..หลังจากที่ทำงานเหน็ดเหนื่อย วันนี้วันพุธ ซึ่งเป็นวันทำงานของใครหลายๆคน แต่มันคือวันหยุดของเรา 55+
เนื่องจากเราทำงานไม่เหมือนหน่วยงานหลายๆหน่วยงานที่ทำงานตามเวลาทำการ แต่เราทำงานตามตารางเวรในแต่ละเดือนที่เราได้รับ..
วันนี้พึ่งลงเวรดึกมา เอาละว๊าาา หยุดตั้ง1วัน (พิเศษมากๆสำหรับฉัน) ถ้าเรานอนนี่เสียดายเวลาแย่เลย.. ไปไหนดี ต้องหาที่ไปๆ
และแล้วความคิดนั้นก็ผุดขึ้นมาในหัวเราระหว่างอาบน้ำ "คิดออกแล้ววว ไปผาหมอกมิวายดีกว่า" เราเป็นคนชอบถ่ายรูป ชอบวิวสวยๆ ชอบอาหารอร่อยๆ ชอบพบปะผู้คนที่แปลกหน้า ฉะนั้นเราเลยไม่กลัวที่จะไปไหนมาไหนคนเดียว.. คนเดียว!!? ใช่แล้วว !! ทริปนี้เราไปคนเดียวฮ้ะ...
มันดูน่าตื่นเต้นมากสำหรับเรา เรารู้สึกตื่นเต้นและตื่นตาตื่นใจทุกครั้งที่ได้ไปเที่ยว ไปพบปะผู้คน..
** หลังจากมีแพลนอยู่ในหัวแล้วเราก็เก็บของเตรียมออกเดินทาง**
โดยเราอยู่อำเภอที่ติดกับอำเภอหนองพอก (อำเภอหนองพอกคือ แหล่งเที่ยวของเราในวันนี้ฮ้ะ^^)
อำเภอหนองพอกเป็นอำเภอเล็กๆที่อยู่ห่างจากตัวเมืองร้อยเอ็ดประมาณ 70 กิโล
เราจึงเริ่มขับรถไปตามจุดหมายแรกของเรา นั่นคือ..
เขื่อนวังนอง
เราใช้เวลาเดินทางไม่ถึง15นาที เราก็ขับรถมาถึงเขื่อนวังนองจ้า
สถานี้ต่อไป.. .
ผาหมอกมิวาย
...ระหว่างทางขึ้นผาหมอกมิวาย...
ถึงแล้วว..
นี่ถ้ามาหน้าหนาว วิวตรงนี้จะปกคลุมด้วยหมอก จะสวยมาก
ไปดูทางลงหน้าผากัน
แล้วก็มาต่อด้วยทางลงอีกชั้น
ช่วงนี้ฤดฝน พวกมอสเขียวๆขึ้นเต็มโขดหินเต็มไปหมดเลย (ลื่นด้วย)
พอลงไปอีกชั้นจะเจอทางเดินเข้าไปชมในป่าไม้แบบ ท่ามกลางป่าไม้ เย็นสบาย สงบมากก!!
อีกบริเวณจะเป็นลานสำหรับนั่งชมวิว(ถ้าหน้าหนาวจะสวยมากกกกกก!!)
มีชิงช้าด้วยนะ เป็นแลนด์มาร์กของที่นี่เลยแหลย^^
มีทั้งแบบเป็นคู่
และแบบเดี่ยวๆ สำหรับคนไม่มีคู่ก็ไม่ต้องน้อยใจไป 55+
แบบเดี่ยวของเราก็มีจ้าาาาา...
มีจุดบริการความสะดวกต่างๆให้เราด้วยนะ ทั้งห้องน้ำ จุดขายของกิน จุดกางเต้นท์ มีแบบบ้านพักด้วย
ตอนเรามามีนักท่องเที่ยวเพียงไม่กี่คนเท่านั้น มีแต่เรา กับกลุ่นคุณยายกลุ่มนึง พวกท่านๆเห็นเรามาคนเดียวพากันถามใหญ่เลย น่ารักมากกก :')
"ที่มาคนเดียวนี่ หนูไม่ได้อกหัก ไม่ได้ผิดหวัง ไม่ได้ไม่มีเพื่อนคบนะย๊ายยย.. เพียงแต่หนูชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว ชอบถ่ายรูป ชอบอะไรง่ายๆ สบายๆคนเดียวเท่านั้น" อันนี้คิดในใจ ไม่กล้าพูดหรอก 55+
เรานั่งพักจนหายเหนื่อยแล้ว จากนั้นไปต่อสถานีต่อไปกันเล๊ยยยย!!
ระหว่างทางลงเขามา เราเจอสวนลั่นทม เยอะแยะเต็มไปหมดเลย เขาเรียกมันว่าสวนวรรณคดี
พักผ่อนหย่อนใจ ไม่ต้องไปไหนให้ไกล ที่นี่หนองพอก ,ร้อยเอ็ด
เนื่องจากเราทำงานไม่เหมือนหน่วยงานหลายๆหน่วยงานที่ทำงานตามเวลาทำการ แต่เราทำงานตามตารางเวรในแต่ละเดือนที่เราได้รับ..
วันนี้พึ่งลงเวรดึกมา เอาละว๊าาา หยุดตั้ง1วัน (พิเศษมากๆสำหรับฉัน) ถ้าเรานอนนี่เสียดายเวลาแย่เลย.. ไปไหนดี ต้องหาที่ไปๆ
และแล้วความคิดนั้นก็ผุดขึ้นมาในหัวเราระหว่างอาบน้ำ "คิดออกแล้ววว ไปผาหมอกมิวายดีกว่า" เราเป็นคนชอบถ่ายรูป ชอบวิวสวยๆ ชอบอาหารอร่อยๆ ชอบพบปะผู้คนที่แปลกหน้า ฉะนั้นเราเลยไม่กลัวที่จะไปไหนมาไหนคนเดียว.. คนเดียว!!? ใช่แล้วว !! ทริปนี้เราไปคนเดียวฮ้ะ...
มันดูน่าตื่นเต้นมากสำหรับเรา เรารู้สึกตื่นเต้นและตื่นตาตื่นใจทุกครั้งที่ได้ไปเที่ยว ไปพบปะผู้คน..
** หลังจากมีแพลนอยู่ในหัวแล้วเราก็เก็บของเตรียมออกเดินทาง**
โดยเราอยู่อำเภอที่ติดกับอำเภอหนองพอก (อำเภอหนองพอกคือ แหล่งเที่ยวของเราในวันนี้ฮ้ะ^^)
อำเภอหนองพอกเป็นอำเภอเล็กๆที่อยู่ห่างจากตัวเมืองร้อยเอ็ดประมาณ 70 กิโล
เราจึงเริ่มขับรถไปตามจุดหมายแรกของเรา นั่นคือ..
เขื่อนวังนอง
เราใช้เวลาเดินทางไม่ถึง15นาที เราก็ขับรถมาถึงเขื่อนวังนองจ้า
สถานี้ต่อไป.. .
ผาหมอกมิวาย
...ระหว่างทางขึ้นผาหมอกมิวาย...
ถึงแล้วว..
นี่ถ้ามาหน้าหนาว วิวตรงนี้จะปกคลุมด้วยหมอก จะสวยมาก
ไปดูทางลงหน้าผากัน
แล้วก็มาต่อด้วยทางลงอีกชั้น
ช่วงนี้ฤดฝน พวกมอสเขียวๆขึ้นเต็มโขดหินเต็มไปหมดเลย (ลื่นด้วย)
พอลงไปอีกชั้นจะเจอทางเดินเข้าไปชมในป่าไม้แบบ ท่ามกลางป่าไม้ เย็นสบาย สงบมากก!!
อีกบริเวณจะเป็นลานสำหรับนั่งชมวิว(ถ้าหน้าหนาวจะสวยมากกกกกก!!)
มีชิงช้าด้วยนะ เป็นแลนด์มาร์กของที่นี่เลยแหลย^^
มีทั้งแบบเป็นคู่
และแบบเดี่ยวๆ สำหรับคนไม่มีคู่ก็ไม่ต้องน้อยใจไป 55+
แบบเดี่ยวของเราก็มีจ้าาาาา...
มีจุดบริการความสะดวกต่างๆให้เราด้วยนะ ทั้งห้องน้ำ จุดขายของกิน จุดกางเต้นท์ มีแบบบ้านพักด้วย
ตอนเรามามีนักท่องเที่ยวเพียงไม่กี่คนเท่านั้น มีแต่เรา กับกลุ่นคุณยายกลุ่มนึง พวกท่านๆเห็นเรามาคนเดียวพากันถามใหญ่เลย น่ารักมากกก :')
"ที่มาคนเดียวนี่ หนูไม่ได้อกหัก ไม่ได้ผิดหวัง ไม่ได้ไม่มีเพื่อนคบนะย๊ายยย.. เพียงแต่หนูชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว ชอบถ่ายรูป ชอบอะไรง่ายๆ สบายๆคนเดียวเท่านั้น" อันนี้คิดในใจ ไม่กล้าพูดหรอก 55+
เรานั่งพักจนหายเหนื่อยแล้ว จากนั้นไปต่อสถานีต่อไปกันเล๊ยยยย!!
ระหว่างทางลงเขามา เราเจอสวนลั่นทม เยอะแยะเต็มไปหมดเลย เขาเรียกมันว่าสวนวรรณคดี