เมื่อ 27 ก.ย.ที่ผ่านมาไปตรวจ MAMMOGRAM และ ULTRASOUND รพ.กรุงเทพคริสเตียน  ต้องเสียค่า ULTRASOUND ถึง 2 ครั้ง ดีนะไหวตัวทัน "ทำไมจะต้องจ่ายในเมื่อความผิดไม่ใช่ของเรา  ร.พ.เอาเปรียบ  เราก็พยายามชี้แจงเหตุผลแล้ว จนท.แก้ตัว  คงกลัวผิด เรื่องคือ เช้าไปที่แผนกเอ็กซเรย์  ให้ทำ 2 รายการข้างตน  ดิฉันก็ งง ระบบก็เขา  เขาก็คง งง ดิฉันกันอยู่เหมือนกัน   สุดท้ายได้คำแนะนำจากแผนกนี้  ให้ไปปรึกษาแผนกสูติ ชั้น 2  พยาบาลแผนกสูตินารีแนะนำว่า  คุณหมอที่ตรวจประจำมาช่วยบ่าย จองคิวที่ 2 ไว้เลย ULTRASOUND ไม่ต้องทำแผนกเอ็กซเรย์  มาทำช่วงบ่ายกับหมอประจำได้เลย  อ่านผลจะได้ชัดเจน  ตกลงกันจองคิวเลยตรงนั้น...หลังจากนั้นดิฉันลงมาแผนกเอ็กซเรย์ เพื่อ MAMMOGRAM อย่างเดียว  ระหว่างเตรียมตัวตรวจเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย เจ้าหน้าที่ในห้องเปลี่ยนเครื่องแต่างกาย แจ้งว่า ดิฉันทำ 2 อย่าง  ดิฉันได้ทักทวงว่า MAMMOGRAM อย่างเดี่ยว  เพราะได้นัดหมอประจำช่วงบ่ายจะทำ ULTRASOUND กับหมอโดยตรง  ได้รับคำปฏิเสธจาก จนท.ว่าไม่ได้ค่ะ  ไม่อย่างนั้นต้องมีลายเซ็นต์จากหมอว่า  หมอจะทำ ULTRASOUND เอง  จะเอาลายเซ็นต์จากหมอได้อย่างไร  ในเมื่อหมอจะเข้าบ่าย  สุดท้ายดิฉันก็ยอมให้เขาทำ  เขาแจ้งว่าผลส่งไปให้หมอช่วงบ่ายดูก็ได้....บ่ายดิฉันมาตามเวลานัด หมอแจ้งว่า ผนังมดลูกดูผิดปรกติ  ขอตรวจ ULTRASOUND อีกครั้ง  และดิฉันต้องจ่ายค่า ULTRASOUND อีกครั้ง  ดิฉันรู้สึก "ไม่เป็นธรรม" ทันที  ทำไมฉันต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกครั้ง  ในเมื่อความผิดไม่ได้เป็นของฉันเลย  เพียงคุณ จนท.ฟังลูกค้าบอก  และเช็คสอบกันภายใน 2 แผนกทุกอย่างเรียบร้อย...ดิฉันเป็นลูกค้า ไม่เข้าใจ  Process ของ รพ.กรุงเทพคริสเตียน  ใครจะไปรู้ เจ้าหน้าที่คุณควรแนะนำลูกค้าซิ  เมื่อลูกค้าทักทวงแล้ว....อธิบายถึง 3 ครั้งกับเจ้าหน้าที่  จนรู้สึกเหนื่อย  สรุปสุดท้ายดิฉันต้องยอมถอย  ไม่ ULTRASOUND ครั้งที่ 2  ไปตายเอาดาบหน้า  ไปใช้โรงพยาบาลอื่นก็ได้....(ถ้าฟังฉัน  ให้ฉันไปทำ ULTRASOUND กับคุณหมอช่วงบ่าย  ทุกอย่างก็ Happy ดิฉันเสียค่าใช้จ่ายครั้งเดียว  นี่คือการให้บริการลูกค้าประจำหรือ ?สุดท้าย  บ้าย บาย รพ.กรุงเทพคริสเตียน เสียที)