สวัสดีค่าาาาาา

เราเชื่อว่าหลายๆคน
น่าจะคุ้นเคยกับตลาดน้ำอัมพวานะคะ
เพราะว่าเป็นตลาดน้ำที่ไม่ไกลจากกรุงเทพ
เดินทางสะดวก อาหารการกินอร่อย หลากหลาย
บรรยากาศดี และยังคงความย้อนยุค

แต่เชื่อว่าหลายๆคน
ไม่รู้ว่ายังมีมุมธรรมชาติอยู่ที่ตลาดด้วย
ภูมิใจนำเสนอที่นี่มากค่า

"อัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์"


เชื่อไหมล่ะค๊าา ว่าสวนมะพร้าว
บรรยากาศแบบนี้จะอยู่ในตลาดน้ำอัมพวาเลย
เราเองมาตลาดน้ำอัมพวาหลายครั้งอยู่เหมือนกันค่ะ
แต่ครั้งนี้ระหว่างที่เดินอยู่ริมคลอง ร้านค้าเรียงราย
แต่เหมือนมีอะไรดึงดูด ทำให้เราตัดสินใจเดินเลี้ยวซ้าย
แล้วเดินตรง เข้าไปเรื่อยๆ แล้วก็พบกับที่นี่

ทางเข้าที่นี่ให้สังเกตตรงนี้ค่ะ

เป็นห้องน้ำค่ะ สะอาด ฟรี ไม่มีค่าบริการ


หลังจากนั้น ก็หันหลังให้กับห้องน้ำ จะพบกับกังหัน
แล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ เลยค่า


ข้ามถนนเล็กๆ มาเลยค่าา


เราก็จะเจอร้านกาแฟ ร้านขายของฝาก
ทั้ง กาแฟ,เครื่องดื่มจากสมุนไพร,ครีม,ดอกเกลือ,เสื้อผ้า,สินค้าหัตถกรรม


โซนหน้าร้านค่า



บรรยากาศในร้านค่า


หลังพาย 4 อันนี้คือที่คิดเงินค่ะ


บรรยากาศรอบ ๆ ร้านค่า




ทิ้งตัวเลยค่าาาาา เอนตัวบนเตียงผ้าใบ
ชิวมากกกกกกกกกกกก




ตอนนี้เรากับเพื่อนเลยหามุมโดนใจได้แล้วค่ะ


พักกินน้ำกันหน่อยค๊าาา หอมชาเบาๆดีค่ะ หวานน้อย
ดับกระหายดีมาก 15 บาทเองค่า



พักหายเหนื่อยกันแล้ว
เราก็เดินเข้าไปในสวนกันเลยค่าาาาา



กริ๊ดดังๆในใจ นี่มันสวนของช้านนนนนนนนนี่
ไม่มีใครเข้ามาเลยค่า งานมโน 555+


ด้านในนี้เป็นสวนมะพร้าวค่ะ
และก็มีผลไม้ ผัก อีกหลายอย่าง
ทำเป็นร่อง และมีสะพานให้ข้ามไปข้ามมา
เรานี่วิ่งเข้าหาสวนเลยค๊าาาาา


นี่มันสวนในฝันเลยค่าาาาา


เดินเข้าไปเรื่อยๆ ได้เลยค่า หญ้าไม่รกค่ะ ทางปลอดภัย กว้างมาก


ไม่รู้ว่านี่คือบ้านใครหรือใช้ทำอะไร
แต่ด้านข้างมีของโบราณจัดโชว์อยู่


เสียดายนะคะ ไม่มีป้ายบอกว่าคืออะไรบ้าง


เก๊าเกิดไม่ทันอ่ะ เอิ้กๆ


เรือเก่า


มีมุมให้นั่งถ่ายรูปด้วยค่ะ








ตกแต่งน่ารักมากเลยค่ะ




เดินเพลินมากเลยค่ะ
แล้วถ้ามาช่วง 10 โมงถึงเที่ยง จะมีโชว์สาธิตวิธีทำน้ำตาลมะพร้าวด้วยนะคะ
(ขอข้อมูลกับทางโครงการอีกทีนะคะ)



เรามาถึงที่นี่ก็ 5 โมงเย็นแล้ว อดดูเลย


บังเอิญเจอคุณลุงจัดสถานที่อยู่ค่ะ
คุณลุงบอกว่า แกลอนนี้ใช้ไปรับน้ำตาลจากชาวบ้านค่า



ใกล้มื้อเย็นแล้ว ไปหาไรกินอร่อยๆที่ตลาดกันต่อออออ
ยังจำได้ไหมเอ่ยยยยยยย
ร้านสายไหมนี้อยู่ตรงทางออกจาก ชัยพัฒนานุรักษ์ค่ะ


เราหยอดไป 5 บาท ได้มา 1 อัน
เราบ่นใหญ่เลย 55+ เพราะถ้าไม่หยอด
คุณลุงขาย 3 อัน 10 บาท (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ)

คุณลุงเลยบอกว่า
"มันเป็นชะตา เค้ากำหนดมาให้เท่านี้"
หนูนี่ เง้อ ในใจเบาๆ






ขนมไทยแบบนี้ ถ้าหมดรุ่นคุณยายไป จะมีใครรับต่อไหมหนออ


คุณยาย กับ คุณป้า ขายของไปด้วย นั่งคุยกันไปด้วย
เห็นแล้ว รู้สึกอบอุ่นตามเลยค่า


อยากจะหยุดเวลาไว้จริงๆ


ขอ Hipster กับเค้าบ้าง


สัญลักษณ์ของอัมพวา "หิ่งห้อย"


คนเยอะค่า ระหว่างเดินแอบร้อนนิดนึง
ขอพักกินไอติมดับร้อนหน่อย อิอิ
สำหรับร้านนี้ เมนูไอติมจะสร้างสรรค์มากค่ะ
เช่น รสดอกบัวนม กระท้อนทรงเครื่อง มะม่วงน้ำปลาหวาน,คลุกบ๊วย อมยิ้ม และอีกมายมาย
แต่เราสั่งกล้วยหอมคาราเมลชีสค่ะ
ถ้วยละ 40 บาท
ร้านขนาดใหญ่ค่ะ หามุมเหมาะๆ เลือกที่นั่งกันได้เล้ย


อีกร้านค่ะ เป็นไอติมตัดแบบโบราณ
แต่ดัดแปลง ตัดเป็นก้อนเล็กๆ แล้วใส่ถ้วย 20 บาท
เพื่อสะดวกกับการกิน
แต่ถ้าใครอยากกินแบบแท่งก็มีให้เลือกนะคะ
มีทั้ง รวมมิตร ลอดช่อง ชาไทย ช็อกโกแลต บลาๆ


กำลังข้ามสะพานเพื่อเดินทางกลับค่ะ
บังเอิญมีพี่ผู้หญิงคนนึงยืนอยู่ เลยแอบถ่ายมาเลย อิอิ




ขอจบทริปด้วยภาพนี้ค่าาาาาาาาา

ถ้ามีโอกาสกลับไปตลาดน้ำอัมพวากันอีกสักครั้งนะคะ