หลังจากเสร็จสิ้น โครงการ Aiesec ซึ่งเป็นภารกิจหลักในการมาเยือนยุโรปในครั้งนี้ เราก็มาต่อกันที่งานรองนั้นคือ การเที่ยวยุโรปเกือบ 1 เดือนนั้นเอง โดย จขกท จะเที่ยวคนเดียวตั้งแต่ Bergen, Norwayไปจนถึง Dresden , Germany หลังจากนั้น จขกท ก็จะเที่ยวกับพื้นไล่จาก Prague , Czech ไปสุดที่ Amsterdam , Holland  
ปล.เมื่อพร้อมแล้ว ก็ตามมาได้เลยครับผม

สำหรับใครที่พลาดอ่านกระทู้ตอนตอนอื่นๆไปก็ติดตามได้ผ่านลิ้งค์นี้เลยนะครับ :
ตอนที่ 1 : Overview -- http://ppantip.com/topic/34158754
ตอนที่ 2 : Aiesec -- http://ppantip.com/topic/34161587
ตอนที่ 4 : จาก Bergen สู่ Flam -- http://ppantip.com/topic/34163595
ตอนที่ 5 : จาก Flam สู่ Stockholm -- http://ppantip.com/topic/34165258
ตอนที่ 6 : จาก Stockholm สู่ Copenhagen -- http://ppantip.com/topic/34165570
ตอนที่ 7 : จาก Copenhagen สู่ Hamburg -- http://ppantip.com/topic/34166098
ตอนที่ 8 : จาก Hamburg สู่ Berlin -- http://ppantip.com/topic/34166782
ตอนที่ 9 : จาก Berlin สู่ Dresden -- http://ppantip.com/topic/34168521
ตอนที่ 10 : จาก Dresden สู่ Prague -- http://ppantip.com/topic/34169065
ตอนที่ 12 : จาก Munich สู่ Luzern -- http://ppantip.com/topic/34170042
ตอนที่ 13 : จาก Luzern สู่ Interalaken -- http://ppantip.com/topic/34172799
ตอนที่ 14 : จาก Interalaken สู่ Paris -- http://ppantip.com/topic/34173666
ตอนที่ 15 : จาก Paris สู่ Amsterdam -- http://ppantip.com/topic/34174824

---

Transportation
จขกท ออกจากสถานี Oslo S โดยนั่งรถไฟเที่ยว 12.02 ซึ่งแน่นอนว่าเรามีบัตร Eurail pass อยู่ในมือทำให้สามารถเบ่งได้ตลอดการเดินทาง   แต่!!ใช่ว่าการที่เรามีบัตร Eurail pass แล้วจะสามารถการันตีที่นั่งในรถไฟได้  ซึ่งนั้นก็เพราะว่าช่วงที่ จขกท เดินทางเป็นช่วง Summer ทำให้มีนักท่องเที่ยวแห่กันมาท่องเที่ยวในแถบนี้เป็นจำนวนมากและ Bergen ก็ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำหรับคนที่หลงใหลในทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองนี้  ในตอนแรก จขกท พยายามที่จะจองที่นั่งกับทางพนักงานของ NSB ที่สถานีรถไฟเนื่องจากระยะทางจาก Oslo S ไปยัง Bergen ถือว่าไกลพอสมควร (ใช้เวลาประมาณ 7 ชม) แต่ปรากฏว่าที่นั่งทั้งหมด Sold out ไปเรียบร้อย  (ค่าจองที่นั่งของรถไฟใน Norway จะอยู่ที่ 50NOK ต่อเที่ยว ซึ่งถือว่าแพงพอสมควร) ตอนนั้นต้องยอมรับว่าแอบรนนิดหนึ่งเพราะเที่ยวรถไฟที่มีที่นั่งเหลืออยู่ มีเพียงแค่ Overnight train ซึ่งเท่ากับว่า จขกท จะต้องเสียค่าที่พักฟรี 1 คืน  ดังนั้นด้วยความเสียดายเงินค่าที่พัก จขกท จึงเลือกวิธีสุดท้าย ซึ่งเป็นวิธีที่ประหยัดที่สุดสำหรับการเดินทางนั้นคือ การถือบัตรเบ่งไว้ในมือแล้วเดินขึ้นรถไฟไปดื้อๆเลย (เราอาจถามพนักงานบนรถไฟก่อนก็ได้ โดยบอกว่าเรามีบัตรเบ่งแต่จองที่นั่งไม่ทัน ขอไปรอบนี้ได้ไหม)  หลังจากขึ้นรถไฟได้สำเร็จ ก็ถึงช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนั้นคือ การนั่งในซอกหลืบระหว่างโบกี้รถไฟตลอด 7 ชม ซึ่งแน่นอนว่า จขกท จะต้องเผชิญกับทั้ง กลิ่นตลบอบอวนของห้องน้ำ , การทรงตัวไปกับการเปลี่ยนทิศทางของรถไฟและการขึ้น-ลงของผู้โดยสารคนอื่นๆ  แต่อย่างไรก็ตามทุกเรื่องร้ายๆ ก็อาจจะมีเรื่องดีๆซ่อนอยู่  เมื่อพนักงานตรวจตัวผู้แสนใจดี เปรียบดั่งพระเจ้ามาโปรดได้เดินเข้ามาหา จขกท และพยายามให้ความช่วยเหลือโดยการชี้เป้าที่นั่งที่ว่างอยู่ในแต่ละโบกี้  แต่ก็อย่าลืมว่าถ้าเจ้าของที่นั่งตัวจริงขึ้นรถไฟมา เราก็ต้องลุกให้เขาและหาที่ใหม่แทน  ซึ่งในครั้งแรกๆ จขกท ก็พยายามลากกระเป๋าไปมาระหว่างโบกี้ตามที่เจ้าหน้าที่ตัวบัตรบอกมา แต่ด้วยสัมภาระที่เยอะและใหญ่เกินไป (ที่ว่างกระเป๋าเต็มหมด ) ทำให้ จขกท ล้มเลิกเป้าหมายการนั่งรถไฟแบบเก้าอี้ดนตรีและกลับไปนั่งที่เดิมที่เราคุ้นเคย

Tips :
1.ในกรณีที่รถไฟเต็ม คนที่ถือตั๋ว Eurail card สามารถประหยัด คชจ ได้โดยการขึ้นรถไฟไปเลย โดยไม่ต้องเสียค่าจองที่นั่ง (พยายามขึ้นเป็นคนแรกๆ แล้วนำสัมภาระโดยเฉพาะกระเป๋าลากไปว่างก่อนที่ที่เก็บกระเป๋าจะเต็ม จากนั้นเมื่อรถไฟออกและคนตรวจตั๋วเริ่มทำงานก็แสดง Eurail pass ให้เขาดูและตีหน้าเศร้าเล็กน้อยพร้อมกับความหวังว่า เขาจะชี้จุดที่นั่งให้เรา ซึ่งแน่นอนว่าเราสามารถเดินตัวปลิวไปที่นั่งว่างในโบกี้ไหนก็ได้ตามบัญชา เนื่องจากสัมภาระขนาดไหนได้ถูกเก็บไว้ในที่ของมันเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อเจ้าของที่ตัวจริงมาก็แค่ลุกให้เขาและเดินกลับไปที่เดิมเพื่อรอรับคำสั่งจากพนักงานอีกครั้ง วนเป็นลูปอย่างนี้ตลอดกลางเดินทาง
2.วิวระหว่างการเดินทางจาก Oslo S ไป Bergen ถือเป็นอะไรที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน โดยจาก Oslo S ไป Mydral วิวส่วนใหญ่จะอยู่ทางด้านซ้ายเมื่อ และจาก Mydral ไป Oslo วิวส่วนใหญ่จะอยู่ทางเดินขวามือ