'รอยรัก แรงแค้นมีสไตล์'
'รอยรัก แรงแค้นมีสไตล์' : คอลัมน์ มายาวิชั่น โดย... เทพิตา

          ละครชีวิตเข้มข้น รอยรัก แรงแค้น ทาง ช่อง 7 ออกอากาศไม่กี่ตอน ก็น่าสนใจจนมีประเด็นให้พูดถึง

          รอยรัก แรงแค้น เป็นผลงานตามติดละคร หัวใจเถื่อน ของผู้จัดพ่วงตำแหน่งผู้กำกับฯ ของ ‘ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง’ ที่ดัดแปลง และปรับชื่อจากนิยายเรื่อง เมียนอกหัวใจ

          ย้อนกลับไปตอน “ตั้ว” หยิบ หัวใจเถื่อน มาทำนั้นก็สร้างความเซอร์ไพรส์ให้คนดูไม่น้อย เมื่อเป็นละครแนวสูตรสำเร็จ ประเภทพระเอกจับตัวนางเอกมาทรมาน ที่อาจไม่เข้ากับแนวทางผู้กำกับคนนี้นัก ครั้งนั้น “ตั้ว” ยังควบงานทั้งกำกับการแสดงและเขียนบทโทรทัศน์เอง ซึ่งคุณภาพละคร โดยเฉพาะทางภาพผ่านฉลุย แต่ในส่วนบทโทรทัศน์อาจโดนวิจารณ์บ้างว่าไม่สามารถขยี้ และตอบโจทย์แนวทางละครเช่นนี้ให้คนดูชอบได้เท่าที่ควรเป็น

          กลับมาใน รอยรัก แรงแค้น “ตั้ว” ยังขอยึดแนวทางทำละครแนวตลาด มีแกนหลักว่าด้วยเรื่องการแก้แค้นอีกเหมือนกัน และเติมรสชาติการชิงรักหักสวาทแบบ 1 ชาย 2 หญิงเข้าไป และยังควบ 3 ตำแหน่ง ผู้จัด ผู้กำกับการแสดง และ ผู้เขียนบทโทรทัศน์ อีกครั้ง

          ในเรื่องการกำกับการแสดงจากงาน 4 ตอนที่ผ่านมาของละคร ถือว่าแตะมาตรฐาน โดยเฉพาะมุมกล้องและทางภาพที่แปลกและสวยงาม และมีความเป็นตัวเอง
ความสนใจจึงพุ่งเป้าไปที่บทโทรทัศน์อีกครั้งว่าจะทำออกมาได้แซบและถึงใจได้แค่ไหน เมื่อตัวเรื่องเปิดทางให้ขยี้การแสดงของนักแสดง รวมถึงอารมณ์คนดูไปในตัว ซึ่ง รอยรัก แรงแค้น ดูมีความต่างจาก หัวใจเถื่อน ให้เห็นบ้าง เห็นชัดคือ การเปิดเรื่องที่ไม่เนือย เน้นการปูเรื่องมากเกินไป แต่กระชับขึ้น การดำเนินเรื่องก็ไม่ใช้เวลานานเกินไปกว่าจะเข้าเรื่อง ยิ่งละครได้เรต น13 แปะไว้ ก็ยิ่งสามารถใส่ภาษาให้เข้มข้นตามสไตล์ละครแนวนี้ได้ แต่ถึงบทหลายจุดจะเดินในแนวทางละครตลาด แต่ “ตั้ว” ก็ใส่ความเป็นตัวเองไปในบทแบบไม่ให้สูญเสียความเป็นตัวเอง โดยเฉพาะความมีอารมณ์ขันแบบตลกร้ายที่ถูกสอดแทรกในบท ไม่แปลกที่หลายครั้งที่เรื่องกำลังเข้มข้น ตึงเครียด บทพูดตัวละครที่ขึงขัง แต่กลับทำให้คนดูอย่างเราๆ ตลกจนต้องปล่อยเสียงหัวเราะ

          สิ่งที่น่าชื่นชมของ รอยรัก แรงแค้น ที่ “ตั้ว” ใส่ในละครช่วงแรก คือ ฉากการขึ้นศาล ที่เน้นหนักที่การชิงไหวชิงพริบ ซึ่งถือว่ามี “ความเสี่ยง” เพราะคนไทยไม่ต้องรสนิยมการดูหนัง ดูละครที่มีฉากประเภทนี้นัก แล้ว รอยรัก แรงแค้น ก็ใส่ฉากขึ้นศาลไม่น้อยเหมือนละครเรื่องอื่นๆ ที่มีฉากทำนองนี้ เมื่อจัดเต็มในตอน 2 ของละครแทบทั้งตอน แต่เป็นความเสี่ยงที่คุ้ม เมื่อเปิดมิติใหม่ให้ละครไทย แต่ยังครบครันด้วยความชาญฉลาดของบทที่หักเหลี่ยมเฉือนคมแบบได้ลุ้นกันตัวโก่ง
ในส่วนนักแสดงหลักก็น่าสนใจไม่น้อย และช่วยประกอบให้ รอยรัก แรงแค้น มีจุดแข็งเพิ่มขึ้นมา

          พระเอกเลือดใหม่ที่ช่อง 7 ดันสุดตัว “ไมค์” ภัทรเดช สงวนความดี ได้โอกาสสำคัญในการจะข้ามขั้นจากพระเอกหน้าใสขายหน้าตามาเป็นพระเอกที่ขายฝีมือได้ เมื่อบทเปิดทาง โดยเฉพาะอารมณ์ที่เข้มข้น ซึ่งเจ้าตัวก็ทำให้คนดูอินตามอารมณ์ตัวละครได้ไม่ยาก เมื่อจัดเต็มโหมดอารมณ์แบบเต็มร้อย น่าจะช่วยต่อยอดให้การก้าวมาเป็นพระเอกแถวหน้าที่ได้รับการยอมรับจากคนดูได้ไม่ยาก ถ้าได้โอกาสต่อเนื่อง และไม่หยุดพัฒนาฝีมือ

          นางเอก “ปุ๊กลุก” ฝนทิพย์ วัชระตระกูล หลังทำให้คนดูยอมรับเรื่องฝีมือที่เข้าถึงตัวละครสุดๆ จากละครพีเรียด เพื่อน แพง เรื่องนี้สาวเจ้ายังมาในบทหญิงสาวเจ้าน้ำตาที่ต้องเข้มแข็งในทีเดียวกัน เป็นบทที่เล่นไม่ง่าย เมื่อมีหลายมิติทางการแสดงซ่อนอยู่ รวมถึงอารมณ์ตัวละครที่ซับซ้อนว่าจะอยู่ข้างใครดีระหว่างชายอันเป็นที่รักกับพี่ชายร่วมสายเลือด

          แต่ที่ถูกพูดถึงมากโข คือ การพลิกบทบาท “โบ” ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์ จากนางเอกมาเป็นนางร้าย หลังพลิกบทบาทเป็นสาวหลากอารมณ์ในละคร กุหลาบเล่นไฟ จะทำให้คนดูเห็นอะไรในตัวเธอ มาใน รอยรัก แรงแค้น ยิ่งเห็นพัฒนาการด้านการแสดงที่เพิ่มขึ้น ต้องยกให้การตีความการแสดงและความมุ่งมั่นตั้งใจในบทนี้ รวมถึงการดีไซน์ของผู้กำกับฯ “ตั้ว” ที่เหมือนพยายามฉีกกฎนางร้ายในละครไทยในตัวละครตัวนี้ ที่ดูมีมิติ ไม่แบน มีความเป็นมนุษย์ ที่จับต้องได้ สะท้อนผู้หญิงแบบนี้ที่มีในสังคมจริง...

          เรื่องเรตติ้งละครเป็นเรื่องคาดเดายาก โดยเฉพาะยุคปัจจุบันที่การแข่งขันสูงเมื่อเกิดทีวีดิจิทัลขึ้นมา แต่ “ตั้ว” ก็ทำให้ รอยรัก แรงแค้น มีอะไรใหม่ๆ และน่าสนใจ ที่สำคัญ ยังมี “ลายเซ็น” ความเป็นตัวเองอยู่...

.......................................
(หมายเหต 'รอยรัก แรงแค้นมีสไตล์' : คอลัมน์ มายาวิชั่น โดย... เทพิตา)

http://www.komchadluek.net/detail/20150909/213062.html