ผมขอเล่าสั้นๆ นะครับ เอาแต่เนื้อๆ จากประสบการณ์จริงที่เพิ่งเจอมาวันนี้
เริ่มแรกคือผมซื้อดีลจาก ensogo ชื่อว่า HIFU Lifting
ถ้าใครได้ตามข่าวเลเซอร์ช่วงนี้จะรู้ได้เลยว่าตัวนี้เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเป็น Ultrasound ยกกระชับผิวหน้ากลุ่มเดียวกับพวก Ulthera, Thermage แต่ไม่เจ็บเวลาทำ
(คลิปนี้อธิบายว่า HIFU คืออะไร แต่ไม่ใช่ร้านเจ้าปัญหานะครับ คนละร้านกัน)
ราคาก็ไม่ต่างกับพวก Ulthera, Thermage ที่กล่าวไปคือ 40,000 - 50,000 บาทขึ้นไปนี่แหละ พอดีผมมาเจอดีลใน ensogo ในราคาสุดถูกแค่ 7,999 บาท (แถมได้ voucher ลดเพิ่มอีกต่างหาก)
แน่นอนผมก็จองทันที หาข้อมูลร้านในกูเกิลเสร็จสรรพปรากฎว่าร้านนี้แทบไม่มีใครรีวิวเลย ที่สำคัญคือดีลนี้มีผมซื้ออยู่คนเดียว
โอเคไม่เป็นไร เทคโนโลยีนี้อาจจะยังใหม่อยู่ คนเลยไม่ค่อยรู้จัก ผมนำร่องไปคนเดียวก็ได้
โทรนัดเสร็จสรรพวันรุ่งขึ้นผมก็มาเลยครับ ตรงดิ่งจากบางกะปิถึงม.กรุงเทพ รังสิต (ขับรถชั่วโมงกว่าๆ) ยอมมาไกลหน่อย คิดซะว่าทำครั้งเดียวแล้วได้ผลยาว
มาถึงก็ไม่มีใครเลยครับ (ทั้งร้านมีพนักงานคนเดียว ทำหน้าที่ทุกอย่างทั้งเค้าท์เตอร์ แคชเชียร์ ทำทรีทเมนต์ ฯลฯ ผมไม่เคยเจอคลีนิคที่ไหนมีพนักงานแค่คนเดียวแบบนี้) ลูกค้าก็มีผมคนเดียวเข้าพบหมอได้ทันที
ด้วยความที่ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี เจอหน้าหมอปุ๊ปผมก็ถามก่อนเลยว่า "HIFU นี้เป็น ultrasound ใช่มั้ยครับ"
คุณหมอบอก "ปล่าวค่ะ เป็นเทคโนโลยี RF ใช้คลื่นวิทยุ"
ผมก็ "อ้าว HIFU เป็น ultrasound นี่ครับ คุณหมอไม่รู้จักเหรอครับ"
หมอผู้หญิงก็อ้ำๆ อึ้งๆ ไป ผมเลยบอกหมอขอดูเครื่อง เดี๋ยวชี้ให้ดูอันไหน HIFU (ในใจคิดว่าหมอยังไม่รู้จักเครื่องแล้วจะทำให้ตรูได้ยังไงฟระ ในใจเริ่มตะหงิดๆ ละ)
ก็เดินไปดูปรากฎว่าไม่มีเครื่อง HIFU แม้แต่เครื่องเดียว (มีแต่เครื่อง RF, Carboxy อะไรไม่รู้เล็กๆ น้อยๆ อย่าว่าแต่ HIFU เลย Fine Scan, Co2, Fraxel อะไรพวกนี้ก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ)
ผมถามทันที "อ้าว ไม่มีเครื่องนี่ครับ แล้วจะทำได้ยังไงล่ะเนี่ย"
พนักงานก็เชิญผมออกมานั่ง เดี๋ยวเค้าจะติดต่อกับเจ้าของร้านเอง
แล้วเค้าก็ไปโทคุยกันอะงุบอะงิบอยู่หลังร้าน โดยที่ผมนั่งรออยู่หน้าร้าน พลิกแผ่นโบรชัวร์ พลิกตารางราคาดู ก้ไม่เห็นมีตรงไหนจะมีราคาของไอ้เจ้า HIFU นี่เลย เสมือนมันไม่มีตัวตนแต่แรกแล้วด้วยซ้ำ (แน่นอนแม้แต่ในเวบ, ในเฟซร้านก็ไม่มี ผมเช็คมาแล้ว)
ซักพักพนักงานก็เรียกผมไปคุยแล้วบอกว่า "ขอโทษด้วยค่ะ ตอนนี้เครื่องเสีย"
"เฮ้ย เสียได้ไงวะ" ผมคิดในใจ ก็เครื่องนี้แม้แต่พนักงานกับหมอยังไม่รู้จักเลย ในเวบไซต์ ในเฟซร้าน ก็ไม่เห็นเคยมีมาก่อน ถ้าจะบอกว่าเพิ่งสั่งมาใหม่แล้วมันจะเสียได้ยังไง แถมตะกี้พนักงานก็เพิ่งบอกเองว่าไม่มีเครื่องนี้ในร้านมาหยกๆ แล้วจู่ๆ ก็เปลี่ยนบทให้มันมีขึ้นมาแถมยังเสียแล้วด้วย
ผมก็ "อ้าว เสียแล้วทำไมถึงมาขายดีลล่ะครับ มันตลกรึเปล่าที่เก็บตังลูกค้าแล้วมาบอกว่าเครื่องเสีย"
เจ้าของร้านเลยบอกผ่านพนักงาน (อีกแล้ว) ว่า "ให้คุณลูกค้าไปจัดการขอเงินคืนจาก ensogo เอาเอง เดี๋ยวเค้าจะโทบอก ensogo ให้"
"เฮ้ย มันใช่เรื่องหรอวะ" (ผมคิดในใจ) คือ มันมักง่ายเกินไปมั้ยที่จัดการแก้ปัญหาด้วยวิธีการแบบนี้
ในใจผมคิดอยู่แล้วว่า
- ร้านนี้ไม่เคยมีเครื่อง HIFU ที่ว่านี้หรอก ดูจากหลักฐานต่างๆ ที่ประกอบกันมา แต่กลับบรรยายสรรพคุณใน ensogo แบบจัดเต็มจนผมเชื่อซะสนิทใจ ตามรูปนี้เลย
- เรื่อง ensogo ลงข้อมูลผิดก็ไม่น่าใช่ เพราะก่อนมาผมโทรถามร้านเป็นอย่างดีแล้วก็ได้รับการยืนยันว่าตัวที่จะทำนี่คือ HIFU จริงๆ (มารู้ทีหลังว่านี่คือเบอร์เจ้าของร้าน)
- แต่พอมาถึงกลับไม่มีใครรู้จัก HIFU ที่ว่านี้ซักคนแม้แต่หมอหรือพนักงานผู้ช่วย
- เรื่องเครื่องเสียก็ดูเป็นข้ออ้างที่ตลกเกินไป ที่จู่ๆ เครื่องจะมาเสียทั้งๆ ที่ดีลก็ยังเปิดขายอยู่ในเวบด้วยซ้ำ (ยังไม่หมดเขตซื้อ)
- คิดได้อย่างเดียวว่า "จุดประสงค์ทั้งหมดเพื่อหลอกลูกค้าที่ซื้อดีลทำ HIFU โดยการเนียนทำ RF ให้แทน" ซึ่งสองตัวนี้ราคาต่างกันเกินสิบเท่า
ผมไม่โทษพนักงานเพราะเค้าไม่รู้เรื่อง ถึงแม้เค้าจะไปแอบโทรคุยงุบงิบกับเจ้าของร้านเพื่อมาแต่งนิยายให้ผมฟัง เพราะเค้าก็แค่พนักงานที่ถูกสั่งการมาอีกที
ผมยังไม่โทษ ensogo เพราะทางนั้นก็ไม่รู้ว่าทางร้านจะเล่นตลกแบบนี้ (แต่ผมจะโทษแน่ๆ หาก ensogo ไม่คืนเงินผมเต็มจำนวน และปล่อยให้นี่เป็นอีกช่องทางนึงของพวกมิจฉาชีพในการหลอกลูกค้าที่ไม่ได้หาข้อมูล ensogo ควรจะมีมาตรการบางอย่างเพื่อจัดการกับร้านค้าประเภทนี้)
ผมรังเกียจทางร้านมาก เพราะตอนโทรคุยก่อนหน้านี้ รับโทรศัพท์เร็ว พูดจาดีทุกอย่าง แต่พอเกิดปัญหาขึ้น ไม่แม้แต่จะรับสายผม และแอบไปคุยกับพนักงานหลังร้านหลายครั้งเพื่อแต่งนิยายมาหลอกผม แถมยังไล่ให้ผมไปตามเรื่องขอเงินคืนจาก ensogo เอง
คำถามคือผมจะยอมให้ตัวเองสูญเงินไปเปล่าๆ มั้ย ไม่แน่นอน.. เพราะผมเก็บหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุไว้เผื่อในกรณีที่ ensogo เบี้ยวคืนเงินผมขึ้นมา (แต่ขออนุญาตยังไม่เปิดเผยว่าหลักฐานอะไร) ก็ลองดูว่าจะกล้าเบี้ยวมั้ย
ผมไม่ได้ตั้งกระทู้เพื่อจะประจานร้านโดยตรง แต่ตั้งใจจะมาเตือนให้เพื่อนๆ ฟังว่าร้านพวกนี้พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเอาตังค์จากลูกค้าโดยไม่เลือกวิธีการ (โดยเฉพาะร้านใกล้เจ๊งแบบนี้ ผมนั่งอยู่เกือบ 2 ชั่วโมง ไม่มีลูกค้าเข้ามาแม้แต่คนเดียว)
อยากฝากเตือนเพื่อนๆ 3 ข้อ
- หารีวิวร้านก่อนเป็นเรื่องสำคัญ ร้านไหนไม่มีคนรีวิวเลย เลี่ยงได้ก็เลี่ยงดีกว่า ไม่งั้นก็ต้องเสี่ยงดวง ถ้าดีก็ดีไป ถ้าซวยก็เป็นแบบผม
- ดีลใน ensogo ถ้าดีลไหนคนซื้อน้อยๆ ก็ต้องระวัง (เหมือนดีลนี้มีผมซื้อแค่คนเดียว ซวยคนเดียว)
- ดีลไหนถูกมากๆ พึงระวังให้จงหนัก สรรพคุณที่บรรยายในเวบเชื่อไม่ได้ เพราะถึงเวลาจริงๆ มันจะกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ พร้อมข้ออ้างสารพัด (ร้านดีๆ ก็มีเยอะครับ แต่ร้านถูกมากๆ แถมไม่มีคนรู้จักยิ่งต้องระวัง)
สุดท้ายนี้ถ้ามันจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ บ่าง อยากรบกวนให้เพื่อนๆ ช่วยกันโหวตกระทู้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ถึงวิธีหากินแบบใหม่ของคลีนิคเสริมความงามเหล่านี้ แล้วผมจะมาอัพเดตว่า ensogo ได้รับผิดชอบและมีมาตรการจัดการยังไงกับร้านพวกนี้บ้าง
ขอบพระคุณมากครับ
แฉวิธีหากินรูปแบบใหม่ของคลีนิคเสริมความงามใน ensogo
เริ่มแรกคือผมซื้อดีลจาก ensogo ชื่อว่า HIFU Lifting
ถ้าใครได้ตามข่าวเลเซอร์ช่วงนี้จะรู้ได้เลยว่าตัวนี้เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเป็น Ultrasound ยกกระชับผิวหน้ากลุ่มเดียวกับพวก Ulthera, Thermage แต่ไม่เจ็บเวลาทำ
(คลิปนี้อธิบายว่า HIFU คืออะไร แต่ไม่ใช่ร้านเจ้าปัญหานะครับ คนละร้านกัน)
ราคาก็ไม่ต่างกับพวก Ulthera, Thermage ที่กล่าวไปคือ 40,000 - 50,000 บาทขึ้นไปนี่แหละ พอดีผมมาเจอดีลใน ensogo ในราคาสุดถูกแค่ 7,999 บาท (แถมได้ voucher ลดเพิ่มอีกต่างหาก)
แน่นอนผมก็จองทันที หาข้อมูลร้านในกูเกิลเสร็จสรรพปรากฎว่าร้านนี้แทบไม่มีใครรีวิวเลย ที่สำคัญคือดีลนี้มีผมซื้ออยู่คนเดียว
โอเคไม่เป็นไร เทคโนโลยีนี้อาจจะยังใหม่อยู่ คนเลยไม่ค่อยรู้จัก ผมนำร่องไปคนเดียวก็ได้
โทรนัดเสร็จสรรพวันรุ่งขึ้นผมก็มาเลยครับ ตรงดิ่งจากบางกะปิถึงม.กรุงเทพ รังสิต (ขับรถชั่วโมงกว่าๆ) ยอมมาไกลหน่อย คิดซะว่าทำครั้งเดียวแล้วได้ผลยาว
มาถึงก็ไม่มีใครเลยครับ (ทั้งร้านมีพนักงานคนเดียว ทำหน้าที่ทุกอย่างทั้งเค้าท์เตอร์ แคชเชียร์ ทำทรีทเมนต์ ฯลฯ ผมไม่เคยเจอคลีนิคที่ไหนมีพนักงานแค่คนเดียวแบบนี้) ลูกค้าก็มีผมคนเดียวเข้าพบหมอได้ทันที
ด้วยความที่ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี เจอหน้าหมอปุ๊ปผมก็ถามก่อนเลยว่า "HIFU นี้เป็น ultrasound ใช่มั้ยครับ"
คุณหมอบอก "ปล่าวค่ะ เป็นเทคโนโลยี RF ใช้คลื่นวิทยุ"
ผมก็ "อ้าว HIFU เป็น ultrasound นี่ครับ คุณหมอไม่รู้จักเหรอครับ"
หมอผู้หญิงก็อ้ำๆ อึ้งๆ ไป ผมเลยบอกหมอขอดูเครื่อง เดี๋ยวชี้ให้ดูอันไหน HIFU (ในใจคิดว่าหมอยังไม่รู้จักเครื่องแล้วจะทำให้ตรูได้ยังไงฟระ ในใจเริ่มตะหงิดๆ ละ)
ก็เดินไปดูปรากฎว่าไม่มีเครื่อง HIFU แม้แต่เครื่องเดียว (มีแต่เครื่อง RF, Carboxy อะไรไม่รู้เล็กๆ น้อยๆ อย่าว่าแต่ HIFU เลย Fine Scan, Co2, Fraxel อะไรพวกนี้ก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ)
ผมถามทันที "อ้าว ไม่มีเครื่องนี่ครับ แล้วจะทำได้ยังไงล่ะเนี่ย"
พนักงานก็เชิญผมออกมานั่ง เดี๋ยวเค้าจะติดต่อกับเจ้าของร้านเอง
แล้วเค้าก็ไปโทคุยกันอะงุบอะงิบอยู่หลังร้าน โดยที่ผมนั่งรออยู่หน้าร้าน พลิกแผ่นโบรชัวร์ พลิกตารางราคาดู ก้ไม่เห็นมีตรงไหนจะมีราคาของไอ้เจ้า HIFU นี่เลย เสมือนมันไม่มีตัวตนแต่แรกแล้วด้วยซ้ำ (แน่นอนแม้แต่ในเวบ, ในเฟซร้านก็ไม่มี ผมเช็คมาแล้ว)
ซักพักพนักงานก็เรียกผมไปคุยแล้วบอกว่า "ขอโทษด้วยค่ะ ตอนนี้เครื่องเสีย"
"เฮ้ย เสียได้ไงวะ" ผมคิดในใจ ก็เครื่องนี้แม้แต่พนักงานกับหมอยังไม่รู้จักเลย ในเวบไซต์ ในเฟซร้าน ก็ไม่เห็นเคยมีมาก่อน ถ้าจะบอกว่าเพิ่งสั่งมาใหม่แล้วมันจะเสียได้ยังไง แถมตะกี้พนักงานก็เพิ่งบอกเองว่าไม่มีเครื่องนี้ในร้านมาหยกๆ แล้วจู่ๆ ก็เปลี่ยนบทให้มันมีขึ้นมาแถมยังเสียแล้วด้วย
ผมก็ "อ้าว เสียแล้วทำไมถึงมาขายดีลล่ะครับ มันตลกรึเปล่าที่เก็บตังลูกค้าแล้วมาบอกว่าเครื่องเสีย"
เจ้าของร้านเลยบอกผ่านพนักงาน (อีกแล้ว) ว่า "ให้คุณลูกค้าไปจัดการขอเงินคืนจาก ensogo เอาเอง เดี๋ยวเค้าจะโทบอก ensogo ให้"
"เฮ้ย มันใช่เรื่องหรอวะ" (ผมคิดในใจ) คือ มันมักง่ายเกินไปมั้ยที่จัดการแก้ปัญหาด้วยวิธีการแบบนี้
ในใจผมคิดอยู่แล้วว่า
- ร้านนี้ไม่เคยมีเครื่อง HIFU ที่ว่านี้หรอก ดูจากหลักฐานต่างๆ ที่ประกอบกันมา แต่กลับบรรยายสรรพคุณใน ensogo แบบจัดเต็มจนผมเชื่อซะสนิทใจ ตามรูปนี้เลย
- เรื่อง ensogo ลงข้อมูลผิดก็ไม่น่าใช่ เพราะก่อนมาผมโทรถามร้านเป็นอย่างดีแล้วก็ได้รับการยืนยันว่าตัวที่จะทำนี่คือ HIFU จริงๆ (มารู้ทีหลังว่านี่คือเบอร์เจ้าของร้าน)
- แต่พอมาถึงกลับไม่มีใครรู้จัก HIFU ที่ว่านี้ซักคนแม้แต่หมอหรือพนักงานผู้ช่วย
- เรื่องเครื่องเสียก็ดูเป็นข้ออ้างที่ตลกเกินไป ที่จู่ๆ เครื่องจะมาเสียทั้งๆ ที่ดีลก็ยังเปิดขายอยู่ในเวบด้วยซ้ำ (ยังไม่หมดเขตซื้อ)
- คิดได้อย่างเดียวว่า "จุดประสงค์ทั้งหมดเพื่อหลอกลูกค้าที่ซื้อดีลทำ HIFU โดยการเนียนทำ RF ให้แทน" ซึ่งสองตัวนี้ราคาต่างกันเกินสิบเท่า
ผมไม่โทษพนักงานเพราะเค้าไม่รู้เรื่อง ถึงแม้เค้าจะไปแอบโทรคุยงุบงิบกับเจ้าของร้านเพื่อมาแต่งนิยายให้ผมฟัง เพราะเค้าก็แค่พนักงานที่ถูกสั่งการมาอีกที
ผมยังไม่โทษ ensogo เพราะทางนั้นก็ไม่รู้ว่าทางร้านจะเล่นตลกแบบนี้ (แต่ผมจะโทษแน่ๆ หาก ensogo ไม่คืนเงินผมเต็มจำนวน และปล่อยให้นี่เป็นอีกช่องทางนึงของพวกมิจฉาชีพในการหลอกลูกค้าที่ไม่ได้หาข้อมูล ensogo ควรจะมีมาตรการบางอย่างเพื่อจัดการกับร้านค้าประเภทนี้)
ผมรังเกียจทางร้านมาก เพราะตอนโทรคุยก่อนหน้านี้ รับโทรศัพท์เร็ว พูดจาดีทุกอย่าง แต่พอเกิดปัญหาขึ้น ไม่แม้แต่จะรับสายผม และแอบไปคุยกับพนักงานหลังร้านหลายครั้งเพื่อแต่งนิยายมาหลอกผม แถมยังไล่ให้ผมไปตามเรื่องขอเงินคืนจาก ensogo เอง
คำถามคือผมจะยอมให้ตัวเองสูญเงินไปเปล่าๆ มั้ย ไม่แน่นอน.. เพราะผมเก็บหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุไว้เผื่อในกรณีที่ ensogo เบี้ยวคืนเงินผมขึ้นมา (แต่ขออนุญาตยังไม่เปิดเผยว่าหลักฐานอะไร) ก็ลองดูว่าจะกล้าเบี้ยวมั้ย
ผมไม่ได้ตั้งกระทู้เพื่อจะประจานร้านโดยตรง แต่ตั้งใจจะมาเตือนให้เพื่อนๆ ฟังว่าร้านพวกนี้พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเอาตังค์จากลูกค้าโดยไม่เลือกวิธีการ (โดยเฉพาะร้านใกล้เจ๊งแบบนี้ ผมนั่งอยู่เกือบ 2 ชั่วโมง ไม่มีลูกค้าเข้ามาแม้แต่คนเดียว)
อยากฝากเตือนเพื่อนๆ 3 ข้อ
- หารีวิวร้านก่อนเป็นเรื่องสำคัญ ร้านไหนไม่มีคนรีวิวเลย เลี่ยงได้ก็เลี่ยงดีกว่า ไม่งั้นก็ต้องเสี่ยงดวง ถ้าดีก็ดีไป ถ้าซวยก็เป็นแบบผม
- ดีลใน ensogo ถ้าดีลไหนคนซื้อน้อยๆ ก็ต้องระวัง (เหมือนดีลนี้มีผมซื้อแค่คนเดียว ซวยคนเดียว)
- ดีลไหนถูกมากๆ พึงระวังให้จงหนัก สรรพคุณที่บรรยายในเวบเชื่อไม่ได้ เพราะถึงเวลาจริงๆ มันจะกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ พร้อมข้ออ้างสารพัด (ร้านดีๆ ก็มีเยอะครับ แต่ร้านถูกมากๆ แถมไม่มีคนรู้จักยิ่งต้องระวัง)
สุดท้ายนี้ถ้ามันจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ บ่าง อยากรบกวนให้เพื่อนๆ ช่วยกันโหวตกระทู้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ถึงวิธีหากินแบบใหม่ของคลีนิคเสริมความงามเหล่านี้ แล้วผมจะมาอัพเดตว่า ensogo ได้รับผิดชอบและมีมาตรการจัดการยังไงกับร้านพวกนี้บ้าง
ขอบพระคุณมากครับ