▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
จักรยานเสือภูเขา
บันทึกนักเดินทาง
สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว
ทริปจักรยาน
จังหวัดกาญจนบุรี
เส้นทางหลบร้อน ปั่นในป่า เส้นทางที่ 9 สี่วันแสนประทับใจ กาญจนบุรี หมู่บ้านณัตเอ็งต่อง (2/4)
วันที่2 ของการเดินทางเป็นวันที่เริ่มต้นปั่นอย่างแท้จริง
วันนี้แผนการปั่นคือ ปั่นจากอุทยานย่อยบ้านไร่ ไปยังบ้านอีต่องระยะทาง 32 กิโล เป็นระยะทางไม่ไกลที่ค่อนข้างโหด อยู่สักหน่อย แต่บรรยากาศระหว่างทางปั่นโดนใจมาก ๆๆๆๆ อยากบอกว่า นักปั่น ที่ชอบปั่นเส้นทางเขา ต้องมาลองค่ะ สวย ปั่นสนุก
เราเริ่มออกเดินทางจาก อุทยานแห่งชาติเขาแหลม 8 โมงเช้า รถเคลื่อนขบวนกันมาเป็นคาราววาน สนุกสดชื่นกันแต่เช้าค่ะ
เราไปแวะที่ตลาดทองผาภูมิ เพื่อรับประทานอาหารเช้ากัน พร้อมกับซื้อของกินไปเติมพลังระหว่างทางด้วยเพราะรู้ว่า ระยะทาง 32 กิโลนั้น ไม่ธรรมดาค่ะ
พอเราถึงอุทยานย่อย บ้านไร่ นักปั่นสมัครเล่นอย่างเรา ตื่นเต้นไม่น้อย ที่จะได้ออกเริ่มปั่น ทั้งที่ในใจหวั่น ๆ จะไหวไหมน๊ะ พวกเราช่วยกันประกอบรถ เวลาตอนนี้ เกือบ 11 โมงแล้วค่ะ โดย วันนี้ มีแต่ผู้ใหญ่ ปั่น กัน เด็ก ๆ เราให้นั่งรถเซอร์วิสค่ะ แต่วันนี้ มีเด็กชายแซน ที่เริ่มเก่งขึ้นทุกวัน ทุกวัน จนผู้ใหญ่หลาย ๆ คนยกนิ้วให้เลยค่ะ เด็กชายแซน ขอปั่นเองไม่ขึ้นรถเซอร์วิส
เราเริ่มออกปั่นก็ 11 โมงน่าจะได้ เรา ประมาณการกันว่า 4 ชั่วโมงรวมพัก เราน่าจะปั่นขึ้นถึงตลาดบ้านอีต่อง เราประเมินกันว่า เราจะปั่นกันประมาณท10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ฉนั้น ประมาณ บ่าย 3 เราน่าจะถึงที่พักค่ะ
เริ่ม ต้นปั่นก็เจอป้ายนี้ค่ะ ที่เที่ยวระหว่างทางเยอะมาก วันนี้เราจะมาพิชิต 399 โค้งกัน ลุยเลย
เราเริ่มออกปั่นได้ไม่ถึงกิโล เราก็เจอเนิน ชันยาว ต้องค่อย ๆ ปั่น ควงขาไปเรื่อย ๆ รักษาระดับลมหายใจ ให้ดี ไม่งั้น เข็นแต่นอนค่ะ แต่
แต่เส้นทาง จากบ้านไร่ไปบ้านอีต่องสวยมากนะคะ ไม่ร้อนร่มรื่นตลอดทาง โดยเฉพาะ ขอบฟุตบาท เขียว ไปด้วย มอส ดูแล้วสดชื่นสบายตามาก ๆ จนอด จอดรถถ่ายรูปไม่ได้เลยค่ะ
ถึงแม้ถนนจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มีหลุมมีบ่อเป็นช่วง ๆ แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรค กับเสือภูเขาอย่างเราแต่อย่างใดเลยค่ะ ดีซะอีก พวกเรากลับเป็นชอบถนนแบบนี้ปั่นสนุกได้ใช้ประสิทธิภาพรถเต็มที่ รวมทั้ง รถใหญ่ เก๋งกระบะ เมื่อรู้ว่า ถนนไม่ค่อยดี ก็จะขับอย่างระมัดระวัง ไม่ใช้ความเร็วจนเกินไป ค่ะ (ปลอดภัยทั้งคนขับ และคนปั่น)
บรรยากาศระหว่างทางปั่น เป็นเนิน ขึ้น ๆ และก็ขึ้น ไปตลอดทางเลยค่ะ
โค้งแล้วโค้ง เล่า ก็ ยังเป็นทางขึ้น ไปเรื่อย ๆ เนิน ซึม บ้าง เนินชันบ้าง แต่อากาศสดชื่นดีมาก ๆ ค่ะนาน ๆ จะมีรถ ผ่านสักครั้ง ช่างเป็นสรรค์ของนักปั่นจริง ๆ เลยค่ะ อากาศ เย็นสบาย ทั้ง ๆ ที่เป็นหน้าร้อน แต่ติดที่ท้อง ฟ้า ออกจะครึ้ม ไปสักนิด ทำให้อดคิดไม่ได้ ว่า เราจะรอดจากฝนไหมนะ วันนี้
ป้ายบอกทาง บอกให้เรารู้ว่า เรามาได้ เกือบครึ่งทางแล้วอากาศสบาย ๆ แต่คนปั่น เริ่ม สนุก มันส์กับการควงขาไปเรื่อย ๆ เครื่องเริ่มร้อนแล้ค่ะ ปั่นได้เรื่อย ๆ ชิว ๆ ชมบรรยากาศข้าเทางไปเรื่อย ๆ
ตรงจุดนี้ เนินสุดท้าย เราเกือบจะถึงจุดชมวิวแรกแล้ว เราปั่นกันมาได้ เกือบ 2 ชั่วโมงแล้วค่ะ ตามคาด Average ประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
399 โค้ง สำหรับจักรยาน เรารู้สึกแต่ความสวยงามของถนน ค่ะ เพราะถนนเช่นนี้ ทำให้เรา เห็นวิว รอบ ๆ ตัวได้กว้างกว่า ถนนตรง ๆ เป็นอย่างมาก บอกได้แค่ว่า สวยค่ะ จริง ๆ แล้ว
เพื่อน ที่เห็นไกด์เราในทริปนี้บอกว่า ถนนเส้นนี้ปกติมีหมอกปกคลุมตลอดเวลา แต่วันนี้ อาจจะเพราะ อากาสเหมือนฝนจะตก เลยทำให้เราไม่เห็นหมอก อดเลย น่าเสียดายจัง แต่ความโชคร้าย ในความโชคดี ของวันที่เราไม่ได้เห็นหมอกตามที่คาดหวังไว้ ฟ้าใสอากาศโปร่ง ก็ทำให้เราได้เห็น วิว ทิวทัศน์สวยงาม สบายตา อย่างที่เห็นค่ะ
ภาพบรรยากาศก่อนถึงจุดชมวิวที่ 2 ถนน ชันจนเกือบถอดใจเข็น แต่อยากทดสอบตัวเอง ลอง ค่อยๆ ปั่น ไปเรื่อย ๆ ไม่ลงเข็น ก็สนุกไปอีกแบบ ค่ะ พอผ่านเนินมาได้ ก็หายเหนื่อย ค่ะ
และแล้ว เราก็มาถึงอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
ถ่ายคู่กับพี่เก๋ พี่สาวตัวเล็กน่ารักใจดีที่มาเห็นไกด์ให้เราในทริปนี้ค่ะ ขอบคุณนะคะพี่เก๋
เด็ก ๆ นั่งรถเซอร์วิสมาก่อน พร้อมกับโมโม่ หมาหนุ่ม ลาบาดอ หน้ารัก หน้ามีอารมณ์เดียว เดินเล่นรอแม่ปุ้มอย่างเพลิดเพลิน ค่ะ
เป็นไปตามคาด พอเราเริ่มจะออกเดินทางต่อ ฝนก็เริ่มโปรยปรายลงมาแล้วค่ะ ตอนนี้อากาศเริ่มเย็น ๆ แล้วด้วย เวลาประมาณบ่าย 3 เพลิดเพลินกับจุดชมวิวนานไปหน่อย เอาละสิ เอาไงดี แต่ป้ายบอกอีก 8 โล ถึง เอ้า ปั่นต่อดีกว่า ไม่อยากไปถึงเย็นจนเกินไปนัก
ฝนตก ไปเรื่อย ๆ ไม่ได้เป็นอุปสรรค ในการปั่น แต่อุปสรรค ที่แท้จริง คือ หนาว ค่ะ หนาว มาก ถึงมากที่สุด สักพัก เราก็เห็นสายหมอก ค่อย ๆ คลืบคลานออกมาจากหุบเขา สวยค่ะ ชอบ ๆๆๆๆ แต่ตั้งแต่ที่ฝนตก เราแทบไม่ได้ถ่ายรูปกันเลย เพราะทั้งหนาว ทั้งหมอก มือเย็น จน แทบ คลายออกไม่ได้เลย ภาพ สวย ๆ เลยอยู่แต่ในความทรงจำ ไม่สามารถนำมาแบ่งปันเพื่อน ๆ ได้เลยค่ะ เราบอกได้แต่เพียงว่า เส้นทางปั่นจาก อุทยานทองผาภูมิ เราผ่าน เนิน มากมาย จนถึง หมู่บ้านอีต่อง และเรายังต้องปั่นต่อไปยัง ตลาดอีกต่อง ซึ่งเป็นที่พักของเราในคืนนี้อีก ซึ่งเส้นทางนี้ หฤโหด มาก ค่ะ ระยะทางเพียงแค่ 3 โล เป็นทางขึ้น ตลอด ทาง ซึ่ง ปุ้มขอเรียก ถนนช่วงนี้ว่า ถนนแล้งน้ำใจ คง ไม่มีใครว่ากัน เนิน ยาว ๆๆๆๆ โหด สุด ๆ แต่ เราก็ผ่านมันมาได้ สนุก มัน หนาว เหนื่อย แต่ ปั่นผ่าหมอก ก็สดชื่น เหนือคำบรรยายค่ะ
ถึงแล้ว ถึงสักที น้องป่าน ดีใจ วิ่งออกมารับแม่ แต่อย่างแรกที่แม่ขอทำคือ ขอวิ่งเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำอุ่นเพื่อคลายความชาของมือก่อนนะคะ อาบน้ำอาบท่าเสร็จ ค่อยสบายตัว เราก็ออกมารับประทานอาหารเย็นกันที่ครัวเจ้ นี้ ใครก็ตามที่มาที่นี่ ขอแนะนำนะคะ เมนูที่พลาดไม่ได้ คือปูทะเลค่ะ ปูพม่า อร่อย สด ราคาไม่แพง ค่ะ
ร้านเจ๊ นี ทำอาหารอร่อยถูก ค่ะ
อิ่มอร่อย ก็มืดพอดี มาชมภาพบรรยากาศยามค่ำคืนบ้างนะคะ
บรรยากาส หมู่บ้าน ยามค่ำคืน เงียบสงบ วันนี้ เราปิดทริป กัน เข้านอนแต่หัววัน เหนื่อย แต่มีความสุขคะ มาถึงตรงนี้ เรามาทำความ รู้จักกับ หมู่บ้านอีต่อง กันสักนิด นะคะ หมู่บ้านอีต่อง จริง ๆ แล้ว เป็นทางผ่านและเป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวมีจุดมุ่งหมายพิชิตยอดช้างเผือก ซึ่งจุดเริ่มเดินเท้าอยู่ภายในหมู่บ้านอีต่อง นอกจากนี้ยังเป็นจุดแวะสำหรับการท่องเที่ยวไปยังเส้นทางต่างๆในตำบลปิล๊อก เช่น เนินช้างศึก น้ำตกจ๊อกกระดิ่น และอุทยานทองผาภูมิ ฤดูท่องเที่ยวที่คึกคักของหมู่บ้านก็คงไม่พ้นช่วงเดือน ต.ค. ที่เป็นช่วงที่เปิดให้พิชิตเขาช้างเผือกไปจนถึงฤดูหนาวที่อากาศแสนเย็นสบาย ช่วงเวลานี้ร้านค้าในหมู่บ้านเริ่มเปิดให้บริการกันอย่างคึกคัก ในช่วงฤดูฝนหมู่บ้านอีต่องก็น่ามาเที่ยวไม่แพ้ฤดูไหน ถึงแม้จะดูเงียบเหงาไปบ้าง แต่บรรยากาศก็เหมาะกับการมานอนเล่นพักผ่อน รอบหมู่บ้านจะถูกปกคลุมไปด้วยสายหมอกฝน และความเขียวขจีของภูเขาและต้นไม้ อากาศเย็นสบายมองไปทางไหนก็สดชื่น
หมู่บ้านอีต่อง มาจากคำว่า “หมู่บ้านณัตเอ็งต่อง” ซึ่ง “ณัต” แปลว่า เทพเจ้า หรือเทวดา “เอ็ง” แปลว่า บ้าน “ต่อง” แปลว่าภูเขา รวมกันแล้วจึงแปลได้ว่าเป็นหมู่บ้านที่อยู่บนเขาเทวดา ต่อมาได้เรียกเพี้ยนเสียงกลายเป็น “หมู่บ้านอีต่อง” มาจนถึงทุกวันนี้ บ้านแต่ละหลังสร้างแบบเรียบง่ายและยังคงรูปแบบเดิมในอดีตเป็นบ้านไม้หลังคาสังกะสีบ้าง มุงกระเบื้องบ้าง