สวัสดีคะ นี่เป็นการรีวิวเชิงท่องเที่ยวครั้งแรกของเรา เราจะมาแชร์ประการณ์ท่องเที่ยวแบบไม่ถึงพัน 1วัน 1คืน ที่เกาะลอย-เกาะสีชัง ค่ะ
เรากับแฟนออกเดินทางจากกรุงเทพด้วยรถมอเตอร์ไซค์ ต้องบอกก่อนเลยว่า บ้านเราอยู่ตะเข็บชายแดนของกรุงเทพ ติดกับจ.ฉะเชิงเทรา ดังนั้น การเดินทางของเราจะวิ่งเส้น ฉะเชิงเทรา-บางปะกง-ชลบุรี เลี่ยงเมืองมาผ่านบางแสน สุดท้ายจบที่ศรีราชา เติมน้ำมันไป 60 บาท เอาอยู่ตั้งแต่หนองจอก-ศรีราชา รวมระยะทาง 100 กิโล ใช้เวลา 2ชั่วโมงครึ่ง ถึงจุดหมาย

เราจะแจ้งรายละเอียดค่าใช้จ่ายไว้เลยนะค่ะ

เติมน้ำมันไป-กลับ 60 x 60 บาท                           รวม 120 บาท
ระหว่างทางแวะ 7-11 ตุนข้าว/ขนม/นม/เนย            ประมาณ 300 บาท
ค่าห้องพักห้องแอร์ (เกาะลอย)                             รวม  700 บาท
ค่าเรือข้ามไปเกาะสีชัง เที่ยวละ 50 บาท                ไป-กลับ 200 บาท  (2คน)
ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซค์ พร้อมเติมน้ำมันเต็มถัง          ราคา 250 บาท
อาหารกลางวัน (มาม่า) พร้อมน้ำ                           รวม 60 บาท
ไอติม 1 แท่ง                                                      10 บาท
อาหารเย็น                                                          ราคา 357 บาท

รวมเบ็ดเสร็จค่าใช้จ่ายทั้งหมด                         1,997 บาท (หารสอง ก็คนละเกือบๆพัน)

พอถึงที่ศรีราชาเราก็เริ่มมองหาที่พักก่อนเลยอันดับแรก โรงแรมที่เราเข้าพัก เป็นโรงแรมเก่าแก่ของศรีราชา ก่อตั้งมานานหลายปี ภายนอนหลอนมาก อย่างกะโรงแรมผีสิง ถ้าไม่ได้เข้าไปสัมผัสข้างใน บอกเลยว่าพลาดมาก โรงแรมตกแต่งสไตล์เรทโทรคลาสสิก แม้ว่าจะเก่าไปหน่อยแต่ก็มีเสน่ห์มากๆ หายากนะ ถ้าเทียบกับโรงแรมสมัยนี้ที่ถูกโมเดิร์นกลืนหายไปหมดแล้ว

เราได้เขียนรีวิวโรงแรมนี้ไว้เมื่อคืน สามารถเข้าไปเสพความคลาสสิกได้ที่ลิ้งค์นี้เลยค่ะ
http://ppantip.com/topic/34178839

พอมาถึงท่าเรือเกาะสีชัง เราจะเห็นศาลเจ้าแม่กวนอิมหยกขาวตั้งเด่นเป็นสง่า


เรามาซื้อตั๋วข้ามไปเกาะสีชังที่เกาะลอย ค่าตั๋วราคา 50 บาท



มาแล้ววววว !! เรือแสงประทีป ที่จะพาเราข้ามไปยังเกาะสีชัง


ระหว่างทาง เราจะเห็นเรือมากมายเลย แต่เรือนี้ เป๊ะ ปัง อลัง ตื่นตาตื่นใจ เรืออะไรหว่าาา ?


ใช้เวลาประมาณ 40 นาที เราก็เดินทางมาถึงเกาะสีชัง



ทำการเช่ารถ แล้วลุยเกาะสีชังกันเลยยยยยย Let's Go !! การจราจรติดขัดด้วยแฮ่ะ


สวัสดีเกาะสีชัง เช็คอินแป๊ปปปป
เริ่มต้นที่สะพานใหม่ เด็กอ้วนเจ้าถิ่นคนนึงบอกมา ตอนแว๊นมาจอดเทียบสะพานเพื่อถ่ายรูป



จากนั้นเราก็ขับรถมาตามแผนที่ จะเจอศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ - ศาลเจ้าแม่กวนอิม



เราชอบลิฟต์ขึ้นเขาของที่นี่มาก เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ ไม่เป็นไร เรายอมแก่ ลากสังขารไม่ไหว





พอมาถึงข้างบนเขา เราจะเห็นผู้คนมาสักการะบูชาศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ แม่กวนอิม เพื่อเป็นสิริมงคลตามความเชื่อ





วิวจากศาลเข้าพ่อเขาใหญ่



ขากลับเราลงบันได มองวิวทิวทัศน์รอบๆศาลเจ้า


สถานีต่อไป ยอดเขาพระจุลจอมเกล้า รอยพระพุทธบาท เขาชันมาก ขับขี่ก็ระมัดระวังกันด้วยนะค่ะ




มีทางเดินขึ้นมาด้วยนะ สำหรับคนที่ต้องการศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ป้ายบอกว่า 268 เมตร เเต่เขาชันมาก เรายอมใจ แว๊นขึ้นมาดีกว่า


ยอดพระจุลจอมเกล้า เป็นการเดินทางขึ้นสู่จุดชมทิวทัศน์ที่สวยที่สุดของเกาะสีชัง






อุ้ยยยย !!! มือลั่น


ปฏิมากรรมก้อนหิน เราไม่รู้ว่าเขามีความเชื่ออะไรกัน ถึงเอาก้อนหินมาเรียงต่อๆกันให้สูง คล้ายกับยอดพระจุลจอมเกล้า
เรามองเป็นศิลปะ เราว่าสวยงาม เราชอบ มีเยอะมาก ทุกมุมเลย ของยอดเขาพระจุลจอมเกล้า






พอขึ้นมาถึงจุดชมวิวยอดเขาพระจุลจอมเกล้า เราเห็นผู้คนมากมายมารอพระท่านทำพิธีลักษณะนี้ เราไม่รู้ว่าเขาทำอะไรกัน เพราะมีฝรั่งมารอทำพิธีหลายคน ขออภัยเราไม่ใช่พุทธศาสนิกชน แต่เราชอบศิลปะของโบสถ์ทุกวัดเลย


รอยพระพุทธบาทจำลอง ตั้งอยู่บนไหล่คยาศิระองค์นี้ “สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ” ได้ทรงอัญเชิญมาจากพุทธคยา ประเทศอินเดีย เป็นศิลาจำหลักรอยพระพุทธบาทเบื้องขวา สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ราวปี พ.ศ. 500



จุดชมวิว มองเห็นยอดพระจุลจอมเกล้าชัดเจน มองเห็นเกาะขามใหญ่ เกาะขามน้อย ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยงเชิงอนุรักษ์



ขุ่นพระ !!! มองเห็นถนนขาลงเขา ถึงกลับปราดเหงื่อ แล้วกำเบรกให้แน่นที่สุด



ถึงแล้วววววว แลนด์มาร์คแห่งเกาะสีชัง ไม่มาถือว่ามาไม่ถึง จริงๆนะ








โอเครจ๊ะ ไม่ยกกันนะ



นี่ก็ถือว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่เหมือนกัน เรือนไม้ริมทะเล เป็นอาคารไม้สีเขียว ด้านหน้าของเรือนไม้ริมทะเลจะอยู่ติดกับทะเลเลย สามารถมองเห็นวิวทะเลได้จากหน้าต่างด้านใน สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 ได้รับการบูรณะมาจนถึงปัจจุบัน





ภายในเรือนไม้ริมทะเล มีร้านขายของว่างจำหน่าย อาทิ มาม่าคัพ โจ๊กคัพ น้ำดื่ม น้ำหวาน น้ำอัดลม ยกเว้นกาแฟสด





นี่คือมื้อเที่ยงของเรา มาม่าคัพ รสต้มยำกุ้ง



ต่อไปเป็นเรือนวัฒนา อยู่ใกล้ๆกับเรือนไม้ริมทะเล ใช้จัดแสดงนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญ ในเกาะสีชังในสมัยรัชกาลที่ 5










รูปคู่สักหน่อย แฮร่


“ช่องเขาขาด” หรือ “ช่องอิสริยาภรณ์” มีลักษณะเป็นช่องเขาซึ่งแยกตัวออกจากกันเป็นร่องขนาดใหญ่ ในอดีตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เคยเสด็จฯ มาดูดาว ณ สถานที่แห่งนี้



สะพานวชิราวุธ ถ้าเราเดินข้ามจะเป็นแหลม สามารถตกปลาได้


ดับกระหายคลายร้อน ด้วยไอติมยักษ์คู่



แหลมจักรพงษ์ เขาร่ำลือว่าวิวสวยมากกกกก อากาศดีด้วย