สมมุติ อาคาร1หลัง   ใช้ปูน100คิว   ค่าปูน2000   ค่าแรง 300  =ค่าปูน2แสน  ค่าแรง3หมื่น
ใน1อาคารใช้ อิฐ หิน ดิน ทราย เท่าใหร่ก็นั่ง บวกๆ เข้าไปครับ  จะได้ ตัวเลขตามจริง  
แต่ก่อนจะนั่งบวกตัวเลข ควรจะรู้ราคากลาง ของแต่ละหน่วยก่อนนะครับ
ที่สำคัญ ผู้ที่คิดปริมาณตัวนี้ ต้องมีความรู้เรื่องก่อสร้างมากพอสมควร เพราะตัวเลขแต่ละตัว จะเป็นตัวเงินที่จ้างทำงานจริงๆ
ถ้าเจ้าของบ้านคิดน้อยไปก็จัดจ้างไม่ได้ ถ้าคิดเกิน เงินก็หายเข้าระบบไปฟรีๆ ถ้าคิดตกหล่น(ลืมคิด)เงินที่จะต้องเตรียมไว้ก็ไม่พอ
   
    วิธีการคิดที่ดี ควรจะคิดให้พอดี และเผื่อค่าดำเนินการ ค่าน้ำมันรถขี่ตรวจงาน ค่าโน้น นี่ นั้น ที่ไม่เกี่ยวกับก่อสร้าง
แต่เกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกในงานก่อสร้างนั้นๆ และควรมีในส่วนของค่าเครื่องจักรที่ใช้ในการทำงาน ต่อให้มีเครื่องจักรเป็นของตัวเองก็ต้องคิดเอาไว้ก่อน เพราะเดิมทีเครื่องจักรก็ไม่ได้ขอเค้ามาฟรีๆ ซื้อมาเหมือนกัน มีค่าเสื่อม ค่าสึกหรอ ก็คิดในสัดส่วนที่เช่าซื้อเอาไว้ก่อน ง่ายที่สุด

   ถ้าทำการคิดปริมาณวัสดุมาเยอะๆ หลายๆงาน หลายๆปี ก็สามารถอับเกรดระดับความชำนาญ โดยการใช้ตารางเมตรคูณราคากลางรวมไปได้เลย
ความแม่นยำจะขึ้นอยู่กับความชำนาญด้านงานก่อสร้าง อาจจะเเม่นยำถึง100%   
   ข้อเสียของการคิดเหมาเป็นตารางเมตรก็คือผู้ที่คิดไม่มีประสบการณ์งานก่อสร้าง ถอดตัวเลขออกมาแล้ว เพี้ยน ไม่ตรงกับการจัดจ้างจริงๆขณะทำงาน    จะรู้ได้ยังไงว่าตัวเลขเพี้ยน?   ก็ต้องทำการก่อสร้างไปแล้ว ระยะเวลาหนึ่ง จึงจะรู้ ว่าขาดเกิด
ถ้าเป็นงานขนาดใหญ่ ตัวเลข ขาด เกิน จะเยอะตามขนาดงานก่อสร้าง
    ด้านลบของการคิดปริมาณวัสดุคือ ผู้ที่ชำนาญการมากๆ ใช้เป็นอาวุธในการล้มล้างคู่สัญญา เรื่องนี้ไม่ขอพูดถึงครับ เดี่ยวงานงอก