เมื่อวานโชคดีได้บัตร 2 ใบมาดูฟรีจากการเล่นเกมส์กับเพจหนึ่งในเฟซบุค
ว่าแล้วก็ดิ่งไปเมเจอร์เอกมัย
ชมรอบ 2 ทุ่ม หนังยาวพอควรเพราะเข้าไปแล้วฉายเลยกว่าจะจบก็ 4 ทุ่ม 15
ขอแบ่งเป็นประเด็นเลยเพื่อความเข้าใจง่าย
1. นักแสดง:
บอกตรง ๆ ว่าเรื่องนี้รู้จักนักแสดงแค่ 3 คน จาพนม เยิ่นต๊ะหัว และกู่เทียนเล่อ นอกนั้นเคยเห็นหน้าบ้าง อย่างพระเอกของเรื่องที่เล่นคู่จามารู้อีกทีชื่อ "อู่จิง" เคยเห็นพี่แกในหนังหลายเรื่อง ไม่นึกว่าจะเก่งกังฟูกะเค้าขนาดนี้ ส่วนพ่อผู้การเรือนจำสุดหล่อโคตรเท่เก่งกังฟูนี่ไม่รู้ชื่อเลย แต่เตะต่อยโคตรมัน บทแกนี่โดดเด่นพอสมควร
นักแสดงขนมาเรียกว่าน่าจะเรียกแขกได้ สำหรับผมแค่จาพนมกะเยิ่นต๊ะหัวก็ทำให้หนังน่าดูขึ้นมาก ผมเป็นแฟนหนังฮ่องกงยุคเจ้าพ่อครองเมือง ไล่มาจนถึงยุคเซียนไพ่ จนถึงยุคคนเล็กใหญ่ฟัดโหดอะไรประมาณนั้น เห็นหน้าเฮียเยิ่นต๊ะหัวแล้วก็นึกถึงหนังจอห์นวู หนังยิง ๆ ไส้แตกอะไรแบบนั้น แบบว่าชอบเป็นการส่วนตัว
ส่วนนักแสดงอื่นก็เล่นดีตามบทบาทกันไป ไม่มากไม่น้อย แต่เสียดายบทกู่เทียนเล่อผมว่าไม่ค่อยเข้ากะแกเท่าไหร่ แต่คงเพราะแกเตะต่อยสู้ชาวบ้านเค้าไม่ได้ เลยรับบทเป็นมาเฟียขี้โรคแทนแล้วกัน
เอาไป 7/10
2. บทหนัง:
เปิดเรื่องมาดูดีมาก ซีเรียสขึงขัง ดูฉึบฉับดี พอมากลาง ๆ จนถึงตอนท้ายมันเริ่มงงๆ ผกก.แกจับทุกอย่างมาใส่ลงไปหมด เลยทำให้ไม่รู้ว่าจะโฟกัสไปที่ไหนดี
เรื่องบทนี่บอกเลยว่าไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ เอาเนื้อเรื่องง่าย ๆ บวกแอ๊กชั่นที่มีอยู่ ผมว่าได้หนังดีๆ มาเรื่องนึงเลยล่ะ
บทมํ๊ว มั่ว
จัดไป 5/10
3. แอ๊กชั่น:
บอกเลยว่าถ้าใครไปดูเรื่องนี้อย่าหวังอะไรนอกจากแอ๊กชั่นโคตรมัน บอกเลยนะครับว่าโคตรมันส์ หนังดูเหมือนย้อนกลับไปใช้รูปแบบการนำเสนอแบบหนังฮ่องกงสมัยก่อน ที่มีแก๊งมาเฟีย ไล่ล่ากัน แล้วมาจบด้วยฉากต่อสู้ปิดท้ายเรื่องแบบสุดอลังการ
ผมว่าฉากต่อสู้ของจาดูพัฒนาขึ้นมากกว่าในหนังไทยที่เค้าแสดง ดูมันต่อเนื่อง เร็ว ดิบ ดุดัน มีเหตุมีผล (แบบไม่ใช่ว่าต่อย ๆ เตะ ๆ แล้วมายื่นแอ๊กท่าอะไรทำนองนี้)
สรุปแล้วดูมันส์ สะใจ คนดูข้าง ๆ ยังร้องโอ้โหพร้อม ๆ กันหลายฉาก
คือผมไม่ได้ดูหนังแอคชั่นแบบหมัดลุ่นๆ มานาน มาดูเรื่องนี้แล้วอิ่มเลย
สุดมันส์ 9/10
4. จา พนม/ Tony Ja:
อันนี้ผมโฟกัสที่ตัวจาเลย สำหรับหนังเรื่องนี้เค้าดูมีพัฒนาการขึ้นมาก บทพูดเยอะขึ้น หลากหลายขึ้น แต่ยังมีบางฉากที่เหมือนท่องบทละครเวที โดยเฉพาะตอนพูดปลอบใจลูกสาวโดยเปรียบเทียบชีวิตกับเมล็ดพืช พี่จาจัดเต็ม พร้อมผายมือสู่พระอาทิตย์อันสว่างสดใส บอกตรง ๆ ว่าเฮียแกทำได้แข็งมาก 555
ส่วนงานแอ๊กชั่น ไม่ผิดหวังครับ จากับอู่จิง จัดเต็มกันทุกฉาก เตะต่อย ทุบ กระแทก เถื่อน ๆ ดิบ ๆ โหด ๆ จาเอามวยไทยมาผสมผสานในฉากได้กลมกลืนและโดดเด่นมาก ยิ่งฉากสุดท้ายที่ลุยกัน 2 ต่อ 1 กับผู้การเรือนจำสุดหล่อนี่บอกเลยว่ามันสาสสสสสส เสียแต่มันยาวไปนิดนึง ลุ้นตั้งนาน
ภาพรวมสำหรับตัวจาเองผมว่าเค้าทำได้ดีมาก ถ้าเปรียบกับเรื่องก่อน ๆ ที่เคยดูมา ดดยเฉพาะฉากแอ๊กชั่น ผมยังคิดเล่น ๆ เลยว่าถ้าองค์บากเอาฉากแอ๊กชั่นของเรื่องนี้มาผสมกันหน่อย มันจะเจ๋งมากเลยทีเดียว
สำหรับคุณ Tony 7/10
5. ภาพรวม:
มาไสตล์หนังแอ๊กชั่นฮ่องกงเต็มรูปแบบ บทไม่สนใจ ถึงจะเขียนให้มันซับซ้อนยังไงก็ไม่ค่อยเข้ากันอยู่ดี เน้นแอ๊กชั่นอย่างเดียวพอ นักแสดงจัดเต็มทำตามหน้าที่ได้ดี ทั้งคนไทย คนจีน หนังดูสนุก แอบงงนิด ๆ แต่ช่างเถอะ เราตั้งใจมาดูเค้าต่อยกัน
7/10
คะแนนรวม
35/50
ท่องไว้ อย่าไปสนใจ เรามาดูคนตีกัน
#ทุกข้อเขียนเป็นความคิดเห็นส่วนตัวครับ#
SPL 2 โหดซัดโหด 2 : เมื่อโทนี่จาไปโลดแล่นในหนังฮ่องกงกับบทงงๆ แต่แอคชั่นจัดเต็ม (สปอยล์)
เมื่อวานโชคดีได้บัตร 2 ใบมาดูฟรีจากการเล่นเกมส์กับเพจหนึ่งในเฟซบุค
ว่าแล้วก็ดิ่งไปเมเจอร์เอกมัย
ชมรอบ 2 ทุ่ม หนังยาวพอควรเพราะเข้าไปแล้วฉายเลยกว่าจะจบก็ 4 ทุ่ม 15
ขอแบ่งเป็นประเด็นเลยเพื่อความเข้าใจง่าย
1. นักแสดง:
บอกตรง ๆ ว่าเรื่องนี้รู้จักนักแสดงแค่ 3 คน จาพนม เยิ่นต๊ะหัว และกู่เทียนเล่อ นอกนั้นเคยเห็นหน้าบ้าง อย่างพระเอกของเรื่องที่เล่นคู่จามารู้อีกทีชื่อ "อู่จิง" เคยเห็นพี่แกในหนังหลายเรื่อง ไม่นึกว่าจะเก่งกังฟูกะเค้าขนาดนี้ ส่วนพ่อผู้การเรือนจำสุดหล่อโคตรเท่เก่งกังฟูนี่ไม่รู้ชื่อเลย แต่เตะต่อยโคตรมัน บทแกนี่โดดเด่นพอสมควร
นักแสดงขนมาเรียกว่าน่าจะเรียกแขกได้ สำหรับผมแค่จาพนมกะเยิ่นต๊ะหัวก็ทำให้หนังน่าดูขึ้นมาก ผมเป็นแฟนหนังฮ่องกงยุคเจ้าพ่อครองเมือง ไล่มาจนถึงยุคเซียนไพ่ จนถึงยุคคนเล็กใหญ่ฟัดโหดอะไรประมาณนั้น เห็นหน้าเฮียเยิ่นต๊ะหัวแล้วก็นึกถึงหนังจอห์นวู หนังยิง ๆ ไส้แตกอะไรแบบนั้น แบบว่าชอบเป็นการส่วนตัว
ส่วนนักแสดงอื่นก็เล่นดีตามบทบาทกันไป ไม่มากไม่น้อย แต่เสียดายบทกู่เทียนเล่อผมว่าไม่ค่อยเข้ากะแกเท่าไหร่ แต่คงเพราะแกเตะต่อยสู้ชาวบ้านเค้าไม่ได้ เลยรับบทเป็นมาเฟียขี้โรคแทนแล้วกัน
เอาไป 7/10
2. บทหนัง:
เปิดเรื่องมาดูดีมาก ซีเรียสขึงขัง ดูฉึบฉับดี พอมากลาง ๆ จนถึงตอนท้ายมันเริ่มงงๆ ผกก.แกจับทุกอย่างมาใส่ลงไปหมด เลยทำให้ไม่รู้ว่าจะโฟกัสไปที่ไหนดี
เรื่องบทนี่บอกเลยว่าไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ เอาเนื้อเรื่องง่าย ๆ บวกแอ๊กชั่นที่มีอยู่ ผมว่าได้หนังดีๆ มาเรื่องนึงเลยล่ะ
บทมํ๊ว มั่ว
จัดไป 5/10
3. แอ๊กชั่น:
บอกเลยว่าถ้าใครไปดูเรื่องนี้อย่าหวังอะไรนอกจากแอ๊กชั่นโคตรมัน บอกเลยนะครับว่าโคตรมันส์ หนังดูเหมือนย้อนกลับไปใช้รูปแบบการนำเสนอแบบหนังฮ่องกงสมัยก่อน ที่มีแก๊งมาเฟีย ไล่ล่ากัน แล้วมาจบด้วยฉากต่อสู้ปิดท้ายเรื่องแบบสุดอลังการ
ผมว่าฉากต่อสู้ของจาดูพัฒนาขึ้นมากกว่าในหนังไทยที่เค้าแสดง ดูมันต่อเนื่อง เร็ว ดิบ ดุดัน มีเหตุมีผล (แบบไม่ใช่ว่าต่อย ๆ เตะ ๆ แล้วมายื่นแอ๊กท่าอะไรทำนองนี้)
สรุปแล้วดูมันส์ สะใจ คนดูข้าง ๆ ยังร้องโอ้โหพร้อม ๆ กันหลายฉาก
คือผมไม่ได้ดูหนังแอคชั่นแบบหมัดลุ่นๆ มานาน มาดูเรื่องนี้แล้วอิ่มเลย
สุดมันส์ 9/10
4. จา พนม/ Tony Ja:
อันนี้ผมโฟกัสที่ตัวจาเลย สำหรับหนังเรื่องนี้เค้าดูมีพัฒนาการขึ้นมาก บทพูดเยอะขึ้น หลากหลายขึ้น แต่ยังมีบางฉากที่เหมือนท่องบทละครเวที โดยเฉพาะตอนพูดปลอบใจลูกสาวโดยเปรียบเทียบชีวิตกับเมล็ดพืช พี่จาจัดเต็ม พร้อมผายมือสู่พระอาทิตย์อันสว่างสดใส บอกตรง ๆ ว่าเฮียแกทำได้แข็งมาก 555
ส่วนงานแอ๊กชั่น ไม่ผิดหวังครับ จากับอู่จิง จัดเต็มกันทุกฉาก เตะต่อย ทุบ กระแทก เถื่อน ๆ ดิบ ๆ โหด ๆ จาเอามวยไทยมาผสมผสานในฉากได้กลมกลืนและโดดเด่นมาก ยิ่งฉากสุดท้ายที่ลุยกัน 2 ต่อ 1 กับผู้การเรือนจำสุดหล่อนี่บอกเลยว่ามันสาสสสสสส เสียแต่มันยาวไปนิดนึง ลุ้นตั้งนาน
ภาพรวมสำหรับตัวจาเองผมว่าเค้าทำได้ดีมาก ถ้าเปรียบกับเรื่องก่อน ๆ ที่เคยดูมา ดดยเฉพาะฉากแอ๊กชั่น ผมยังคิดเล่น ๆ เลยว่าถ้าองค์บากเอาฉากแอ๊กชั่นของเรื่องนี้มาผสมกันหน่อย มันจะเจ๋งมากเลยทีเดียว
สำหรับคุณ Tony 7/10
5. ภาพรวม:
มาไสตล์หนังแอ๊กชั่นฮ่องกงเต็มรูปแบบ บทไม่สนใจ ถึงจะเขียนให้มันซับซ้อนยังไงก็ไม่ค่อยเข้ากันอยู่ดี เน้นแอ๊กชั่นอย่างเดียวพอ นักแสดงจัดเต็มทำตามหน้าที่ได้ดี ทั้งคนไทย คนจีน หนังดูสนุก แอบงงนิด ๆ แต่ช่างเถอะ เราตั้งใจมาดูเค้าต่อยกัน
7/10
คะแนนรวม
35/50
ท่องไว้ อย่าไปสนใจ เรามาดูคนตีกัน
#ทุกข้อเขียนเป็นความคิดเห็นส่วนตัวครับ#