ออกกำลังกายมาหลายเดือน แต่ ขาไม่เล็กลงเลย !!!
เคยเป็นป่ะ เวลาซื้อเสื้อผ้า เสื้อไซต์ S กางเกง XL แล้วก็ต้องเอาเอวเข้า !!!
เพราะเอวหลวม แต่ดันฟิตติดต้นขา
น้ำหนักหายไป 5 กก.ทุกสัดส่วนลงหมดแต่ต้นขา ไม่ลง !!!
ใส่ขาสั้นก็ตาย ใส่ขายาวก็ไม่รอด เห้อออ !!!
ผช.บอกว่า หน้าสวยนะ แต่ขาใหญ่ หื้มม มันเจ็บว่ะ !!!!
ปัญหาเหล่านี้ติดตัว จขกท. มานานมากกก ตั้งแต่เด็กๆ ก็ว่าได้
ขอแนะนำตัวเองก่อนนะค่ะ ปัจจุบัน จขกท. อายุ 24 สูง 161 หนัก 51 อก 34 เอว 25 ต้นขา21 !!! โอ้ววว แม่เจ้าขาชั้นใหญ่เกือบเท่าเอว
ความจริงแล้ว จขกท.น่าตาพอไปวัดไปวาได้ 5555 แต่ติดที่ขา จะใส่สั้นๆ ก็อายคนอื่น ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง
~~ปัญหายิ่งใหญ่ระดับชาติของ จขกท. ก็คือต้นขา อันใหญ่ล้ำนี้~~
เริ่มกันด้วยขาใหญ่ๆ ขอ จขกท.เลยนะจ้ะ
ขาสั้นไม่พอ ใหญ่ล้ำอีกตะหากกก นี่ขนาด จขกท.พยายามใช้มุมกล้องแล้วนะคะ
คิดหาวิธีแก้ปัญหามาโดยตลอด
- เคยเข้าสถาบันลดน้ำหนักกระชับสัดส่วนชื่อดัง เค้า ใช้วิธีการนวดและติดเครื่องสลายไขมัน ก็ยังไม่ลง
- เคยเข้าสถาบันเสริมความงาม ใช้วิธีการฉีดสบายไขมัน แต่ก็ยังไม่ลง แถมเจ็บหนัก เจ็บบ่อย
- เทรนด์การออกกำลังกายกำลังมา บวกกับ จขกท.น้ำหนักพุ่งทะยานจาก 52 ขึ้นไปถึง 58
คนรักสวยรักงามอย่าง จขกท. ก็เปิด member รายปีเลยจ้า
เล่นไปเล่นมาน้ำหนักจาก 58 เหลือ 48 !!! โอ้วววแม่เจ้า !!!
ตะลึงอีกรอบ !!! คือผอมลง อย่างเห็นได้ชัด ผอมจนซี่โครงโผล่ เพราะ จขกท. เป็นคนช่วงลำตัวเล็กอยู่แล้ว
มีแต่คนทักว่าผอมไป แต่ขาใหญ่เจ้ากรรม มันยังไม่ยอมลงตามไปด้วย !!!
ในเมื่อผอมละทีนี่ตัดปัญหาเรื่องน้ำหนักออกไป เหลือแต่ทำยังไงให้ขาเล็ก เรียว สวย ?
ในเมื่ออออกกำลังกายมาโดยตลอด ทั้งโยคะ ฟิตเน็ต เข้าคลาสคาดิโอ ก็แล้ว
สำหรับคนที่บอกว่าออกกำลังกายดีกว่า จขกท.ไม่ขอเถียงว่าออกกำลังกายมันดี
ซึ่ง จขกท.ออกกำลังติดต่อกันมาเกือบปี แต่ต้นขาก็ไม่ลงซะที มันอาจจะต้องใช้เวลานานพอสมควร แต่ จขกท.ใจร้อนค่ะ
เอาภาพหลักฐานการออกกำลังกายมานานพอสมควรให้ดู อิอิ
วิธีที่ จขกท.อ่านเจอมาโดยตลอด แต่ไม่คิดจะทำ และคิดว่า เห้ยยแกรร ชั้นต้องทำงี้เลยหรอ ? ก็คือวิธีการดูดไขมัน !!
เพราะฟังแค่ชื่อเรียก ก็น่ากลัว น่าสยองขวัญแล้วล่ะ ถ้าทำไปแล้วชั้นจะตายไหม แล้วหามันจะเล็กลงหรือเปล่า
ณ ตอนนั้น จขกท.ทราบแค่ว่า การดูดไขมันก็คือการลดสลายไขมันที่สะสมในส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยการใช้ท่อขนาดเล็กสอดเข้าไปในชั้นผิวหนังและดูดไขมันส่วนเกินออก แล้วก็รู้ว่า ทำครั้งเดียว ขาเล็กเลย เจ็บหน่อย หรืออาจจะเสี่ยงถึงตายได้ มันเป็นการศัลยกรรมที่ค่อนข้างเสี่ยง ตอนนั้น รู้แค่นี้จริงๆ กลัวๆ กล้าๆ แต่ก็อยากสวย
อันดับแรก หาข้อมูลเพิ่มขึ้นๆๆๆ
ไอ้การดูดไขมันคือไร ? ทำยังไง ? ใช้วิธีไหนบ้าง ? ผลที่ได้รับเป็นยังไง ? มีผลเสียไหม ? อันตรายมากรึเปล่า เจ็บมากไหม บลาๆๆๆ
เกิดคำถามขึ้นเต็มในหัว ทำได้ตอนแรกคือพยายามอ่าน หาข้อมูลเยอะๆ จขกท. อยากให้สมาชิกท่านอื่นๆ เปิดรีวิวแล้วศึกษา อ่านอย่างละเอียด ไม่ใช่ดูแต่ภาพ แล้วมาสรุปเอาเองว่า มันเล็ก แค่นั้นจบ !! ไม่มีอะไรได้มาง่าย เราอาจจะต้องแลกกับอะไรบ้างอย่าง… และอย่างเชื่อคำรีวิวเพียงอย่างเดียว อยากให้ปรึกษาคุณหมอ ถามคุณหมอเยอะๆ
จากข้อมูลที่ จขกท. ศึกษาถามอากู๋มา พบว่า...
การดูดไขมันก็คือ การลดไขมันที่สะสมในส่วนต่างๆ ของร่างกาย ต้นขาแบบ จขกท. หรือจะพุง คาง แก้ม ต้นแขนได้หมดเลย โดยการใช้ท่อขนาดเล็กสอดเข้าไปในชั้นผิวหนังและดูดไขมันส่วนเกินออก อันนี้รู้อยู่แล้ว แต่ทราบเพิ่มเติมตรงที่ว่า บาดแผลค่อนข้างเล็กกว่าการดูดไขมันในสมัยก่อน และอันตรายน้อยกว่า และ ก็สามารถลดไขมันได้ตามต้องการ ส่วนจะเจ็บตัวมากน้อยเท่าไหร่ พักฟื้นนานมากไหม อยู่ที่เทคนิคที่คุณหมอเลือกทำให้เราค่ะ รวมไปถึงความเก่ง ความเชี่ยวชาญประสบการณ์ของคุณหมอเองด้วย แต่ละเทคนิค ราคาก็แตกต่างกัน ความเสี่ยงก็ต่างกัน
1. การดูดไขมันแบบดั้งเดิม (Liposuction)
เป็นวิธีที่มีมาหลายสิบปีแล้ว โดยการผ่าตัดใส่ท่อที่มีแรงดูดสุญญากาศเข้าไปดูดไขมัน ซึ่งก่อนจะดูดไขมัน แพทย์จะต้องออกแรงบีบ กระแทกอย่างแรง เพื่อให้ไขมันแตกออก จึงจะสามารถดูดออกมาจากร่างกายได้
ข้อดี : ราคาถูก ไม่มีเครื่องมือใดๆ ช่วย ใช้ฝีมือแพทย์ทำการผ่าตัดเท่านั้น
ข้อเสีย : ระยะพักฟื้นนาน เจ็บมาก มีแผลใหญ่ และหลังการทำผิวไม่เรียบเนียนสวย ความเสี่บงสูงอาจตายได้
2. การดูดไขมันร่วมกับอัลตร้าซาวด์ (Vaser Liposuction)
การสลายไขมันด้วยพลังงานอัลตร้าโซนิค หรือการอัลตร้าซาวด์ Vaser เปลี่ยนไขมันให้อ่อนนิ่มและเหลวมากขึ้น ก่อนที่จะทำการดูดออกมา สามารถสลายไขมันได้มากกว่าการดูดไขมันแบบ (Liposuction) และผลข้างเคียงน้อยกว่าการดูดไขมันแบบ Liposuction มาก
ข้อดี : เจ็บน้อย แผลเล็ก ระยะพักฟื้นสั้น
ข้อเสีย : ราคาสูง แต่ไม่ได้ช่วยให้ผิวเรียบ หลังทำผิวเป็นคลื่นไม่สม่ำเสมอ
3. การดูดไขมันร่วมกับเลเซอร์ช่วยสลายไขมัน (Laser Liposuction)
เทคนิคนี้จะเหมือนกับเทคนิค Vaser มาก จน จขกท. คิดว่าน่าจะเป็นตัวเดียวกัน การทำงานคล้ายๆ ทุกขั้นตอน เพิ่มแค่มีการ ฉีดน้ำเกลือชนิดพิเศษผสมยาชาเข้าสู่ชั้นไขมันเพื่อขยายปริมาตรในบริเวณที่มีไขมันสะสมอยู่เพื่อช่วยลดรอยช้ำและลด ความรู้สึกขณะทำการสลายไขมัน คลื่นเสียง Ultrasound ทำให้เซลล์ไขมันสลายตัวจนกลายเป็นไขมันเหลวแล้วดูดออกจากร่างกายอย่างนุ่มนวลผิวหนังจะค่อยๆ หดตัวกลับกระชับเนียนเรียบคืนสู่สภาพเดิมหลังทำการรักษา
ข้อดี : เจ็บน้อยกว่า ระยะพักฟื้นน้อยกว่า แผลเล็กลง หลังการทำผิวเรียบเนียนเพราะมีน้ำเกลือช่วย
มีความ กระชับของผิว
ข้อเสีย : ราคาสูง และดูดไขมันได้น้อย
4. การดูดไขมันร่วมกับพลังงาน RF (Body Tite Liposuction)
เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของการสลายไขมัน โดยอาศัยเทคโนโลยี RFAL TM( Radio – Frequency
Assisted Liposuction สามารถทำงานได้รวดเร็ว ไขมันที่ดูดออกมามีเลือดปนน้อยมากๆ เข้าไปทำลายเฉพาะเซลล์ไขมันบริเวณที่ต้องการโดยตรง โดยไม่ทำลายเส้นประสาทหรือเนื้อเยื่อรอบๆ ทำให้แผลเล็ก เจ็บน้อยมาก ช่วยกระตุ้น Collagen ในชั้นใต้ผิวทำให้ผิวบริเวณที่ทำการรักษา ยกกระชับ ( Tightening ) และเนียนเรียบตึงขึ้น ไม่เกิดปัญหาผิวขรุขระ
ข้อดี : เจ็บน้อย แผลเล็ก ระยะพักฟื้นน้อย หลังการทำจะได้ผิวเรียบตึง ยกกระชับผิวได้ด้วยเหมือนกับเทอร์มาจ
ข้อเสีย : ราคาสูง
รู้จักๆ คราวๆ เกี่ยวกับเทคนิคการดูดไขมันด้วยวิธีต่างๆ แล้ว
ที่นี่มาดูผลดีของการดูดไขมัน ในมุมของ จขกท.กันบ้าง
- รูปร่าง สรีระ ส่วนที่ดูดไขมัน เล็กลงอย่างเห็นได้ชัด สำหรั จขกท. ขาเล็กสมใจ ><
- เป็นวิธีการกำจัดไขมันที่ดีที่สุดเพียงครั้งเดียว
- ออกกำลังกายแก้ไขไม่ได้ แต่ดูดไขมันช่วยได้
- เจ็บแต่จบ เล็กแน่นอน
- ใส่ขาสั้น นุ่งขายาวก็มั่นใจมากขึ้น
แต่ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ต้องแลกกับความเสี่ยงหรืออะไรบ้างอย่างเช่นต่อไปนี้
จขกท.จะไม่เรียกว่าข้อเสีย แต่ขอเรียกว่าผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการดูดไขมัน
- อาจจะภาวะแทรกซ้อน เช่น อาการเสียเลือด, เสียน้ำ หรืออาการสำลักอาจเกิดจากไม่ยอมงดน้ำและอาหารตามที่แพทย์สั่ง อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่น้อยรายมาก แต่ก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้
- ผิวหนังเป็นคลื่นไม่เรียบ อาจจะใช้เทคนิคที่ไม่ดีพอ หรือแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ
- ราคาค่อนข้างสูง
- การเจ็บตัวเกิดขึ้น แต่ไม่มากมาย ในช่วงไม่เกินสัปดาห์แรกจะเดินลำบาก ค่อนข้างเจ็บแต่ไม่ถึงกับทนไม่ไหว
- มีแผล ถึงแม้จะเล็กน้อยก็ตาม อาจจะมีแผล ผิวช้ำ ห้อเลือด มากน้อยแล้วแต่คน
- เสี่ยงว่าทำมาแล้วจะสวย หรือไม่สวย ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจหลังทำ คนบางคนขาเล็กได้เท่านี้
- เสี่ยงจากการใช้ยาชา หรือยาสลบ
- แผลอาจจะอักเสบหรือติดเชื้อ ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง
พอจขกท. ศึกษาเรื่องการดูดไขมันมากขึ้น ก็ตัดสินใจไปพบคุณหมอเลยค่ะ แล้วก็เลือกที่คลินิกนี้
วิธีการเลือกคลีนิคที่จะรับการดูดไขมันของ จขกท. นั้นคือ
- จะเลือกสถาบันหรือคลินิกที่ มีชื่อเสียง เปิดให้บริการมานาน มีการต้อนรับและให้ข้อมูลเป็นอย่างดี ทำเลที่ตั้งไม่เปลี่ยว หรือซอยลึก จนน่ากลัว
- คลินิกต้องสะอาด ความสะอาดสำคัญมาก ห้องตรวจ รวมถึงเครื่องไม้ เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ
- พยาบาลหรือพนักงานต้อนรับ ต้องให้ข้อมูลเราได้อย่างดี ดูแลอย่างดี ยิ้มแย้ม แจ่มใส
- และที่สำคัญที่สุด คุณหมอ คนที่จะมาคอยดูแลเรา จะต้องได้รับการรับรองจาก สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย
ต้องผ่านการฝึกอบรมตามมาตรฐานสากล เราสามารถตรวจสอบได้จาก
http://www.plasticsurgery.or.th/lst.php
- ประวัติและผลงานของคุณหมอที่ผ่านมา ซึ่งคุณหมอ รณชัย โคมทอง คุณหมอที่ดูแล จขกท. ผ่านมาตรฐานทุกอย่าง รวมถึงผลงานดี มีนางแบบ นางงามเคยเข้ารับการรักษา และคุณหมอก็มีประสบการณ์ความชำนาญด้านการดูดไขมันโดยเฉพาะ และมีประสบการณ์มากว่า 30 ปี ทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบันเป็นถึง ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์รนชัย โคมทอง
เจอผลงานคุณหมอแบบนี้ ค่อยโล่งใจหายห่วงหน่อย >< อ่อ ลืมบอก บางคลินิก ในหน้าเว็บไซต์ เค้าไม่มีประวัติคุณหมอ ให้เราอ่าน ยังไง สมาชิกท่านอื่นๆ อย่าลืม เช็คประวัติ ผลงานคุณหมอดีๆ นะคะ แต่สำหรับ คุณหมอรณชัย โคมทอง จขกท.เช็คมาอย่างดีแล้วค่า อีกอย่าง คุณหมอใจดีมาก ไม่ดุเลย ให้คำปรึกษาได้ดีมากเลยค่ะ
- มีขั้นตอยการรักษาที่ดูเป็นทางการ มีการตรวจสุขภาพในเบื้องตน วัดความดัน วัดชีพจรหัวใจ เจาะเลือด และตจรวจ HIV
ก่อนที่ จขกท.จะตกลงเข้ารับการรักษา ไม่ใช่อยู่ๆ ใครจะมาดูดไขมันก็ได้ ตัวคนไข้เองก็ต้องมีคุณสมบัติที่ดีพอ
มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง ส่วนใครมีโรคประจำตัว ต้องปรึกษาคุณหมอ แจ้งคุณพยาบาลก่อนเลยนะคะ
- ถามรายละเอียดคุณหมอให้ละเอียดว่าใช้วิธีหรือเทคนิคอะไร ซึ่งของ จขกท. เป็นแบบ Vaser Hidef และ จขกท. ต้องดูดไขมันออกค่อนข้างมากเพราะมีไขมันสะสมเยอะ คุณหมอจึงแนะนำว่าให้ดมยาสลบจะดีกว่า จขกท.นี่ใจเต้นรั่วววๆ กลัวเข้าไปใหญ่ กลัววางยาสลบและจะไม่ฟื้น กลัวตาย กลัวสำลัก แต่คุณหมอแจ้งมาว่าง มีวิสัญญีแพพทย์มาคอยดูแลเรื่องนี้อยู่ข้างๆ ปลอดภัยได้ ห่างห่วง ขอแค่ให้เราปฎิบัติตามคำแนะนำของหมอก็พอ
ได้รับความรู้ทุกอย่างแน่นปึกแล้ว เหลือแต่เตรียมตัว เตรียมใจ นัดวันดูดไขมันแล้วค่า ซึ่ง จขกท. นัดวันที่ 14 สิงหาคม 2558
กะว่าขอกินเลี้ยงวันแม่ก่อน เผื่อดูดไขมันแล้วเป็นไรไป ไม่ได้เจอแม่
คือตอนนั้นตัดสินใจไปแล้วว่าจะทำ แต่กลัวมาก ตื่นเต้น คิดมาก ว่าเราจะตายไม่ได้นะ เราต้องอยู่ เราต้องฟื้นขึ้นมาขาเล็กให้ได้
ทุกคนรอบข้างไม่มีใครเห็นด้วย เพราะจะกลัวเรื่องความปลอดภัย แต่ จขกท. พยายามอธิบายให้ทุกคนฟัง พูดทั้งข้อดี และข้อเสีย เสพข่าวที่ดีและไม่ดี เพื่อเตรียมใจให้ได้ แต่ตอนนั้น จขกท.คิดว่าและบอกหับตัวเองเสมอว่า เรามั่นใจในคุณหมอ เราจะต้องออกมาสวยและปลอดภัยด้วย
การเตรียมตัว
- งดแอลกอฮอล์ สัก 1-2 สัปดาห์ ก่อนเข้ารับการดูดไขมัน
- สำหรับคนที่สูบบุหรี่ก็ควรงดเช่นกันนะคะ
- งดอาหารและน้ำ ก่อนเข้าดูดไขมันสัก 6-8 ชั่วโมง
- ควรหลีกเลี่ยงการทำช่วงที่มีประจำเดือน
- หยุดทานยาละลายลิ่มเลือดหรือรบกวนการแข็งตัวของเลือด ยาแก้ปวด วิตามิน อี
และยาที่มีผลต่อตับ เช่น ยาสมุนไพรต่างๆ จขกท. หยุดทุกอย่างเลยค่า
- เตรียมตัว เตรียมใจ พักผ่อนให้เพียงพ
[CR] บอกลาขาใหญ่ เพราะชั้นไปดูดไขมันมาแล้วจ้า
เคยเป็นป่ะ เวลาซื้อเสื้อผ้า เสื้อไซต์ S กางเกง XL แล้วก็ต้องเอาเอวเข้า !!!
เพราะเอวหลวม แต่ดันฟิตติดต้นขา
น้ำหนักหายไป 5 กก.ทุกสัดส่วนลงหมดแต่ต้นขา ไม่ลง !!!
ใส่ขาสั้นก็ตาย ใส่ขายาวก็ไม่รอด เห้อออ !!!
ผช.บอกว่า หน้าสวยนะ แต่ขาใหญ่ หื้มม มันเจ็บว่ะ !!!!
ขอแนะนำตัวเองก่อนนะค่ะ ปัจจุบัน จขกท. อายุ 24 สูง 161 หนัก 51 อก 34 เอว 25 ต้นขา21 !!! โอ้ววว แม่เจ้าขาชั้นใหญ่เกือบเท่าเอว
ความจริงแล้ว จขกท.น่าตาพอไปวัดไปวาได้ 5555 แต่ติดที่ขา จะใส่สั้นๆ ก็อายคนอื่น ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง
~~ปัญหายิ่งใหญ่ระดับชาติของ จขกท. ก็คือต้นขา อันใหญ่ล้ำนี้~~
เริ่มกันด้วยขาใหญ่ๆ ขอ จขกท.เลยนะจ้ะ
ขาสั้นไม่พอ ใหญ่ล้ำอีกตะหากกก นี่ขนาด จขกท.พยายามใช้มุมกล้องแล้วนะคะ
คิดหาวิธีแก้ปัญหามาโดยตลอด
- เคยเข้าสถาบันลดน้ำหนักกระชับสัดส่วนชื่อดัง เค้า ใช้วิธีการนวดและติดเครื่องสลายไขมัน ก็ยังไม่ลง
- เคยเข้าสถาบันเสริมความงาม ใช้วิธีการฉีดสบายไขมัน แต่ก็ยังไม่ลง แถมเจ็บหนัก เจ็บบ่อย
- เทรนด์การออกกำลังกายกำลังมา บวกกับ จขกท.น้ำหนักพุ่งทะยานจาก 52 ขึ้นไปถึง 58
คนรักสวยรักงามอย่าง จขกท. ก็เปิด member รายปีเลยจ้า
เล่นไปเล่นมาน้ำหนักจาก 58 เหลือ 48 !!! โอ้วววแม่เจ้า !!!
ตะลึงอีกรอบ !!! คือผอมลง อย่างเห็นได้ชัด ผอมจนซี่โครงโผล่ เพราะ จขกท. เป็นคนช่วงลำตัวเล็กอยู่แล้ว
มีแต่คนทักว่าผอมไป แต่ขาใหญ่เจ้ากรรม มันยังไม่ยอมลงตามไปด้วย !!!
ในเมื่อผอมละทีนี่ตัดปัญหาเรื่องน้ำหนักออกไป เหลือแต่ทำยังไงให้ขาเล็ก เรียว สวย ?
ในเมื่ออออกกำลังกายมาโดยตลอด ทั้งโยคะ ฟิตเน็ต เข้าคลาสคาดิโอ ก็แล้ว
สำหรับคนที่บอกว่าออกกำลังกายดีกว่า จขกท.ไม่ขอเถียงว่าออกกำลังกายมันดี
ซึ่ง จขกท.ออกกำลังติดต่อกันมาเกือบปี แต่ต้นขาก็ไม่ลงซะที มันอาจจะต้องใช้เวลานานพอสมควร แต่ จขกท.ใจร้อนค่ะ
เอาภาพหลักฐานการออกกำลังกายมานานพอสมควรให้ดู อิอิ
วิธีที่ จขกท.อ่านเจอมาโดยตลอด แต่ไม่คิดจะทำ และคิดว่า เห้ยยแกรร ชั้นต้องทำงี้เลยหรอ ? ก็คือวิธีการดูดไขมัน !!
เพราะฟังแค่ชื่อเรียก ก็น่ากลัว น่าสยองขวัญแล้วล่ะ ถ้าทำไปแล้วชั้นจะตายไหม แล้วหามันจะเล็กลงหรือเปล่า
ณ ตอนนั้น จขกท.ทราบแค่ว่า การดูดไขมันก็คือการลดสลายไขมันที่สะสมในส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยการใช้ท่อขนาดเล็กสอดเข้าไปในชั้นผิวหนังและดูดไขมันส่วนเกินออก แล้วก็รู้ว่า ทำครั้งเดียว ขาเล็กเลย เจ็บหน่อย หรืออาจจะเสี่ยงถึงตายได้ มันเป็นการศัลยกรรมที่ค่อนข้างเสี่ยง ตอนนั้น รู้แค่นี้จริงๆ กลัวๆ กล้าๆ แต่ก็อยากสวย
อันดับแรก หาข้อมูลเพิ่มขึ้นๆๆๆ
ไอ้การดูดไขมันคือไร ? ทำยังไง ? ใช้วิธีไหนบ้าง ? ผลที่ได้รับเป็นยังไง ? มีผลเสียไหม ? อันตรายมากรึเปล่า เจ็บมากไหม บลาๆๆๆ
เกิดคำถามขึ้นเต็มในหัว ทำได้ตอนแรกคือพยายามอ่าน หาข้อมูลเยอะๆ จขกท. อยากให้สมาชิกท่านอื่นๆ เปิดรีวิวแล้วศึกษา อ่านอย่างละเอียด ไม่ใช่ดูแต่ภาพ แล้วมาสรุปเอาเองว่า มันเล็ก แค่นั้นจบ !! ไม่มีอะไรได้มาง่าย เราอาจจะต้องแลกกับอะไรบ้างอย่าง… และอย่างเชื่อคำรีวิวเพียงอย่างเดียว อยากให้ปรึกษาคุณหมอ ถามคุณหมอเยอะๆ
จากข้อมูลที่ จขกท. ศึกษาถามอากู๋มา พบว่า...
การดูดไขมันก็คือ การลดไขมันที่สะสมในส่วนต่างๆ ของร่างกาย ต้นขาแบบ จขกท. หรือจะพุง คาง แก้ม ต้นแขนได้หมดเลย โดยการใช้ท่อขนาดเล็กสอดเข้าไปในชั้นผิวหนังและดูดไขมันส่วนเกินออก อันนี้รู้อยู่แล้ว แต่ทราบเพิ่มเติมตรงที่ว่า บาดแผลค่อนข้างเล็กกว่าการดูดไขมันในสมัยก่อน และอันตรายน้อยกว่า และ ก็สามารถลดไขมันได้ตามต้องการ ส่วนจะเจ็บตัวมากน้อยเท่าไหร่ พักฟื้นนานมากไหม อยู่ที่เทคนิคที่คุณหมอเลือกทำให้เราค่ะ รวมไปถึงความเก่ง ความเชี่ยวชาญประสบการณ์ของคุณหมอเองด้วย แต่ละเทคนิค ราคาก็แตกต่างกัน ความเสี่ยงก็ต่างกัน
1. การดูดไขมันแบบดั้งเดิม (Liposuction)
เป็นวิธีที่มีมาหลายสิบปีแล้ว โดยการผ่าตัดใส่ท่อที่มีแรงดูดสุญญากาศเข้าไปดูดไขมัน ซึ่งก่อนจะดูดไขมัน แพทย์จะต้องออกแรงบีบ กระแทกอย่างแรง เพื่อให้ไขมันแตกออก จึงจะสามารถดูดออกมาจากร่างกายได้
ข้อดี : ราคาถูก ไม่มีเครื่องมือใดๆ ช่วย ใช้ฝีมือแพทย์ทำการผ่าตัดเท่านั้น
ข้อเสีย : ระยะพักฟื้นนาน เจ็บมาก มีแผลใหญ่ และหลังการทำผิวไม่เรียบเนียนสวย ความเสี่บงสูงอาจตายได้
2. การดูดไขมันร่วมกับอัลตร้าซาวด์ (Vaser Liposuction)
การสลายไขมันด้วยพลังงานอัลตร้าโซนิค หรือการอัลตร้าซาวด์ Vaser เปลี่ยนไขมันให้อ่อนนิ่มและเหลวมากขึ้น ก่อนที่จะทำการดูดออกมา สามารถสลายไขมันได้มากกว่าการดูดไขมันแบบ (Liposuction) และผลข้างเคียงน้อยกว่าการดูดไขมันแบบ Liposuction มาก
ข้อดี : เจ็บน้อย แผลเล็ก ระยะพักฟื้นสั้น
ข้อเสีย : ราคาสูง แต่ไม่ได้ช่วยให้ผิวเรียบ หลังทำผิวเป็นคลื่นไม่สม่ำเสมอ
3. การดูดไขมันร่วมกับเลเซอร์ช่วยสลายไขมัน (Laser Liposuction)
เทคนิคนี้จะเหมือนกับเทคนิค Vaser มาก จน จขกท. คิดว่าน่าจะเป็นตัวเดียวกัน การทำงานคล้ายๆ ทุกขั้นตอน เพิ่มแค่มีการ ฉีดน้ำเกลือชนิดพิเศษผสมยาชาเข้าสู่ชั้นไขมันเพื่อขยายปริมาตรในบริเวณที่มีไขมันสะสมอยู่เพื่อช่วยลดรอยช้ำและลด ความรู้สึกขณะทำการสลายไขมัน คลื่นเสียง Ultrasound ทำให้เซลล์ไขมันสลายตัวจนกลายเป็นไขมันเหลวแล้วดูดออกจากร่างกายอย่างนุ่มนวลผิวหนังจะค่อยๆ หดตัวกลับกระชับเนียนเรียบคืนสู่สภาพเดิมหลังทำการรักษา
ข้อดี : เจ็บน้อยกว่า ระยะพักฟื้นน้อยกว่า แผลเล็กลง หลังการทำผิวเรียบเนียนเพราะมีน้ำเกลือช่วย
มีความ กระชับของผิว
ข้อเสีย : ราคาสูง และดูดไขมันได้น้อย
4. การดูดไขมันร่วมกับพลังงาน RF (Body Tite Liposuction)
เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของการสลายไขมัน โดยอาศัยเทคโนโลยี RFAL TM( Radio – Frequency
Assisted Liposuction สามารถทำงานได้รวดเร็ว ไขมันที่ดูดออกมามีเลือดปนน้อยมากๆ เข้าไปทำลายเฉพาะเซลล์ไขมันบริเวณที่ต้องการโดยตรง โดยไม่ทำลายเส้นประสาทหรือเนื้อเยื่อรอบๆ ทำให้แผลเล็ก เจ็บน้อยมาก ช่วยกระตุ้น Collagen ในชั้นใต้ผิวทำให้ผิวบริเวณที่ทำการรักษา ยกกระชับ ( Tightening ) และเนียนเรียบตึงขึ้น ไม่เกิดปัญหาผิวขรุขระ
ข้อดี : เจ็บน้อย แผลเล็ก ระยะพักฟื้นน้อย หลังการทำจะได้ผิวเรียบตึง ยกกระชับผิวได้ด้วยเหมือนกับเทอร์มาจ
ข้อเสีย : ราคาสูง
รู้จักๆ คราวๆ เกี่ยวกับเทคนิคการดูดไขมันด้วยวิธีต่างๆ แล้ว
ที่นี่มาดูผลดีของการดูดไขมัน ในมุมของ จขกท.กันบ้าง
- รูปร่าง สรีระ ส่วนที่ดูดไขมัน เล็กลงอย่างเห็นได้ชัด สำหรั จขกท. ขาเล็กสมใจ ><
- เป็นวิธีการกำจัดไขมันที่ดีที่สุดเพียงครั้งเดียว
- ออกกำลังกายแก้ไขไม่ได้ แต่ดูดไขมันช่วยได้
- เจ็บแต่จบ เล็กแน่นอน
- ใส่ขาสั้น นุ่งขายาวก็มั่นใจมากขึ้น
แต่ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ต้องแลกกับความเสี่ยงหรืออะไรบ้างอย่างเช่นต่อไปนี้
จขกท.จะไม่เรียกว่าข้อเสีย แต่ขอเรียกว่าผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการดูดไขมัน
- อาจจะภาวะแทรกซ้อน เช่น อาการเสียเลือด, เสียน้ำ หรืออาการสำลักอาจเกิดจากไม่ยอมงดน้ำและอาหารตามที่แพทย์สั่ง อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่น้อยรายมาก แต่ก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้
- ผิวหนังเป็นคลื่นไม่เรียบ อาจจะใช้เทคนิคที่ไม่ดีพอ หรือแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ
- ราคาค่อนข้างสูง
- การเจ็บตัวเกิดขึ้น แต่ไม่มากมาย ในช่วงไม่เกินสัปดาห์แรกจะเดินลำบาก ค่อนข้างเจ็บแต่ไม่ถึงกับทนไม่ไหว
- มีแผล ถึงแม้จะเล็กน้อยก็ตาม อาจจะมีแผล ผิวช้ำ ห้อเลือด มากน้อยแล้วแต่คน
- เสี่ยงว่าทำมาแล้วจะสวย หรือไม่สวย ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจหลังทำ คนบางคนขาเล็กได้เท่านี้
- เสี่ยงจากการใช้ยาชา หรือยาสลบ
- แผลอาจจะอักเสบหรือติดเชื้อ ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง
พอจขกท. ศึกษาเรื่องการดูดไขมันมากขึ้น ก็ตัดสินใจไปพบคุณหมอเลยค่ะ แล้วก็เลือกที่คลินิกนี้
วิธีการเลือกคลีนิคที่จะรับการดูดไขมันของ จขกท. นั้นคือ
- จะเลือกสถาบันหรือคลินิกที่ มีชื่อเสียง เปิดให้บริการมานาน มีการต้อนรับและให้ข้อมูลเป็นอย่างดี ทำเลที่ตั้งไม่เปลี่ยว หรือซอยลึก จนน่ากลัว
- คลินิกต้องสะอาด ความสะอาดสำคัญมาก ห้องตรวจ รวมถึงเครื่องไม้ เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ
- พยาบาลหรือพนักงานต้อนรับ ต้องให้ข้อมูลเราได้อย่างดี ดูแลอย่างดี ยิ้มแย้ม แจ่มใส
- และที่สำคัญที่สุด คุณหมอ คนที่จะมาคอยดูแลเรา จะต้องได้รับการรับรองจาก สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย
ต้องผ่านการฝึกอบรมตามมาตรฐานสากล เราสามารถตรวจสอบได้จาก http://www.plasticsurgery.or.th/lst.php
- ประวัติและผลงานของคุณหมอที่ผ่านมา ซึ่งคุณหมอ รณชัย โคมทอง คุณหมอที่ดูแล จขกท. ผ่านมาตรฐานทุกอย่าง รวมถึงผลงานดี มีนางแบบ นางงามเคยเข้ารับการรักษา และคุณหมอก็มีประสบการณ์ความชำนาญด้านการดูดไขมันโดยเฉพาะ และมีประสบการณ์มากว่า 30 ปี ทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบันเป็นถึง ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์รนชัย โคมทอง
เจอผลงานคุณหมอแบบนี้ ค่อยโล่งใจหายห่วงหน่อย >< อ่อ ลืมบอก บางคลินิก ในหน้าเว็บไซต์ เค้าไม่มีประวัติคุณหมอ ให้เราอ่าน ยังไง สมาชิกท่านอื่นๆ อย่าลืม เช็คประวัติ ผลงานคุณหมอดีๆ นะคะ แต่สำหรับ คุณหมอรณชัย โคมทอง จขกท.เช็คมาอย่างดีแล้วค่า อีกอย่าง คุณหมอใจดีมาก ไม่ดุเลย ให้คำปรึกษาได้ดีมากเลยค่ะ
- มีขั้นตอยการรักษาที่ดูเป็นทางการ มีการตรวจสุขภาพในเบื้องตน วัดความดัน วัดชีพจรหัวใจ เจาะเลือด และตจรวจ HIV
ก่อนที่ จขกท.จะตกลงเข้ารับการรักษา ไม่ใช่อยู่ๆ ใครจะมาดูดไขมันก็ได้ ตัวคนไข้เองก็ต้องมีคุณสมบัติที่ดีพอ
มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง ส่วนใครมีโรคประจำตัว ต้องปรึกษาคุณหมอ แจ้งคุณพยาบาลก่อนเลยนะคะ
- ถามรายละเอียดคุณหมอให้ละเอียดว่าใช้วิธีหรือเทคนิคอะไร ซึ่งของ จขกท. เป็นแบบ Vaser Hidef และ จขกท. ต้องดูดไขมันออกค่อนข้างมากเพราะมีไขมันสะสมเยอะ คุณหมอจึงแนะนำว่าให้ดมยาสลบจะดีกว่า จขกท.นี่ใจเต้นรั่วววๆ กลัวเข้าไปใหญ่ กลัววางยาสลบและจะไม่ฟื้น กลัวตาย กลัวสำลัก แต่คุณหมอแจ้งมาว่าง มีวิสัญญีแพพทย์มาคอยดูแลเรื่องนี้อยู่ข้างๆ ปลอดภัยได้ ห่างห่วง ขอแค่ให้เราปฎิบัติตามคำแนะนำของหมอก็พอ
ได้รับความรู้ทุกอย่างแน่นปึกแล้ว เหลือแต่เตรียมตัว เตรียมใจ นัดวันดูดไขมันแล้วค่า ซึ่ง จขกท. นัดวันที่ 14 สิงหาคม 2558
กะว่าขอกินเลี้ยงวันแม่ก่อน เผื่อดูดไขมันแล้วเป็นไรไป ไม่ได้เจอแม่
คือตอนนั้นตัดสินใจไปแล้วว่าจะทำ แต่กลัวมาก ตื่นเต้น คิดมาก ว่าเราจะตายไม่ได้นะ เราต้องอยู่ เราต้องฟื้นขึ้นมาขาเล็กให้ได้
ทุกคนรอบข้างไม่มีใครเห็นด้วย เพราะจะกลัวเรื่องความปลอดภัย แต่ จขกท. พยายามอธิบายให้ทุกคนฟัง พูดทั้งข้อดี และข้อเสีย เสพข่าวที่ดีและไม่ดี เพื่อเตรียมใจให้ได้ แต่ตอนนั้น จขกท.คิดว่าและบอกหับตัวเองเสมอว่า เรามั่นใจในคุณหมอ เราจะต้องออกมาสวยและปลอดภัยด้วย
การเตรียมตัว
- งดแอลกอฮอล์ สัก 1-2 สัปดาห์ ก่อนเข้ารับการดูดไขมัน
- สำหรับคนที่สูบบุหรี่ก็ควรงดเช่นกันนะคะ
- งดอาหารและน้ำ ก่อนเข้าดูดไขมันสัก 6-8 ชั่วโมง
- ควรหลีกเลี่ยงการทำช่วงที่มีประจำเดือน
- หยุดทานยาละลายลิ่มเลือดหรือรบกวนการแข็งตัวของเลือด ยาแก้ปวด วิตามิน อี
และยาที่มีผลต่อตับ เช่น ยาสมุนไพรต่างๆ จขกท. หยุดทุกอย่างเลยค่า
- เตรียมตัว เตรียมใจ พักผ่อนให้เพียงพ