สาวเดนมาร์กคว้ามีดจ้วงใส่แม่ตัวเองดับ หลังชมวิดีโอกลุ่มไอเอส !!!!



(16 ก.ย.58) เว็บไซต์ซิดนีย์มอร์นิ่งเฮรัลด์รายงานว่า นางสาวลิซ่า บอร์ช ชาวเดนมาร์ก ก่อเหตุใช้มีดแทงนางทิน่า โรเมอร์ โฮลเทการ์ด แม่ของตนจนเสียชีวิต หลังชมวิดีโอฆ่าตัดศีรษะของกองกำลังรัฐอิสลามแห่งอิรักและซีเรีย (ไอเอส) ร่วมกับเพื่อนชายชาวมุสลิม

วัยรุ่นรายนี้ลงมือแทงแม่ของเธอขณะที่เธอหลับอยู่บนเตียงในบ้านพักที่ควิซเซลประเทศเดนมาร์ก โดยจ้วงแทงใส่ถึง 20 ครั้ง หลังจากใช้เวลาหลายชั่วโมงกับนายบัคตียอร์ โมฮัมหมัด อับดุลลา เพื่อนชายชาวอิรัก วัย 39 ปีที่เธอรู้จักจากค่ายลี้ภัยใกล้บ้าน ซึ่งทั้งสองร่วมกันดูวิดีโอนักรบกองกำลังไอเอสฆ่าตัดศีรษะนายเดวิด เฮนส์ เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ชาวอังกฤษ และนายอลัน เฮนนิ่ง โชเฟอร์แท็กซี่ชาวอังกฤษที่อาสาสมัครขับรถส่งของบรรเทาทุกข์

หลังก่อเหตุ หญิงรายนี้ได้โทรศัพท์แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เธอได้ยินเสียงแม่ของเธอกรีดร้อง และเธอมองไปยังกระจกเห็นชายผิวขาวคนหนึ่งกำลังวิ่งหนีพร้อมบรรยายว่าบริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยเลือด ก่อนร้องขอให้เจ้าหน้าที่มาที่บ้านพัก

เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง ผู้ก่อเหตุและเพื่อนชายต่างยืนรออย่างสงบ พร้อมเปิดวิดีโอบนโทรศัพท์ไอโฟนของเธอ ก่อนชี้ไปชั้นบนหลังเจ้าหน้าที่ถามว่าแม่ของเธออยู่ที่ไหน โดยไม่ได้กดหยุดวิดีโอที่เธอกำลังดูแต่อย่างใด จนเมื่อถึงชั้นพิจารณาคดี อัยการเผยต่อศาลว่านางสาวบอร์ชวางแผนที่จะเดินทางไปซีเรียเพื่อต่อสู้ร่วมกับกองกำลังไอเอสด้วย

ด้านนักวิเคราะห์ทางนิติเวชระบุว่า จากการตรวจสอบคอมพิวเตอร์ของเธอ พบว่ามีประวัติการชมวิดีโอฆ่าตัดศีรษะโดยฝีมือของญิฮาดจอห์น หรือนายโมฮัมหมัด เอ็มวาซี่ นักรบกองกำลังไอเอสสัญชาติอังกฤษด้วย

นอกจากนี้ ศาลยังได้รับรายงานว่า ผู้ก่อเหตุมีปากเสียงกับแม่ของเธออย่างต่อเนื่อง จากความหลงใหลกองกำลังไอเอสและความสัมพันธ์กับนายอับดุลลา โดยก่อนที่นางสาวบอร์ชจะก่อเหตุ น้องสาวฝาแฝดของนางสาวบอร์ชเผยว่า พี่สาวของเธอนำมีดที่เธอจะใช้ก่อเหตุมาโชว์ให้เธอดู แต่บ่ายเบี่ยงพร้อมบอกว่าเป็นการพูดเล่น

ขณะที่นางสาวบอร์ชให้การต่อศาลว่า นายอับดุลลาเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ แต่นายอับดุลลาอ้างว่าตนบริสุทธิ์และเดินทางถึงจุดเกิดเหตุหลังนางโฮลเทการ์ดเสียชีวิตแล้ว ซึ่งศาลตัดสินให้ทั้งคู่มีความผิด

ทั้งนี้ นายเจนส์ โฮลเทการ์ด พ่อเลี้ยงของนางสาวบอร์ชระบุว่า ลูกเลี้ยงของตนสนับสนุนกองกำลังไอเอสอย่างชัดเจนโดยเธอชอบพูดถึงกองกำลังดังกล่าวและการกระทำอันโหดร้ายในตะวันออกกลางพร้อมคาดว่าเธอรับความคิดสุดโต่งเช่นนี้จากนายอับดุลลา และเกรงว่าการลงโทษจำคุก 9 ปีนี้จะยิ่งทำให้เธอมีความคิดที่สุดโต่งมากขึ้น

Cr : มติชน ออนไลน์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่