เส้นทางหลบร้อน ปั่นในป่า เส้นทางที่ 9 สี่วันแสนประทับใจ กาญจนบุรี ปั่นเที่ยว บ้านอีต่อง (3-1/4)




บ้านอีต่อง ฝน 8 แดด 4 อากาศดีจนมีคำขวัญว่า นอนอีต่องหนึ่งคืน อายุยืนหลายปี

ทริป นี้ เราวางแผนมานอนอีต่อง 2 คืน อายุยืน หมื่นปี โอ้ โห โอเวอร์ไปหน่อย แต่ที่นี่ อากาศดี จริง ๆ ค่ะ ช่วงที่เรามาเที่ยวนี้ คือสิ้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นหน้า ร้อน แต่เมื่อคืน อากาศหนาว มาก มองเทอร์โมมิเตอร์ ในบ้าน วัดอุณหภูมิได้ 19 องศา ไม่ต้องเปิดพัดลม เลยค่ะ นอนซุกผ้าห่ม เพื่อหาไออุ่น ช่างมีความสุขจริง ๆ สำหรับค่ำคืนที่ผ่านมา บรรยากาศทำให้ นอนหลับสนิท ต่อเนื่อง จนรุ่งเช้า  เลยค่ะ
ภาพบรรยากาศ ยามเช้าของหมู่บ้าน สงบ สดชื่น ชอบจัง





วันนี้ เราวางแผนปั่นเที่ยวกันในหมู่บ้านอีต่องเป็นหลัก ซึ่งที่หมู่บ้านนี้เงียบมีความเป็นอยู่เรียบง่าย เงียบสงบ คงความเป็นธรรมชาติไว้สูงมาก ต่าง กับหมู่บ้านอื่น ๆ ที่เป็นจังหวัดท่องเที่ยว ถนนหนทาง ก็ ดี รถน้อย แถมยังมีสถานท่องเที่ยวสวย ๆ มากมายหลายที่
เราวางแผนปั่นกัน 3 จุดใหญ่ ใช้เวลาเที่ยว เต็มวัน โดยสถานที่ที่วางแผนปั่นไว้ ก็มี จุดชมวิวเนินช้างศึก เป็นที่แรก ตามด้วย น้ำตกจ๊อกกะถิ่น และเหมืองแร่สมศักดิ์เป็น ที่สุดท้าย ก่อนจบทริป ปั่นวันนี้
จุดชมวิวเนินช้างศึก  อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,053 เมตร เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ของฝั่งไทยและฝั่งพม่าที่ สามารถมองเห็นหมู่บ้านอีต่อง ด้านล่างได้อย่างชัดเจน รับแสงอรุณยามเช้า สัมผัสอากาศหนาว และทะเลหมอกใกล้ในช่วงทีทัศนวิสัยดีสามารถมองเห็นทะเลอันดามัน ฝั่งประเทศพม่าได้ แต่เราไม่เห็นอะไรเลยค่ะ หมอกลงจัดจริง ๆ
แผนการปั่น เราตั้งใจ เป็นอย่างยิ่งว่า ต้องขึ้นไปชมทะเลหมอกจามเช้าให้ได้ฉนั้นเรานึดกันตื่น   6 โมงเช้า เปลี่ยนเสื้อผ้า และ ทานแค่กาแฟ โอวัลติน ขนมนิดหน่อย แล้วรีบปั่น ขึ้นเนินช้างศึกแต่เช้า เลย แล้ว ค่อยลงมารับประทานอาหารเช้าตอนสาย  





เวลาเจ็ดโมงพอดีเป๊ะ เราก็เริ่มปั่นออกจากหมู่บ้านมุ่งหน้าสู่เนินช้างศึก ถนนมุ่งหน้าสู่เนินช้างศึก เป็นถนนที่ต้องปั่นขึ้นเนิน แต่ ก็สนุกดีค่ะ เด็ก ๆ ชอบกันใหญ่ เพราะอากาศดี บรรยากาศดี ปั่นทะลุหมอก สดชื่น อย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ บรรยากาศ เหนือคำบรรยาย




ถนน ดีตลอดทางเลยค่ะ ขนาด  เห็นป้ายจุดชมวิว เนินช้างศึก เลี้ยวเข้าไปเลยค่ะ  ถนน ก็ยังคงเป็นคอนกรีต อย่างดี แหม หมู่บ้านนี้ ดีจริง ๆ พอเลี้ยวเข้า ถนนเนินช้างศึก เราเริ่มเห็นหมอกลงหนาตาขึ้นแล้วค่ะ




เด็ก ๆ ตื่นเต้นกันใหญ่ที่ได้ปั่นฝ่าสายหมอก หยอกล้อกัน เล่นกันหน้าตาเบิกบานเป็นที่สุด ถนนเริ่มชันขึ้น มากแล้วบางคนเริ่มเข็นกันแล้วค่ะ เด็ก รุ่นเล็กยังพยายาม ต่อ ยังไม่ยอมเข็น





สวย ฝัน เลยค่ะ มาถึงจุดนี้เริ่ม เข้าใจแล้วว่า ทำไมถึง มีข้อความในบ้านพัก ว่า “ผู้มาเยือนคือเทวดา นางฟ้า” เพราะที่นี่ เหมือนเราเดินอยู่บนก้อนเมฆ ทั้งวัน ทั้งคืน ช่างน่าอิจฉา คนในหมู่บ้านนี้  มีชีวิตที่สงบสุข เรียบง่าย กับบรรยากาศธรรมชาติ ที่เต็มเปี่ยม จนล้น กับ โอโซนธรรมชาติที่มีมากมายล้นเหลือ ของคนที่นี่ ทำให้อด ถามตัวเองไม่ได้ ว่า เราดิ้นรน เพื่ออะไรที่มากมาย ไปทำไมกัน ดิ้นรนแล้วเรามีเหลือเท่าคนที่นี่ไหม (ที่ว่ามีเหลือคือเหลือความสุข)  แต่ก็ยังดี ที่บ้านเรา บ้านปานมณี  ได้รู้ว่า สิ่งที่เราชอบคืออะไร และเราก็มีโอกาศใช้เวลาที่เหลืออันน้อยนิดของเรากับสิ่งที่เราชอบ จากชีวิตที่วุ่นวายในเมือง สู่ บรรยากาศธรรมชาติ กับรถยนต์ ติดขัดในเมืองหลวง เรายังได้มาพักผ่อนปั่นจักรยาน เดินเที่ยว ด้วยสองเท้าที่ยังแข็งแรงของเราครอบครัวเราเลือกที่จะ ใช้เวลาเหล่านี้ กับสิ่งที่เราชอบ ครอบครัวเรา ชอบอะไรเหมือน ๆ กัน จึง ได้มีโอกาส ได้มีโอกาสใช้เวลาที่ว่างเว้นจากการงานหลัก มาทำในสิ่งที่ชอบ กับสถานที่ที่สามารถ เติมพลังความสุขให้กับครอบครัวเราได้ “ต้องขอบคุณคุณพ่อบ้าน ป๊าหนุ่ม ที่พาพวกเรามาเติมเต็มความสุขเหล่านี้ด้วยกัน”
เราปั่นจนเกือบถึงเนินสุดท้าย พักชมวิวกันสักหน่อย






พัก กันแป๊บเดียว ก็หายเหนื่อยค่ะ ทีนี่ อากาศชื้น ๆ เล็กน้อย ได้ สูด ลมลึก ๆ เข้าปอด ชอบจริง ๆ แต่เนินสุดท้ายนี้ขอบอกเลยว่า ก่อนปั่น ยืนเท้าสะเอวมองอยู่นาน จะปั่นยังไงเนี่ยะ ไหงถนนมันชันได้ปานนี้






ระหว่างที่มองทางปั่น ขึ้นไป ก็ได้ยินเสียงรถ ขึ้นมา 1 คัน เป็นรถกระบะ ติดไซเลนด้านบน คิดว่า เป็นรถเจ้าหน้าที่หรือไม่ก็รถสำรวจเส้นทาง พอผ่านโค้งด้านหน้าเราไป เค้าก็เร่งเครื่องเพื่อขึ้นเนิน แต่ปรากฏว่า ขับขึ้นไปไม่ได้ ขับขึ้นไปแล้ว ดับ ก็ปล่อยไหลลงมา แล้วก็ลองใหม่ ลอง 4 ถึง 5 รอบ ก็ยังไปไม่ได้ จน คนขับรถคันดังกล่าว ต้องปล่อยไหลยาว ไปตั้งลำส่งขึ้นมาใหม่ (ชันแค่ไหน คิดดูเอานะคะ)
กว่ากะบะจะผ่านพ้นไปได้ เราก็ลุ้น แย่เหมือนกัน ตอนนี้ ควันรถกับหมอก ตลบอบอวน ไปหมด เราต้องรอจนกลิ่นควันรถจาง ถึงจะปั่นขึ้นกัน เพราะ ว่า เราเองเนินนี้คงต้องใช้ อ๊อกซิเจนเยอะเป็นแน่
ครั้งแรก ลองปั่นขึ้น ล้อหน้ายก ตั้งแต่ยังไม่ผ่านครึ่งทางเลย ลองอยู่หลาย รอบ บางคนถอดใจเข็น แต่ แม่ปุ้ม ยังไม่ยอมแพ้ ยังลอง จนเกือบขึ้นได้ หมดแรงก่อน ลองต่อก็ไม่ไหว เข็น ก็เข็น สุดยอดเนินจริง ๆ ค่ะเนินนี้ มีป๊าหนุ่มคนเดียว ที่ควงขา ผ่านเนินนี้ไปได้ แต่ก็เล่นเหนื่อยแฮ๊ก ค่ะ





เนินเดียวหมดสภาพกันเป็นแถวค่ะ เข็น ยังยากเลย น้องป่านบอก








ดูท่าเข็นแต่ละคน สิคะ ดูท่าเดินสายป่าน สายป่านไม่เคยให้ใครเข็นรถให้ เพราะทุกครั้งจะบอกไม่เป็นไร หนูเข็นเอง รอบนี้ไม่ไหว ลุงปรีชาต้องช่วยเข็นรถให้ แค่เดินยังแย่เลยแม่ ถึงตรงเนิน นี้ นั่งหมดสภาพกันเป็นแถว 555




พักเหนื่อยกันสักพักใหญ่ พอให้มีแรงขาฟื้น หายใจไม่เหนื่อยหอบ เราก็ออกปั่นกันต่อค่ะ หมอก หนามากเลยตอนนี้ มองไกลๆ ไม่เห็นวิวแล้วค่ะ เห็นแต่หมอก ต้องปั่นกันด้วยความระมัดมะวัง





และแล้ว เราก็มาถึงเนิน ช้างศึก เล่นเอาแทบหมดแรง มาถึงตรงจุดลานจอด เฮลีคอปเตอร์ จัดท่ากันสักหน่อย ดูไม่ออกใช่ไหมคะ ว่าเราทำอะไร กัน เรากำลัง ทิ้งโค้ง ลาติดพื้นอยุ่ค่ะ ทำไป ก็ขำตัวเองไป แต่ก็เป็นภาพความทรงจำที่ดีระหว่างหมู่เพื่อนด้วยกันค่ะ






หมอกลงหนาจนมองไม่เห็นวิวเลยค่ะถ่ายรูปร่วมกันถ่ายกันเพื่อเก็บภาพบรรยากาศกันสักหน่อย สามาชิกใหม่ บางแก้วไบค์ เฮ้ย ลาบาดอไบค์ ใส่หมวกใส่แว่น โมโม่หล่อไหมครับ บนนี้ อากาศค่อนข้างน้อย โมโม่เหนื่อยหอบตลอดเวลาเห็นแล้วน่าสงสาร แต่ ก็ยังมีอารมณ์ วิ่งเล่นคึกครื้น ค่ะสนุกทั้งคน ทั้งหมา





ถ่ายรูปกันดีดี ฝนก็ตกลงมาซะอย่างงั้น แรงด้วย ตกแบบงง ๆ เพราะไม่เห็นมีเค้าว่าฝนจะตก วิ่งกันแตกกระเจิง พวกเราวิ่งเข้าไปหลบในป้อม ฐานทับช้างศึก แต่ขอบอกว่าคิดผิดค่ะ ในป้อมนี้ มันคงมีอากาศที่อุ่นกว่า ข้างนอก เลยเป็นจุดเรียกลม ลมผวนไปหมด ต้องนั่งลงหมอบ เอาตัวแนบข้างฝาก หนาวที่สุดในโลก โอ๊ย จะแข็งตายอยู่แล้วค่ะ พวกเราต้องนั่งกอดกัน เพื่อหาไออุ่นจากกันและกัน ยังโชคดีที่ฝนตกไม่นานมาก ไม่งั้นต้องแข็งตาย ในนี้แน่ ๆ ทั้งลม ทั้งเย็น ทั้งฝน




ทางลงชันมาก ไม่กล้าให้เด็ก ๆ ปั่นลง ลุงไก่ใจดีช่วยเข็นรถเด็ก ๆ ลงมาค่ะ และจากทางลงเนินช้างศึก ที่ฝนเพิ่งตกลงมา เลยทำให้ ไม่ต้องคิดหนักเลยคะ ว่า จะให้เด็ก ๆ ปั่นลงหรือเปล่า จากตอนขึ้น ยังคิดลังเลอยู่ว่า เด็กๆ จะปั่นลงได้ไหม เพราะทางชันมาก ตอนนี้ ฝนเพิ่งหยุด ถนนลื่นแน่นอน เพื่อความปลอดภัย เอาจักรยานใส่กระบะ ให้เด็กลงไปปั่นด้านล่างดีกว่า



ลงมาถนนด้านล่างแล้ว ตั้งขบวนกันใหม่ เป้าหมายต่อไปจุดชมวิว ไทยพม่าค่ะ เราต้องปั่นกลับไปที่ตลาดใหม่ เพื่อขึ้นจุดชมวิวไทยพม่า ออกเดินทางต่อเลยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่