เราเป็นคนนึงที่อ่านกระทู้ ในพันทิปมานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้โพสกระทู้เองเท่าไหร่นัก
เรื่องมีอยู่ว่า เรารู้สึกว่าเรากำลังโดนเอาเปรียบจากสามีตัวเอง (ไม่รู้ว่าเราคิดมากไปหรือเปล่า) ช่วงแรกๆต่างคนต่างอยู่ไม่มีปัญหาอะไรมาก เราเป็นคนใช้เงินเก่ง ไม่ค่อยเก็บเงินได้ตามเป้าที่วางไว้ซักเท่าไหร่ แต่สามีเราเป็นคนเก็บเงินเก่ง เรากับสามีก็เลยตกลงกันว่า เราจะโอนเงินมาให้เค้าเก็บรวมกับของเค้าด้วย เพราะถือว่าเรามีเงินเก็บร่วมกันดูเหมือนจะไม่มีปัญหา พอช่วงหลังมาเราเปลี่ยนที่ทำงาน ก็เลยมาอยู่ด้วยกัน ตอนแรกก็ไม่มีอะไร เพราะเราเป็นคนไม่ค่อยจุกจิกเท่าไหร่ ต่อมาทางบ้านเราต้องการใช้เงิน สองหมื่น ก็เลยโทรมายืมเรา บอกว่าแค่ยืมไปหมุนก่อนเดี๋ยวคืนให้ เราก็บอกสามีเราให้เอาเงินเก็บออกมา แต่สามีเรากดบัตรเครดิตมาให้เรา เราก็งง ทำไมไม่ถอนเงินเก็บออกมา เค้าก็บอกว่า ไม่มีATM เราก็ถามถึงสมุดบัญชี ทีนี้แหละ ทะเลาะกันใหญ่โตเลย เพราะเค้าก็หงุดหงิดใส่เรา ว่าเราจุกจิก เราก็งง เรื่องแค่นี้ทำไมต้องโมโห เราพูดถึงเรื่องนี้กับสามีไม่ได้เลย พูดทีไร ก็จะหงุดหงิดขึ้นทุกที รู้สึกเหมือนว่าตอนนี้เราไม่มีเงินเก็บเลย พยายามพูดกันหลายครั้งแล้วเรื่องก็จบลงด้วยการทะเลาะกันทุกครั้ง หลังจากเรื่องนี้แล้ว สามีเรายังไม่ค่อยจะมีความเป็นผู้นำเลย ทำงานก็ไม่ค่อยทุ่มเทกับงาน เราเป็นคนจริงจังกับงานแต่เงินเดือนเราน้อยกว่าเค้า พอเงินเดือนเราออก เค้าก็จะเก็บไปหมดและให้เราไว้ 3000 ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเค้าจะเอาไปจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงค่าอาหารการกินของเราด้วย เราก็เลยไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่พอมาหลังๆ ก็ให้ 2000 บ้าง 1000 บ้าง เพราะเค้าว่าเราไม่ได้จ่ายค่ากินเอง ให้เท่านี้ก็พอ!! จนตอนนี้เรารู้สึกว่า ผู้ชายคนนี้ เราไม่น่าฝากอนาคตไว้ (เราดูเห็นแก่ตัวเกินไปไหมค่ะ ที่คิดแบบนี้ ) อายุก็มากขึ้นเรื่อยๆ อนาคตก็ไม่รู้จะเป็นยังไง อายุก็จะ 30 แล้ว ยังไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลย บ้าน รถ บอกแต่ว่ายังไม่พร้อม เราก็เคยถามนะว่า คิดว่าจะมีเมื่อไหร่ เค้าก็บอกว่ายังไม่อยากมีภาระให้ตัวเอง รอซักอายุ 30 กว่าๆค่อยมีก็ได้ แต่สำหรับเรา เราว่าถ้าตอนนี้ยังมีแรงที่จะผ่อนได้ และยังไม่มีภาระ ควรรีบผ่อน เพราะวันข้างหน้าไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง อาจจะมีลูกหรือตกงาน หรืออาจมีปัญหาเข้ามาก็ได้
***หาก จขกท เขียนวนไปวนมายังไงก็ขอโทษทีนะค่ะ พอดีเพิ่งตั้งกระทู้ครั้งแรก (ยืมไอดีน้องที่ทำงานมาตั้งค่ะ)***
เราเห็นแก่ตัวไปไหมค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า เรารู้สึกว่าเรากำลังโดนเอาเปรียบจากสามีตัวเอง (ไม่รู้ว่าเราคิดมากไปหรือเปล่า) ช่วงแรกๆต่างคนต่างอยู่ไม่มีปัญหาอะไรมาก เราเป็นคนใช้เงินเก่ง ไม่ค่อยเก็บเงินได้ตามเป้าที่วางไว้ซักเท่าไหร่ แต่สามีเราเป็นคนเก็บเงินเก่ง เรากับสามีก็เลยตกลงกันว่า เราจะโอนเงินมาให้เค้าเก็บรวมกับของเค้าด้วย เพราะถือว่าเรามีเงินเก็บร่วมกันดูเหมือนจะไม่มีปัญหา พอช่วงหลังมาเราเปลี่ยนที่ทำงาน ก็เลยมาอยู่ด้วยกัน ตอนแรกก็ไม่มีอะไร เพราะเราเป็นคนไม่ค่อยจุกจิกเท่าไหร่ ต่อมาทางบ้านเราต้องการใช้เงิน สองหมื่น ก็เลยโทรมายืมเรา บอกว่าแค่ยืมไปหมุนก่อนเดี๋ยวคืนให้ เราก็บอกสามีเราให้เอาเงินเก็บออกมา แต่สามีเรากดบัตรเครดิตมาให้เรา เราก็งง ทำไมไม่ถอนเงินเก็บออกมา เค้าก็บอกว่า ไม่มีATM เราก็ถามถึงสมุดบัญชี ทีนี้แหละ ทะเลาะกันใหญ่โตเลย เพราะเค้าก็หงุดหงิดใส่เรา ว่าเราจุกจิก เราก็งง เรื่องแค่นี้ทำไมต้องโมโห เราพูดถึงเรื่องนี้กับสามีไม่ได้เลย พูดทีไร ก็จะหงุดหงิดขึ้นทุกที รู้สึกเหมือนว่าตอนนี้เราไม่มีเงินเก็บเลย พยายามพูดกันหลายครั้งแล้วเรื่องก็จบลงด้วยการทะเลาะกันทุกครั้ง หลังจากเรื่องนี้แล้ว สามีเรายังไม่ค่อยจะมีความเป็นผู้นำเลย ทำงานก็ไม่ค่อยทุ่มเทกับงาน เราเป็นคนจริงจังกับงานแต่เงินเดือนเราน้อยกว่าเค้า พอเงินเดือนเราออก เค้าก็จะเก็บไปหมดและให้เราไว้ 3000 ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเค้าจะเอาไปจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงค่าอาหารการกินของเราด้วย เราก็เลยไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่พอมาหลังๆ ก็ให้ 2000 บ้าง 1000 บ้าง เพราะเค้าว่าเราไม่ได้จ่ายค่ากินเอง ให้เท่านี้ก็พอ!! จนตอนนี้เรารู้สึกว่า ผู้ชายคนนี้ เราไม่น่าฝากอนาคตไว้ (เราดูเห็นแก่ตัวเกินไปไหมค่ะ ที่คิดแบบนี้ ) อายุก็มากขึ้นเรื่อยๆ อนาคตก็ไม่รู้จะเป็นยังไง อายุก็จะ 30 แล้ว ยังไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลย บ้าน รถ บอกแต่ว่ายังไม่พร้อม เราก็เคยถามนะว่า คิดว่าจะมีเมื่อไหร่ เค้าก็บอกว่ายังไม่อยากมีภาระให้ตัวเอง รอซักอายุ 30 กว่าๆค่อยมีก็ได้ แต่สำหรับเรา เราว่าถ้าตอนนี้ยังมีแรงที่จะผ่อนได้ และยังไม่มีภาระ ควรรีบผ่อน เพราะวันข้างหน้าไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง อาจจะมีลูกหรือตกงาน หรืออาจมีปัญหาเข้ามาก็ได้
***หาก จขกท เขียนวนไปวนมายังไงก็ขอโทษทีนะค่ะ พอดีเพิ่งตั้งกระทู้ครั้งแรก (ยืมไอดีน้องที่ทำงานมาตั้งค่ะ)***