มายาวิชั่น:'คมพยาบาท'
'คมพยาบาท' : คอลัมน์ มายาวิชั่น โดย.. เทพิตา
ถือเป็นหนึ่งในละครที่ถูกจับตามองตั้งแต่ประกาศจะรีเมคอีกครั้ง โดยค่าย ดาราวิดีโอ สำหรับ คมพยาบาท และเมื่อละครออกอากาศก็ได้รับกระแสพูดถึงต่อเนื่อง และดูจะมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้านับถึงเวลานี้
จุดสนใจและภาพจำของ คมพยาบาท ที่ถูกสร้างหลายครั้งในความรู้สึกคนดู หนีไม่พ้นเนื้อหาเรื่อง ที่แทบจะเป็นต้นแบบละครประเภทนี้ แนวชีวิตเข้มข้นว่าด้วยเรื่อง การลักขโมยลูกตัวจริง แล้วเอาลูกตัวปลอมมาเสียบแทน เพื่อเป็นทายาทตัวจริง บ่งบอกว่า แม้ยุคสมัยเปลี่ยนไป แต่ละครแนวนี้ยังขายได้อยู่
เวอร์ชั่นสุดท้ายในปี 2544 ก่อนเป็นเวอร์ชั่นนี้ กระหึ่มด้วยการแสดงของนางเอกเบอร์ 1 วิกหมอชิตตอนนี้ “อั้ม” พัชราภา ที่ตอนนั้นพลิกเล่นร้ายให้คนดูอิน อีกหนึ่งนางเอกของเรื่อง “ยุ้ย” จีรนันท์ ก็แจ้งเกิดการเป็นนางเอกเจ้าน้ำตาผู้น่าสงสาร
ไม่แปลกที่เวอร์ชั่นล่าสุด 2 นางเอกที่รับบทสำคัญ “เปีย” กับ “น้อย” จะถูกจับตาเป็นพิเศษ ซึ่งช่อง 7 และดาราวิดีโอ พร้อมดัน 2 สาวเลือดใหม่เต็มที่ พลิกบทให้นางเอก “เปรี้ยว” ทัศนียา มาเล่นร้ายในบท “เปีย”
ถือเป็นโอกาสดีของ “เปรี้ยว” ที่จะได้พิสูจน์ฝีมือ เพราะแม้บทร้าย แต่เป็นศูนย์กลางเรื่อง และสาวเจ้าก็รู้ดีว่าต้องถูกจับเปรียบเทียบกับนางเอกรุ่นพี่ “อั้ม” แบบเลี่ยงไม่ได้ แต่บางครั้งความกดดันก็เป็นแรงผลักดันที่ดี เพราะเท่าที่ดูการแสดงของเปรี้ยว ได้เห็นพัฒนาการแสดงและความร้ายที่ค่อยๆ ไต่ระดับ ตีบทแตกได้น่าดูชม ชนิดคนดูอินหมั่นไส้ เพราะแม้ผ่านการแสดงไม่กี่เรื่อง แต่เล่นลื่นไหล ไม่ติดขัด หรือดูขัดตา ถือเป็นหนึ่งนางเอกที่มีอนาคตไกล ส่วนการเทียบกับ อั้ม อาจวัดผลได้ยาก เมื่อเป็นคนละคน คนละยุคกัน แต่ความตั้งใจแสดงและการเข้าถึงบทบาทของเปรี้ยวถือว่าไม่ยิ่งหย่อนกว่าอั้ม
อีกหนึ่งนางเอก “นาว” ทิสานาฎ ได้บท “น้อย” หน้าที่แสดงหลักๆ เห็นจะต้องทำให้คนดูอินในความน่าสงสารตามบทที่ถูกกระทำต่างๆ นานา โดยเฉพาะจากเปียและน้าเย็น ซึ่งนาวทำได้ดีในส่วนตัวเอง ดึงอารมณ์ให้คนดูสงสารได้ไม่ยาก และดูท่าว่าพัฒนาการของบท ความน่าสงสารของตัวละครนี้จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นด้วย
ชายหนุ่มที่ต้องอยู่ตรงกลาง 2 สาวเป็นรักสามเส้า เป็นพระเอกเลือดใหม่ที่ช่อง 7 พร้อมดันเต็มที่เช่นกัน “ไมค์” ภัทรเดช ที่แจ้งเกิดจากละครเย็น แม่ค้า หน่วยก้านและความหล่อเหลาถือว่าสอบผ่าน แต่บทช่วงแรกยังไม่ค่อยส่งสักเท่าใด มาๆ หายๆ จึงยังไม่ฉายเสน่ห์เท่าที่ควรเป็น และเมื่อบทของเขาถูกส่งมากขึ้นในจังหวะเรื่องที่ปมรักสามเส้าจะชัดเจนขึ้นคงต้องวัดอีกทีว่าอนาคตการเป็นพระเอกของเจ้าตัวจะเจิดเพียงใด
อีกหนึ่งบทสำคัญที่ต้องพูดถึง “น้าเย็น” ต้นเหตุเรื่องวุ่นวายที่สุดท้ายขมวดปมเป็นโศกนาฏกรรม เป็นของ “หยก” ธัญยกันต์ ตอนประกาศสร้างเจ้าตัวโดนโจมตีหนักถึงความเหมาะสมในวัยและฝีมือ เพราะบทนี้ถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางเรื่องที่จะวัดผลความสำเร็จละครได้ แต่เจ้าตัวก็ทำได้ดีเกินคาด ลบคำสบประมาทได้ เพราะจับคาแรกเตอร์ได้อยู่หมัด ไม่หลุด ลื่นไหลในบท คนดูอินตาม และบทเวอร์ชั่นนี้เพิ่มเหตุผลว่า ทำไมเย็นต้องลุกขึ้นมาร้ายกาจ ถือว่าเปิดโอกาสให้นักแสดงได้ถ่ายทอดมิติการแสดง คนดูจึงมีอารมณ์หลากหลายต่อน้าเย็น ทั้งสงสาร บ้างก็หมั่นไส้ บ้างถึงเกลียด อีกหนึ่งความโชคดีของหยกคือ ได้ปะทะฝีมือกับรุ่นใหญ่ ดวงดวง จารุจินดา ที่มาตรฐานฝีมือดีอยู่แล้ว และรุ่นใหญ่ก็ช่วยส่งอารมณ์ให้หยกได้ดี นั่นทำให้ฉากที่ทั้งสองเข้าด้วยกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเชือดเฉือน ปะทะอารมณ์ข้น เป็นฉากน่าจดจำและขนลุกหลายฉาก
ภาพรวมงานสร้าง ต้องยอมรับว่า ช่วงหลังละครค่ายดาราวิดีโอเจอเสียงบ่นเยอะ ซึ่งบอสใหญ่ "หลุยส์” สยาม รู้ดี และพยายามปรับปรุง ซึ่ง คมพยาบาท ก็พิสูจน์ให้เห็นระดับหนึ่งถึงความตั้งใจจริง ทั้งทางภาพก็ออกมาดีใช้ได้ ส่วนบทละครที่มักโดนติงว่าหย่อนความสนุกไป ในคมพยาบาทก็ถูกปรับให้เข้มข้นและสนุกขึ้นตามแบบฉบับละครแนวนี้ แม้ช่วงต้นที่มีการตัดต่อให้เรื่องเดินเร็วและกระชับ จะทำให้บทบางอย่างช่วงขาดความต่อเนื่องและสมเหตุสมผลบ้าง แต่เมื่อเข้าที่เข้าทางโดยการเข้าเรื่อง ทุกอย่างก็เดินตามความเข้มข้นที่ถูกวางไว้ อีกหนึ่งอย่างที่ต้องชื่นชม คือ ความตั้งใจปรับวิธีการแต่งหน้าของนักแสดง โดยเฉพาะสาวๆ ที่บางครั้งเข้มจัด เกินจากความเป็นจริงในแทบทุกฉาก แต่เรื่องนี้เน้นแต่งเป็นธรรมชาติที่สุด ซึ่งทำให้ดูกลมกลืนดีทีเดียว
ด้วยเนื้อเรื่องแนวตลาด เป็นที่นิยมของคนดู บวกความตั้งใจจริงของนักแสดงที่พร้อมข้ามผ่านความกดดันจากการเปรียบเทียบและสบประมาท รวมถึงความมุ่งมั่นของผู้ผลิตงาน ทำให้ คมพยาบาท เป็นหนึ่งละครที่ดูสนุกและเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ...
.......................................
(หมายเตุ 'คมพยาบาท' : คอลัมน์ มายาวิชั่น โดย.. เทพิตา)
วิจารณ์คมพยาบาทเวอร์ชั่น2557 ในมุมมองของคุณเทพิตา คอลัมนิสต์ชื่อดัง จะได้คำชมหรือได้คำติ มาอ่านกันเลยจ้า
'คมพยาบาท' : คอลัมน์ มายาวิชั่น โดย.. เทพิตา
ถือเป็นหนึ่งในละครที่ถูกจับตามองตั้งแต่ประกาศจะรีเมคอีกครั้ง โดยค่าย ดาราวิดีโอ สำหรับ คมพยาบาท และเมื่อละครออกอากาศก็ได้รับกระแสพูดถึงต่อเนื่อง และดูจะมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้านับถึงเวลานี้
จุดสนใจและภาพจำของ คมพยาบาท ที่ถูกสร้างหลายครั้งในความรู้สึกคนดู หนีไม่พ้นเนื้อหาเรื่อง ที่แทบจะเป็นต้นแบบละครประเภทนี้ แนวชีวิตเข้มข้นว่าด้วยเรื่อง การลักขโมยลูกตัวจริง แล้วเอาลูกตัวปลอมมาเสียบแทน เพื่อเป็นทายาทตัวจริง บ่งบอกว่า แม้ยุคสมัยเปลี่ยนไป แต่ละครแนวนี้ยังขายได้อยู่
เวอร์ชั่นสุดท้ายในปี 2544 ก่อนเป็นเวอร์ชั่นนี้ กระหึ่มด้วยการแสดงของนางเอกเบอร์ 1 วิกหมอชิตตอนนี้ “อั้ม” พัชราภา ที่ตอนนั้นพลิกเล่นร้ายให้คนดูอิน อีกหนึ่งนางเอกของเรื่อง “ยุ้ย” จีรนันท์ ก็แจ้งเกิดการเป็นนางเอกเจ้าน้ำตาผู้น่าสงสาร
ไม่แปลกที่เวอร์ชั่นล่าสุด 2 นางเอกที่รับบทสำคัญ “เปีย” กับ “น้อย” จะถูกจับตาเป็นพิเศษ ซึ่งช่อง 7 และดาราวิดีโอ พร้อมดัน 2 สาวเลือดใหม่เต็มที่ พลิกบทให้นางเอก “เปรี้ยว” ทัศนียา มาเล่นร้ายในบท “เปีย”
ถือเป็นโอกาสดีของ “เปรี้ยว” ที่จะได้พิสูจน์ฝีมือ เพราะแม้บทร้าย แต่เป็นศูนย์กลางเรื่อง และสาวเจ้าก็รู้ดีว่าต้องถูกจับเปรียบเทียบกับนางเอกรุ่นพี่ “อั้ม” แบบเลี่ยงไม่ได้ แต่บางครั้งความกดดันก็เป็นแรงผลักดันที่ดี เพราะเท่าที่ดูการแสดงของเปรี้ยว ได้เห็นพัฒนาการแสดงและความร้ายที่ค่อยๆ ไต่ระดับ ตีบทแตกได้น่าดูชม ชนิดคนดูอินหมั่นไส้ เพราะแม้ผ่านการแสดงไม่กี่เรื่อง แต่เล่นลื่นไหล ไม่ติดขัด หรือดูขัดตา ถือเป็นหนึ่งนางเอกที่มีอนาคตไกล ส่วนการเทียบกับ อั้ม อาจวัดผลได้ยาก เมื่อเป็นคนละคน คนละยุคกัน แต่ความตั้งใจแสดงและการเข้าถึงบทบาทของเปรี้ยวถือว่าไม่ยิ่งหย่อนกว่าอั้ม
อีกหนึ่งนางเอก “นาว” ทิสานาฎ ได้บท “น้อย” หน้าที่แสดงหลักๆ เห็นจะต้องทำให้คนดูอินในความน่าสงสารตามบทที่ถูกกระทำต่างๆ นานา โดยเฉพาะจากเปียและน้าเย็น ซึ่งนาวทำได้ดีในส่วนตัวเอง ดึงอารมณ์ให้คนดูสงสารได้ไม่ยาก และดูท่าว่าพัฒนาการของบท ความน่าสงสารของตัวละครนี้จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นด้วย
ชายหนุ่มที่ต้องอยู่ตรงกลาง 2 สาวเป็นรักสามเส้า เป็นพระเอกเลือดใหม่ที่ช่อง 7 พร้อมดันเต็มที่เช่นกัน “ไมค์” ภัทรเดช ที่แจ้งเกิดจากละครเย็น แม่ค้า หน่วยก้านและความหล่อเหลาถือว่าสอบผ่าน แต่บทช่วงแรกยังไม่ค่อยส่งสักเท่าใด มาๆ หายๆ จึงยังไม่ฉายเสน่ห์เท่าที่ควรเป็น และเมื่อบทของเขาถูกส่งมากขึ้นในจังหวะเรื่องที่ปมรักสามเส้าจะชัดเจนขึ้นคงต้องวัดอีกทีว่าอนาคตการเป็นพระเอกของเจ้าตัวจะเจิดเพียงใด
อีกหนึ่งบทสำคัญที่ต้องพูดถึง “น้าเย็น” ต้นเหตุเรื่องวุ่นวายที่สุดท้ายขมวดปมเป็นโศกนาฏกรรม เป็นของ “หยก” ธัญยกันต์ ตอนประกาศสร้างเจ้าตัวโดนโจมตีหนักถึงความเหมาะสมในวัยและฝีมือ เพราะบทนี้ถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางเรื่องที่จะวัดผลความสำเร็จละครได้ แต่เจ้าตัวก็ทำได้ดีเกินคาด ลบคำสบประมาทได้ เพราะจับคาแรกเตอร์ได้อยู่หมัด ไม่หลุด ลื่นไหลในบท คนดูอินตาม และบทเวอร์ชั่นนี้เพิ่มเหตุผลว่า ทำไมเย็นต้องลุกขึ้นมาร้ายกาจ ถือว่าเปิดโอกาสให้นักแสดงได้ถ่ายทอดมิติการแสดง คนดูจึงมีอารมณ์หลากหลายต่อน้าเย็น ทั้งสงสาร บ้างก็หมั่นไส้ บ้างถึงเกลียด อีกหนึ่งความโชคดีของหยกคือ ได้ปะทะฝีมือกับรุ่นใหญ่ ดวงดวง จารุจินดา ที่มาตรฐานฝีมือดีอยู่แล้ว และรุ่นใหญ่ก็ช่วยส่งอารมณ์ให้หยกได้ดี นั่นทำให้ฉากที่ทั้งสองเข้าด้วยกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเชือดเฉือน ปะทะอารมณ์ข้น เป็นฉากน่าจดจำและขนลุกหลายฉาก
ภาพรวมงานสร้าง ต้องยอมรับว่า ช่วงหลังละครค่ายดาราวิดีโอเจอเสียงบ่นเยอะ ซึ่งบอสใหญ่ "หลุยส์” สยาม รู้ดี และพยายามปรับปรุง ซึ่ง คมพยาบาท ก็พิสูจน์ให้เห็นระดับหนึ่งถึงความตั้งใจจริง ทั้งทางภาพก็ออกมาดีใช้ได้ ส่วนบทละครที่มักโดนติงว่าหย่อนความสนุกไป ในคมพยาบาทก็ถูกปรับให้เข้มข้นและสนุกขึ้นตามแบบฉบับละครแนวนี้ แม้ช่วงต้นที่มีการตัดต่อให้เรื่องเดินเร็วและกระชับ จะทำให้บทบางอย่างช่วงขาดความต่อเนื่องและสมเหตุสมผลบ้าง แต่เมื่อเข้าที่เข้าทางโดยการเข้าเรื่อง ทุกอย่างก็เดินตามความเข้มข้นที่ถูกวางไว้ อีกหนึ่งอย่างที่ต้องชื่นชม คือ ความตั้งใจปรับวิธีการแต่งหน้าของนักแสดง โดยเฉพาะสาวๆ ที่บางครั้งเข้มจัด เกินจากความเป็นจริงในแทบทุกฉาก แต่เรื่องนี้เน้นแต่งเป็นธรรมชาติที่สุด ซึ่งทำให้ดูกลมกลืนดีทีเดียว
ด้วยเนื้อเรื่องแนวตลาด เป็นที่นิยมของคนดู บวกความตั้งใจจริงของนักแสดงที่พร้อมข้ามผ่านความกดดันจากการเปรียบเทียบและสบประมาท รวมถึงความมุ่งมั่นของผู้ผลิตงาน ทำให้ คมพยาบาท เป็นหนึ่งละครที่ดูสนุกและเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ...
.......................................
(หมายเตุ 'คมพยาบาท' : คอลัมน์ มายาวิชั่น โดย.. เทพิตา)