จากมติชนออนไลน์
(10 ก.ย.58) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่หน้า สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี , พ.อ.ประกาศิต อรดี รอง ผบ.มทบ.24, พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี , พ.ต.ท.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ รอง ผกก.สส. พร้อมกำลังตำรวจ และทหาร ร่วมแถลงข่าวการจับกุมนายรุ่งทิวา ต้นพันธ์ ซึ่งเป็นสาวประเภทสองและอดีตหมอลำวงดัง (เฉลิมพล มาลาคำ) ในความผิดข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน ในสถานที่ราชการโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น และมีเครื่องกระสุนปืนไม่ได้รับอนุญาต
เจ้าหน้าที่เผยว่า นายรุ่งทิวาถูกควบคุมตัวได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ถ.มิตรภาพ ต.หนองขอนกว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมของกลาง อาทิ โทรศัพท์มือถือ 20 เครื่อง , เครื่องประดับ 70 รายการ , เครื่องกระสุนปืน 12 นัด , ปืนสั้น บีบีกัน ที่โจรกรรมมาจากบ้านพักในค่ายทหาร 4 แห่ง คือ ค่ายประจักษ์ศิลปาคม ทน.อุดรธานี , ค่ายยุทธศิลปสิทธิ์ ต.โนนสูง , ค่ายสำนักงานพัฒนา ภาค 2 ต.โนนสูง และบ้านพักค่าย ร.13 พัน 3 หนองสำโรง ทม.หนองสำโรง พร้อมรถยนต์เก๋ง โตโยต้า วีออส ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่ใช้เป็นยานพาหนะเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สิน ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
พล.ต.ต.ชัยญัติ กล่าวว่า นายรุ่งทิวา ผู้ต้องหารายนี้ เป็นหมอลำเล่นบทแม่ ในวงหมอลำชื่อดังของภาคอีสาน เมื่อปี 2552 ต้องโทษจำคุกรับของโจรเป็นเวลา 6 เดือน ขณะที่เมื่อปีก่อน วงดนตรีที่เล่นเกิดยุบวง ก็ได้ออกมาเปิดร้านเสริมสวยแต่ขาดทุน จึงหันมาลักทรัพย์สินตามบ้านเรือน โดยเน้นไปเฉพาะบ้านพักในค่ายทหาร โดยอ้างว่าในค่ายทหารมีความเข้มงวดเฉพาะทางเข้าออก บริเวณบ้านพักจะไม่ค่อยมีใครระมัดระวัง เมื่อได้ทรัพย์สินจะเอาไปขาย นำเงินไปเที่ยวเตร่ เลี้ยงผู้ชาย และเล่นพนันตามชายแดน
นายรุ่งทิวา ให้การว่า ได้ก่อเหตุมาแล้วมากกว่า 10 ครั้ง โดยทุกครั้งจะเข้าไปในค่ายอ้างไปพบญาติ แต่ความจริงไปดูลาดเลาพื้นที่ พอตกกลางคืนช่วงตี 2-ตี 4 ก็จะขับรถเก๋งมาจอดไว้ด้านนอกค่าย เดินด้วยเท้าหลบด่านตรวจไปยังจุดหมายใช้อุปกรณ์สะเดาะกุญแจประเภทลูกบิด หรืองัดประตูด้วยสิ่วกับประตูแบบอื่น เข้าทางประตูด้านหน้า หรือประตูหลังบ้านแล้วแต่ความสะดวก จะรื้อค้นเอาทรัพย์สินจนพอใจจึงออกมา ลัดเลาะออกจากค่ายทางเดิม ไปขับรถที่จอดไว้ออกไปพร้อมทรัพย์สิน โดยผู้ต้องหายอมรับผิด พร้อมกับได้แต่งกลอนลำเพื่อขับร้องขอโทษเหยื่อด้วย
นอกจากนี้ นายรุ่งทิวา ยังได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า ตนเคยไปร่ำเรียนวิชาทางไสยศาสตร์ที่กัมพูชา บริเวณข้ามไปทางช่องจอม และได้เอาคาถามาใช้ในการลักทรัพย์ด้วย คือการร่ายคาถาก่อนเข้าบ้านเจ้าทรัพย์ ให้เจ้าของหลับไม่รู้สึกตัว และก็ได้ผลทุกครั้ง ไม่เคยมีเจ้าของบ้านตื่นมาพบเลย
ทั้งนี้ นายรุ่งทิวาได้ร่ายกลอนลำขอโทษเจ้าของบ้าน ได้ใจความว่า “สาบานจะไม่ทำเช่นนี้อีก โดยจะชดใช้เจ้าของทรัพย์ทุกคน ความผิดครั้งนี้ขออภัยด้วย และเตือนไปถึงคนที่คิดจะทำผิด ให้เลิกล้มความตั้งใจซะ ”
รวบ"รุ่งทิวา"อดีตหมอลำดัง ร่ายคาถาเขมรก่อนงัดบ้านทหาร แฉรปภ.ในค่าย อ่อนมาก!
(10 ก.ย.58) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่หน้า สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี , พ.อ.ประกาศิต อรดี รอง ผบ.มทบ.24, พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี , พ.ต.ท.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ รอง ผกก.สส. พร้อมกำลังตำรวจ และทหาร ร่วมแถลงข่าวการจับกุมนายรุ่งทิวา ต้นพันธ์ ซึ่งเป็นสาวประเภทสองและอดีตหมอลำวงดัง (เฉลิมพล มาลาคำ) ในความผิดข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน ในสถานที่ราชการโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น และมีเครื่องกระสุนปืนไม่ได้รับอนุญาต
เจ้าหน้าที่เผยว่า นายรุ่งทิวาถูกควบคุมตัวได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ถ.มิตรภาพ ต.หนองขอนกว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมของกลาง อาทิ โทรศัพท์มือถือ 20 เครื่อง , เครื่องประดับ 70 รายการ , เครื่องกระสุนปืน 12 นัด , ปืนสั้น บีบีกัน ที่โจรกรรมมาจากบ้านพักในค่ายทหาร 4 แห่ง คือ ค่ายประจักษ์ศิลปาคม ทน.อุดรธานี , ค่ายยุทธศิลปสิทธิ์ ต.โนนสูง , ค่ายสำนักงานพัฒนา ภาค 2 ต.โนนสูง และบ้านพักค่าย ร.13 พัน 3 หนองสำโรง ทม.หนองสำโรง พร้อมรถยนต์เก๋ง โตโยต้า วีออส ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่ใช้เป็นยานพาหนะเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สิน ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
พล.ต.ต.ชัยญัติ กล่าวว่า นายรุ่งทิวา ผู้ต้องหารายนี้ เป็นหมอลำเล่นบทแม่ ในวงหมอลำชื่อดังของภาคอีสาน เมื่อปี 2552 ต้องโทษจำคุกรับของโจรเป็นเวลา 6 เดือน ขณะที่เมื่อปีก่อน วงดนตรีที่เล่นเกิดยุบวง ก็ได้ออกมาเปิดร้านเสริมสวยแต่ขาดทุน จึงหันมาลักทรัพย์สินตามบ้านเรือน โดยเน้นไปเฉพาะบ้านพักในค่ายทหาร โดยอ้างว่าในค่ายทหารมีความเข้มงวดเฉพาะทางเข้าออก บริเวณบ้านพักจะไม่ค่อยมีใครระมัดระวัง เมื่อได้ทรัพย์สินจะเอาไปขาย นำเงินไปเที่ยวเตร่ เลี้ยงผู้ชาย และเล่นพนันตามชายแดน
นายรุ่งทิวา ให้การว่า ได้ก่อเหตุมาแล้วมากกว่า 10 ครั้ง โดยทุกครั้งจะเข้าไปในค่ายอ้างไปพบญาติ แต่ความจริงไปดูลาดเลาพื้นที่ พอตกกลางคืนช่วงตี 2-ตี 4 ก็จะขับรถเก๋งมาจอดไว้ด้านนอกค่าย เดินด้วยเท้าหลบด่านตรวจไปยังจุดหมายใช้อุปกรณ์สะเดาะกุญแจประเภทลูกบิด หรืองัดประตูด้วยสิ่วกับประตูแบบอื่น เข้าทางประตูด้านหน้า หรือประตูหลังบ้านแล้วแต่ความสะดวก จะรื้อค้นเอาทรัพย์สินจนพอใจจึงออกมา ลัดเลาะออกจากค่ายทางเดิม ไปขับรถที่จอดไว้ออกไปพร้อมทรัพย์สิน โดยผู้ต้องหายอมรับผิด พร้อมกับได้แต่งกลอนลำเพื่อขับร้องขอโทษเหยื่อด้วย
นอกจากนี้ นายรุ่งทิวา ยังได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า ตนเคยไปร่ำเรียนวิชาทางไสยศาสตร์ที่กัมพูชา บริเวณข้ามไปทางช่องจอม และได้เอาคาถามาใช้ในการลักทรัพย์ด้วย คือการร่ายคาถาก่อนเข้าบ้านเจ้าทรัพย์ ให้เจ้าของหลับไม่รู้สึกตัว และก็ได้ผลทุกครั้ง ไม่เคยมีเจ้าของบ้านตื่นมาพบเลย
ทั้งนี้ นายรุ่งทิวาได้ร่ายกลอนลำขอโทษเจ้าของบ้าน ได้ใจความว่า “สาบานจะไม่ทำเช่นนี้อีก โดยจะชดใช้เจ้าของทรัพย์ทุกคน ความผิดครั้งนี้ขออภัยด้วย และเตือนไปถึงคนที่คิดจะทำผิด ให้เลิกล้มความตั้งใจซะ ”