ถูกต้องครับ คุณนบนอบ สังสารวัฎฎ์สามารถมองได้เป็นอย่างกว้าง และอย่างแคบ ไม่ว่าจะมองมุมไหน จะมองมุมใหม่ หรือมองมุมเก่าก็ไม่ผิดอะไรทั้งนั้นล่ะครับ
มันก็เหมือนคำถามของกระทู้หนึ่ง เร็ว ๆ นี้ ที่ถามว่า "ทำไมต้องมีทุกสิ่ง ทำไมต้องมีสิ่งนั้น ทำไมต้องมีสิ่งนี้..."
คำตอบของทุกคนก็ตอบตรงกันหมด...เพราะสิ่งนั้นมี-สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนั้นมี-สิ่งนี้จึงมี เพราะเหตุมันมี ผลมันจึงมี
ก็เมื่อคุณมองออกไป มองออกไป สังสารวัฎฎ์มันก็จะมีไปในทางหนึ่ง, เมื่อไหร่ที่ "หยุด" มุมมองนั้นเสีย เริ่มต้นมองไปอีกเหลี่ยมมุมหนึ่ง
...สังสารวัฎฎ์ในอีกทางหนึ่ง ก็จะมีขึ้นมา
เหตุ-ผล มันก็ชัดเจนอยู่ในตัวมันเองอยู่แล้ว ซึ่งผมว่า คุณนบนอบก็เข้าใจดี เป็นแต่แกล้ง ๆ ถามไปเท่านั้น
เมื่อมองสังสารวัฎฎ์ในมุมแคบเข้าใจแล้ว...ก็ปฏิบัติต่อไปจากตรงนั้น อย่านำเอามันกลับมาโต้เถียงกับผู้ที่ยังมองเห็นสังสารวัฎฎ์ในมุมกว้างอยู่
ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยครับ...
เปรียบเสมือนกับคนที่อยู่ในประเทศไทย เถียงกับคนที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา เรื่องพื้นที่ของประเทศ
คนไทยก็ว่า...ทำไมพื้นที่ประเทศของคุณจึงไม่เล็กอย่างของผม คุณต้องเล็กลงมาเท่าของผมนะถึงจะถูก
คนอเมริกันก็ว่า...ก็ทำไมคุณไม่ทำพื้นที่ประเทศของคุณให้ใหญ่เท่าผมล่ะ...ของผมมันต้องใหญ่ ๆ อย่างนี้ล่ะ ถูกแล้ว
สังสารวัฎฎ์นั้นไม่ได้หยุดด้วยกฎแห่งไตรลักษณ์หรอกครับ...ทำไมน่ะหรือครับ?
เพราะสังสารวัฎฎ์เป็นตัวกฎไตรลักษณ์ในตัวของมันเอง ซึ่งก็คือ อนตฺตา
อนตฺตา จะหยุดไม่ได้หรอกครับ เพราะถ้าหยุดได้ นั่นแสดงว่าต้องมีกฎซ้อนกฎ...กฎหนึ่ง ถูกอีกกฎหนึ่งทำลายลงไป...ซึ่งไม่เป็นจริง
เหมือนกันกับจิต ซึ่งจะไม่มีทางเกิดซ้อนกันกับจิตแน่ ๆ ครับ.
ป.ล.สรุปว่า...เข้าใจสังสารวัฎฎ์ตรงไหนดีแล้ว...ก็เริ่มต้นปฏิบัติไปจากตรงนั้นเถิดครับ...สำเร็จแน่...ผมขอเอาใจช่วย