เคยมีคนพูดถึงทะเลสีฟ้าเปล่งประกายวับวามท่ามกลางแสงตะวันอันงดงามและเคียงข้างกันมีผืนทรายสำหรับสร้างปราสาทหินในจินตนาการ ฉันคิดว่าถ้าได้อยู่ในสถานที่แบบนั้น ชีวิตในแต่ละวันคงเต็มไปด้วยเรื่องมหัศจรรย์ จริงๆที่นี่ก็มีทะเลเหมือนกันนะ แต่เป็นทะเลที่ถูกถมด้วยเม็ดทราย ทรายมากมายหลายพันหลายล้านเม็ด อากาศที่นี่แสบร้อนจนตัวแทบไหม้ ที่นี่คือทะเลทราย คงไม่มีใครมานั่งฝันหวานได้อย่างริมชายหาดหรอก ที่นี่ช่างแห้งแล้งเหลือเกิน...ไม่สิ บางทีใช้คำว่า แห้งเหือด น่าจะตรงตัวกว่า ที่นี่เต็มไปด้วยความว่างเปล่า สิ่งมีชีวิตใดเติบโตขึ้นบนผืนทรายแห่งนี้ก็คงต้องตายลงที่นี่โดยไม่มีแม้แต่หลุมฝังศพ ไม่ว่าใครคงไม่ต่างกัน ไม่อาจหนีรอดไปได้ สรรพสิ่งที่เกิดขึ้นจากทราย ความตายย่อมนำมันกลับคืนสู่ที่ๆมันจากมา
------------------
เคยมีชาวกรีกโบราณกล่าวไว้ว่าชีวิตเป็นเหมือนหน่ออ่อนของต้นไม้ เรามีหน้าที่ดูแลให้มันเจริญเติบโต ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่เจริญงอกงาม ไม่ใช่เพียงแค่ทำความดีเฉยๆ แต่ให้ลองนึกภาพว่าตัวเราเป็นต้นกล้าเล็กๆ เราต้องการดิน ต้องการน้ำ ปุ๋ย แสงแดด ในปริมาณที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือเพื่อให้ดอกไม้ได้เบ่งบาน
------------------------
วันเวลาค่อยๆผ่านไปอย่างเชื่องช้า ความตายไม่ใช่เรื่องน่ากลัวแม้แต่นิด ฉันยังมีเวลาเหลืออีกมากมาย ความตายไม่เคยโผล่หน้ามาให้เห็น มีเพียงคืนวันที่แสนน่าเบื่อ
น่าเบื่อ น่าเบื่อ น่าเบื่อ
ผ่านไป ผ่านไป ผ่านไป
จนกระทั่งวันหนึ่งฉันได้พบกับดอกไม้กลางทะเลทราย วินาทีแรกที่เห็น ฉันตื่นตกใจ เธอมาจากไหน เธอเป็นใคร เธอมาทำอะไรที่นี่ เธอยังเป็นเด็กน้อย ยังไม่พร้อมจะบานออกมาดูโลก แต่ก็เปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต ฉันจึงตัดสินใจคอยเฝ้าดูอยู่เงียบๆ
------------------------
ฉันคิดเสมอว่าตัวเองยังเป็นเด็ก ยังไร้เดียงสา มีเรื่องราวอีกมากมายที่ฉันยังไม่รู้ มีสถานที่อีกมากมายที่ยังไม่เคยเห็น แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดหายไปคือความกระตือรือร้น เมื่อก่อนเวลามีสิ่งใดที่อยากได้ฉันก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มันมา ไม่เกรงใจใครทั้งนั้น ทุกอย่างๆต้องกลายเป็นของฉัน แต่ยิ่งวันเวลาผ่านไป ฉันเริ่มรู้ว่ามีหลายสิ่งที่เราไม่อาจคว้ามาได้ ทั้งๆที่มันอยู่ตรงหน้าแต่กลับไกลเกินเอื้อมทุกที ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม ฉันจึงกลายเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์(เป็นชื่อที่ตั้งให้กับตัวเอง) คอยเฝ้าดูจากที่ไกลๆ กลัวว่าถ้าเอื้อมมือไปแตะต้อง สิ่งนั้นจะแตกสลายกลายเป็นธุลีทราย ฉันจึงมักเลือกที่จะรอโอกาสมากกว่าลงมือทำ ฉันคิดว่าการอยู่เฉยๆจะทำให้ไม่ต้องเผชิญกับความสูญเสีย แต่ฉันคิดผิด ตัวตนที่อยู่ข้างในส่งเสียงกรีดร้องอยากออกมา แต่ตัวฉันอีกครึ่งหนึ่งเป็นดั่งประตูลงกลอนกักขังตัวเองเอาไว้ ตัวฉันที่อยู่ข้างในออกแรงทุบประตูหวังให้มันพังทลาย ฉันถูกตัวเองทำร้าย แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็เลือกที่จะอดทน วิงวอนให้มันจบลง รอคอยเวลาที่ไม่รู้ว่าเป็นเมื่อไหร่ ความเฉยชาค่อยๆเข้ามาแทนที่ช้าๆ ฉันเริ่มเกลียดตัวเอง
---------------------
ฉันสูญเสียความเป็นเด็กไปแล้ว
แต่ก็ไม่เคยโตพอจะเป็นผู้ใหญ่
----------------------
เธอเป็นดอกไม้ช่างพูด สีสันแปลกตามีไว้สำหรับล่อลวงเหล่าแมลง เธอบอกว่าเธอเป็นดอกไม้ที่กลับชาติมาเกิด ก่อนหน้านี้เธออาศัยอยู่ในตัวเมืองใหญ่ มีชื่อเสียงโด่งดัง เธอบอกว่าเธอเป็นตัวแทนของความรัก เคยมีหน้าตางดงามกว่าปัจจุบันนี้หลายสิบเท่า แต่ฉันกลับคิดว่าตอนนี้เธอก็สวยดีอยู่แล้ว เธอส่ายหน้าแล้วหาว่าฉันไม่เข้าใจ
เธอเล่าให้ฉันฟังว่าในเมืองมีอะไรบ้าง
แรกๆฉันฟังคำพูดของเธอไม่ค่อยรู้เรื่อง ศัพท์ใหม่ๆที่ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนทยอยออกมาไม่ขาดสาย เธอชอบเพลงคลาสสิก ชอบงานเลี้ยงปาร์ตี้ ชอบพูดคุยกับผู้คน ชอบสิ่งมากมายที่ฉันไม่รู้จัก สิ่งที่ฉันไม่เคยรู้จัก และสิ่งที่ฉันไม่มีวันรู้จัก ฉันอาจไม่เข้าใจถ้อยคำทั้งหมดของเธอ แต่ดูจากน้ำเสียง สีหน้า ท่าทางของเธอ มันทำให้ฉันยิ้ม เธอแบ่งปันความฝันของเธอให้กับฉัน สิ่งสำคัญที่ฉันหลงลืมไปเมื่อนานมาแล้ว
เธอทำให้ฉันอิจฉา
เธอบอกว่าสมัยยังอยู่ในเมือง เธอไม่ได้เกิดมาพรั่งพร้อมตั้งแต่แรก แต่เป็นเพราะมีคนมาคอยดูแลประคบประหงมเธอ คอยเติมปุ๋ย รดน้ำ มอบความรักให้ เธอถึงเป็นตัวเธอ เธอคิดถึงเมืองที่เคยอยู่ แต่ไม่เคยเสียใจหรือเสียดาย เธอบอกว่าความตายกับชีวิตเป็นสิ่งเดียวกัน อดีตเป็นเพียงส่วนหนึ่งของอนาคต กลีบดอกไม้ที่ปลิดลงจากต้น จะให้กำเนิดอีกชีวิตหนึ่ง ความตายจึงเป็นเรื่องน่ายินดี มิใช่หรือ?
-------------
ฉันอยากเป็นแบบเธอ เป็นตัวของตัวเอง ไม่มีอะไรต้องหวาดกลัว เปี่ยมล้นด้วยความหวัง ฉันอยากเติบโตบ้าง เธอทำให้ฉันอยากรู้จักคนรดน้ำต้นไม้ ดอกไม้แสนน่ารักแบบเธอ จะมีคนรดน้ำหน้าตาเป็นยังไงกันนะ ฉันจะมีโอกาสได้เจอคนอย่างนั้นบ้างไหม ชีวิตที่เหือดแห้งของฉัน บางทีอาจจะต้องการคนรดน้ำเหมือนอย่างที่เธอว่าก็ได้ นี่แหละคือหนทางที่จะทำให้ฉันสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ สักวันหนึ่งฉันจะเป็นดอกไม้ที่งดงามและน่าภาคภูมิแบบเธอ ฉันคิด และเฝ้ารอ
สัก วัน หนึ่ง
-----------
ทว่า กาลเวลาค่อยๆพรากชีวิตของเธอทีละน้อย สถานที่แห่งนี้โหดร้ายเกินไป ต้นไม้มิอาจอยู่ได้เพียงเพราะมีความฝัน เธอค่อยๆเหี่ยวเฉาทีละน้อย กลีบแล้วกลีบเล่าที่ร่วงหล่น สายลมพัดมันไปสู่ท้องฟ้า เธอบอกว่าไม่เป็นไร เมื่อเวลาผ่านไปเธอก็จะกลับมา พร้อมลูกหลานอีกมากมาย ความตายเป็นแค่เรื่องธรรมดา เราสัญญากันว่าจะกลับไปบ้านเกิดของเธอ
ความฝันของใครบางคน กลายเป็นของของอีกคนหนึ่ง
ฉันวิงวอนขอฝน ไม่อยากเสียเธอไป
แต่ก็เหมือนเช่นทุกครั้งที่ฉันอธิษฐาน
มันไม่เคยตกลงมา
เธอจากไปแล้ว
ฉันเหลือตัวคนเดียว
เธอไม่เคยกลับมา
ไม่เคยมีใครกลับมา
-----------------------
ที่นี่คือทะเลทราย
และฉันไม่ใช่ดอกไม้อย่างที่ตัวเองคิด
ฉันคือต้นกระบองเพชร
🌵🌵🌵🌵🌵🌵🌵🌵🌵
คนรดน้ำต้นไม้
------------------
เคยมีชาวกรีกโบราณกล่าวไว้ว่าชีวิตเป็นเหมือนหน่ออ่อนของต้นไม้ เรามีหน้าที่ดูแลให้มันเจริญเติบโต ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่เจริญงอกงาม ไม่ใช่เพียงแค่ทำความดีเฉยๆ แต่ให้ลองนึกภาพว่าตัวเราเป็นต้นกล้าเล็กๆ เราต้องการดิน ต้องการน้ำ ปุ๋ย แสงแดด ในปริมาณที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือเพื่อให้ดอกไม้ได้เบ่งบาน
------------------------
วันเวลาค่อยๆผ่านไปอย่างเชื่องช้า ความตายไม่ใช่เรื่องน่ากลัวแม้แต่นิด ฉันยังมีเวลาเหลืออีกมากมาย ความตายไม่เคยโผล่หน้ามาให้เห็น มีเพียงคืนวันที่แสนน่าเบื่อ
น่าเบื่อ น่าเบื่อ น่าเบื่อ
ผ่านไป ผ่านไป ผ่านไป
จนกระทั่งวันหนึ่งฉันได้พบกับดอกไม้กลางทะเลทราย วินาทีแรกที่เห็น ฉันตื่นตกใจ เธอมาจากไหน เธอเป็นใคร เธอมาทำอะไรที่นี่ เธอยังเป็นเด็กน้อย ยังไม่พร้อมจะบานออกมาดูโลก แต่ก็เปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต ฉันจึงตัดสินใจคอยเฝ้าดูอยู่เงียบๆ
------------------------
ฉันคิดเสมอว่าตัวเองยังเป็นเด็ก ยังไร้เดียงสา มีเรื่องราวอีกมากมายที่ฉันยังไม่รู้ มีสถานที่อีกมากมายที่ยังไม่เคยเห็น แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดหายไปคือความกระตือรือร้น เมื่อก่อนเวลามีสิ่งใดที่อยากได้ฉันก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มันมา ไม่เกรงใจใครทั้งนั้น ทุกอย่างๆต้องกลายเป็นของฉัน แต่ยิ่งวันเวลาผ่านไป ฉันเริ่มรู้ว่ามีหลายสิ่งที่เราไม่อาจคว้ามาได้ ทั้งๆที่มันอยู่ตรงหน้าแต่กลับไกลเกินเอื้อมทุกที ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม ฉันจึงกลายเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์(เป็นชื่อที่ตั้งให้กับตัวเอง) คอยเฝ้าดูจากที่ไกลๆ กลัวว่าถ้าเอื้อมมือไปแตะต้อง สิ่งนั้นจะแตกสลายกลายเป็นธุลีทราย ฉันจึงมักเลือกที่จะรอโอกาสมากกว่าลงมือทำ ฉันคิดว่าการอยู่เฉยๆจะทำให้ไม่ต้องเผชิญกับความสูญเสีย แต่ฉันคิดผิด ตัวตนที่อยู่ข้างในส่งเสียงกรีดร้องอยากออกมา แต่ตัวฉันอีกครึ่งหนึ่งเป็นดั่งประตูลงกลอนกักขังตัวเองเอาไว้ ตัวฉันที่อยู่ข้างในออกแรงทุบประตูหวังให้มันพังทลาย ฉันถูกตัวเองทำร้าย แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็เลือกที่จะอดทน วิงวอนให้มันจบลง รอคอยเวลาที่ไม่รู้ว่าเป็นเมื่อไหร่ ความเฉยชาค่อยๆเข้ามาแทนที่ช้าๆ ฉันเริ่มเกลียดตัวเอง
---------------------
ฉันสูญเสียความเป็นเด็กไปแล้ว
แต่ก็ไม่เคยโตพอจะเป็นผู้ใหญ่
----------------------
เธอเป็นดอกไม้ช่างพูด สีสันแปลกตามีไว้สำหรับล่อลวงเหล่าแมลง เธอบอกว่าเธอเป็นดอกไม้ที่กลับชาติมาเกิด ก่อนหน้านี้เธออาศัยอยู่ในตัวเมืองใหญ่ มีชื่อเสียงโด่งดัง เธอบอกว่าเธอเป็นตัวแทนของความรัก เคยมีหน้าตางดงามกว่าปัจจุบันนี้หลายสิบเท่า แต่ฉันกลับคิดว่าตอนนี้เธอก็สวยดีอยู่แล้ว เธอส่ายหน้าแล้วหาว่าฉันไม่เข้าใจ
เธอเล่าให้ฉันฟังว่าในเมืองมีอะไรบ้าง
แรกๆฉันฟังคำพูดของเธอไม่ค่อยรู้เรื่อง ศัพท์ใหม่ๆที่ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนทยอยออกมาไม่ขาดสาย เธอชอบเพลงคลาสสิก ชอบงานเลี้ยงปาร์ตี้ ชอบพูดคุยกับผู้คน ชอบสิ่งมากมายที่ฉันไม่รู้จัก สิ่งที่ฉันไม่เคยรู้จัก และสิ่งที่ฉันไม่มีวันรู้จัก ฉันอาจไม่เข้าใจถ้อยคำทั้งหมดของเธอ แต่ดูจากน้ำเสียง สีหน้า ท่าทางของเธอ มันทำให้ฉันยิ้ม เธอแบ่งปันความฝันของเธอให้กับฉัน สิ่งสำคัญที่ฉันหลงลืมไปเมื่อนานมาแล้ว
เธอทำให้ฉันอิจฉา
เธอบอกว่าสมัยยังอยู่ในเมือง เธอไม่ได้เกิดมาพรั่งพร้อมตั้งแต่แรก แต่เป็นเพราะมีคนมาคอยดูแลประคบประหงมเธอ คอยเติมปุ๋ย รดน้ำ มอบความรักให้ เธอถึงเป็นตัวเธอ เธอคิดถึงเมืองที่เคยอยู่ แต่ไม่เคยเสียใจหรือเสียดาย เธอบอกว่าความตายกับชีวิตเป็นสิ่งเดียวกัน อดีตเป็นเพียงส่วนหนึ่งของอนาคต กลีบดอกไม้ที่ปลิดลงจากต้น จะให้กำเนิดอีกชีวิตหนึ่ง ความตายจึงเป็นเรื่องน่ายินดี มิใช่หรือ?
-------------
ฉันอยากเป็นแบบเธอ เป็นตัวของตัวเอง ไม่มีอะไรต้องหวาดกลัว เปี่ยมล้นด้วยความหวัง ฉันอยากเติบโตบ้าง เธอทำให้ฉันอยากรู้จักคนรดน้ำต้นไม้ ดอกไม้แสนน่ารักแบบเธอ จะมีคนรดน้ำหน้าตาเป็นยังไงกันนะ ฉันจะมีโอกาสได้เจอคนอย่างนั้นบ้างไหม ชีวิตที่เหือดแห้งของฉัน บางทีอาจจะต้องการคนรดน้ำเหมือนอย่างที่เธอว่าก็ได้ นี่แหละคือหนทางที่จะทำให้ฉันสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ สักวันหนึ่งฉันจะเป็นดอกไม้ที่งดงามและน่าภาคภูมิแบบเธอ ฉันคิด และเฝ้ารอ
สัก วัน หนึ่ง
-----------
ทว่า กาลเวลาค่อยๆพรากชีวิตของเธอทีละน้อย สถานที่แห่งนี้โหดร้ายเกินไป ต้นไม้มิอาจอยู่ได้เพียงเพราะมีความฝัน เธอค่อยๆเหี่ยวเฉาทีละน้อย กลีบแล้วกลีบเล่าที่ร่วงหล่น สายลมพัดมันไปสู่ท้องฟ้า เธอบอกว่าไม่เป็นไร เมื่อเวลาผ่านไปเธอก็จะกลับมา พร้อมลูกหลานอีกมากมาย ความตายเป็นแค่เรื่องธรรมดา เราสัญญากันว่าจะกลับไปบ้านเกิดของเธอ
ความฝันของใครบางคน กลายเป็นของของอีกคนหนึ่ง
ฉันวิงวอนขอฝน ไม่อยากเสียเธอไป
แต่ก็เหมือนเช่นทุกครั้งที่ฉันอธิษฐาน
มันไม่เคยตกลงมา
เธอจากไปแล้ว
ฉันเหลือตัวคนเดียว
เธอไม่เคยกลับมา
ไม่เคยมีใครกลับมา
-----------------------
ที่นี่คือทะเลทราย
และฉันไม่ใช่ดอกไม้อย่างที่ตัวเองคิด
ฉันคือต้นกระบองเพชร
🌵🌵🌵🌵🌵🌵🌵🌵🌵