## 5 วัน 6 เรื่อง กับความคลั่งไคล้หนังหว่องการ์ไวของเด็กยุค 90s ##


ผมเชื่อว่าใครหลายคนที่เกิดในรุ่นราวคราวเดียวกับผม และนับถอยหลังยาวๆไปจนถึงศตวรรษที่ 21 (ปัจจุบัน) ล้วนเติบโตมาพร้อมกับหนัง Hollywood ด้วยกันทั้งนั้น เริ่มตั้งแต่จำความได้ ผมเติบโตมาท่ามกลางครอบครัวที่รักในการดูหนังและอ่านหนังสือ ทุกๆเย็นวันศุกร์เราจะไปที่ร้านเช่าวีดีโอ เลือกหนังกันคนละ 1-2 เรื่อง และเอากลับมาดูทั้งหมดให้ทันก่อนถึงวันจันทร์ ผมจึงคุ้นชินกับหนังอย่าง Titanic , Jurassic Park , Terminator , Star Wars , The Lord of the Rings , Indiana Jones , Back to the Future , Harry Potter หรือ Pirates of the Caribbean บรรดาหนังทุนสูง ที่คับคั่งด้วยดาราจากฝั่งตะวันตก และเต็มไปด้วยสเปเชียลเอฟเฟคจาก Hollywood พูดง่ายๆก็คือพวกหนังบล็อคบัสเตอร์ ที่มีพล็อตเรื่องเจ๋งๆเหนือการคาดเดา เกี่ยวกับอวกาศ เทคโนโลยี แฟนตาซี ผจญภัย ที่ดูแล้วต้องตื่นตาตื่นใจและสนุกสนานกันไปทุกที

ความคุ้นชินกับการเคยดูแต่หนัง Hollywood ทำให้ผมไม่เคยหันมาสนใจหนังเอเชียเลยด้วยซ้ำ ยิ่งหนังนอกกระแสล่ะก็ไม่ต้องพูดถึงกันเลย เรามักจะมีทัศนคติว่าหนังพวกนี้มันสู้หนัง Hollywood ไม่ได้ ด้วยเหตุผลหลายๆข้อ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่องที่ไม่ยิ่งใหญ่ ดารานำที่เราไม่รู้จัก สเปเชียลเอฟเฟคที่ไม่เนียน และสำคัญสุดคือทุนสร้างที่ไม่ได้มากมายอะไร เมื่อเทียบกันแล้วความคุ้มค่ากับการตีตั๋วไปชมในโรงภาพยนตร์ หรือซื้อแผ่นมาเก็บเพื่อดูที่บ้าน พอเราคำนวณถึงส่วนได้ส่วนเสีย และการคาดหวังต่อความคุ้มค่าของเงินที่เสียไป หนัง Hollywood จึงเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ มากกว่าการเอาเงินไปเสี่ยงกับหนังนอกกระแสคนรู้จักน้อย

แต่ด้วยความที่รู้ตัวว่าเป็นคนชื่นชอบในการดูหนังตั้งแต่เด็ก ผมจึงคิดที่จะเลือกเบนเข็มตัวเองมาทางด้านนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ นั่นคือการดูหนังแบบจริงจังและคิดทำงานที่วนเวียนอยู่กับหนัง ผมจึงจำเป็นต้องหันมาเสพทุกแนวไม่เว้นแม้แต่หนังนอกกระแส ที่ก่อนหน้านั้นแม้ผมเองจะมองว่าด้อยกว่า Hollywood ก็ตามที

ซึ่งครั้งหนึ่ง และผมเชื่อว่าหลายคนยังคงเป็นอยู่ คือการมีอคติกับหนังหรือซีรี่ย์เกาหลี ว่าจะต้องเป็นหนังขายดารา มีแต่บทมุ้งมิ้งของพระเอกนางเอกจีบกันตลอดเรื่อง โดยหาสาระไม่ได้ ซึ่งผมเองก็เคยคิดเช่นนั้น และไม่ได้ให้ความสนใจกับหนังเกาหลีซักเท่าไหร่ แต่แล้วเมื่อเอาเข้าจริง การลองเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆก็ให้ผลที่เกิดคาด ทำให้ผมรู้ว่าจุดเด่นของหนังเกาหลีไม่ได้มีดีแค่นั้น มันยังมีสิ่งอื่นที่หนังหลายชาติยังไม่อาจทำได้ ไม่ว่าจะเป็นด้านความกล้า ความอาร์ท ที่พล็อตเรื่องสามารถหยิบจับทุกแนวมาผสมปนเปกันให้ลงตัวก็ยังได้ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ผมต้องกลับมาพิจารณาตัวเองใหม่อีกทีว่า เราเกือบพลาดของดีของเด็ดไปแล้ว เพราะการไม่เปิดใจและตัดสินหนังตั้งแต่ยังไม่ได้ดู


แต่เรื่องที่ผมจะพูดในวันนี้ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับหนังหรือซี่รี่ย์เกาหลีแต่อย่างใด แต่ผมจะพูดถึงหนังเอเชียนอกแสของผู้กำกับหว่องการ์ไว ที่คอหนังหลายคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดี และยังมีอีกหลายคนไม่น้อยที่ยังไม่รู้จักเช่นกัน




แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่