สวัสดีค่ะ เพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิก เลยว่าจะมาเล่าเรื่องส่วนตัว ซึ่งมันอัดอั้นมานาน
เริ่มจากดิฉันคบกับแฟน(สามี)มานานตั้งแต่มัธยมปลายจนจบปวส. พอจบจากปวส.ดิฉันก็ได้ทำงานเลย พอทำงานได้ยังไม่ถึงปี ก็ตั้งท้องกะแฟน ซึ่งแฟนก็รับผิดชอบค่ะ ก็ได้แต่งงานกัน จากนั้นเราก็ต้องย้ายไปอยู่บ้านแฟน ซึ่งบ้านแฟน จะมีแม่เค้า พี่ชาย พี่สะใภ้ ซึ่งก่อนหน้านี้เค้าดีกะเรามาก แต่พอไปอยู่จริงๆมันแย่มากเลยค่ะ แม่เค้าก็เหมือนจะว่าเราขี้เกียจอ่ะค่ะ งานบ้านเราก็ช่วยเค้านะคะ ไม่ใช่ไม่ทำเลย คือเรายังต้องทำงานเราอยู่ ใช้รถตัวเอง เงินตัวเอง แต่ก็ยังโดนเอาไปว่ากะพี่สะใภ้ และพี่สะใภ้เองก่อนหน้าดีกะเรามาก แต่เอาเข้าจริงมันไม่ใช่เลย ประมาณว่ากลัวเราจะแย่งอะไรจากเค้าหรือเปล่า เพราะคนในละแวกบ้านเค้าจะพูดว่าแม่แฟนรักแฟนเรามากกว่าพี่ชายเค้า ซึ่งเค้าก็เคยเอาไปพูดค่ะ จากที่คุยกันดีเค้ากับทำหน้าเหมือนไม่รู้จักอ่ะค่ะ ซึ่งเราเองอยู่ในบเานเดียวกันกับเค้า รู้สึกต้องหลบ ต้องซุกตัวอยู่แต่ในห้องค่ะ บางครั้งคนมาถามหาเรา เค้าก็พูดประชดประชันว่าเราทำอัำรไม่เป็นหรอก อยู่แต่ในห้อง ซึ่งเราก็ไม่สามารถทนต่อสิ่งที่เค้าว่าเราได้ จึงกลับมาอยู่บ้านตัวเอง กลับมาโดยที่บอกแฟนว่าจะมาอยู่บ้านเพราะไม่มีคนช่วยดูลูก จนคลอดลูก เราก็จ่ายค่าคลอดเอง เลี้ยงเอง พ่อแม่เราให้เงินใช้ค่ะ แฟนไม่เคยช่วยออกเลยค่ะ เค้าจะไปๆมา หาเราเกือบทุกวัน แบบมาค้างแล้วเช้ากลับ เพราะเค้าต้องไปช่วยงานที่บ้าน ส่วนเราพอลูกครบ 3 เดือนก็กลับไปทำงาน แต่ทำได้พักนึงก็ลาออกมาเลี้ยงลูก และด้วยการไม่คุม ดิฉันก็ตั้งท้องอีกค่ะ ลูกคนแรกก็ยังไม่โต ก็มีคนที่ 2 แฟนก็ไม่เคยส่งเสีย พ่อแม่เรา เลยให้เราไปพูดกะแฟนเราว่าลูก 2 แล้วต้องช่วยกันบ้าง คือที่บอกว่าแฟนทำงานที่บ้านเค้า เค้าทำแบบกงสีค่ะ ซึ่งเราถามคนอื่นต่างก็บอกเสียงเดียวกันว่า กงสีก็ต้องมีส่วนของตัวเองบ้าง เค้าเคยบอกว่าอยากให้เค้าดูแลต้องไปอยู่บ้านเค้า ซึ่งเราไม่รุ้ว่าเราจะอยู่ได้ไหม ทะเลาะกันตลอดเลยค่ะ จนมีครั้งนึงแม่เค้าก็ถามว่าจะเอายังไง ซึ่งเราก็เฉย ยอมรับเลยว่าเรารู้สึกเฉยๆกะแม่เค้าไปล่ะ แต่มันไม่เคยจะจบเลย แม้ว่าเราจะอยู่บ้านเราก็ยังโดนว่าจากคนบ้านแฟนเราอยู่เลยค่ะ ประมาณว่าเราอยากได้สมบัติ เงิน ทองของบ้านเค้า ซึ่งเราไม่เคยคิดเลยค่ะ ทะเลาะกันตลอดจนคลอดลูกคนที่2 ครั้งนี้แม่เค้าเป็นคนจ่ายค่าคลอดค่ะ อาจเป็นเพราะลูกคนที่ 2 เป็นผู้หญิง ซึ่งเค้าชอบเด็กผู้หญิง(คนโตผู้ชายค่ะ) แต่ก็ยังไม่จบเรื่องที่ต้องทำให้ทะเลาะค่ะ เพราะแฟนจะต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูค่ะ แต่เค้าก็เริ่มมีเงินแล้ว เค้าให้เราเดือนละ 10000 ค่ะ ซึ่งเวลาเค้าให้จะต้องบ่นทุกครั้งว่าเราใช้เปลือง คือเราต้องซื้อนมให้ลูกกินทั้งคู่ ค่าแพมเพิส ค่าของใช้อย่างอื่น จนบางทีเอามาทะเลาะกันค่ะ เรายังคงเลี้ยงลูกเองทั้ง 2 คนที่บ้านเราค่ะ นานๆจะไปบ้านเค้า เวลาไปบ้านเค้า เหมือนเราเป็นคนอื่นอ่ะค่ะ แต่ยังดีที่เค้ายังดีกะลูกเรา แต่แม่เค้าก็จะพูดอวดแต่หลานลูกของลูกชายคนโตเค้า เพราะเค้าเลี้ยงมา แต่เราก็เฉยๆค่ะ คิดแค่ว่า ไม่ชอบเรา เกลียดเรา อย่าเกลียดลูกเราเป็นพอ เรื่องนี้แม้มันจะผ่านมา 4 ปี แล้วแต่เราก็ไม่เคยจะลืม ปัจจุบันเรากะแฟน ไม่ได้อยู่ด้วยกัน จะมีวันที่เราจะได้อยู่ด้วยกันหรือเปล่าไม่รุ้ บางทีเรารุ้สึกดีเหมือนอิสระค่ะ ไปไหนก็ไปแต่กะลูก หรือไม่ก็เป็นพวกเพื่อนค่ะ แต่ลึกๆใครก็อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบค่ะ ส่วนแฟนเวลามาหาลูก มาค้าง เช้ากลับ บางทีเรามีความรู้สึกเหมือนเป็นเมียน้อยอ่ะค่ะ เคยคิดอยากจะเลิก แต่ก็ติดที่ลูก แฟนอ้างตลอดเรื่องลูก คือเราเคยทำงาน เคยไปไหนแบบสบายเราทิ้งทุกอย่างมาเพราะลูกค่ะ แต่เราก็ไม่ต้องการให้แฟนทิ้งทุกอย่างมาเพื่อเราอ่ะค่ะ เราก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกัน ว่าต้องการอะไร (อ่านแล้ว งงหน่อยค่ะ)
ปัญหาที่ไม่รู้จะว่าต้องการอะไร
เริ่มจากดิฉันคบกับแฟน(สามี)มานานตั้งแต่มัธยมปลายจนจบปวส. พอจบจากปวส.ดิฉันก็ได้ทำงานเลย พอทำงานได้ยังไม่ถึงปี ก็ตั้งท้องกะแฟน ซึ่งแฟนก็รับผิดชอบค่ะ ก็ได้แต่งงานกัน จากนั้นเราก็ต้องย้ายไปอยู่บ้านแฟน ซึ่งบ้านแฟน จะมีแม่เค้า พี่ชาย พี่สะใภ้ ซึ่งก่อนหน้านี้เค้าดีกะเรามาก แต่พอไปอยู่จริงๆมันแย่มากเลยค่ะ แม่เค้าก็เหมือนจะว่าเราขี้เกียจอ่ะค่ะ งานบ้านเราก็ช่วยเค้านะคะ ไม่ใช่ไม่ทำเลย คือเรายังต้องทำงานเราอยู่ ใช้รถตัวเอง เงินตัวเอง แต่ก็ยังโดนเอาไปว่ากะพี่สะใภ้ และพี่สะใภ้เองก่อนหน้าดีกะเรามาก แต่เอาเข้าจริงมันไม่ใช่เลย ประมาณว่ากลัวเราจะแย่งอะไรจากเค้าหรือเปล่า เพราะคนในละแวกบ้านเค้าจะพูดว่าแม่แฟนรักแฟนเรามากกว่าพี่ชายเค้า ซึ่งเค้าก็เคยเอาไปพูดค่ะ จากที่คุยกันดีเค้ากับทำหน้าเหมือนไม่รู้จักอ่ะค่ะ ซึ่งเราเองอยู่ในบเานเดียวกันกับเค้า รู้สึกต้องหลบ ต้องซุกตัวอยู่แต่ในห้องค่ะ บางครั้งคนมาถามหาเรา เค้าก็พูดประชดประชันว่าเราทำอัำรไม่เป็นหรอก อยู่แต่ในห้อง ซึ่งเราก็ไม่สามารถทนต่อสิ่งที่เค้าว่าเราได้ จึงกลับมาอยู่บ้านตัวเอง กลับมาโดยที่บอกแฟนว่าจะมาอยู่บ้านเพราะไม่มีคนช่วยดูลูก จนคลอดลูก เราก็จ่ายค่าคลอดเอง เลี้ยงเอง พ่อแม่เราให้เงินใช้ค่ะ แฟนไม่เคยช่วยออกเลยค่ะ เค้าจะไปๆมา หาเราเกือบทุกวัน แบบมาค้างแล้วเช้ากลับ เพราะเค้าต้องไปช่วยงานที่บ้าน ส่วนเราพอลูกครบ 3 เดือนก็กลับไปทำงาน แต่ทำได้พักนึงก็ลาออกมาเลี้ยงลูก และด้วยการไม่คุม ดิฉันก็ตั้งท้องอีกค่ะ ลูกคนแรกก็ยังไม่โต ก็มีคนที่ 2 แฟนก็ไม่เคยส่งเสีย พ่อแม่เรา เลยให้เราไปพูดกะแฟนเราว่าลูก 2 แล้วต้องช่วยกันบ้าง คือที่บอกว่าแฟนทำงานที่บ้านเค้า เค้าทำแบบกงสีค่ะ ซึ่งเราถามคนอื่นต่างก็บอกเสียงเดียวกันว่า กงสีก็ต้องมีส่วนของตัวเองบ้าง เค้าเคยบอกว่าอยากให้เค้าดูแลต้องไปอยู่บ้านเค้า ซึ่งเราไม่รุ้ว่าเราจะอยู่ได้ไหม ทะเลาะกันตลอดเลยค่ะ จนมีครั้งนึงแม่เค้าก็ถามว่าจะเอายังไง ซึ่งเราก็เฉย ยอมรับเลยว่าเรารู้สึกเฉยๆกะแม่เค้าไปล่ะ แต่มันไม่เคยจะจบเลย แม้ว่าเราจะอยู่บ้านเราก็ยังโดนว่าจากคนบ้านแฟนเราอยู่เลยค่ะ ประมาณว่าเราอยากได้สมบัติ เงิน ทองของบ้านเค้า ซึ่งเราไม่เคยคิดเลยค่ะ ทะเลาะกันตลอดจนคลอดลูกคนที่2 ครั้งนี้แม่เค้าเป็นคนจ่ายค่าคลอดค่ะ อาจเป็นเพราะลูกคนที่ 2 เป็นผู้หญิง ซึ่งเค้าชอบเด็กผู้หญิง(คนโตผู้ชายค่ะ) แต่ก็ยังไม่จบเรื่องที่ต้องทำให้ทะเลาะค่ะ เพราะแฟนจะต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูค่ะ แต่เค้าก็เริ่มมีเงินแล้ว เค้าให้เราเดือนละ 10000 ค่ะ ซึ่งเวลาเค้าให้จะต้องบ่นทุกครั้งว่าเราใช้เปลือง คือเราต้องซื้อนมให้ลูกกินทั้งคู่ ค่าแพมเพิส ค่าของใช้อย่างอื่น จนบางทีเอามาทะเลาะกันค่ะ เรายังคงเลี้ยงลูกเองทั้ง 2 คนที่บ้านเราค่ะ นานๆจะไปบ้านเค้า เวลาไปบ้านเค้า เหมือนเราเป็นคนอื่นอ่ะค่ะ แต่ยังดีที่เค้ายังดีกะลูกเรา แต่แม่เค้าก็จะพูดอวดแต่หลานลูกของลูกชายคนโตเค้า เพราะเค้าเลี้ยงมา แต่เราก็เฉยๆค่ะ คิดแค่ว่า ไม่ชอบเรา เกลียดเรา อย่าเกลียดลูกเราเป็นพอ เรื่องนี้แม้มันจะผ่านมา 4 ปี แล้วแต่เราก็ไม่เคยจะลืม ปัจจุบันเรากะแฟน ไม่ได้อยู่ด้วยกัน จะมีวันที่เราจะได้อยู่ด้วยกันหรือเปล่าไม่รุ้ บางทีเรารุ้สึกดีเหมือนอิสระค่ะ ไปไหนก็ไปแต่กะลูก หรือไม่ก็เป็นพวกเพื่อนค่ะ แต่ลึกๆใครก็อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบค่ะ ส่วนแฟนเวลามาหาลูก มาค้าง เช้ากลับ บางทีเรามีความรู้สึกเหมือนเป็นเมียน้อยอ่ะค่ะ เคยคิดอยากจะเลิก แต่ก็ติดที่ลูก แฟนอ้างตลอดเรื่องลูก คือเราเคยทำงาน เคยไปไหนแบบสบายเราทิ้งทุกอย่างมาเพราะลูกค่ะ แต่เราก็ไม่ต้องการให้แฟนทิ้งทุกอย่างมาเพื่อเราอ่ะค่ะ เราก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกัน ว่าต้องการอะไร (อ่านแล้ว งงหน่อยค่ะ)