แชร์ประสบการณ์ การเที่ยวคนเดียวครั้งแรกของลูกแหง่ติดบ้าน

เคยมั้ยคะ…อยากไปเที่ยวคนเดียว แต่ก็ได้แค่ฝัน ไม่กล้า ไม่เคยมีโอกาสได้ไปซะที
     ถ้าใครเข้าใจความรู้สึกแบบนี้…เราคือเพื่อนหัวอกเดียวกันค่ะ

    
       สวัสดีค่ะ คิดอยู่นานมากว่าจะเรียบเรียงกระทู้นี้ยังไงดี เอาเป็นว่ากระทู้นี้เราตั้งเพื่อแชร์ประสบการณ์ความกล้าที่เราก้าวจากกรอบ เชื่อว่ายังมีอีกหลายๆคน ที่กำลังคิดอยากจะทำโน่นทำนี่ แต่ก็ไม่กล้าออกจากกรอบของตัวเอง วันนี้เราอยากให้เรื่องราวของเรา เป็นแรงบันดาลใจให้คุณมีความกล้ามากขึ้น ลองทำตามใจตัวเองกันดูค่ะ
    
       เริ่มเลยละกัน ตัวเราเองตอนนี้อายุ 24 เป็นน้องสาวคนเล็กของที่บ้าน เราเป็นคนที่อยู่ในโอวาท ไม่เคยนอกลู่นอกทาง เป็นลูกสาวที่พ่อแม่ไม่เคยอนุญาตให้ไปไหนไกลๆได้เพียงลำพัง แม้แต่กลับบ้านดึกบางครั้งก็โดนโทรตามกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ บางทีเราก็คิดที่อยากไปโน่นไปนี่เหมือนคนอื่น แต่ก็ได้แค่คิดค่ะ เพราะรู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เลยเอาแต่อ่านกระทู้ที่คนโน้นคนนี้ไปเที่ยวมา แล้วจินตนาการเอาเองว่าถ้าเห็นด้วยตาจะสวยแค่ไหน?  

     หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วมาโพสทำไม? ไร้สาระ แต่ใครที่ไม่เป็นแบบเรา ไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกหรอกค่ะ ครั้งหนึ่งเคยลองดื้อกลับบ้านดึกแบบสี่ห้าทุ่ม แล้วโทรศัพท์แบตหมด ไม่ได้โทรบอก กลับมาบ้านแตกค่ะ เห้ยยยย คือใครไม่เป็นเราไม่มีวันเข้าใจจริงๆนะ ฮือออออ นั่นทำให้เราไม่ค่อยกล้าทำอะไรนอกกรอบอีกเลย

     จนวันนึงเราไม่เคยคิดมาก่อนเลยนิตยสารแจกฟรีจะมาช่วยเปลี่ยนชีวิตเรา...เราได้ความกล้ามาจากประโยคหนึ่งจากบทสัมภาษณ์ในหนังสือ a day bulletin ที่เป็นแรงบันดาลใจ และเป็นจุดเปลี่ยนทำให้เรากล้าที่จะออกจากความกลัวเรื่องบ้านแตกครั้งแรกค่ะ



     เราถ่ายเอามาให้ดูด้วยค่ะ...ลองไปหาอ่านกันนะคะ พอเราอ่านจบ เราก็นั่งคิดนี่มัน true story ชัดๆ ชีวิตเราเลยนิหว่า เราอยากจะเป็นแบบเขาคนนี้ ชายผู้มาจุดประกายให้กับเราด้วยประโยคสั้นๆว่า “การไปเที่ยวก็เหมือนการไปใช้ชีวิตทำอะไรใหม่ๆ มันนำมาซึ่งโลกที่กว้างขึ้นเสมอ คล้ายกับการได้อ่านหนังสือหลายๆเล่ม เจอคนใหม่ๆ สถานที่ใหม่ๆ ได้พักจากชีวิตปกติไปสนุกกับชีวิตอีกด้านให้มากขึ้น” ทำให้เราได้คิดตามว่าเราก็อยากจะเจออีกมุมหนึ่งของชีวิตเหมือนกัน ที่ไม่ใช่ความจำเจเที่ยวได้แต่ในโลกออนไลน์

และนั่นทำให้ทริปกระบี่กับการเดินทางครั้งแรกของเราเริ่มขึ้นค่ะ!!

    เราเลยตัดสินใจหาตั๋วเครื่องบินไปกระบี่โดยไม่รีรอ โชคดีที่เรามีเพื่อนสมัยเรียนอยู่ที่นั่นพอดีเราเลยให้เพื่อนช่วยจัดการเรื่องหาที่พักให้ โอเคตั๋วพร้อม! ที่พักพร้อม! ตอนนี้ไฟในใจมันพุ่งปรี๊ดดด อยากจะหลุดกรอบความจำเจตรงนี้เต็มที แต่เดี๋ยวนะ เรายังไม่ได้ขอที่บ้านเลยนิ T T…
ช่วงที่รอ ร๊อ รอ ก็กล้าๆกลัวๆว่าจะบอกที่บ้านยังไง คิดหลายตลบมาก เหมือนเด็กน้อยที่กำลังจะหนีเที่ยว จนวันที่เราจะไปเที่ยวมันใกล้มาถึงแล้ว วันนั้นแหละถึงเริ่มรวบรวมความกล้าตัดสินใจบอกพ่อกับแม่
    
     คุณคะ! ความรู้สึกตอนนั้นที่จะต้องรวบรวมความกล้าไปบอกพ่อกับแม่ว่าขอไปเที่ยวกระบี่ มันอธิบายยากมากกกกกก ยากยิ่งกว่าตอนสมัยเรียนที่ใช้เงินไม่พอแล้วต้องขอเพิ่ม เด็กน้อยในสายตาพ่อแม่ที่ไม่เคยได้ออกไปไหนเพียงลำพัง วันนี้ต้องกล้าที่จะขอเพื่อทำตามฝันของตัวเอง บทที่ซ้อมพูดกับกระจกมาหลายอาทิตย์ถึงเวลาต้องแสดงสดแล้วในอีกไม่กี่นาที บอกอ้างเหตุผลร้อยแปดพันเก้า จนที่บ้านใจอ่อนและเซย์ yes! ให้ไปได้ นาทีนั้นคือดีใจมาก ดีใจแบบน้ำตาไหลเลยค่ะ เราดีใจที่ที่บ้านยอม เราสัญญาว่าจะดูแลตัวเอง ไม่ทำให้เป็นห่วงจะไลน์หาจะโทรหาเรื่อยๆ ซึ่งพ่อกับแม่ก็โอเคค่ะ  

       ถึงวันเดินทาง ใครว่าพอได้ไปเที่ยวแล้วจะสบายใจค่ะ ตอนอยู่สนามบินเราวิตกต่างๆนานา กลัวไปไม่ถูกบ้างล่ะ กลัวทำนี่นั่นไม่เป็นบ้างล่ะ คือต้องไปเองคนเดียวก็แอบกังวลนิดๆ ดูไฟลท์เป็นสิบรอบ เหมือนคนโรคจิตไงไม่รู้ กล้าๆกลัวๆ ก็มันเป็นครั้งแรกของเรานิหน่า มีความรู้สึกที่ว่าไม่อยากไปแล้วแว๊บขึ้นมาในหัวบ้างบางที กลัวตั้งแต่เช็คอิน โหลดกระเป๋า จนขึ้นเครื่องรัดเข็มขัดเรียบร้อย มองดูคนรอบข้าง เห็นบางคนเขาก็มาคนเดียวเขาก็ยังกล้าไปเลย ทำไมเราจะไปคนเดียวบ้างไม่ได้ ความรู้สึกกลัวเริ่มหายไปกลายเป็นความตื่นเต้นซะงั้น ความรู้สึกแบบนี้ให้ฟิวเหมือนเราได้โตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว 55555  


เวลาขึ้นเครื่องคนเดียวเอาจริงๆโคตรเหงา แต่ดีที่นั่งแป๊ปเดียวก็ถึงแล้ว


     และแล้วในที่สุดเราก็มาถึงกระบี่โดยสวัสดิภาพค่ะ ฝันที่จะได้ออกมาเที่ยวคนเดียวครั้งแรกของเราก็เป็นจริง ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเราจะได้ทำอะไรแบบนี้เองคนเดียว การมาทะเลครั้งนี้มันรู้สึกเป็นอิสระมากๆ ได้เป็นตัวของตัวเองที่สุด อยากทำอะไรก็ทำ อยากเที่ยวไหนก็โบกรถไปเอง ได้ร่วมเดินทางกับคนแปลกหน้าที่พึ่งจะทำความรู้จักกันได้ไม่นาน ได้อารมณ์นักท่องเที่ยวจริงๆค่ะ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเราเองจะมีความกล้าเปลี่ยนตัวเองได้ขนาดนี้

     พอได้ทำแบบนี้แล้วทำให้เรามั่นใจในตัวเองมากขึ้น คิดวางแผนอยากไปไหนต่อไหนอีกมากมาย อย่างการมาเที่ยวกระบี่คนเดียวครั้งนี้ ทริปยังไม่ทันจบก็คิดถึงทริปต่อไปแล้ว ความจริงตอนที่เที่ยวก็แอบมีความกลัวอยู่เหมือนกันเพราะเรามาต่างถิ่นคนเดียวและยิ่งเป็นครั้งแรกด้วย เราก็ไม่รู้ว่าวัฒนธรรมของที่นี่เป็นยังไง แต่มันก็เป็นการผจญภัยครั้งแรก เป็นการเปิดโลกของเราให้กว้างขึ้นเหมือนที่ได้อ่านในหนังสือจริงๆ












    หลังจากที่ได้กลับมาถึงกรุงเทพแล้ว ก็ได้ดูรูปที่ถ่ายมาพร้อมเล่าเหตุการณ์ต่างๆให้คนที่บ้านฟัง ตอนดูรูปก็หัวเราะแล้วก็สนุกไปด้วยกัน คงมองว่าเราโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาบ้างแล้ว และดูเหมือนจะเปิดใจยอมรับสิ่งเหล่านี้มากขึ้น      

     สุดท้ายนี้หวังว่ากระทู้นี้ จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆคนที่ไม่กล้าออกจากกรอบของตัวเอง ไม่กล้าทำตามความคิดของตัวเอง ให้ลุกขึ้นมาทำมัน  เหมือนอย่างที่เรากล้าตัดสินใจทำในครั้งนี้ อย่าให้ตัวเราเองต้องมาเสียใจทีหลัง ว่าทำไมวันนั้นเราถึงไม่ตัดสินใจทำอย่างที่ตั้งใจไว้ แม้ผลลัพธ์มันจะออกมายังไง แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าเราไม่ทำอะไรเลย  

และนี่ก็เป็นประสบการณ์ความกล้าที่ออกไปท่องโลกด้วยตัวคนเดียวเป็นครั้งแรกของเรา
-สวัสดีค่ะ-
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่