ปวดท้องแล้วไปหาหมอที่ รพ. คุณหมอบอกว่า ให้กลับไปตรวจเองที่บ้านว่า ท้องมั้ย???

***ขอแก้ไขวันที่ไปหาหมอค่ะ
ขออนุญาตระบายนิดนึงค่ะ (ขอไม่เปิดเผยชื่อคุณหมอและ รพ. นะคะ เพราะไม่ได้ต้องการเรียกร้องอะไรเลย) ขอใช้คำว่าระบายเพราะไม่อยากพาดพิงถึงบุคคลอื่น แต่แค่อยากระบายจริงๆ แล้วเผื่อเพื่อนๆ คนไหนมีคำแนะนำดีๆ บ้างค่ะ
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ดิฉันปวดท้องมาประมาณอาทิตย์กว่าๆ แล้ว ตอนปวดได้ประมาณ 3-4 วัน ทานยาธาตุน้ำขาว ยาธาตุน้ำแดง อะไรยังไงก็ไม่หาย เลยตัดสินใจไปหาหมอที่ รพ. นั่งรอคิวตรวจประมาณ เกือบๆ ชั่วโมง พอเข้าห้องตรวจคุณหมอถามอาการ เราก็บอกอาการคร่าวๆ  (ตอนที่หาหมอตอนนั้นกำลังปวดท้องพอดี) มือก็กุมท้องไปด้วย บริเวณด้านล่างซ้ายใกล้ๆ สะดือ คุณหมอถามอาการเสร็จ ไม่ได้มีการถูกเนื้อต้องตัวอะไรใดๆ เลย คุณหมอสรุป เป็นโรคกระเพาะอักเสบ สั่งห้ามทานอาหารประเภทใดบ้าง แล้วก็สั่งยา พร้อมกับออกใบรับรองแพทย์ เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ไม่เกิน 5 นาที เราออกมารับยากลับมาทานที่บ้าน ผ่านไป 3-4 วัน ทานยาจนหมดชุด ยังไม่หาย เรากลับไปใหม่ ด้วยอาการปวดท้องมากกว่าเดิม คราวนี้ไปวันอาทิตย์ เลยต้องเข้าด้านฉุกเฉิน คุณหมอตรวจอาการทันที ตอนนั้นมีไข้นิดหน่อย เหงื่อเริ่มซึมและรู้สึกปวดมากกว่าทุกวัน (ขณะนั้นที่ไปหาหมอประมาณบ่าย 3) แพทย์เวรตรวจอาการ สั่งตรวจเลือด ตรวจฉี่ สอบถามอาการอย่างละเอียด กดท้องเพื่อหาจุดที่ปวด คุณหมอบอกว่า น่าจะไม่ใช่กระเพาะอาหารอักเสบ เพราะไม่ได้ปวดบริเวณที่ควรจะเป็นกระเพาะ  รอผลแล็บ สรุปคือ ผลเลือดปกติ แต่ผลฉี่ ยังบอกอะไรได้ไม่มากเพราะเราฉี่ได้น้อย (เพิ่งฉี่ก่อนออกจากบ้าน) คุณหมอบอกว่า ฉี่น้อยแล้วก็ขุ่นเกินไปจึงไม่สามารถบอกอะไรได้ชัดเจน เบื้องต้นคุณหมอสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบเพราะปวดบริเวณท้องน้อยช่วงล่าง หรือเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นซีสในรังไข่ หรือหนักสุดอาจจะซีสแตก...แต่คุณหมอยังไม่ยืนยัน ขอให้มาตรวจกับแพทย์เฉพาะทางอีกครั้งในช่วงเช้าของอีกวัน และถ้ายังปวดมากและไม่ไหวจริงๆ จะให้นอน รพ. เราไม่อยากนอน รพ.ค่ะ จึงบอกคุณหมอว่าขอกลับบ้าน คุณหมอจึงย้ำอีกครั้งว่า ถ้าปวดอีกไม่ต้องทน ขอให้กลับมา รพ.ทันที คืนนี้ก็ให้กลับมาได้ แล้วคุณหมอก็ฉีดยาแก้ปวดให้เรา ส่วนตัวเราคิดว่า น่าจะไม่ได้อาการหนักขนาดที่คุณหมอสันนิษฐานหรอกค่ะ แต่เพื่อความปลอดภัย เราไม่ได้ตรวจภายในมา 2-3 ปีแล้วก็กะว่า ไหนๆ ครั้งนี้ก็ปวดแล้วตรวจให้รู้ๆ ไปเลยก็ดี

ดังนั้นช่วงเช้าอีกวันเราไปตรวจกับแพทย์เฉพาะทาง (สูตินรีเวช) อีกครั้ง ทาง รพ.บอกว่า แพทย์สูฯ วันนี้ไม่มีว่างเลย ถ้าจะว่างก็จะว่างในช่วงเย็นๆ 17.30 น. เป็นต้นไป ด้วยความที่เราใจร้อน และไม่อยากทนกับอาการเจ็บที่ไม่รู้สาเหตุซักที เราจึงยอมวัดความดันในช่วงเช้าไม่ยอมพบหมอประจำ แล้วกลับไปทำงาน มาพบหมออีกครั้งในช่วงเย็นของวันเดียวกัน ช่วงเย็นเรามาถึง รพ. ประมาณ 16.45 น. ยืนใบนัดเสร็จไปรอพบหมอหน้าห้อง ประมาณเกือบๆ ชั่วโมง ก็ถึงคิวเราเข้าพบหมอ คำถามแรกที่คุณหมอถาม
หมอ : ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
เรา : 24 กค. ค่ะ
หมอ : วันที่ 7 กย. แล้ว แสดงว่า ประจำเดือนเลทมาหลายวันแล้วนี่ ท้องหรือป่าว?
เรา : ไม่แน่ใจค่ะ ยังไม่ได้ตรวจ แต่คิดว่าคงไม่ท้องนะคะ เพราะเริ่มมีอาการเจ็บหน้าอกและปวดหัวแล้ว (ปัจจุบันเราอายุ 36 ปี แต่งงานกับแฟนมาสิบกว่าปีแล้วพยายามปล่อยให้ท้อง แต่ยังไม่ท้อง ประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่แล้วเลยไม่ได้คิดว่าจะท้องหรือไม่  และเคยเลทมา 2 เดือนก็ไม่ได้ท้อง เลยยังไม่ได้ตรวจค่ะ)
หมอ : อ้าว ยังไม่ได้ตรวจเหรอ งั้นกลับไปตรวจก่อนว่าท้องมั้ย ถ้าตรวจแล้วไม่ได้ท้อง ก็ให้กินยาเร่งประจำเดือน เดี๋ยวหมอจะสั่งยาเร่งประจำเดือนให้ ถ้าทานยาเร่ง ประจำเดือนมาแล้ว ยังไม่หาย ก็ค่อยกลับมาหาอีกที แต่ถ้าท้องก็ค่อยมาฝากท้อง
เรา : !!! อึ้งเบาๆ...พยายามเล่าอาการต่อว่า ปวดยังไง ตรงไหน ปวดมากี่วันแล้ว และพยายามบอกหมอว่า ตรวจเลือดแล้ว ตรวจฉี่แล้วเมื่อวาน แต่ฉี่มันน้อยเลยยังไม่ทราบผลอะไร แพทย์เวรแนะนำให้หาแพทย์เฉพาะทางอีกครั้ง
หมอ : มันก็เป็นไปได้ที่คุณจะกระเพาะอักเสบ ลำไส้อักเสบ ท้องผูก หรือ มีซีส เป็นไปได้หมด  แต่ตอนนี้คุณต้องทราบก่อนว่าคุณท้องมั้ย??? กลับไปตรวจเองที่บ้านก็ได้
เรา : ห๊ะ!!! นี่ชั้นมาหาหมอที่ รพ. เพื่อรับคำบอกจากหมอว่า ให้กลับไปตรวจว่าท้องมั้ยที่บ้านงั้นเหรอ??? อึ้งๆๆๆๆ ล้านตลบ ถึงกับพูดไม่ออก ไม่รู้จะกระยิ้มกระสนเล่าอาการให้คุณหมอฟังต่อยังไงดี ในเมื่อคุณหมอตัดบททุกอย่างให้เรากลับไปตรวจเองที่บ้าน งั้น....งัดไม้ตายสุดท้าย เอ่อ คุณหมอคะ เมื่อวานมาหาหมอ เพิ่งได้ยาไป เอายามาด้วย ยังต้องทานยาเดิมมั้ยคุณหมอจะดูหน่อยมั้ยคะ
คุณหมอ : (ไม่แม้แต่จะเหลือบมองถุงยา ก้มหน้าเขียนใบสั่งยาอย่างเดียว) เหรอ มียาเดิมอยู่แล้วงั้น เดี๋ยวหมอให้ยาเร่งประจำเดือนแล้วกันนะ ถ้าตรวจแล้วว่าไม่ท้องก็ให้กินยาเร่งประจำเดือน ถ้ายังไม่หายปวดก็กลับมาหาหมอใหม่
เรา : พับถุงยาเก็บรัวๆ นึกแค้นหมอในใจ ...สมมติถ้ากรูท้องจริง (ขออภัยที่ไม่สุภาพ) แล้วต้องกินยาพวกนี้ต่อไป มันจะมีผลกับเด็กในท้องเรามั้ย  คุณหมอไม่คิดจะดูซักนิดนึงจริงๆ เลยเหรอ เพราะยาส่วนใหญที่ได้เป็นยาปฏิชีวนะ โอ้ววววววว แม่เจ้า ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมาเจอหมอประเภทนี้จริงๆ
***เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ไม่ถึง 5 นาที อีกเช่นเดิม

คือ เราไม่เข้าใจว่า ที่ รพ. ไม่สามารถตรวจได้เลยเหรอคะว่าคนไข้ท้องหรือไม่ท้อง แล้วถ้าตรวจตอนนั้นแล้วทราบว่า ไม่ท้องคุณหมอจะสามารถวินิจฉัยอาการได้ดีกว่านี้มั้ยคะ??? ว่าคนไข้เป็นอะไรกันแน่ อาจจะรุนแรง หรือไม่รุนแรงก็ว่ากันไป เพื่อความสบายใจของคนไข้เองและคุณหมอเองก็ไม่เสี่ยงกับการโดนต่อว่าในภายหลังถ้ากรณีคนไข้เป็นอะไรหนักขึ้นมาจริงๆ  แล้วการให้คนไข้กลับไปตรวจเองว่าท้องมั้ยที่บ้าน ค่อยให้คนไข้กลับมาใหม่...คือมันไม่เสียเวลาเกินไปเหรอคะ

เราไม่รู้ว่าเราอคติกับแพทย์คนนี้มากไปหรือป่าว แต่เราไม่เข้าใจการทำงานของแพทย์คนนี้จริงๆ สรุปเราได้ยาเร่งฮอร์โมนมาอีกตัวนะ แต่ยังไม่ได้ทานค่ะ กะว่า รอวันสองวัน ถ้าประจำเดือนไม่มาค่อยตรวจอีกที

หลังจากกลับมาบ้านตอนกลางคืน ทานข้าว ทานยาเสร็จ เราปวดท้องอีก...แต่คราวนี้ปวดแบบเหมือนจะเป็นลม...มีอาการจุกเสียดขึ้นมาด้วย สักพักเราท้องเสีย ถ่ายเหลวไป 3 รอบ รู้สึกอยากอาเจียน แต่สุดท้ายก็ข่มตาหลับจนได้ ตื่นเช้ามาทานยาก่อนอาหาร (ยังไม่ได้ตรวจท้อง) ตอนทานอาหารมีอาการปวดท้องอีกนิด จี๊ดๆ มวนๆ จุกๆ ทานข้าวเสร็จทานยาหลังอาหารทันที อาการปวดท้องหายไป  เลยตัดสินใจว่าจะรอให้พ้นสัปดาห์นี้ไป (คาดว่าประจำเดือนน่าจะมาวันสองวันนี้เพราะอาการเตือนค่อนข้างชัดเจน) รอประจำเดือนหมด ค่อยกลับไปหาคุณหมออีกที ถ้ายังปวดอยู่ เพราะกลัวว่ากลับไปแล้วจะเจอแบบเดิม ลางานก็เสียเวลาป่าว ไปปวดๆ ให้เสียอารมณ์กับคุณหมออีก เพื่อนๆว่า เราทำถูกมั้ย...หรือเราควรจะเสียเวลาไปหาคุณหมอ รพ.อื่น อีกดีคะ คือถ้าไปตรวจที่อื่นอีก หมอ วินิจฉัยเป็นอย่างอื่นอีก เราก็ต้องกินยาอีกแบบที่คุณหมอก็แค่สันนิษฐานอีก อย่างนี้หรือป่าว ตอนนี้เราเหนื่อยกับการต้องไปหาหมอหลายๆรอบ จริงเลยค่ะ
อย่าว่าเราเลยนะ บางทีเราก็เบื่อ รพ. เพราะไปแล้วต้องเจออะไรแบบนี้ที่ไม่ต้องไปหาก็เดาอาการซื้อยาทานเองได้นี่แหละค่ะ แต่ถ้าไปตรวจแล้วคุณหมอใส่ใจรายละเอียดตรวจจริงจังซักนิด เราก็คงไว้วางใจกับ รพ.ได้มากกว่านี้ล่ะค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่