อบรมหมู่คณะเรื่อง อาหารสำคัญต่อการภาวนา : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ



พระอาจารย์เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

...

การทำครัวทำอาหารนี่เป็นของหนักไม่น้อยเหมือนกันนะให้ช่วยกันน่า
ช่วยกันทั้งแม่ดำแม่ขาว เรามาทำบุญน่ะ เราบวชเป็นชีเป็นขาวก็ดี
บารมีเรายังไม่แก่เราก็ต้องทำความดีหลายอย่างประกอบกันเข้า  
จะเอาแต่ภาวนาอย่างเดียวไปไม่รอด
  ต้องให้เข้าใจนั่นแหละ

เรียกว่า ในพุทธศาสนานี้พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนให้คนเรา “ลงมือกระทำ”
ไม่ใช่เพียงแต่อ้อนวอน  อ้อนวอนให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
มาช่วยเหลือให้ตนมีความสุขความเจริญ ..พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงสอนอย่างนั้น
ทรงสอนให้เราลงมือทำ   การทำมันก็ต้องทำหลายอย่าง
ไม่ใช่แต่เพียงนั่งภาวนาอย่างเดียว   ปากท้องมันหิว  ไม่มีอาหารหล่อเลี้ยง  
นั่งภาวนาก็ไม่ได้  ร่างกายอันนี้มันเนื่องอยู่ด้วยอาหาร
เพราะฉะนั้นจึงต้องหาอาหารมาหล่อเลี้ยงมัน  

มันถึงมีกำลังสามารถนั่งสมาธิภาวนาได้  

อันนี้มันก็ยังดีนะ เรายังมีเงินจ่ายค่าเครื่องครัวต่างๆได้มาทำยาไส้กันน่ะ
แต่บางแห่งไม่มีเงินพอ อยู่ด้วยกันมากก็ไม่ได้  ไม่มีอาหารจะเลี้ยงกันอย่างนี้นะ  
ดังนั้นพวกเราที่อยู่ร่วมกันนะเรามีพร้อมแล้วจึงได้ช่วยกันทำเท่านั้นแหละ  
ควรช่วยกันทำช่วยกันคิด คิดให้มันเห็นเหตุเห็นผล  


โลกมันหมุนเวียนเปลี่ยนไปไม่คงที่  แม้แต่ครั้งพระพุทธเจ้า  
นางภิกษุณีเพื่อนก็เที่ยวบิณฑบาตมาเลี้ยงอัตภาพอันนี้ไป  
แต่ในสมัยปัจจุบันนางภิกษุณีหมดไปแล้วบัดนี้มีผู้นุ่งขาวห่มขาว
โกนผมโกนคิ้ว รักษาศีล ๘ เรียกว่า แม่ชี  อันนี้เพื่อนก็ไม่นิยมบิณฑบาตกัน
เราจะไปทำอย่างนั้นมันก็ไม่ถูกต้อง  เพราะว่าคนส่วนใหญ่ไม่นิยม  
เหตุนั้นเมื่อเป็นแม่ชีมาแล้ว  ก็จึงต้องทำหน้าที่เป็นแม่ครัว
ช่วยกันทำอาหารเลี้ยงพระบ้าง เลี้ยงตัวเองบ้าง ก็เป็นอย่างนั้นนี่ขอให้เข้าใจเน้อ
เรียกว่า ไม่มีใครที่จะคอยล้างมือเปิบเอาเลยอย่างนี้ไม่มี  
แม้พระสงฆ์สามเณรก็ต้องบิณฑบาตตามกิจวัตรเป็นอย่างนั้น  
เราเป็นแม่ขีก็ทำหน้าที่ของแม่ชีเกี่ยวกับเรื่องอาหาร เรียกว่าเป็นแม่ครัว
นั่นแหละต่างฝ่ายต่างก็มีงานทำ  มารวมกันเข้าก็จึงพอเป็นอยู่ได้


นั่นแหละอย่าไปเข้าใจว่า เรื่องอาหารไม่เป็นเรื่องสำคัญนะ  
จะไม่สำคัญยังไงเล่า  อัตภาพร่างกายนี้เพียงขาดอาหารหรือน้ำวันหนึ่งนี่
มันก็เปลี่ยนแปลงแล้ว   รูปร่างกายนี้นะแปรผันไปแล้ว ทรุดโทรมไปแล้ว
อย่างนี้ที่เราอยู่ได้มานี้ก็เพราะมีอาหารหล่อเลี้ยงอยู่  
ที่เราประพฤติพรหมจรรย์ทำความเพียรภาวนาอะไรต่ออะไรได้อยู่
เพราะมีอาหารหล่อเลี้ยงร่างกายนี้ให้มีกำลังพอเป็นไปได้  


แม้ท่านที่ได้บรรลุมรรคผลธรรมวิเศษ  ท่านก็มีอาหารหล่อเลี้ยงร่างกายนี้
  แล้วก็จึงมีกำลังวังชาไปนั่งฟังเทศน์ของพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์ทั้งหลาย
มีกำลังเดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา  ไม่เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าง่ายๆ
หมู่นี้นะมันล้วนแต่อาศัยอาหารทั้งนั้นเลย
เป็นเครื่องบำรุงกำลังกายให้ทำกิจวัตรต่างๆได้  

ดังนั้นแหละขอให้พากันเข้าใจ


...

ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ "เอาธรรมนำชีวิต"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่