ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่ากระทู้นี้คือสิ่งที่เราเจอมากับตัว และไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ อาจมีการเรียกผิดเรียกถูกบ้างนะคะ
เอาล่ะ เริ่มเรื่องเลยคือ เมื่อประมาณปลายเดือนสิงหาเรากลังยืนรอรถเมล์จากอโศกเพื่อกลับบ้านเราแถวบางนา
ระหว่างนั้นเองก็มีรถสาย 25 ปากน้ำ สามแยกมาพอดี ไม่ใช่สาย 25 ที่เป็นสีแดงครีมนะคะ ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าเขาเรียกรถประเภทนี้ว่าอะไร
แล้วพอเราขึ้นไปเสร็จปุ๊ป กระเป๋ารถเมล์ก็พูดว่า "เสริมอุดมสุขจ้า" คือเราก็งงๆอยู่เหมือนกันเพราะปกติก็ต้องวิ่งผ่านอุดมสุขอยู่แล้วทำไมต้องเสริม
จนกระทั่งเราขึ้นรถไปแล้วรถคันนี้คือ 8 บาทตลอดสายเลยไม่จำเป็นต้องบอกว่าลงตรงไหน เราก็เลยไม่ได้ใส่ใจอะไร
จนกระทั่งรถวิ่งไปถึงอุดมสุข กระเป๋ารถเมล์ก็บอกว่า "สุดสายป้ายนี้นะครับ" เราก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินลงไปงงๆเหมือนอีกหลายๆคน
แล้วด้วยความที่ว่าเรามองรถที่ไม่ใช่พวกรถสีแดงครีม หรือรถยูโร อะไรพวกนี้ เราจะเรียกเขาว่ารถเอกชน เพราะเขาดูทำทุกอย่างตามใจตัวเอง อยากขับก็ขับ อยากหยุดก็หยุด
แล้วตอนนั้นก็เวลาประมาณสองทุ่มได้แล้ว เราก็พยายามคิดในแง่ดีว่าเขาอาจจะไม่อยากไปฝ่ารถติดแถวสำโรง เพราะแถวนั้นรถติดมาก เราก็ไม่ได้สนใจอะไรก็ปล่อยมันผ่านไป
จนกระทั่งประมาณอีกอาทิตย์นึงต่อมา เราไปหาหมอที่เพลินจิต ขากลับก็ขึ้นเจ้า 25 คันเดิมนี่แหละ และแน่นอนว่าไม่ใช่แดงครีมเช่นเดิม
ก่อนเราจะขึ้นกระเป๋ารถเมล์ก็พูดชื่อป้ายที่ผ่าน ซึ่งเขามาหยุดพูดตรงบางจาก ซึ่งเราก็ไม่ได้เอะใจอีกเช่นเคย (ง่าวซ้ำง่าวซ้อน) คิดแค่ว่าเขาคงไล่ให้ฟังคร่าวๆเฉยๆ ก็จ่ายเงิน 8 บาทแล้วก็นั่งไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งถึงบางจากก็ประโยคเดิมเลยค่ะ "สุดสายป้ายนี้นะครับ" เราก็งงสิเพราะตอนนั้นมันเป็นช่วงสิบโมงของวันเสาร์ซึ่งรถน้อยมาก ดังนั้นจากที่ครั้งก่อนคิดว่าเขาคงไม่อยากเจอรถติดเลยเป็นอันพังไป ตอนนั้นลงรถด้วยความโมโหสุดๆ คิดๆว่าเราจะร้องเรียนอะไรได้บ้างไหม แต่สุดท้ายก็ได้แค่ปล่อยให้มันผ่านไป
ครั้งที่ 3 (ง่าวกันแบบนอนสต็อปเลยทีเดียว) รอบนี้เราขึ้นสาย 2 ค่ะ รอบนี้รถสีแดงครีมเลยป้ายหน้ารถเขียนว่าเสริมอโศก จังหวะนั้นก็เอะใจค่ะว่าน่าจะส่งถึงแค่อโศก เพราะเราจะนั่งไปหาหมอที่เพลินจิต แต่อีกใจนึงก็คิดว่าไม่เห็นพวกรถเสริมมาสักระยะแล้วหลังจากครั้งก่อน ประกอบกับตอนนั้นจะสายแล้วด้วยเลยขึ้นไปแบบปลงๆว่าอโศกก็อโศกวะ
แล้วก็อย่างที่คิดค่ะได้ลงอโศกจริงๆ แล้วจากอโศกไปเพลินจิตแค่ 2 สถานี bts ก็จริง แต่ค่าโดยสารก็แพงเอาเรื่อง เราเลยยืนรอรถเมล์คันอื่นแทนค่ะ
และแล้วก็มีสาย 2 แดงครีมอีกคันผ่านมาค่ะ เราก็ขึ้นไปนั่งปกติ จนกระทั่งกระเป๋ารถเมล์เดินมาเก็บเงินค่ะ แหม คุณป้านี่หน้าคุ้นๆนะคะ หน้าตาเหมือนกระเป๋ารถเมล์คันเมื่อกี้เลยค่ะ
ก็นั่นแหละค่ะ เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาจะทำแบบนี้ไปทำไม แต่ตอนนั้นนอยด์มากค่ะ ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองจะต้องมาเสียค่ารถให้รถคันเดิมตั้งสองรอบด้วย
หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้ขึ้นรถเมล์นานเลยค่ะเพราะส่วนใหญ่หนีไปขึ้น bts แทน ซึ่งก็เจอคนแปลกๆอยู่บ่อย ฮ่าๆ แต่ช่างมันเถอะค่ะ
แต่ทีนี้ตอนนี้ก็ช่วงใกล้ปลายเดือนแล้ว หลังจากลองนับดูแล้วพบว่ารอบบัตรแรบบิทไม่พอที่จะไปไกลเช้าเย็นได้ทุกวัน (เราซื้อ 40 รอบค่ะ แต่นั่งตั้งแต่ปลายเดือนก่อนเลยไม่ครบเดือน) ฉะนั้นก็เลยกลับมาขึ้นรถเมล์เหมือนเดิมค่ะ ซึ่งเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นวันนี้เลยค่ะ เรียกได้ว่าเก็บความขุ่นเคืองใจไว้แล้วรีบบึ่งกลับบ้านเอามาลงพันทิปทันที ฮ่าๆๆ
วันนี้สายที่เจอแ็คพ็อตคือ สาย 511 รถแอร์ค่ะ แน่นอนต้องมีป้ายเสริมอยู่ข้างหน้าอยู่แล้ว และรอบนี้เสริมบางนาค่ะ ซึ่งถึงบ้านเราพอดีเราเลยไม่มีปํญหา แต่ที่เราตัดสินใจออกมาบ่นเรื่องนี้เพราะเห็นคนอื่นโดนแล้วสงสารค่ะ
คือตอนแรกมีคุณป้าคนนึงขึ้นมาจากแถวๆพร้อมพงษ์ ยื่นเงินให้กระเป๋ารถเมล์ แล้วบอกว่าจะไปลงสำโรง แต่กระเป๋ารถเมล์กลับคว้าแบงค์ไปพร้อมถอนเงินให้เสร็จสรรพก่อนจะบอกว่า "วิ่งถึงแค่บางนาค่ะ" เรางงแทนเลยค่ะว่าทำไมเขาถึงไม่บอกก่อนจะเก็บเงินเพื่อที่คุณป้าจะได้มีโอกาสไปขึ้นรถคันอื่นที่ไม่ต้องต่ออีก
และรอบที่สอง รอบนี้เป็นคุณป้าอีกท่านนึงขึ้นจากแถวๆเอกมัยปลายทางก็เป็นสำโรงเหมือนเดิมค่ะ แต่กระเป๋ารถเมล์แทนที่จะพูดดีๆ กลับแสดงท่าทีเอือมระอาออกมาอย่างชัดเจนแล้วพูดเซ็งๆว่า "หนูบอกแล้วไงคะคุณพี่ว่าบางนา" คุณป้าก็ได้แต่ร้องอ้าว แล้วก็ต้องลงในป้ายถัดไป ซึ่งจุดนี้แหละค่ะที่ทำให้เราหงุดหงิด
การที่ใช้คำว่าเสริมมันไม่ได้ขยายความได้ชัดเจนเลย มีอีกหลายคนที่เขาไม่รู้แต่คุณกลับแสดงท่าทางอย่างนั้นใส่เขา ทางที่ดี ถ้าจะทำแบบนี้ก็เขียนป้ายไว้เถอะค่ะว่าสุดสายตรงนี้ ตรงโน้น ตรงนั้นนะ
คือส่วนตัวเราไม่ได้หงุดหงิดที่หยุดวิ่งกลางทาง ก็ยอมรับว่าก็มีโมโหบ้างเวลารีบๆ แต่โดยรวมนั่นไม่ใช่ประเด็นหลักที่ทำให้อารมณ์เสีย
ประเด็นหลักคือทำไมถึงไม่ชี้แจงให้ชัดเจนว่า หมดระยะตรงไหน
และเราคิดว่าคนไม่รู้ก็คงเยอะ อย่างเรา แต่ก่อนเวลาเห็นรถเมล์ที่เขาจะเข้าอู่หรือรถเสียหรือมีปัญหาอะไรเขาก็จะเขียนป้ายตามเหตุนั้นๆ ไม่เคยเจอแบบที่วิ่งไปครึ่งทางแล้วก็ตัดกันดื้อๆ หรือมีแต่เราไม่รู้ก็ไม่มั่นใจ
แต่ก็นั่นแหละค่ะ คือสงสัยว่าเรื่องพวกนี้ทาง ขสมก. เขารับรู้ไหมคะ หรือถ้ารู้ก็คิดว่าเขาควรจะใช้คำให้ชัดเจนกว่าคำว่าเสริมนะคะ ไม่รู้ว่าที่อื่นๆเป็นไหม แต่ยังไงก็มาแชร์กันให้ฟังนะคะเผื่อจะเจอคนที่มีปัญหาเดียวกันบ้าง
ป.ล. ไม่มั่นใจว่าแท็กห้องเหมาะสมหรือไม่ยังไงจะให้แก้ตรงไหนบอกได้นะคะ
เดี๊ยวนี้รถสาธารณะเขากำหนดจุดหมายปลายทางกันตามใจได้แล้วเหรอคะ
เอาล่ะ เริ่มเรื่องเลยคือ เมื่อประมาณปลายเดือนสิงหาเรากลังยืนรอรถเมล์จากอโศกเพื่อกลับบ้านเราแถวบางนา
ระหว่างนั้นเองก็มีรถสาย 25 ปากน้ำ สามแยกมาพอดี ไม่ใช่สาย 25 ที่เป็นสีแดงครีมนะคะ ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าเขาเรียกรถประเภทนี้ว่าอะไร
แล้วพอเราขึ้นไปเสร็จปุ๊ป กระเป๋ารถเมล์ก็พูดว่า "เสริมอุดมสุขจ้า" คือเราก็งงๆอยู่เหมือนกันเพราะปกติก็ต้องวิ่งผ่านอุดมสุขอยู่แล้วทำไมต้องเสริม
จนกระทั่งเราขึ้นรถไปแล้วรถคันนี้คือ 8 บาทตลอดสายเลยไม่จำเป็นต้องบอกว่าลงตรงไหน เราก็เลยไม่ได้ใส่ใจอะไร
จนกระทั่งรถวิ่งไปถึงอุดมสุข กระเป๋ารถเมล์ก็บอกว่า "สุดสายป้ายนี้นะครับ" เราก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินลงไปงงๆเหมือนอีกหลายๆคน
แล้วด้วยความที่ว่าเรามองรถที่ไม่ใช่พวกรถสีแดงครีม หรือรถยูโร อะไรพวกนี้ เราจะเรียกเขาว่ารถเอกชน เพราะเขาดูทำทุกอย่างตามใจตัวเอง อยากขับก็ขับ อยากหยุดก็หยุด
แล้วตอนนั้นก็เวลาประมาณสองทุ่มได้แล้ว เราก็พยายามคิดในแง่ดีว่าเขาอาจจะไม่อยากไปฝ่ารถติดแถวสำโรง เพราะแถวนั้นรถติดมาก เราก็ไม่ได้สนใจอะไรก็ปล่อยมันผ่านไป
จนกระทั่งประมาณอีกอาทิตย์นึงต่อมา เราไปหาหมอที่เพลินจิต ขากลับก็ขึ้นเจ้า 25 คันเดิมนี่แหละ และแน่นอนว่าไม่ใช่แดงครีมเช่นเดิม
ก่อนเราจะขึ้นกระเป๋ารถเมล์ก็พูดชื่อป้ายที่ผ่าน ซึ่งเขามาหยุดพูดตรงบางจาก ซึ่งเราก็ไม่ได้เอะใจอีกเช่นเคย (ง่าวซ้ำง่าวซ้อน) คิดแค่ว่าเขาคงไล่ให้ฟังคร่าวๆเฉยๆ ก็จ่ายเงิน 8 บาทแล้วก็นั่งไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งถึงบางจากก็ประโยคเดิมเลยค่ะ "สุดสายป้ายนี้นะครับ" เราก็งงสิเพราะตอนนั้นมันเป็นช่วงสิบโมงของวันเสาร์ซึ่งรถน้อยมาก ดังนั้นจากที่ครั้งก่อนคิดว่าเขาคงไม่อยากเจอรถติดเลยเป็นอันพังไป ตอนนั้นลงรถด้วยความโมโหสุดๆ คิดๆว่าเราจะร้องเรียนอะไรได้บ้างไหม แต่สุดท้ายก็ได้แค่ปล่อยให้มันผ่านไป
ครั้งที่ 3 (ง่าวกันแบบนอนสต็อปเลยทีเดียว) รอบนี้เราขึ้นสาย 2 ค่ะ รอบนี้รถสีแดงครีมเลยป้ายหน้ารถเขียนว่าเสริมอโศก จังหวะนั้นก็เอะใจค่ะว่าน่าจะส่งถึงแค่อโศก เพราะเราจะนั่งไปหาหมอที่เพลินจิต แต่อีกใจนึงก็คิดว่าไม่เห็นพวกรถเสริมมาสักระยะแล้วหลังจากครั้งก่อน ประกอบกับตอนนั้นจะสายแล้วด้วยเลยขึ้นไปแบบปลงๆว่าอโศกก็อโศกวะ
แล้วก็อย่างที่คิดค่ะได้ลงอโศกจริงๆ แล้วจากอโศกไปเพลินจิตแค่ 2 สถานี bts ก็จริง แต่ค่าโดยสารก็แพงเอาเรื่อง เราเลยยืนรอรถเมล์คันอื่นแทนค่ะ
และแล้วก็มีสาย 2 แดงครีมอีกคันผ่านมาค่ะ เราก็ขึ้นไปนั่งปกติ จนกระทั่งกระเป๋ารถเมล์เดินมาเก็บเงินค่ะ แหม คุณป้านี่หน้าคุ้นๆนะคะ หน้าตาเหมือนกระเป๋ารถเมล์คันเมื่อกี้เลยค่ะ
ก็นั่นแหละค่ะ เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาจะทำแบบนี้ไปทำไม แต่ตอนนั้นนอยด์มากค่ะ ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองจะต้องมาเสียค่ารถให้รถคันเดิมตั้งสองรอบด้วย
หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้ขึ้นรถเมล์นานเลยค่ะเพราะส่วนใหญ่หนีไปขึ้น bts แทน ซึ่งก็เจอคนแปลกๆอยู่บ่อย ฮ่าๆ แต่ช่างมันเถอะค่ะ
แต่ทีนี้ตอนนี้ก็ช่วงใกล้ปลายเดือนแล้ว หลังจากลองนับดูแล้วพบว่ารอบบัตรแรบบิทไม่พอที่จะไปไกลเช้าเย็นได้ทุกวัน (เราซื้อ 40 รอบค่ะ แต่นั่งตั้งแต่ปลายเดือนก่อนเลยไม่ครบเดือน) ฉะนั้นก็เลยกลับมาขึ้นรถเมล์เหมือนเดิมค่ะ ซึ่งเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นวันนี้เลยค่ะ เรียกได้ว่าเก็บความขุ่นเคืองใจไว้แล้วรีบบึ่งกลับบ้านเอามาลงพันทิปทันที ฮ่าๆๆ
วันนี้สายที่เจอแ็คพ็อตคือ สาย 511 รถแอร์ค่ะ แน่นอนต้องมีป้ายเสริมอยู่ข้างหน้าอยู่แล้ว และรอบนี้เสริมบางนาค่ะ ซึ่งถึงบ้านเราพอดีเราเลยไม่มีปํญหา แต่ที่เราตัดสินใจออกมาบ่นเรื่องนี้เพราะเห็นคนอื่นโดนแล้วสงสารค่ะ
คือตอนแรกมีคุณป้าคนนึงขึ้นมาจากแถวๆพร้อมพงษ์ ยื่นเงินให้กระเป๋ารถเมล์ แล้วบอกว่าจะไปลงสำโรง แต่กระเป๋ารถเมล์กลับคว้าแบงค์ไปพร้อมถอนเงินให้เสร็จสรรพก่อนจะบอกว่า "วิ่งถึงแค่บางนาค่ะ" เรางงแทนเลยค่ะว่าทำไมเขาถึงไม่บอกก่อนจะเก็บเงินเพื่อที่คุณป้าจะได้มีโอกาสไปขึ้นรถคันอื่นที่ไม่ต้องต่ออีก
และรอบที่สอง รอบนี้เป็นคุณป้าอีกท่านนึงขึ้นจากแถวๆเอกมัยปลายทางก็เป็นสำโรงเหมือนเดิมค่ะ แต่กระเป๋ารถเมล์แทนที่จะพูดดีๆ กลับแสดงท่าทีเอือมระอาออกมาอย่างชัดเจนแล้วพูดเซ็งๆว่า "หนูบอกแล้วไงคะคุณพี่ว่าบางนา" คุณป้าก็ได้แต่ร้องอ้าว แล้วก็ต้องลงในป้ายถัดไป ซึ่งจุดนี้แหละค่ะที่ทำให้เราหงุดหงิด
การที่ใช้คำว่าเสริมมันไม่ได้ขยายความได้ชัดเจนเลย มีอีกหลายคนที่เขาไม่รู้แต่คุณกลับแสดงท่าทางอย่างนั้นใส่เขา ทางที่ดี ถ้าจะทำแบบนี้ก็เขียนป้ายไว้เถอะค่ะว่าสุดสายตรงนี้ ตรงโน้น ตรงนั้นนะ
คือส่วนตัวเราไม่ได้หงุดหงิดที่หยุดวิ่งกลางทาง ก็ยอมรับว่าก็มีโมโหบ้างเวลารีบๆ แต่โดยรวมนั่นไม่ใช่ประเด็นหลักที่ทำให้อารมณ์เสีย
ประเด็นหลักคือทำไมถึงไม่ชี้แจงให้ชัดเจนว่า หมดระยะตรงไหน
และเราคิดว่าคนไม่รู้ก็คงเยอะ อย่างเรา แต่ก่อนเวลาเห็นรถเมล์ที่เขาจะเข้าอู่หรือรถเสียหรือมีปัญหาอะไรเขาก็จะเขียนป้ายตามเหตุนั้นๆ ไม่เคยเจอแบบที่วิ่งไปครึ่งทางแล้วก็ตัดกันดื้อๆ หรือมีแต่เราไม่รู้ก็ไม่มั่นใจ
แต่ก็นั่นแหละค่ะ คือสงสัยว่าเรื่องพวกนี้ทาง ขสมก. เขารับรู้ไหมคะ หรือถ้ารู้ก็คิดว่าเขาควรจะใช้คำให้ชัดเจนกว่าคำว่าเสริมนะคะ ไม่รู้ว่าที่อื่นๆเป็นไหม แต่ยังไงก็มาแชร์กันให้ฟังนะคะเผื่อจะเจอคนที่มีปัญหาเดียวกันบ้าง
ป.ล. ไม่มั่นใจว่าแท็กห้องเหมาะสมหรือไม่ยังไงจะให้แก้ตรงไหนบอกได้นะคะ