั้งกลับ อกอีแป้นจะแตก นี่คือสาเหตุที่เลขมาช้าชิมิคร๊ะ โกรธตัวเองงงงงงงงงงงงงงงง จะเปลี่ยนวันก็มิได้ เพราะเพื่อนจองไปแล้ว รับสภาพสิเคอะ รวมไปกลับ หมื่นสองได้มั้ง คร่ำครวญหนักมาก อดได้ของถูก และเจ็บใจ
พิมจองตั๋วก่อนประมาณ สองเดือนได้มั้งนะ ก็เริ่มหาข้อมูลจากพันทิป มีประโยชน์คะ ส่วนใหญ่ก็จะหาอ่านจากในนี้ เดินทางวันที่ 2 สิงหาคม 58 ขึ้นที่ดอนเมืองไฟท์เช้าเดินทางปกติคะ ไม่มีหนังดูนะคะ 6 ชมฟ่าๆ จัดหนัง เพลง เกมส์ไปเองน้าาาา ใครหนาวเอาผ้าพันคอไปก็ได้ หรือไม่ก็ซื้อผ้าห่มกับแอร์บนเครื่องก็ได้ค่ะ แต่เราไม่ได้เอาไรไปเลย ก็หนาวบ้าง แต่ก็ทนได้ เบื่อมากกว่าประเด็น
แล้วแอร์ก็เอาใบตม.มาให้กรอกนะคะ ตัวอย่างการกรอกมีให้ที่ข้างหน้าคุณเลยคร้าาาา ในเมนูอาหารหน้าสุดท้ายค่ะ บังเอิญเปิดไปเจอ (เบื่อค่ะ หยิบอ่านไปเรื่อย) แปลไทยละเอียดยิบ ชนิดโนดิกชั่นนารีค่ะ
กรอกตามนี้ได้เลยค่ะ
ละแล้วววววววววววววววววววว ก็ถึงญี่ปุ่นนนนนนนนน ตื่นเต้นมากกก ถึง ตม. นาริตะ ส่วนตัวไม่ได้เตรียมไรไปอีก เค้าก็จะถามว่า มาทำไร กี่วัน ขอดูตั๋วกลับ เที่ยวคนเดียวหรอ พักที่ไหน จบค่ะ น่ารัก ถามย้ำว่าคนเดียวหรอ อิชั้นก็ใช่คร้าาาาาาาาา จริงๆก็เที่ยวกับเพื่อนแต่เพื่อนไม่ใช่คนญี่ปุ่นก็ไม่รุจะบอกทำไม แล้วเราก็บินมาคนเดียวด้วย ก็เลยบอกว่าคนเดียว (อิชั้นมิได้โกหกนะเคอะ) อย่าลืมจดที่พักของโรงแรมและเบอร์โทสับ ไปกรอกลงในใบ ตม.ด้วย นะ จำไว้ให้ขึ้นใจด้วยก็ได้ เผื่อ ตม.จะถาม เราเป็น ผู้หญิงด้วยเนาะ เพื่อจะตามละเอียด แต่งตัวตามสบายนะคะไม่ต้องจัดเต็ม เพราะเรามีตั๋วกลับโชว์เค้าว่าตูกลับแน่ๆเฟร้ยยย (ขอให้พนักงานเคาเอร์แอร์เอเชียที่เราเช็คอินพริ้นต์สลิปตัวกลับให้ด้วยก็ได้ค่ะ เป็นหลักฐานกับ ตม. ญี่ปุ่นตอนขาเข้า อันนี้พนักงานเค้าแนะนำเราอ่ะค่ะ และเค้าก็ทำให้เราเลย แอบน่ารักนิ)
เอากระเป๋าก็ปกติคะ ซื้อตั๋วรถไปเข้าเมืองตรงหน้าทางออกได้เลยค่ะ จะเป็นเคาร์เตอร์ขายตั๋วรถไฟเข้าเมือง มีหลายราคาค่ะ แพงสุดก็เป็นแบบไม่ต้องต่อรถ ของเจอาร์ แบบของเรา เราเอาแบบขึ้น Keisei - Line Sky Line ประมาณ 2400 เยน ประมาณ 720 บาท แล้วลงป้ายเผื่อที่จะเปลี่ยนไปเป็นสายรถไปที่ใกล้ที่พักเราคะ เช็คกับ กูเกิ้ลเมพดีๆนะคะ แล้วก็ขึ้นตามนั้นโลด
(คืนนี้มาต่อนะคะ จิพาเที่ยว วัด สวนสาธารณะ และชิบูย่าไนท์ไลฟ์ ยืดยาวมากกกกกกก จริงๆ)
ต่อค้าาาาาาาาาาาาาาาา ขอโทษจริงๆนะคะ หายไปหลายวันเลย ขอโทษจริง รู้สึกผิดนิ
วันที่ 1
หลังจากออกจากสนามบินก็มาที่ห้องพักเลยค่ะ เราไม่ได้อยู่โรงแรมค่ะ หาที่พักจาก เว็บ airbnb เอานะค่ะ แล้วก็หักเงินจากบัตรกันไปเลย ถึงก็เกือบประมาณ สี่ทุ่มแล้วค่ะ เจ้าของห้องมารอรับที่ประตูทางออกรถไฟค่ะ เหนื่อยมาก หอบหิ้วเพราะกระเป๋าเราไม่ใช้ลากคิดว่าสะพายจะสะดวกกว่า แต่น้ำตาแทบไหลค่ะ เหนื่อยหนัก หิว เพลียมากก พอถึงห้องพัก อาบน้ำค่ะอย่างแรก แล้วก็ตกลงกันว่าจะไปเซเว่นกัน อาบน้ำเสร็จก็หมดแรงงงง ตกลงกันใหม่คือนอนเถอะ ค่อยกันพรุ่งนี้แล้วกันเนาะ ทั้งวันกินกันมาแค่อาหารก่อนขึ้นเครื่องแล้วก็ไม่ได้กินไรอีกเลย ไส้จิขาดแต่สังขารไม่ไหวจริงๆ หลับค่ะ
วันที่ 2
วันที่ตื่นแว้ว ตื่นสายด้วย มีเวลาหลายวันค่ะ เราเลยไม่รีบ เพลียด้วยหลายอย่าง พออาบน้ำแต่งเสร็จเรียบร้อบ เตรียมกล้องก็ออกเลยค่ะ ซื้อตั๋วเจอาร์พาสแบบ 1 วันค่ะ 720 เยน 216 บาท นั่งตามสายสีเขียวค่ะ ที่แรกที่ลงคือชิบูย่าค่ะ ไม่รุจะไปที่ไหนดี เอาชื่อที่มันดังๆกันก่อน หาร้านข้าวค่ะ มาเร็วไปนิดอีกต่างหาก ร้านอาหารที่นี่เปิด 11 โมงเช้า ท้องกิ่วกันอีกพักค่ะ ตกลงกันที่ร้านนึงใกล้สถานีรถไป เราจำชื่อไม่ได้นะคะ เพราะเป็นภาษาญี่ปุ่นไม่มีอังกฤษเลย จำทางไม่ได้ด้วย ไปญี่ปุ่นเราใช้วิธีว่า รูปน่าร้านน่ากิน บอกราคา มีภาษาอังกฤษบอก มี หมู ไก่ ทะเล คือจบค่ะ เพราะเราไม่กินเนื้อ แล้วก็ใช้วิธีลองไปเรื่อยๆค่ะ คิดว่าร้านนี่น่าจะอร่อย ไม่ไฮโซ ก็เดินดุ่ยๆจัดไปเลยค่ะ 555
เดินออกจากซอบบ้านค้า เป็นร้านอาหารย่อยๆด้วยน่ารักกุบกิบ เดินเล่นเบาๆได้ค่ะ ย่าน Togoshi ด้านล่างของแผนที่ จากชิบูย่าคะ
เมื่อแรกที่ญี่ปุ่นจ้า สั่งกับเครื่อง แมชชีน ใส่เงิน กดเลือก รับตั๋ว เงินทอน แล้วยื่นให้พนักงานค่ะ ทำไม่เป็นหรอกค่ะจริงๆ ให้คนที่ยืนต่อข้างหลังช่วยจร้าาาาา 5555 คือมันเป็นภาษาญี่ปุ่นหมด แต่ที่ปุ่มมันมีรูปอาหารเล็กๆ ก็ยังพอเดาได้ เราสั่งหมู แกงกะหรี่
ของนางสั่งอะไรไม่รุไม่มีเนื้อสัตว์เลย เลยแบ่งเนื้อจากเราให้ด้วย สางสารนิ
อิ่มคร้าาาาาาาาาาา เดินเล่นเลย เราใช้วิธีเดินไปเรื่อย ทางงไหนคนเยอะ ทางไหนมีแสงสีเสียงก็เดินไปทางนั้นเลยค่ะ แดดร้อนมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แต่ก็ไม่เท่าเมษาเมืองไทยนะคะ ฝรั่งนี่โดนแผดเผาตัวแดงเป็นกุ้งลอบสเตอร์ต้มเลยค่ะ ส่วนอิชั้นดำอยู่แล้วมองไม่เห็นค่ะ 555 แต่หน้าดำขึ้นกว่าเดิมเยอะ เดินเล่นที่ชิบูย่าไม่ได้ถ่ายรูปเยอะค่ะ ร้อนใครไม่กลัวดำจิกขาสั้นมาเลยนะคะ โล่งโปร่งสบายค่ะ
นั่งรถไฟต่อไปที่ชินจุกุ ไปสวนสธารณะ โยะโยะงิ มันเป็นพาร์คที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียวค่ะ ใหญ่จริง ร่มรื่น แต่ถ้าใครกลัวอีกา กลัวนก ไม่แนะนำค่ะ อีกาตัวใญ่เท่าแม่ไก่ เท่าลูกหมา เลยอ่ะ ดุด้วย _*_ เดินเข้าไปแล้วออกแนวเหมือนหนังสยองขวัญนิดๆ แต่โดยรวมสวยร่มรื่นกว้างมาก
รูปนี้กับประตูทางเข้าค่ะ
แล้วก็หมดแรงค่ะ จากการเดินแบบไม่มีหลง เพราะไรรุมั้ยค่ะ เพราะเราก็ไม่รุเหมือนกันว่าเราจะไปทางไหนดี 55555 เหนื่อยมาก บ่ายสามกลับมาห้องก่อนนค่ะ เพราะเรามีบัตรรถไฟเจอาร์นั่งได้ทั้งวัน ค่อยออกมาใหม่ค่ะ สุดแล้วจริงๆ ขากลับผ่านเซเว่นก่อนเข้าบ้าน เหมือนอยู่ไทยเลยเนอะ ซื้อน้ำหรือไอติมมากินกันค่ะ ล่ะนางก็จัดเจ้านี้ค่ะ เบียร์แอลกอฮอล์ 9% ราคาเบาๆแต่เมาจริง ถ้าเป็นชะนีคอไม่แข็งกินนี่สักสองป๋องมีเปิงค่ะ ไม่ขม หวานๆ ซ่าๆ มึนๆ เมาๆ เอาไว้กึ่มๆก่อนออกไปเที่ยวได้นะค่ะ เรากินอันนี้กันก่อนออกไปเมาที่โอซาก้าค่ะ สนุกมาก แต่ยังไม่ถึงตอนน้านนนนนนนนน
หลับไปตื่นค่ะ ออกมาชิบูย่าตอนกลางคืน เดินหาของกินค่ะ คึกคักมาก คนเยอะ ฝรั่งเยอะทั้งที่เดินตอนกลางวันฝรั่งน้อยมาก พอตกกลางคืนพรึ่บค่ะ
ราเมงที่ชิบูย่าค่ะ มันย่องเลยอ่ะ อันนี้ไม่ปลื้ม เลี่ยน สั่งไม่รุเรื่องเอง เสียใจ
สี่แยกชิบูย่าค่าาาาาาาาาาา คนเดินไม่ชนกันนะคะ สนุกมากกกกกกกกกกก เดินตั้งหลายรอบ อยากได้รูป แต่ถ่ายไงก็ไม่สวยสักรูปเพลียยยย ได้มามืดๆ รูปนึงเจ้าคะ
วันแรกกินข้าว 2 มื้อ เอง ส่วนใหญ่ก็ สองมื้อประมาณนี้ทุกวันค่ะ เด๋วมาต่อ เดย์ 2 นะคะ พาไปเที่ยวย่านอิเล็กทรอนิกส์ที่ อากิฮาบาระ (Akihabara) และ วัดอาสากุสะ Asakusa วัดยอดนิยมของนักท่องเที่ยว
มาต่อล่ะค้า
วันที่ 3
ไปเดินอากิฮาบาระ ค่ะ เป็นแหล่ง อุปกรณ์อิเล็กทอนิกส์ แล้วก็แหล่งชอปปิ้งสำหรับซื้อของฝาก เป็นที่แบบต้องมาอ่ะคะ ทัวร์จีนก็มาลงเยอะ มาเหมาทุกสิ่งทุกอย่างที่อยากได้ไปค่ะ หิ้วพะรุงพะรังกันเลยทีเดียว ส่วนตัวแค่เดินเล่นค่ะ เพราะเราไม่มีงบสำหรับชอปปิ้งค่ะ 555 ของก็ไม่อยากได้ด้วย พวกเครื่องสำอางค์ที่นี่ก็เยอะค่ะ เดินกันให้หนำใจไปเลย ที่นี่ถ้าซื้อเกิน 5000เยน สามารถเอา tax คืนที่สนามบินได้ค่ะ
เข้าไปได้เลยนะคะ มีชั้นบนด้วยเพลินคะ
อร่างฉ่างมากค่ะ 55 หนังสือการ์ตูนโป้ เกมส์ 18+ sex toy ชุดคอสเพลย์ อุปกรณ์ไฟฟ้า สารพัดจ้า
แอบถ่ายมานิ น่ารัก
เที่ยงพอดีค่ะ หิวมากอีกตามเคย ร้านนี้อยู่ตรงหัวมุมถนน ร้านเล็กๆ พ่อครัวตะโกนเสียงดัง ราคาถูก พนักงานออฟฟิศมากินค่ะ รีบกินมากกกกกกกกกกกกกกก ไม่เกิน 10 นาทีกินเสร็จค่ะ คนที่นู่นไม่พักผ่อนหย่อนใจยามเที่ยงแบบเรา รีบกิน รับไป หลังจากนั้นเราก็ไม่รุว่าเค้าไปไหนค่ะ ไม่รุว่าคนญี่ปุ่นพักเที่ยงกี่นาที แต่รีบจริงๆค่ะ เรากินไม่ถึงครึ่งชาม นางก็เสร็จแล้วบ้ายบายออกจากร้านค่ะ เรากินข้าวหน้าหมู ถูกปาก ถูกสตางค์ 420 เยน 126 บาท
ต่อตอน #2
http://ppantip.com/topic/34236049