สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้ขอความรู้ ให้คนโง่ๆคนนึงหน่อยค่ะ
เราเรียนจบ ป.ตรี ทางด้านเกษตร มาค่ะ (ไม่เคยมีความรู้ในด้านการตลาด หรือการทำธุรกิจใดๆเลย)
เรียนจบมาก็ไม่ได้ทำงานทำการอะไร ก็ไม่รู้จะทำอะไรดี นั่งๆนอนๆอยู่เกือบปี ก็มีญาติผู้ใหญ่ท่านนึง จะเซ้งกิจการต่อ
แม่เราเห็นเราว่างงาน เลยจะเซ้งให้เราทำต่อค่ะ เหตุผลที่เขาจะเลิกกิจการ เขาบอกว่า
จะให้ลูกเขาเปิดร้านขาย..( 1 ในปัจจัย 4 ของมนุษย์ค่ะ)
แม่ถามความคิดเห็นเรา เราตกลงค่ะ เลยตัดสินใจ
เซ้งด้วยเงิน หลักแสน
กิจการที่จะเซ้งต่อเป็น กิจการเกี่ยวกับ อุปกรณ์สาธารณูปโภค ค่ะ
ด้วยความที่โลกสวย ความไว้ใจ และความโง่ของเราเอง การเซ้งครั้งนี้ ไม่มีสัญญาใดๆทั้งสิ้นเลยค่ะ
จ่ายเงินไปลอยๆ แล้วเอาของเขามา แล้วเขาบอกว่า เขาจะสอนเรา เกี่ยวกับการไปซื้อของ
ไปรับของจากไหน สั่งของจากใคร และมีฐานลูกค้าเก่า(เขาเป็นร้านเก่าแก่ย่านนั้นค่ะ)
ร้านเขากับร้านเรา เป็นอาคารพาณิชย์เดียวกัน คูหาติดกันเลยค่ะ เพราะว่าตึกนี้เป็นสมบัติจากบรรพบุรุษค่ะ (ตึกไม่ต้องเช่า)
ตอนทำร้านแรกๆเหนื่อยมาก ต้องต่อชั้น ย้ายของเข้าร้าน งานไม่เคยทำ แต่ก็สู้ค่ะ
ญาติผู้ใหญ่ท่านนี้เขาก็เร่งเรานะคะ จะให้เสร็จไวๆ
จริงๆของที่เราได้มา ก็ไม่เยอะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นของเก่าๆ บางอย่างก็ใช้ไม่ได้แล้วต้องทิ้ง
แล้วก็ชั้นเหล็กรูมาประมาณ 3-4 ชั้น และตู้กระจกเก่าๆ แตกๆอีก 2 ตู้ (ยังพอใช้ได้)
แต่เราถือว่า เราซื้ออาชีพเขามา ไม่เป็นไร ยิ่งเป็นคนที่เคารพด้วย ไม่คิดมากค่ะ
ขายของ ก็ต้องใช้เงินหมุนไป เพราะว่า เงินก้อนที่ลงไปตอนนั้น มันไม่พอประทังสักเท่าไหร่
แม่เราให้แค่ก้อนเดียวแล้วจบค่ะ เราก็ค่อยๆหมุนไปเรื่อยๆ ค่อยๆเพิ่มของในร้านทีละนิดๆ
โชคดีหน่อยตรงที่ไม่ต้องเสียค่าเช่าตึก
ส่วนร้านญาติผู้ใหญ่พอได้เงินก็เอาไปทำร้านใหม่เพื่อเตรียมเปิดให้ลูกเขาค่ะ
ทำใหม่ ดูดี สะอาดเลยค่ะ มีตู้กระจกใหม่ๆสวยๆ ผิดกับร้านเราเลย
ซึ่งเขาบอกกับเราว่า ลูกเขายังไม่สะดวกที่จะเปิดร้าน...( 1 ในปัจจัย 4 ของมนุษย์) ติดปัญหาบางอย่างค่ะ
เขาเลยขายของอีกประเภทนึง ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยขายแล้ว แต่เป็นสินค้าที่เราไม่ได้เซ้งมา
เราก็โอเค ขายเป็นเพื่อนกัน จะได้มีเพื่อนคุยเวลาขายของ
แล้ว..ลางร้ายก็เริ่มปรากฎ
ยอดขายร้านเราเริ่มลดลงไปเรื่อยๆ ตอนแรกเราก็คิดว่า เพราะเศษฐกิจไม่ค่อยดี คนเลยไม่ค่อยซื้อของ
และแล้วความจริงปรากฎค่ะ ญาติผู้ใหญ่ท่านนั้น แอบเอาสินค้าประเภทเดียวกับเรามาขายค่ะ
โอ้โห้ !! เอาเงินก้อนเราไปทำร้านใหม่มาขายของแข่งกับเรา อุทานกับตัวเอง
ไอ้โง่เอ้ยยยย
เราเจอกับตัวเอง ถึงกับอึ้งเลยค่ะ เขาพยายามดึงลูกค้าที่เขาโอนมาให้เรากลับอย่างเงียบๆ และเนียนๆ
หน่วยงานราชการที่เคยซื้อสินค้าจากเรา ก็กลับไปซื้อที่เขา (เพราะแฟนเขาทำงานในหน่วยงานราชการ)
เจ็บใจมากค่ะ ด้วยความไร้เดียงสา (หรือไร้สมองไม่แน่ใจ) ของเราเอง
ตอนนี้ลูกค้าร้านเราน้อยมากค่ะ บางวัน รวมต้นทุนแล้วยอดขายได้แค่ 200-300 บาทไทย
เราควรที่จะเริ่มปรับปรุงร้าน หรืออะไร ยังไงดีคะ ที่จะพยายามดึงลูกค้ากลับมาร้านเรา
เงินก็ไม่ค่อยมี แต่จะฮึดสู้ หาเงินสักก้อนมาปรับปรุงร้านค่ะ
กระทู้นี้ขอคำแนะนำนะคะ คำด่าว่าติเตียน เราขอปฏิเสธนะคะ เรารับรู้ถึงความโง่เขลาของเราเองแล้วค่ะ
Edit :
เราทำร้านเกี่ยวกับ อุปกรณ์ไฟฟ้า ประปา ค่ะ
เปิดกิจการแบบโง่ๆ เลยจะเจ๊งแบบงงๆ ขอคำแนะนำ คำชี้แนะ และความรู้ด้วยค่ะ
เราเรียนจบ ป.ตรี ทางด้านเกษตร มาค่ะ (ไม่เคยมีความรู้ในด้านการตลาด หรือการทำธุรกิจใดๆเลย)
เรียนจบมาก็ไม่ได้ทำงานทำการอะไร ก็ไม่รู้จะทำอะไรดี นั่งๆนอนๆอยู่เกือบปี ก็มีญาติผู้ใหญ่ท่านนึง จะเซ้งกิจการต่อ
แม่เราเห็นเราว่างงาน เลยจะเซ้งให้เราทำต่อค่ะ เหตุผลที่เขาจะเลิกกิจการ เขาบอกว่า
จะให้ลูกเขาเปิดร้านขาย..( 1 ในปัจจัย 4 ของมนุษย์ค่ะ)
แม่ถามความคิดเห็นเรา เราตกลงค่ะ เลยตัดสินใจ เซ้งด้วยเงิน หลักแสน
กิจการที่จะเซ้งต่อเป็น กิจการเกี่ยวกับ อุปกรณ์สาธารณูปโภค ค่ะ
ด้วยความที่โลกสวย ความไว้ใจ และความโง่ของเราเอง การเซ้งครั้งนี้ ไม่มีสัญญาใดๆทั้งสิ้นเลยค่ะ
จ่ายเงินไปลอยๆ แล้วเอาของเขามา แล้วเขาบอกว่า เขาจะสอนเรา เกี่ยวกับการไปซื้อของ
ไปรับของจากไหน สั่งของจากใคร และมีฐานลูกค้าเก่า(เขาเป็นร้านเก่าแก่ย่านนั้นค่ะ)
ร้านเขากับร้านเรา เป็นอาคารพาณิชย์เดียวกัน คูหาติดกันเลยค่ะ เพราะว่าตึกนี้เป็นสมบัติจากบรรพบุรุษค่ะ (ตึกไม่ต้องเช่า)
ตอนทำร้านแรกๆเหนื่อยมาก ต้องต่อชั้น ย้ายของเข้าร้าน งานไม่เคยทำ แต่ก็สู้ค่ะ
ญาติผู้ใหญ่ท่านนี้เขาก็เร่งเรานะคะ จะให้เสร็จไวๆ
จริงๆของที่เราได้มา ก็ไม่เยอะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นของเก่าๆ บางอย่างก็ใช้ไม่ได้แล้วต้องทิ้ง
แล้วก็ชั้นเหล็กรูมาประมาณ 3-4 ชั้น และตู้กระจกเก่าๆ แตกๆอีก 2 ตู้ (ยังพอใช้ได้)
แต่เราถือว่า เราซื้ออาชีพเขามา ไม่เป็นไร ยิ่งเป็นคนที่เคารพด้วย ไม่คิดมากค่ะ
ขายของ ก็ต้องใช้เงินหมุนไป เพราะว่า เงินก้อนที่ลงไปตอนนั้น มันไม่พอประทังสักเท่าไหร่
แม่เราให้แค่ก้อนเดียวแล้วจบค่ะ เราก็ค่อยๆหมุนไปเรื่อยๆ ค่อยๆเพิ่มของในร้านทีละนิดๆ
โชคดีหน่อยตรงที่ไม่ต้องเสียค่าเช่าตึก
ส่วนร้านญาติผู้ใหญ่พอได้เงินก็เอาไปทำร้านใหม่เพื่อเตรียมเปิดให้ลูกเขาค่ะ
ทำใหม่ ดูดี สะอาดเลยค่ะ มีตู้กระจกใหม่ๆสวยๆ ผิดกับร้านเราเลย
ซึ่งเขาบอกกับเราว่า ลูกเขายังไม่สะดวกที่จะเปิดร้าน...( 1 ในปัจจัย 4 ของมนุษย์) ติดปัญหาบางอย่างค่ะ
เขาเลยขายของอีกประเภทนึง ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยขายแล้ว แต่เป็นสินค้าที่เราไม่ได้เซ้งมา
เราก็โอเค ขายเป็นเพื่อนกัน จะได้มีเพื่อนคุยเวลาขายของ
แล้ว..ลางร้ายก็เริ่มปรากฎ
ยอดขายร้านเราเริ่มลดลงไปเรื่อยๆ ตอนแรกเราก็คิดว่า เพราะเศษฐกิจไม่ค่อยดี คนเลยไม่ค่อยซื้อของ
และแล้วความจริงปรากฎค่ะ ญาติผู้ใหญ่ท่านนั้น แอบเอาสินค้าประเภทเดียวกับเรามาขายค่ะ
โอ้โห้ !! เอาเงินก้อนเราไปทำร้านใหม่มาขายของแข่งกับเรา อุทานกับตัวเอง
ไอ้โง่เอ้ยยยยเราเจอกับตัวเอง ถึงกับอึ้งเลยค่ะ เขาพยายามดึงลูกค้าที่เขาโอนมาให้เรากลับอย่างเงียบๆ และเนียนๆ
หน่วยงานราชการที่เคยซื้อสินค้าจากเรา ก็กลับไปซื้อที่เขา (เพราะแฟนเขาทำงานในหน่วยงานราชการ)
เจ็บใจมากค่ะ ด้วยความไร้เดียงสา (หรือไร้สมองไม่แน่ใจ) ของเราเอง
ตอนนี้ลูกค้าร้านเราน้อยมากค่ะ บางวัน รวมต้นทุนแล้วยอดขายได้แค่ 200-300 บาทไทย
เราควรที่จะเริ่มปรับปรุงร้าน หรืออะไร ยังไงดีคะ ที่จะพยายามดึงลูกค้ากลับมาร้านเรา
เงินก็ไม่ค่อยมี แต่จะฮึดสู้ หาเงินสักก้อนมาปรับปรุงร้านค่ะ
กระทู้นี้ขอคำแนะนำนะคะ คำด่าว่าติเตียน เราขอปฏิเสธนะคะ เรารับรู้ถึงความโง่เขลาของเราเองแล้วค่ะ
Edit :
เราทำร้านเกี่ยวกับ อุปกรณ์ไฟฟ้า ประปา ค่ะ