กราบสวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคนค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสได้มารีวิวศัลยกรรมเพราะไม่เคยมีความคิดทำนองนี้อยู่ในหัวมาก่อนเลยสักนิดเดียว ไม่ใช่ว่าแอนตี้อะไรนะคะ แต่รู้สึกว่ามันดูน่ากลัวๆยังไงไม่รู้ แต่เมื่อได้ทำจริงๆก็เลยคิดได้ว่าเออมันก็ไม่ได้น่ากลัวไรขนาดนั้นนี่หว่า 555 เราเลยอยากมาลองรีวิวการทำศัลยกรรมขาครั้งแรกของตัวเองที่ Infinity Clinic ค่ะ
จริงๆจุดเริ่มต้นที่ทำให้สนใจการศัลยกรรมขาในครั้งนี้ก็เกิดจากการที่ตัวเองเป็นคนขาใหญ่อยู่แล้ว ปกติคนเราถ้ากินเยอะจะลงพุงใช่ไหมคะ แต่เราคือลงขาไปเลยค่ะ แบบส่วนอื่นๆของร่างกายก็ปกติดีนะคะยกเว้นขานี่แหละ ยิ่งกินเยอะเท่าไรขาก็ยิ่งใหญ่ขึ้นๆ ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร ก็เลยพยายามศึกษาวิธีช่วยลดขา แล้วได้เห็นคนแนะนำในเน็ตว่าให้ลองออกกำลังกายด้วยการวิ่งดู เราก็เลยเกิดความฮึดเลยค่ะ ตัดสินใจวิ่งทุกวันวันละ1ชั่วโมง กะว่าขาฉันจะต้องเรียวสวยเหมือนเกิร์ลเจนฯให้ได้!
แต่ผลของการวิ่งเป็นบ้าเป็นกลับออกมาแย่ลงไปอีกค่ะ ก็คือขาลดลงมานิดหนึ่งนะคะ แต่น่องปูดซะงั้น ตอน เห็นขาตัวเองเป็นแบบนั้นเราใจเสียเลยค่ะ รู้สึกว่าขาเรามันดูน่าเกลียด เรื่องขาจึงกลายเป็นปมด้อยของเราไปเลย ด้วยเหตุนี้พอขึ้นมหาลัยเราก็เลือกใส่กระโปรงยาวถึงตาตุ่มตลอดเพราะไม่อยากโชว์ขาตัวเองให้ใครเห็น แล้วก็มักจะโดนคนแซวตลอดว่าแต่งตัวเป็นป้าเลยนะ แต่เราก็ไม่สนใจค่ะ คิดแค่ว่ายังไงก็ไม่โชว์ขาของตัวเองแน่ๆ จนกระทั่งเพื่อนกลุ่มเดียวกันถามว่าทำไมถึงชอบใส่กระโปรงยาวนัก เราก็เลยเล่าปมเรื่องนี้ให้เขาฟัง เพือนเราก็เลยแนะนำมาว่าทำไมไม่ลองศัลยกรรมขาดูละ?
ครั้งแรกที่ได้ยินเราก็แบบ จะบ้าเหรอศัลยกรรมขาตัวเองเนี่ยนะ? คือยอมรับว่าตัวเองไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกศัลยกรรมเลย คิดว่าพวกลดขาต้องดูดไขมันอย่างเดียว ขามีกล้ามแบบเรามันคงทำศัลยกรรมไม่ได้แน่ๆ แต่เพื่อนก็บอกว่าสมัยนี้จะศัลยกรรมอะไรก็ทำได้ทั้งนั้นแหละ แล้วเพื่อนก็เลยแนะนำให้เราลองไปปรึกษาหมอที่ Infinity Clinic เพราะเป็นคลินิกที่อยู่ใกล้มอเราและมีนักศึกษาในมหาลัยไปทำศัลยกรรมที่นี่กันเยอะ
พอได้ยินเพื่อนแนะนำเราก็เริ่มคล้อยตามแล้วค่ะ คิดว่าไหนๆก็ไม่มีอะไรจะเสียล่ะ ถึงแม้ว่าใจจะกล้าๆกลัวๆนิดหน่อยแต่ก็ช่างเถอะ ลองสักหน่อยล่ะกัน หลังเลิกเรียนก็เลยบุกเข้าคลินิกไปขอคำปรึกษากับคุณหมอโดยตรงเลยค่ะ
เข้าคลินิกศัลยกรรมครั้งแรก ขอถ่ายภาพนิดหนึ่ง ตื่นเต้นๆ
พอเข้าคลินิกไปก็ได้ปรึกษากับคุณหมอปาล์มเจ้าของคลินิก ประทับใจความใจดีของคุณหมอมากๆ เพราะด้วยความที่เราไม่เคยทำศัลยกรรมมาก่อน เราก็ค่อนข้างกังวลมาก กลัวว่าถ้าทำอะไรกับขาแล้วจะเดินได้เป็นปกติไหม มีผลกระทบอะไรบ้างหรือเปล่า ซึ่งคุณหมอก็เราตอบได้ละเอียดมากๆ คุณหมอบอกว่าโดยปกติส่วนน่องขามีกล้ามเนื้อมากกว่าไขมันอยู่แล้ว จึงไม่แปลกถ้าหากออกกำลังกายแล้วกล้ามเนื้อขาจะขยายจนทำให้ดูใหญ่ สำหรับเคสน่องขาของเราคุณหมอแนะนำให้ทำ Dream Legs ซึ่งเป็นเทคนิคการทำศัลยกรรมลดขาจากเกาหลี โดยการทำให้กล้ามเนื้อหยุดโตด้วยการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงระงับการทำงานของเส้นประสาทเฉพาะจุด ซึ่งกล้ามเนื้อที่ทางคุณหมอจัดการจะเป็นกล้ามเนื้อชั้นนอกเท่านั้น จึงไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินตามปกติ แล้วยังใช้เวลาไม่นานและไม่เป็นอันตรายอีกด้วย ทำเสร็จแล้วกลับบ้านได้เลยไม่ต้องพักฟื้น โอ้โห้ตอนที่ฟังอยู่คือประทับใจมาก ไม่คิดเลยว่าจะมีการศัลยกรรมอะไรแบบนี้อยู่บนโลกด้วย คือนี่แหละสิ่งที่เราตามหามาเนิ่นนานจริงๆ ประหนึ่งดุจดั่งบุพเพสันนิวาสก็ไม่ปาน ฟังเสร็จรีบตอบตกลงแบบไม่ต้องคิดว่าทำค่ะ! ยังไงก็ต้องทำให้ได้ เพราะเราไม่อยากทนกับขาของตัวเองอีกแล้ว T_T
หลังจากตกลงอะไรกันไปเรียบร้อยแล้ว เราก็หาเวลาว่างเพื่อจะไปทำ Dream Legs กับคุณหมอปาล์ม โชคดีที่ช่วงนั้นพึ่งสอบมิดเทอมไปเลยไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาในการทำศัลยกรรมมากนัก สิ่งเดียวที่เรากังวลก็คือใจเราเองนี่แหละ ถึงแม้คุณหมอจะย้ำหนักย้ำหนาว่าตอนทำไม่เจ็บมากอย่างที่คิด(มากสุดก็แค่รู้สึกเหมือนเป็นตะคริวเท่านั้น) แล้วก็ไม่อันตรายแน่นอน ปลอดภัย100% แหมแต่มันก็อดเสียวไม่ได้เนอะ ก็นี่มันครั้งแรกในชีวิตเราเลยนี่น่า
เตรียมตัวก่อนเข้าห้องผ่าตัด ถูกจับเปลี่ยนชุดเรียบร้อย คุณหมอก็ให้ยาเรามากินก่อนสามเม็ดค่ะ เป็นยาแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อ ยาลดบวมค่ะ
คุณหมอแนะนำว่าให้ถ่ายขาตัวเองก่อนทำ หมอจะได้เปรียบเทียบให้เห็นความต่างก่อนทำหลังทำ เราก็จัดไปเลยค่ะ อันนี้ขอวงให้เห็นชัดๆไปเลยว่าขาเราเป็นยังไง
เปลี่ยนชุดเสร็จทำอะไรเสร็จเรียบร้อยก็ถูกพาที่เลาจ์รับรอง โซฟานุ่มมากๆ มีของกินให้ด้วย ถูกใจสายตะกละ 555
ก่อนจะเข้าห้องผ่าตัดก็ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกสักหน่อย ใช้แฟนถ่ายซะเลย 55555 ขอเบลอหน้านะเขิน ><
เมื่อถึงเวลาเข้าห้องเชือด(ก็เวอร์ไป)ทางคุณหมอและผู้ช่วยก็พากันทำความสะอาดขาเราก่อนเลยค่ะ เอาเบตาดีนทาๆทั้งขา พอเรียบร้อยแล้วหลังจากนั้นก็ให้เรานอนคว่ำบนเตียงเพื่อที่จะฉีดยาชา ตรงนี้จะรู้สึกเจ็บๆอยู่นิดหนึ่ง หลังจากนั้นก็ชาๆ ไม่รู้สึกอะไรแล้วค่ะ แต่คุณหมอก็คอยบอกตลอดว่ากำลังทำอะไร พอยาชาออกฤทธิ์คุณหมอก็เอาเข็มเสียบไปที่หลังหัวเข่าเรา แล้วก็เปิดเครื่องอะไรสักอย่างที่เราก็ไม่รู้จัก เสียงดังตี๊ดๆๆๆๆหลอนหูมาก(คุณหมอมาบอกทีหลังว่าเครื่องนี้เป็นเครื่องส่งคลื่นวิทยุที่จะช่วยระงับกล้ามเนื้อที่ขาของเรานั่นเอง)
จุดพีคมันอยู่ตรงนี้แหละค่ะ พอเสียงตี๊ดมันดังปุ๊ป ขาเราก็กระตุกเป็นจังหวะEDMเลยค่ะ กระตุกแบบรัวแรงมากจนเราตกใจ เหมือนคุณหมอจะรู้ถึงความตกใจของเราเลยรีบปลอบ บอกว่ามันเป็นอาการปกติอยู่แล้ว ยิ่งกระตุกแรงก็ถือว่ายิ่งดี เราก็เลยพยายามปล่อยเบลอไปค่ะ แม้จะรู้สึกแปลกๆนิดหนึ่งก็เถอะ 5555
เอาจริงๆ ถึงแม้ว่าจะฉีดยาชาไปแล้วแต่ก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่นะคะ แต่ไม่ได้เจ็บมากมายถึงขั้นทนไม่ได้ มันจะมาเป็นจังหวะเวลาให้เราสะดุ้งบ้างไรบ้าง แล้วก็มีเป็นตะคริวบ้างเล็กน้อย(ซึ่งก็เป็นอาการปกติเวลาทำ Dream Legs เหมือนขากระตุกนั่นแหละ) ใช้เวลาไม่นานเลยค่ะ ของเราไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้ว
พอเสร็จแล้วก็ยังกลับออกไปเลยไม่ได้นะคะ เพราะเดินไม่ไหว 55555 มันเมื่อยๆกับตึงๆขาอ่ะค่ะ ตอนแรกตกใจมาก แต่คุณหมอบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติอีกเหมือนกัน เพราะกล้ามเนื้อที่เล็กลงทำให้ยังทรงตัวไม่ถนัด ผู้ช่วยหมอก็จะมาพยุงเราลงจากเตียงเพื่อมาสอนกายภาพบำบัดให้เราเอาไปทำเองที่บ้านเพื่อฝึกขาให้ขากระชับอย่างที่ตั้งใจไว้ แล้วก็พาเราฝึกเดินค่ะเพื่อให้ขาตัวเองชินเสียก่อน
ตอนผู้ช่วยหมอพาเดินกับตอนสอนท่ากายภาพบำบัด คนที่นี้ดูแลเราดีมากประดุจลูกหลาน อีกนิดก็จะอุ้มเราขึ้นแล้วค่ะ 5555
พอทำเสร็จแล้วเรารู้สึกได้เลยว่าขามันเล็กลง แล้วคุณหมอปาล์มก็มาตรวจเช็คขาเราอีกรอบ เขาก็จับๆขาเราแล้วบอกเราว่าเออมันไม่พบก้อนกล้ามเนื้อปูดๆแข็งๆอีกแล้วนะ เพื่อความชัวร์ทางผู้ช่วยหมอถ่ายรูปขาหลังจากทำ Dream Legs มาให้เราดูชัดๆเลยค่ะ
มองตรงนี้อาจะไม่ชัดมาก แต่สำหรับเราในตอนนั้นรู้เลยว่ากล้ามเนื้อแข็งๆที่เคยมีมันหายไปจริงๆ
หลังจากนี้คุณหมอก็ปล่อยให้เราเดินเองโดยไม่ต้องมีคนช่วยพยุงค่ะ เพื่อฝึกขาให้ชิน โดยให้เดินไปประมาณ10รอบ คราวนี้ก็เดินไปเถอะค่ะ ไม่ต้องทำอะไรเลยเดินอย่างเดียว วนไปวนมาทั่วคลินิกนั่นแหละ แฟนก็แซวว่าเดินเป็นผีกองกอยเลย
อันนี้แฟนแอบถ่ายมาตอนเรากำลังเดิน ตอนนั้นคือตลกจริงๆนะ ตอนนั้นเรายังตึงๆขาอยู่ไง ท่าเดินมันก็จะออกประหลาดๆนิดหนึ่ง 555555
หลังจากที่เสร็จจากการฝึกเดินด้วยตัวเองแล้ว ผู้ช่วยหมออีกคนก็เข้ามาช่วยเราใส่ถุงน่องให้ค่ะ เขาบอกถุงน่องอันนี้สำคัญมาก ต้องใส่ตลอดหลังจากนี้ ซึ่งถุงน่องที่เขาใส่ให้เราเนี่ยมันแน่นมากๆเลยค่ะ แน่นเกินจนเราต้องถามว่ามันจำเป็นต้องใส่จริงๆเหรอ แต่เขาก็ยืนยันว่ามันแน่นแบบนี้เพื่อให้ขาเรามันกระชับนั่นแหละ อดทนเอาหน่อยเพื่อขาสวยๆ 555
ถ่ายภาพตอนเขาใส่ถุงน่องให้เรา ขอย้ำอีกรอบว่าที่นี่เขาดูแลเรากันดีมากจริงๆ
อันนี้คือขาเราหลังจากใส่ถุงน่องเสร็จแล้ว ใส่เสร็จเขาก็ให้เราเดินอีกรอบเป็นการปิดท้ายค่ะ ก็คือต้องเดินอีกแล้ววววววว TT
พอเสร็จทุกอย่างเรียบร้อยคุณหมอก็ร่ายยาวมากให้เราฟังค่ะ บอกว่าสัปดาห์แรกหลังทำขามาอาจมีอาการเมื่อยและตึง ต้องคอยยืดกล้ามเนื้อน่องทุกวันอย่างน้อยวันละ 3 ครั้งจนกว่าจะครบ 3 เดือน แล้วอาการจะดีขึ้นเอง ขาจะเล็กเข้ารูปในตอนนั้นแหละ นอกจากนี้เราต้องทานยาที่ทางคลินิกจัดให้ครบตามกำหนด งดการใส่ส้นสูง และงดการออกกำลังกายหรือกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวกับขาเด็ดขาด 3 เดือนหลังจากทำ และเราก็ต้องใส่ถุงน่องที่คลินิกมอบให้ทุกวันตลอด3เดือนทุกๆ8ชั่วโมง เพื่อให้ขากระชับเข้ารูป และคุณหมอก็จะให้เรามานัดดูผลอีกทีตอนเดือนหน้า คุณหมอจะคอยเช็คผลความเป็นไปอยู่ตลอดเพื่อให้มั่นใจว่าขาเราออกมาดูดีจะไม่มีอะไรผิดปกติ คือฟังแล้วปลื้มมาก รู้สึกว่าคุณหมอเขาใส่ใจเป็นห่วงเราดีจริงๆ
ค่ารักษา49,000รวมค่ายาและค่าถุงน่องก็เท่ากับ 51,700บาท เทียบการกับบริการต่างๆและผลที่ได้รับแล้ว เราว่าไม่แพงเลยค่ะ
หลังจากผ่านไปอาทิตย์แรกนะคะ จะเห็นได้เลยว่าขาเรามันดูเล็กลงแบบกลมกลืนมากๆ จากที่ตอนแรกๆเวลาเขย่งแล้วมันมีน่องปูดๆ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วค่ะ
มาเอามาเทียบชัดๆไปเลย ดูคู่กันแล้วก็รู้สึกได้เลยว่ามันดูต่างขึ้นจริงๆ แม้ขามันจะยังไม่เข้าที่เต็มที่(คุณหมอบอกว่าเห็นผลชัดที่เจนตอนผ่านไปสามเดือนแล้วค่ะ) แม้จะผ่านไปแค่อาทิตย์เดียวแต่ตอนนี้เราก็โอเคกับขาตัวเองมากๆเลยค่ะ ดีใจมากไม่คิดว่าจะมีวันนี้ เพราะเราเครียดกับเรื่องขามานานมากจนคิดว่ายังไงก็ไม่หายแน่ๆ แต่พอได้มารักษาที่นี่แล้วเห็นว่าขาตัวเองกลับมาดูดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นแล้วมันดีใจจริงๆค่ะ
[CR] รีวิวเปลี่ยนขาล่ำเป็นขาเรียว ด้วยการทำ Dream Legs ที่ Infinity Clinic
กราบสวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคนค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสได้มารีวิวศัลยกรรมเพราะไม่เคยมีความคิดทำนองนี้อยู่ในหัวมาก่อนเลยสักนิดเดียว ไม่ใช่ว่าแอนตี้อะไรนะคะ แต่รู้สึกว่ามันดูน่ากลัวๆยังไงไม่รู้ แต่เมื่อได้ทำจริงๆก็เลยคิดได้ว่าเออมันก็ไม่ได้น่ากลัวไรขนาดนั้นนี่หว่า 555 เราเลยอยากมาลองรีวิวการทำศัลยกรรมขาครั้งแรกของตัวเองที่ Infinity Clinic ค่ะ
จริงๆจุดเริ่มต้นที่ทำให้สนใจการศัลยกรรมขาในครั้งนี้ก็เกิดจากการที่ตัวเองเป็นคนขาใหญ่อยู่แล้ว ปกติคนเราถ้ากินเยอะจะลงพุงใช่ไหมคะ แต่เราคือลงขาไปเลยค่ะ แบบส่วนอื่นๆของร่างกายก็ปกติดีนะคะยกเว้นขานี่แหละ ยิ่งกินเยอะเท่าไรขาก็ยิ่งใหญ่ขึ้นๆ ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร ก็เลยพยายามศึกษาวิธีช่วยลดขา แล้วได้เห็นคนแนะนำในเน็ตว่าให้ลองออกกำลังกายด้วยการวิ่งดู เราก็เลยเกิดความฮึดเลยค่ะ ตัดสินใจวิ่งทุกวันวันละ1ชั่วโมง กะว่าขาฉันจะต้องเรียวสวยเหมือนเกิร์ลเจนฯให้ได้!
แต่ผลของการวิ่งเป็นบ้าเป็นกลับออกมาแย่ลงไปอีกค่ะ ก็คือขาลดลงมานิดหนึ่งนะคะ แต่น่องปูดซะงั้น ตอน เห็นขาตัวเองเป็นแบบนั้นเราใจเสียเลยค่ะ รู้สึกว่าขาเรามันดูน่าเกลียด เรื่องขาจึงกลายเป็นปมด้อยของเราไปเลย ด้วยเหตุนี้พอขึ้นมหาลัยเราก็เลือกใส่กระโปรงยาวถึงตาตุ่มตลอดเพราะไม่อยากโชว์ขาตัวเองให้ใครเห็น แล้วก็มักจะโดนคนแซวตลอดว่าแต่งตัวเป็นป้าเลยนะ แต่เราก็ไม่สนใจค่ะ คิดแค่ว่ายังไงก็ไม่โชว์ขาของตัวเองแน่ๆ จนกระทั่งเพื่อนกลุ่มเดียวกันถามว่าทำไมถึงชอบใส่กระโปรงยาวนัก เราก็เลยเล่าปมเรื่องนี้ให้เขาฟัง เพือนเราก็เลยแนะนำมาว่าทำไมไม่ลองศัลยกรรมขาดูละ?
ครั้งแรกที่ได้ยินเราก็แบบ จะบ้าเหรอศัลยกรรมขาตัวเองเนี่ยนะ? คือยอมรับว่าตัวเองไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกศัลยกรรมเลย คิดว่าพวกลดขาต้องดูดไขมันอย่างเดียว ขามีกล้ามแบบเรามันคงทำศัลยกรรมไม่ได้แน่ๆ แต่เพื่อนก็บอกว่าสมัยนี้จะศัลยกรรมอะไรก็ทำได้ทั้งนั้นแหละ แล้วเพื่อนก็เลยแนะนำให้เราลองไปปรึกษาหมอที่ Infinity Clinic เพราะเป็นคลินิกที่อยู่ใกล้มอเราและมีนักศึกษาในมหาลัยไปทำศัลยกรรมที่นี่กันเยอะ
พอได้ยินเพื่อนแนะนำเราก็เริ่มคล้อยตามแล้วค่ะ คิดว่าไหนๆก็ไม่มีอะไรจะเสียล่ะ ถึงแม้ว่าใจจะกล้าๆกลัวๆนิดหน่อยแต่ก็ช่างเถอะ ลองสักหน่อยล่ะกัน หลังเลิกเรียนก็เลยบุกเข้าคลินิกไปขอคำปรึกษากับคุณหมอโดยตรงเลยค่ะ
เข้าคลินิกศัลยกรรมครั้งแรก ขอถ่ายภาพนิดหนึ่ง ตื่นเต้นๆ
พอเข้าคลินิกไปก็ได้ปรึกษากับคุณหมอปาล์มเจ้าของคลินิก ประทับใจความใจดีของคุณหมอมากๆ เพราะด้วยความที่เราไม่เคยทำศัลยกรรมมาก่อน เราก็ค่อนข้างกังวลมาก กลัวว่าถ้าทำอะไรกับขาแล้วจะเดินได้เป็นปกติไหม มีผลกระทบอะไรบ้างหรือเปล่า ซึ่งคุณหมอก็เราตอบได้ละเอียดมากๆ คุณหมอบอกว่าโดยปกติส่วนน่องขามีกล้ามเนื้อมากกว่าไขมันอยู่แล้ว จึงไม่แปลกถ้าหากออกกำลังกายแล้วกล้ามเนื้อขาจะขยายจนทำให้ดูใหญ่ สำหรับเคสน่องขาของเราคุณหมอแนะนำให้ทำ Dream Legs ซึ่งเป็นเทคนิคการทำศัลยกรรมลดขาจากเกาหลี โดยการทำให้กล้ามเนื้อหยุดโตด้วยการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงระงับการทำงานของเส้นประสาทเฉพาะจุด ซึ่งกล้ามเนื้อที่ทางคุณหมอจัดการจะเป็นกล้ามเนื้อชั้นนอกเท่านั้น จึงไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินตามปกติ แล้วยังใช้เวลาไม่นานและไม่เป็นอันตรายอีกด้วย ทำเสร็จแล้วกลับบ้านได้เลยไม่ต้องพักฟื้น โอ้โห้ตอนที่ฟังอยู่คือประทับใจมาก ไม่คิดเลยว่าจะมีการศัลยกรรมอะไรแบบนี้อยู่บนโลกด้วย คือนี่แหละสิ่งที่เราตามหามาเนิ่นนานจริงๆ ประหนึ่งดุจดั่งบุพเพสันนิวาสก็ไม่ปาน ฟังเสร็จรีบตอบตกลงแบบไม่ต้องคิดว่าทำค่ะ! ยังไงก็ต้องทำให้ได้ เพราะเราไม่อยากทนกับขาของตัวเองอีกแล้ว T_T
หลังจากตกลงอะไรกันไปเรียบร้อยแล้ว เราก็หาเวลาว่างเพื่อจะไปทำ Dream Legs กับคุณหมอปาล์ม โชคดีที่ช่วงนั้นพึ่งสอบมิดเทอมไปเลยไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาในการทำศัลยกรรมมากนัก สิ่งเดียวที่เรากังวลก็คือใจเราเองนี่แหละ ถึงแม้คุณหมอจะย้ำหนักย้ำหนาว่าตอนทำไม่เจ็บมากอย่างที่คิด(มากสุดก็แค่รู้สึกเหมือนเป็นตะคริวเท่านั้น) แล้วก็ไม่อันตรายแน่นอน ปลอดภัย100% แหมแต่มันก็อดเสียวไม่ได้เนอะ ก็นี่มันครั้งแรกในชีวิตเราเลยนี่น่า
เตรียมตัวก่อนเข้าห้องผ่าตัด ถูกจับเปลี่ยนชุดเรียบร้อย คุณหมอก็ให้ยาเรามากินก่อนสามเม็ดค่ะ เป็นยาแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อ ยาลดบวมค่ะ
คุณหมอแนะนำว่าให้ถ่ายขาตัวเองก่อนทำ หมอจะได้เปรียบเทียบให้เห็นความต่างก่อนทำหลังทำ เราก็จัดไปเลยค่ะ อันนี้ขอวงให้เห็นชัดๆไปเลยว่าขาเราเป็นยังไง
เปลี่ยนชุดเสร็จทำอะไรเสร็จเรียบร้อยก็ถูกพาที่เลาจ์รับรอง โซฟานุ่มมากๆ มีของกินให้ด้วย ถูกใจสายตะกละ 555
ก่อนจะเข้าห้องผ่าตัดก็ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกสักหน่อย ใช้แฟนถ่ายซะเลย 55555 ขอเบลอหน้านะเขิน ><
เมื่อถึงเวลาเข้าห้องเชือด(ก็เวอร์ไป)ทางคุณหมอและผู้ช่วยก็พากันทำความสะอาดขาเราก่อนเลยค่ะ เอาเบตาดีนทาๆทั้งขา พอเรียบร้อยแล้วหลังจากนั้นก็ให้เรานอนคว่ำบนเตียงเพื่อที่จะฉีดยาชา ตรงนี้จะรู้สึกเจ็บๆอยู่นิดหนึ่ง หลังจากนั้นก็ชาๆ ไม่รู้สึกอะไรแล้วค่ะ แต่คุณหมอก็คอยบอกตลอดว่ากำลังทำอะไร พอยาชาออกฤทธิ์คุณหมอก็เอาเข็มเสียบไปที่หลังหัวเข่าเรา แล้วก็เปิดเครื่องอะไรสักอย่างที่เราก็ไม่รู้จัก เสียงดังตี๊ดๆๆๆๆหลอนหูมาก(คุณหมอมาบอกทีหลังว่าเครื่องนี้เป็นเครื่องส่งคลื่นวิทยุที่จะช่วยระงับกล้ามเนื้อที่ขาของเรานั่นเอง)
จุดพีคมันอยู่ตรงนี้แหละค่ะ พอเสียงตี๊ดมันดังปุ๊ป ขาเราก็กระตุกเป็นจังหวะEDMเลยค่ะ กระตุกแบบรัวแรงมากจนเราตกใจ เหมือนคุณหมอจะรู้ถึงความตกใจของเราเลยรีบปลอบ บอกว่ามันเป็นอาการปกติอยู่แล้ว ยิ่งกระตุกแรงก็ถือว่ายิ่งดี เราก็เลยพยายามปล่อยเบลอไปค่ะ แม้จะรู้สึกแปลกๆนิดหนึ่งก็เถอะ 5555
เอาจริงๆ ถึงแม้ว่าจะฉีดยาชาไปแล้วแต่ก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่นะคะ แต่ไม่ได้เจ็บมากมายถึงขั้นทนไม่ได้ มันจะมาเป็นจังหวะเวลาให้เราสะดุ้งบ้างไรบ้าง แล้วก็มีเป็นตะคริวบ้างเล็กน้อย(ซึ่งก็เป็นอาการปกติเวลาทำ Dream Legs เหมือนขากระตุกนั่นแหละ) ใช้เวลาไม่นานเลยค่ะ ของเราไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้ว
พอเสร็จแล้วก็ยังกลับออกไปเลยไม่ได้นะคะ เพราะเดินไม่ไหว 55555 มันเมื่อยๆกับตึงๆขาอ่ะค่ะ ตอนแรกตกใจมาก แต่คุณหมอบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติอีกเหมือนกัน เพราะกล้ามเนื้อที่เล็กลงทำให้ยังทรงตัวไม่ถนัด ผู้ช่วยหมอก็จะมาพยุงเราลงจากเตียงเพื่อมาสอนกายภาพบำบัดให้เราเอาไปทำเองที่บ้านเพื่อฝึกขาให้ขากระชับอย่างที่ตั้งใจไว้ แล้วก็พาเราฝึกเดินค่ะเพื่อให้ขาตัวเองชินเสียก่อน
ตอนผู้ช่วยหมอพาเดินกับตอนสอนท่ากายภาพบำบัด คนที่นี้ดูแลเราดีมากประดุจลูกหลาน อีกนิดก็จะอุ้มเราขึ้นแล้วค่ะ 5555
พอทำเสร็จแล้วเรารู้สึกได้เลยว่าขามันเล็กลง แล้วคุณหมอปาล์มก็มาตรวจเช็คขาเราอีกรอบ เขาก็จับๆขาเราแล้วบอกเราว่าเออมันไม่พบก้อนกล้ามเนื้อปูดๆแข็งๆอีกแล้วนะ เพื่อความชัวร์ทางผู้ช่วยหมอถ่ายรูปขาหลังจากทำ Dream Legs มาให้เราดูชัดๆเลยค่ะ
มองตรงนี้อาจะไม่ชัดมาก แต่สำหรับเราในตอนนั้นรู้เลยว่ากล้ามเนื้อแข็งๆที่เคยมีมันหายไปจริงๆ
หลังจากนี้คุณหมอก็ปล่อยให้เราเดินเองโดยไม่ต้องมีคนช่วยพยุงค่ะ เพื่อฝึกขาให้ชิน โดยให้เดินไปประมาณ10รอบ คราวนี้ก็เดินไปเถอะค่ะ ไม่ต้องทำอะไรเลยเดินอย่างเดียว วนไปวนมาทั่วคลินิกนั่นแหละ แฟนก็แซวว่าเดินเป็นผีกองกอยเลย
อันนี้แฟนแอบถ่ายมาตอนเรากำลังเดิน ตอนนั้นคือตลกจริงๆนะ ตอนนั้นเรายังตึงๆขาอยู่ไง ท่าเดินมันก็จะออกประหลาดๆนิดหนึ่ง 555555
หลังจากที่เสร็จจากการฝึกเดินด้วยตัวเองแล้ว ผู้ช่วยหมออีกคนก็เข้ามาช่วยเราใส่ถุงน่องให้ค่ะ เขาบอกถุงน่องอันนี้สำคัญมาก ต้องใส่ตลอดหลังจากนี้ ซึ่งถุงน่องที่เขาใส่ให้เราเนี่ยมันแน่นมากๆเลยค่ะ แน่นเกินจนเราต้องถามว่ามันจำเป็นต้องใส่จริงๆเหรอ แต่เขาก็ยืนยันว่ามันแน่นแบบนี้เพื่อให้ขาเรามันกระชับนั่นแหละ อดทนเอาหน่อยเพื่อขาสวยๆ 555
ถ่ายภาพตอนเขาใส่ถุงน่องให้เรา ขอย้ำอีกรอบว่าที่นี่เขาดูแลเรากันดีมากจริงๆ
อันนี้คือขาเราหลังจากใส่ถุงน่องเสร็จแล้ว ใส่เสร็จเขาก็ให้เราเดินอีกรอบเป็นการปิดท้ายค่ะ ก็คือต้องเดินอีกแล้ววววววว TT
พอเสร็จทุกอย่างเรียบร้อยคุณหมอก็ร่ายยาวมากให้เราฟังค่ะ บอกว่าสัปดาห์แรกหลังทำขามาอาจมีอาการเมื่อยและตึง ต้องคอยยืดกล้ามเนื้อน่องทุกวันอย่างน้อยวันละ 3 ครั้งจนกว่าจะครบ 3 เดือน แล้วอาการจะดีขึ้นเอง ขาจะเล็กเข้ารูปในตอนนั้นแหละ นอกจากนี้เราต้องทานยาที่ทางคลินิกจัดให้ครบตามกำหนด งดการใส่ส้นสูง และงดการออกกำลังกายหรือกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวกับขาเด็ดขาด 3 เดือนหลังจากทำ และเราก็ต้องใส่ถุงน่องที่คลินิกมอบให้ทุกวันตลอด3เดือนทุกๆ8ชั่วโมง เพื่อให้ขากระชับเข้ารูป และคุณหมอก็จะให้เรามานัดดูผลอีกทีตอนเดือนหน้า คุณหมอจะคอยเช็คผลความเป็นไปอยู่ตลอดเพื่อให้มั่นใจว่าขาเราออกมาดูดีจะไม่มีอะไรผิดปกติ คือฟังแล้วปลื้มมาก รู้สึกว่าคุณหมอเขาใส่ใจเป็นห่วงเราดีจริงๆ
ค่ารักษา49,000รวมค่ายาและค่าถุงน่องก็เท่ากับ 51,700บาท เทียบการกับบริการต่างๆและผลที่ได้รับแล้ว เราว่าไม่แพงเลยค่ะ
หลังจากผ่านไปอาทิตย์แรกนะคะ จะเห็นได้เลยว่าขาเรามันดูเล็กลงแบบกลมกลืนมากๆ จากที่ตอนแรกๆเวลาเขย่งแล้วมันมีน่องปูดๆ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วค่ะ
มาเอามาเทียบชัดๆไปเลย ดูคู่กันแล้วก็รู้สึกได้เลยว่ามันดูต่างขึ้นจริงๆ แม้ขามันจะยังไม่เข้าที่เต็มที่(คุณหมอบอกว่าเห็นผลชัดที่เจนตอนผ่านไปสามเดือนแล้วค่ะ) แม้จะผ่านไปแค่อาทิตย์เดียวแต่ตอนนี้เราก็โอเคกับขาตัวเองมากๆเลยค่ะ ดีใจมากไม่คิดว่าจะมีวันนี้ เพราะเราเครียดกับเรื่องขามานานมากจนคิดว่ายังไงก็ไม่หายแน่ๆ แต่พอได้มารักษาที่นี่แล้วเห็นว่าขาตัวเองกลับมาดูดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นแล้วมันดีใจจริงๆค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้