กระทู้นี้ มาจาก "ครูๆดอยบรรจุใหม่กับนักศึกษารุ่นเก๋าออกค่ายอาสา^^" นะคะ ย้ายมาที่นี่เพื่ออัพเรื่องราวให้ต่อเนื่องกัน เพื่อไม่ให้ขาดตอน ค่ะ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะคะ เรื่องที่จะเล่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงและมันก็ผ่านมานานแล้ว เราอยากแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน ใครมีประสบการณ์ฟินๆ น่ารักๆ แบบนี้ ก็เอามาฝากกันบ้างนะคะ เราขอแทนตัวเองว่า F และแทน คู่กรณีว่า J นะคะ
.....................
โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบสูงทางภาคเหนือ แบบพื้นที่กันดารค่ะ ตอนที่เราเพิ่งจบใหม่ๆ เราสอบบรรจุได้ที่ลำดับต้นๆ ก็เลยมีตัวเลือกแบบโหดมากอ่ะค่ะ เนื่องจากเพิ่งเกลี่ยตำแหน่งใหม่และตำแหน่งว่างก็จะเป็นพื้นที่ดอยทั้งนั้น ตอนไปเลือกสถานที่ประมาณว่าจับเข้าห้องและแจกกระดาษที่มีรายชื่อตำแหน่งว่างคนละแผ่น แล้วถามเลยค่ะ "ลำดับที่ 1 เลือก รร.อะไรคะ " ???แบบมึนๆงงๆมาก ไม่ให้ตั้งตัวกันเลยทีเดียว พอเลือโรงเรียนเสร็จก็ให้กลับไปเตรียมตัวที่บ้าน 15 วัน ช่วงนี้ตื่นเต้นมากค่ะ ไม่รู้เลยว่า รร.ที่ตัวเองเลือกอยู่ที่ไหน ต้องเตรียมอะไรไปบ้าง เพราะวันที่ไปรายงานตัว เราเจอ ผอ. ค่ะ แต่ ผอ.บอกแค่ว่า
ผอ. : มีห้องพักว่าง 1 ที่ ให้อยู่กับพี่ที่เค้าอยู่มาก่อนแล้ว ผมจะให้สอน วิทย์กับคณิตฯ ม. 1-3 นะ ไหวมั้ย?
F: ไหวค่ะ ไหว (เหงื่อเริ่มตก คือเราจบวิทย์มาก็จริงแต่คณิตศาสตร์เราโง่มากกก บ่องตง 55)
ผอ. : อยู่กับ ผมต้องขยันหน่อยนะ ผมค่อนข้างละเอียด ไว้เจอกันตอนเปิดเทอมนะ
แล้วท่านก็เดินจากไป .........
เราก็กลับบ้านค่ะ หาชื่อ รร. ในอินเทอร์เน็ต มีชื่อ รร. เป็นโรงเรียนขยายโอกาส อนุบาล - ม.3 ค่ะ ถัดมาก็หาดูแผนที่ค่ะ ปรากฏว่าไม่มีในแผนที่ประเทศไทย เอื๊อก เอื๊อก งานเข้าาา เอาน่า ใจดีสู้เสือ เตรียมข้าวของไป ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เรียกว่าเครื่องอำนวยความสะดวกเท่าที่จะหาได้มีเท่าไหร่เอาไปให้หมด ไปถามทางเอาข้างหน้าโลด 555 พ่อ แม่ ลุงป้าน้าอา สิบกว่าชีวิตไปส่งเราหมดเลย T-T ซึ้งจริง ๆ
พอถึงวันไปทำงานที่ รร. จริงๆแล้ว มันเกินกว่าที่คิดไว้มากกกค่ะ ห้องพักดี เหมือนรีสอร์ท บรรยาการศค่อนข้างดี เสียอย่างเดียว ทางลงโรงเรียนชันมากค่ะ แบบลงเกียร์ 1 ข้นเกียร์ 1 ยังลำบาก พอไปถึงพี่ที่อยู่ก่อนแล้วเค้าให้พ่อแม่เราขนของที่อำนวยความสะดวกกลับหมดเลย เพราะว่าของพี่เค้ามีอยู่แล้ว ให้ใช้ด้วยกัน เราก็เกรงใจนะ ตอนแรกเราจะให้แม่นอนกะเราด้วย พี่เค้าบอกว่า "น้อง F โตแล้วคุณแม่ไม่ต้องนอนด้วยหรอกค่ะ เดี๋ยวหนูดูแลเอง" ไม่อยากจะบอกเลยว่า หนูกลัวพี่น่ะแหละค่ะ เสียงดังและหน้าดุด้วย สรุปคือ ที่บ้านมาส่งเรา พร้อมกระเป๋าหนึ่งใบ มอเตอร์ไซค์ 1 คัน เท่านั้นจริงๆค่ะ มาส่งเช้า กลับบ่ายเลย ตอนแรกๆที่เริ่มทำงาน เราว่าทุกคนคงเป็นเหมือนกัน คือ อยากให้ผ่านไปซักปีนึง เรามาใหม่ อะไรมันก็ไม่คุ้น เราเป็นรุ่นน้องสุดในโรงเรียน ตอนนั้น 22 ค่ะ คือ เราเป็นคนที่ถ้าไม่รู้จักหรือไม่คุ้นเราจะไม่ค่อยคุยกับใครก่อน ไม่ได้หยิ่งนะ แต่เราไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ เค้าพูดอะไรกันเราก็ยิ้ม ยิ้มอย่างเดียวเลยค่ะ แต่ถ้าเรารู้จักหรือสนิทกับใครแล้วเราจะออกแนวหลุดๆ ต๊องๆ หน่อยอ่านะ อิอิ ยังไม่เข้าเรื่องค่ายอาสาเลยเนอะ มา มา อยู่ได้สักสองเดือน มีหนังสือราชการมาถึง รร. ว่าจะมี นศ. มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งมาออกค่ายอาสาพัฒนาชนบท ผอ.ก็ออกคำสั่งให้แต่ละฝ่ายทำหน้าที่ นู่น นี่ นั่น สำหรับเรา ได้ช่วยพี่เค้าจัดห้องรับรอง คือ เราจะสละห้องเรียน 1 ห้อง และห้องสมุด ให้ นศ.ที่มาออกค่าย เรากับพี่อีกคนต้องหาที่นอน เสื่อ หมอน หรืออะไรก็ตามที่ยังขาด สำหรับเราเป็นคนที่ถ้าได้รับคำสั่งแล้ว จะรีบทำเลยค่ะ เสร็จแล้วจะได้มีเวลา ชิลๆ เรารับอาสาจัดเองนะ เลยเพื่อ นศ. เฟรชชี่ น่ารักๆ (คือ เรา มโนเอง อ่ะนะ)ค่ะ เสาร์-อาทิตย์ไม่ได้กลับบ้านอยู่แล้ว ลูกน้องเราเยอะ เด็กดอย ป.5 - ป.6 ตัวโตๆทั้งนั้น น่ารักมากค่ะ มีน้ำใจช่วยเหลือครูตลอด งานก็เลยเสร็จไว มีเวลาไปลั้ลลาช่วยแผนกอื่นทำงานอีกนะเคอะ 5555
เช้าวันที่ นศ. มาถึง รร. คือ แบบลงรถมามีแต่ผู้ชายทั้งนั้น หน้าแบบ โหด มัน ฮา ครบทุกรูปแบบ มโนเองว่า คงจะเป็นอาจารย์มาก่อน นศ. คงจะมาทีหลังเราก็เข้าไปต้อนรับ "สวัสดีค่ะ อาจารย์ เชิญพักผ่อนดื่มน้ำเย็นๆก่อนนะคะ นักศึกษาจะตามมาอีกเยอะมั้ยคะ" มีเสียงหนึ่งตอบกลับมาว่า..."พวกผมนี่แหละครับ นักศึกษา พวกผู้หญิงจะตามมาอีกสองวันข้างหน้าครับ" แป่ว!!! เอ๋อรับประทานเลยสิคะ เค้าคงเห็นเราหน้าเสีย เลยบอกว่า "ไม่เป็นไรครับคุณครูที่จริงพวกผมก็ 25 up เกือบทุกคน ไม่ต้องซีเรียส ดูท่าแล้วคุณครูน่าจะอายุน้อยกว่าพวกผมนะครับ" คนนี้แหละ อีตา J ค่ะ แถมยังยิ้มแบบกวนๆ เราก็อายสิคะ หน้าแตก เพล้ง++เบ้อเร่อเลย ก็จากที่เรา มโนว่า เฟรชชี่ น่ารักๆ น้องๆ ปี 1 ปี 2 ที่ไหนได้ เด็กนักเรียนยังเรียกลุงเลยค่ะ
วันแรกที่ นศ. มาเป็นวันอาทิตย์ตอนเย็นค่ะ ช่วงนั้นเป็นต้นเดือนธันวาคม คือ ช่วงที่หนาวเหน็บอย่างแรง และอยู่ในหุบเขาอย่างนี้ บรรยากาศนี่ไม่ต้องพูดถึง หมอกบางๆพัดผ่านหน้าเราตลอดเวลา และบางครั้งลมก็หอบเอาหมอกก้อนใหญ่มาหาเราแบบ ทะเลหมอกจริงๆเลยค่ะ ระยะ รัศมี 2 เมตรข้างหน้าแทบจะมองไม่เห็นอะไรเลย นศ. มาจากเมืองกรุง บ้างก็ไม่ได้เตรียมเสื้อกันหนาวมา วันแรกก็ใช้ผ้าห่มคลุมกายไปก่อน เสื้อกันหนาวก็มีครูผู้ชายเอาไปให้บ้าง แต่ก็ยังไม่พออยู่ดี เราก็เลยเดินไปบอกคุณ J ค่ะ ว่า
F:"พี่คะ โทรหาพี่ๆ นศ. ที่จะตามมาว่าให้เอาเสื้อกันหนาวมาด้วยนะคะ กันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ"
j: ครูครับ ผมเอาโทรศัพท์มา แต่ลืมที่ชาร์จแบต พอจะมีที่ชาร์จ ยี่ห้อ .... รุ่น.... มั้ยครับ
F: ของหนูไม่มีหรอกค่ะ แต่มีพี่ที่ รร. นี้ก็ใช้อยู่ เดี๋ยวถ้าเค้ามาพรุ่งนี้จะขอยืมให้นะคะ ตอนนี้ไปใช้โทรศัพท์โรงเรียนโทรก่อนก็ได้นะคะ จะโทรเลยมั้ยเดี๋ยวหนูเปิดห้อง ผอ.ให้ค่ะ
J: ครับเดี๋ยวตามไปครับ
คือเค้าเป็นคนที่พูดครับทุกคำเลย แถมเรียกเรา ครูครับ ที่จริงเค้าก็เรียกถูกนะแต่มันตลกยังไงไม่รู้ตอนนั้นเราก็ไม่ได้สังเกตหน้าเค้าชัดหรอกนะคะ คนตัวสูงๆ หนวดเคราเฟิ้ม หน้าออกแนวเข้มๆ ดุดุ หน่อยอ่ะค่ะ เราเลยแทนตัวเองว่า หนู เค้าก็คงตลกเราเหมือนกันแหละเนอะ อิอิ
เราเดินมาเปิดห้องทำงาน ผอ. ให้เค้าค่ะแล้วระหว่างนั้นก็ขึ้นไปเก็บกวาดหน้าบ้านพักซะหน่อย พี่ครูผู้ชายแซวมาว่า หน้าห้องรกมากบ่าวเมืองกรุงมาอายเค้าบ้าง. เราก็เฉยๆนะ แต่มองไปมองมามันก็รกจริงๆแหละ ห้องพักครูกับห้องทำงานของผอ.จะอยู่ใกล้กันค่ะ ตอนกลางวันจะมาแอบสักงีบนี่อย่าหวังเลย. ผอ.อยู่ตลอด และทั้งโรงเรียนก็มีห้องนี้ห้องเดียวที่ใช้โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตได้ค่ะ
พอคุณJ มาถึง เราก็บอกให้เข้าไปใช้ได้เลยค่ะเิปดห้องไว้ให้แล้ว. เราก็อยู่ด้านนอก ไม่ได้ตั้งใจแอบฟังนะ แต่หูมันได้ยิน บทสนทนาประมาณนี้
"เฮ้ย. ไอ้ ...... กู J เองเว้ย ขึ้นมาค่ายบอกไอ้พวกที่จะมาเอาเสื้อกันหนาวมาด้วยนะ แ-่ง เกิดมาเพิ่งเคยเจอสี่โมงเย็นหนาวยังกะตี่สี่แน่ะ เอามาเผื่อกูกับไอ้ ... ด้วย หนาๆนะแข็งตายไม่รู้ด้วย เออ อย่าลืมซื้อปลากระป๋องมาเยอะๆไม่มีของขายนะกันดารของแท้บลาๆๆๆๆๆๆ" คือบทสนทนาค่อนข้างไปทางนินทาภูมิประเทศอะไรทำนองนั้นเราก็แอบขำๆ ไม่ถึงขั้นต้องพกปลากระป๋องหร้อกกกท้ายหมู่บ้านมีขายอยู่เหมือนกันนะคร้าา
มีแอบนินทาเราด้วยนะ " ครูผู้หญิงมีเยอะ โกนหนวดโกนเครามาด้วยนะเดี๋ยวเค้าทักเป็นอาจารย์เหมือนพวกกูโดนนะ "
ใจเรานี่คิดเลย กล้ามากกกก เราอยู่แถวนี้ยังมานินทาอีก ชิส์! พอคุยเสร็จเค้าก็ออกมาบอกเรา
J: คุณครูครับใช้เสร็จแล้วล็อคห้องเลยรึเปล่าครับ
F: เรียกครู f ก็ได้ค่ะ. ไม่ต้องล็อคค่ะเดี๋ยวจะเข้าไปทำงานต่อ ประมาณหกโมงครึ่งเชิญทานข้าวที่โรงอาหารนะคะ
J: ครับผม j นะครับ. ตกลงใครเป็นพี่ใครเป็นน้องเนี่ยครับ
F:เรา 22ค่ะ
J: งั้นเรียกครูน้อง f นะครับผมย่าง 25แล้วแฮ่ๆ
เราคิดในใจนะ นึกว่า 30 ยังจะมาถามอีกใครพี่ใครน้อง หน้าใสใสอ่อนๆอย่างครู f. ต้องเป็นน้องอยู่แล้วววสิคะ คุณหน้าโหด แค่คิดในใจนะ ไม่กล้าพูดกลัวอิตานี่หักคอจิ้มน้ำพริกเอา
ตอนรับประทานอาหารเย็นก็เป็นปกติดีค่ะ ก็เฮฮากันไปพี่ครูชายก็แนะนำเรื่องการปฏิบัติตน ประเพณีเพราะถิ่นที่เราอยู่เค้ามีวัฒนธรรมความเชื่อหลายๆอย่างที่ไม่เหมือนกับเรา ถ้าเราไม่รู้หรือไปทำอะไรที่มันไม่ถูกหลักประเพณีของเค้าจะเป็นเรื่องใหญ่ได้ทางที่ดีก็ทำอะไรให้ระมัดระวัง ไม่เชิงข่มขู่นะคะ เตือนด้วยความหวังดีค่ะ การทำอาหารนี้จะมีแค่มื้อนี้ที่ทำให้ชาวค่าย หลังจากนี้นศ.จะทำเองค่ะ เค้าบอกว่าคุยกับภารโรงแล้วว่าจะออกตังเติมน้ำมันรถให้แล้วให้ไปส่งที่ตลาดสองวัน/ครั้งเค้าจะแบ่งเวรกันทำเอง อาคารที่เค้าจะสร้างให้เป็นอาคารปูนชั่วคราวสามห้อง ใช้เวลาปประมาณ15. วันถึงจะแล้วเสร็จค่ะ. พอล้างถ้วยล้างชามเสร็จ คุณพี่ j. คนเดิมเลยค่ะ เดินตรงดิ่งมา บอกคณะครูเราว่า ในฐานะที่เค้าเป็นเลขานุการค่ายขอขอบคุณที่เลี้ยงอาหารมื้อนี้ ถ้าจะกรุณา ผมขอยืมเสื้อกันหนาวอีกสักตัวได้มั้ยคร้าบบบบ อึ้งค่ะอึ้ง มาแบบพิธีการแต่ตอนจบเนี่ยอ้อนวอนขอร้องแบบสุดๆ
พี่ครูชายบอกว่า"ของพี่ให้ไปหมดแล้วเหลือคนละตัวที่ใส่อยู่เนี่ยแหละ"แล้วก็หันมาทางเรา พี่ผู้หญิงอีกคนก้อบอก"ของพี่ตัวเล็กกก. F. มีตัวนึงที่ใหญ่ๆในตู้ไม่ใช่เหรอให้เค้ายืมไปก่อนสิสงสารเค้า"เราก้ออ้ำอึ้งนิดๆ ก็เสื้อตัวนั้นของแฟนเราอ่า แต่เห็นแก่มนุษยธรรมกลัวพี่เค้าหนาวตายเลยตกลงให้ยืม และถามว่า
F: "พี่เอาไปใส่เองใช่มั้ยคะ"
J: ครับ เหลือผมคนเดียวไม่มีเสื้อกันหนาวผ้าห่มก็สละให้เพื่อนอีกคนไปแล้วตอนแรกคิดว่าทนได้ พอมืดมาชักไม่ไหวแล้วครับ
ไม่พูดอย่างเดียวนะคะทำท่าหนาวสั่นเสียงสั่นด้วย น่าสงสารมากกกกเราก็หวงของอ่านะให้ไปแบบกำชับ
F: ให้ยืมนะคะพี่ ของแฟนหนูเองค่ะ
ตอนนั้นเค้าทำหน้าแบบเกรงใจมากเราก็รู้สึกผิดนิดๆคือเหมือนหวงของอ่ะค่ะ
แล้วเรานึกขึ้นได้ว่ามีผ้าห่มไม่ได้ใช้อีกผืนนึงอยูในตู้เราก็ขึ้นไปเอามาให้เค้า บอกว่าผ้าห่มเนี่ยใช้ได้ถึงวันออกค่ายก็ได้นะไม่ว่าหรอก คือตอนนั้นไม่คิดอะไรนะคะ แบบอยากช่วยเหลือมากกว่าเค้ามาสร้างอาคารให้ ร.ร.ตั้งหนึ่งหลัง อำนวยความสะดวกให้เค้าหน่อยจะเป็นไรไป
ระหว่างสัปดาห์นั้นเราก็สอนหนังสือนักเรียนไปตามปกติค่ะทีม นศ.ก็มาเพิ่มเรื่อยๆบางคนก็เป็นคนเหนือ. บางคนอีสาน กลาง ใต้ แบบว่ามาครบทุกภาคเลยค่ะ บริเวณที่เค้าสร้างอาคารจะอยู่คนละที่กับที่เราสอนเลยค่ะ เรียกว่าคนละโซนของเราจะอยู่ฝั่งมัธยม ส่วนอาคารที่เค้าสร้างกันเป็นฝั่งอนุบาล เราจะเจอกับพวก. นศ ก็ตอนเย็นๆ จนถึงสามทุ่มเพราะ ผอ . อนุญาติให้ใช้ห้องได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์อินเทอร์เนต ใช้ได้หมดแต่มีข้อแม้ว่าต้องเก็บกวาดให้เรียบร้อยก่อนออกจากห้อง เหมือนสั่งเด็กๆเลยเนอะ ^__^ ค่ายนี้มี นศ.หญิงมาประมาณ 7-8 คนค่ะ เด็กๆชอบมาบอกว่า "พี่ นศ ใจดีมากค่ะ สวยพอๆกับครูแต่ครูดุกว่าเยอะ". ใช่ซี้ ให้พี่ นศ. มาคลุกคลีกะหนูๆสักวันสิคะ นางฟ้าอาจจะกลายเป็นนางยักษ์ได้ในชั่วข้ามวัน 55 ตอนครู f มาใหม่ๆ ก็สภาพนางฟ้านะคะขอบอก. ผ่านไปสองเดือน นางอะไรน่ะเหรอคะ อย่าให้พูด เด็กๆน่าร้ากกจะตายยยเน๊อะะะ
ช่วงสัปดาห์แรก อิตาพี่ J ก็แว้บๆมาบ้าง แบบเดินผ่านแถวๆหลังห้อง ที่หลังห้องจะมีก๊อกน้ำอเนกประสงค์ค่ะ อาคารเป็นอาคารชั้นเดียวและหน้าต่างสูงประมาณเอว จะมีคนเดินผ่านแถวนี้บ่อยๆแม้กระทั่งชาวบ้านที่ไปไร่ไปสวนก็จะแวะล้างมือล้างเท้าดื่มน้ำตรงนี้ นักเรียนหญิง กรี้ดกร้าดสิคะ นร. มต้น. สาวน้อยทั้งหลายออกอาการปลื้มค่ะแต่ละคนจะมีพี่ค่ายในดวงใจ พี่ s. พี่ t. พี่ k. ก็ว่ากันไป บางรายคลั่งไคล้หนักห่อข้าวจากบ้านมาให้เลยก็มี ส่วนพี่ J เนี่ยป๊อปปูลาร์สุดๆ เราว่าพี่เค้ามาอ่อย เก่งด้วยอ่ะ ก๊อกน้ำที่ไซต์งานก็มีมาล้างมือทำไมตรงนี้ อ่อย นร.เราแหงมๆ
เกือบจะนอกใจแฟน เพราะบรรยากาศช่างเป็นใจ^^
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะคะ เรื่องที่จะเล่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงและมันก็ผ่านมานานแล้ว เราอยากแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านกัน ใครมีประสบการณ์ฟินๆ น่ารักๆ แบบนี้ ก็เอามาฝากกันบ้างนะคะ เราขอแทนตัวเองว่า F และแทน คู่กรณีว่า J นะคะ
.....................
โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบสูงทางภาคเหนือ แบบพื้นที่กันดารค่ะ ตอนที่เราเพิ่งจบใหม่ๆ เราสอบบรรจุได้ที่ลำดับต้นๆ ก็เลยมีตัวเลือกแบบโหดมากอ่ะค่ะ เนื่องจากเพิ่งเกลี่ยตำแหน่งใหม่และตำแหน่งว่างก็จะเป็นพื้นที่ดอยทั้งนั้น ตอนไปเลือกสถานที่ประมาณว่าจับเข้าห้องและแจกกระดาษที่มีรายชื่อตำแหน่งว่างคนละแผ่น แล้วถามเลยค่ะ "ลำดับที่ 1 เลือก รร.อะไรคะ " ???แบบมึนๆงงๆมาก ไม่ให้ตั้งตัวกันเลยทีเดียว พอเลือโรงเรียนเสร็จก็ให้กลับไปเตรียมตัวที่บ้าน 15 วัน ช่วงนี้ตื่นเต้นมากค่ะ ไม่รู้เลยว่า รร.ที่ตัวเองเลือกอยู่ที่ไหน ต้องเตรียมอะไรไปบ้าง เพราะวันที่ไปรายงานตัว เราเจอ ผอ. ค่ะ แต่ ผอ.บอกแค่ว่า
ผอ. : มีห้องพักว่าง 1 ที่ ให้อยู่กับพี่ที่เค้าอยู่มาก่อนแล้ว ผมจะให้สอน วิทย์กับคณิตฯ ม. 1-3 นะ ไหวมั้ย?
F: ไหวค่ะ ไหว (เหงื่อเริ่มตก คือเราจบวิทย์มาก็จริงแต่คณิตศาสตร์เราโง่มากกก บ่องตง 55)
ผอ. : อยู่กับ ผมต้องขยันหน่อยนะ ผมค่อนข้างละเอียด ไว้เจอกันตอนเปิดเทอมนะ
แล้วท่านก็เดินจากไป .........
เราก็กลับบ้านค่ะ หาชื่อ รร. ในอินเทอร์เน็ต มีชื่อ รร. เป็นโรงเรียนขยายโอกาส อนุบาล - ม.3 ค่ะ ถัดมาก็หาดูแผนที่ค่ะ ปรากฏว่าไม่มีในแผนที่ประเทศไทย เอื๊อก เอื๊อก งานเข้าาา เอาน่า ใจดีสู้เสือ เตรียมข้าวของไป ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เรียกว่าเครื่องอำนวยความสะดวกเท่าที่จะหาได้มีเท่าไหร่เอาไปให้หมด ไปถามทางเอาข้างหน้าโลด 555 พ่อ แม่ ลุงป้าน้าอา สิบกว่าชีวิตไปส่งเราหมดเลย T-T ซึ้งจริง ๆ
พอถึงวันไปทำงานที่ รร. จริงๆแล้ว มันเกินกว่าที่คิดไว้มากกกค่ะ ห้องพักดี เหมือนรีสอร์ท บรรยาการศค่อนข้างดี เสียอย่างเดียว ทางลงโรงเรียนชันมากค่ะ แบบลงเกียร์ 1 ข้นเกียร์ 1 ยังลำบาก พอไปถึงพี่ที่อยู่ก่อนแล้วเค้าให้พ่อแม่เราขนของที่อำนวยความสะดวกกลับหมดเลย เพราะว่าของพี่เค้ามีอยู่แล้ว ให้ใช้ด้วยกัน เราก็เกรงใจนะ ตอนแรกเราจะให้แม่นอนกะเราด้วย พี่เค้าบอกว่า "น้อง F โตแล้วคุณแม่ไม่ต้องนอนด้วยหรอกค่ะ เดี๋ยวหนูดูแลเอง" ไม่อยากจะบอกเลยว่า หนูกลัวพี่น่ะแหละค่ะ เสียงดังและหน้าดุด้วย สรุปคือ ที่บ้านมาส่งเรา พร้อมกระเป๋าหนึ่งใบ มอเตอร์ไซค์ 1 คัน เท่านั้นจริงๆค่ะ มาส่งเช้า กลับบ่ายเลย ตอนแรกๆที่เริ่มทำงาน เราว่าทุกคนคงเป็นเหมือนกัน คือ อยากให้ผ่านไปซักปีนึง เรามาใหม่ อะไรมันก็ไม่คุ้น เราเป็นรุ่นน้องสุดในโรงเรียน ตอนนั้น 22 ค่ะ คือ เราเป็นคนที่ถ้าไม่รู้จักหรือไม่คุ้นเราจะไม่ค่อยคุยกับใครก่อน ไม่ได้หยิ่งนะ แต่เราไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ เค้าพูดอะไรกันเราก็ยิ้ม ยิ้มอย่างเดียวเลยค่ะ แต่ถ้าเรารู้จักหรือสนิทกับใครแล้วเราจะออกแนวหลุดๆ ต๊องๆ หน่อยอ่านะ อิอิ ยังไม่เข้าเรื่องค่ายอาสาเลยเนอะ มา มา อยู่ได้สักสองเดือน มีหนังสือราชการมาถึง รร. ว่าจะมี นศ. มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งมาออกค่ายอาสาพัฒนาชนบท ผอ.ก็ออกคำสั่งให้แต่ละฝ่ายทำหน้าที่ นู่น นี่ นั่น สำหรับเรา ได้ช่วยพี่เค้าจัดห้องรับรอง คือ เราจะสละห้องเรียน 1 ห้อง และห้องสมุด ให้ นศ.ที่มาออกค่าย เรากับพี่อีกคนต้องหาที่นอน เสื่อ หมอน หรืออะไรก็ตามที่ยังขาด สำหรับเราเป็นคนที่ถ้าได้รับคำสั่งแล้ว จะรีบทำเลยค่ะ เสร็จแล้วจะได้มีเวลา ชิลๆ เรารับอาสาจัดเองนะ เลยเพื่อ นศ. เฟรชชี่ น่ารักๆ (คือ เรา มโนเอง อ่ะนะ)ค่ะ เสาร์-อาทิตย์ไม่ได้กลับบ้านอยู่แล้ว ลูกน้องเราเยอะ เด็กดอย ป.5 - ป.6 ตัวโตๆทั้งนั้น น่ารักมากค่ะ มีน้ำใจช่วยเหลือครูตลอด งานก็เลยเสร็จไว มีเวลาไปลั้ลลาช่วยแผนกอื่นทำงานอีกนะเคอะ 5555
เช้าวันที่ นศ. มาถึง รร. คือ แบบลงรถมามีแต่ผู้ชายทั้งนั้น หน้าแบบ โหด มัน ฮา ครบทุกรูปแบบ มโนเองว่า คงจะเป็นอาจารย์มาก่อน นศ. คงจะมาทีหลังเราก็เข้าไปต้อนรับ "สวัสดีค่ะ อาจารย์ เชิญพักผ่อนดื่มน้ำเย็นๆก่อนนะคะ นักศึกษาจะตามมาอีกเยอะมั้ยคะ" มีเสียงหนึ่งตอบกลับมาว่า..."พวกผมนี่แหละครับ นักศึกษา พวกผู้หญิงจะตามมาอีกสองวันข้างหน้าครับ" แป่ว!!! เอ๋อรับประทานเลยสิคะ เค้าคงเห็นเราหน้าเสีย เลยบอกว่า "ไม่เป็นไรครับคุณครูที่จริงพวกผมก็ 25 up เกือบทุกคน ไม่ต้องซีเรียส ดูท่าแล้วคุณครูน่าจะอายุน้อยกว่าพวกผมนะครับ" คนนี้แหละ อีตา J ค่ะ แถมยังยิ้มแบบกวนๆ เราก็อายสิคะ หน้าแตก เพล้ง++เบ้อเร่อเลย ก็จากที่เรา มโนว่า เฟรชชี่ น่ารักๆ น้องๆ ปี 1 ปี 2 ที่ไหนได้ เด็กนักเรียนยังเรียกลุงเลยค่ะ
วันแรกที่ นศ. มาเป็นวันอาทิตย์ตอนเย็นค่ะ ช่วงนั้นเป็นต้นเดือนธันวาคม คือ ช่วงที่หนาวเหน็บอย่างแรง และอยู่ในหุบเขาอย่างนี้ บรรยากาศนี่ไม่ต้องพูดถึง หมอกบางๆพัดผ่านหน้าเราตลอดเวลา และบางครั้งลมก็หอบเอาหมอกก้อนใหญ่มาหาเราแบบ ทะเลหมอกจริงๆเลยค่ะ ระยะ รัศมี 2 เมตรข้างหน้าแทบจะมองไม่เห็นอะไรเลย นศ. มาจากเมืองกรุง บ้างก็ไม่ได้เตรียมเสื้อกันหนาวมา วันแรกก็ใช้ผ้าห่มคลุมกายไปก่อน เสื้อกันหนาวก็มีครูผู้ชายเอาไปให้บ้าง แต่ก็ยังไม่พออยู่ดี เราก็เลยเดินไปบอกคุณ J ค่ะ ว่า
F:"พี่คะ โทรหาพี่ๆ นศ. ที่จะตามมาว่าให้เอาเสื้อกันหนาวมาด้วยนะคะ กันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ"
j: ครูครับ ผมเอาโทรศัพท์มา แต่ลืมที่ชาร์จแบต พอจะมีที่ชาร์จ ยี่ห้อ .... รุ่น.... มั้ยครับ
F: ของหนูไม่มีหรอกค่ะ แต่มีพี่ที่ รร. นี้ก็ใช้อยู่ เดี๋ยวถ้าเค้ามาพรุ่งนี้จะขอยืมให้นะคะ ตอนนี้ไปใช้โทรศัพท์โรงเรียนโทรก่อนก็ได้นะคะ จะโทรเลยมั้ยเดี๋ยวหนูเปิดห้อง ผอ.ให้ค่ะ
J: ครับเดี๋ยวตามไปครับ
คือเค้าเป็นคนที่พูดครับทุกคำเลย แถมเรียกเรา ครูครับ ที่จริงเค้าก็เรียกถูกนะแต่มันตลกยังไงไม่รู้ตอนนั้นเราก็ไม่ได้สังเกตหน้าเค้าชัดหรอกนะคะ คนตัวสูงๆ หนวดเคราเฟิ้ม หน้าออกแนวเข้มๆ ดุดุ หน่อยอ่ะค่ะ เราเลยแทนตัวเองว่า หนู เค้าก็คงตลกเราเหมือนกันแหละเนอะ อิอิ
เราเดินมาเปิดห้องทำงาน ผอ. ให้เค้าค่ะแล้วระหว่างนั้นก็ขึ้นไปเก็บกวาดหน้าบ้านพักซะหน่อย พี่ครูผู้ชายแซวมาว่า หน้าห้องรกมากบ่าวเมืองกรุงมาอายเค้าบ้าง. เราก็เฉยๆนะ แต่มองไปมองมามันก็รกจริงๆแหละ ห้องพักครูกับห้องทำงานของผอ.จะอยู่ใกล้กันค่ะ ตอนกลางวันจะมาแอบสักงีบนี่อย่าหวังเลย. ผอ.อยู่ตลอด และทั้งโรงเรียนก็มีห้องนี้ห้องเดียวที่ใช้โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตได้ค่ะ
พอคุณJ มาถึง เราก็บอกให้เข้าไปใช้ได้เลยค่ะเิปดห้องไว้ให้แล้ว. เราก็อยู่ด้านนอก ไม่ได้ตั้งใจแอบฟังนะ แต่หูมันได้ยิน บทสนทนาประมาณนี้
"เฮ้ย. ไอ้ ...... กู J เองเว้ย ขึ้นมาค่ายบอกไอ้พวกที่จะมาเอาเสื้อกันหนาวมาด้วยนะ แ-่ง เกิดมาเพิ่งเคยเจอสี่โมงเย็นหนาวยังกะตี่สี่แน่ะ เอามาเผื่อกูกับไอ้ ... ด้วย หนาๆนะแข็งตายไม่รู้ด้วย เออ อย่าลืมซื้อปลากระป๋องมาเยอะๆไม่มีของขายนะกันดารของแท้บลาๆๆๆๆๆๆ" คือบทสนทนาค่อนข้างไปทางนินทาภูมิประเทศอะไรทำนองนั้นเราก็แอบขำๆ ไม่ถึงขั้นต้องพกปลากระป๋องหร้อกกกท้ายหมู่บ้านมีขายอยู่เหมือนกันนะคร้าา
มีแอบนินทาเราด้วยนะ " ครูผู้หญิงมีเยอะ โกนหนวดโกนเครามาด้วยนะเดี๋ยวเค้าทักเป็นอาจารย์เหมือนพวกกูโดนนะ "
ใจเรานี่คิดเลย กล้ามากกกก เราอยู่แถวนี้ยังมานินทาอีก ชิส์! พอคุยเสร็จเค้าก็ออกมาบอกเรา
J: คุณครูครับใช้เสร็จแล้วล็อคห้องเลยรึเปล่าครับ
F: เรียกครู f ก็ได้ค่ะ. ไม่ต้องล็อคค่ะเดี๋ยวจะเข้าไปทำงานต่อ ประมาณหกโมงครึ่งเชิญทานข้าวที่โรงอาหารนะคะ
J: ครับผม j นะครับ. ตกลงใครเป็นพี่ใครเป็นน้องเนี่ยครับ
F:เรา 22ค่ะ
J: งั้นเรียกครูน้อง f นะครับผมย่าง 25แล้วแฮ่ๆ
เราคิดในใจนะ นึกว่า 30 ยังจะมาถามอีกใครพี่ใครน้อง หน้าใสใสอ่อนๆอย่างครู f. ต้องเป็นน้องอยู่แล้วววสิคะ คุณหน้าโหด แค่คิดในใจนะ ไม่กล้าพูดกลัวอิตานี่หักคอจิ้มน้ำพริกเอา
ตอนรับประทานอาหารเย็นก็เป็นปกติดีค่ะ ก็เฮฮากันไปพี่ครูชายก็แนะนำเรื่องการปฏิบัติตน ประเพณีเพราะถิ่นที่เราอยู่เค้ามีวัฒนธรรมความเชื่อหลายๆอย่างที่ไม่เหมือนกับเรา ถ้าเราไม่รู้หรือไปทำอะไรที่มันไม่ถูกหลักประเพณีของเค้าจะเป็นเรื่องใหญ่ได้ทางที่ดีก็ทำอะไรให้ระมัดระวัง ไม่เชิงข่มขู่นะคะ เตือนด้วยความหวังดีค่ะ การทำอาหารนี้จะมีแค่มื้อนี้ที่ทำให้ชาวค่าย หลังจากนี้นศ.จะทำเองค่ะ เค้าบอกว่าคุยกับภารโรงแล้วว่าจะออกตังเติมน้ำมันรถให้แล้วให้ไปส่งที่ตลาดสองวัน/ครั้งเค้าจะแบ่งเวรกันทำเอง อาคารที่เค้าจะสร้างให้เป็นอาคารปูนชั่วคราวสามห้อง ใช้เวลาปประมาณ15. วันถึงจะแล้วเสร็จค่ะ. พอล้างถ้วยล้างชามเสร็จ คุณพี่ j. คนเดิมเลยค่ะ เดินตรงดิ่งมา บอกคณะครูเราว่า ในฐานะที่เค้าเป็นเลขานุการค่ายขอขอบคุณที่เลี้ยงอาหารมื้อนี้ ถ้าจะกรุณา ผมขอยืมเสื้อกันหนาวอีกสักตัวได้มั้ยคร้าบบบบ อึ้งค่ะอึ้ง มาแบบพิธีการแต่ตอนจบเนี่ยอ้อนวอนขอร้องแบบสุดๆ
พี่ครูชายบอกว่า"ของพี่ให้ไปหมดแล้วเหลือคนละตัวที่ใส่อยู่เนี่ยแหละ"แล้วก็หันมาทางเรา พี่ผู้หญิงอีกคนก้อบอก"ของพี่ตัวเล็กกก. F. มีตัวนึงที่ใหญ่ๆในตู้ไม่ใช่เหรอให้เค้ายืมไปก่อนสิสงสารเค้า"เราก้ออ้ำอึ้งนิดๆ ก็เสื้อตัวนั้นของแฟนเราอ่า แต่เห็นแก่มนุษยธรรมกลัวพี่เค้าหนาวตายเลยตกลงให้ยืม และถามว่า
F: "พี่เอาไปใส่เองใช่มั้ยคะ"
J: ครับ เหลือผมคนเดียวไม่มีเสื้อกันหนาวผ้าห่มก็สละให้เพื่อนอีกคนไปแล้วตอนแรกคิดว่าทนได้ พอมืดมาชักไม่ไหวแล้วครับ
ไม่พูดอย่างเดียวนะคะทำท่าหนาวสั่นเสียงสั่นด้วย น่าสงสารมากกกกเราก็หวงของอ่านะให้ไปแบบกำชับ
F: ให้ยืมนะคะพี่ ของแฟนหนูเองค่ะ
ตอนนั้นเค้าทำหน้าแบบเกรงใจมากเราก็รู้สึกผิดนิดๆคือเหมือนหวงของอ่ะค่ะ
แล้วเรานึกขึ้นได้ว่ามีผ้าห่มไม่ได้ใช้อีกผืนนึงอยูในตู้เราก็ขึ้นไปเอามาให้เค้า บอกว่าผ้าห่มเนี่ยใช้ได้ถึงวันออกค่ายก็ได้นะไม่ว่าหรอก คือตอนนั้นไม่คิดอะไรนะคะ แบบอยากช่วยเหลือมากกว่าเค้ามาสร้างอาคารให้ ร.ร.ตั้งหนึ่งหลัง อำนวยความสะดวกให้เค้าหน่อยจะเป็นไรไป
ระหว่างสัปดาห์นั้นเราก็สอนหนังสือนักเรียนไปตามปกติค่ะทีม นศ.ก็มาเพิ่มเรื่อยๆบางคนก็เป็นคนเหนือ. บางคนอีสาน กลาง ใต้ แบบว่ามาครบทุกภาคเลยค่ะ บริเวณที่เค้าสร้างอาคารจะอยู่คนละที่กับที่เราสอนเลยค่ะ เรียกว่าคนละโซนของเราจะอยู่ฝั่งมัธยม ส่วนอาคารที่เค้าสร้างกันเป็นฝั่งอนุบาล เราจะเจอกับพวก. นศ ก็ตอนเย็นๆ จนถึงสามทุ่มเพราะ ผอ . อนุญาติให้ใช้ห้องได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์อินเทอร์เนต ใช้ได้หมดแต่มีข้อแม้ว่าต้องเก็บกวาดให้เรียบร้อยก่อนออกจากห้อง เหมือนสั่งเด็กๆเลยเนอะ ^__^ ค่ายนี้มี นศ.หญิงมาประมาณ 7-8 คนค่ะ เด็กๆชอบมาบอกว่า "พี่ นศ ใจดีมากค่ะ สวยพอๆกับครูแต่ครูดุกว่าเยอะ". ใช่ซี้ ให้พี่ นศ. มาคลุกคลีกะหนูๆสักวันสิคะ นางฟ้าอาจจะกลายเป็นนางยักษ์ได้ในชั่วข้ามวัน 55 ตอนครู f มาใหม่ๆ ก็สภาพนางฟ้านะคะขอบอก. ผ่านไปสองเดือน นางอะไรน่ะเหรอคะ อย่าให้พูด เด็กๆน่าร้ากกจะตายยยเน๊อะะะ
ช่วงสัปดาห์แรก อิตาพี่ J ก็แว้บๆมาบ้าง แบบเดินผ่านแถวๆหลังห้อง ที่หลังห้องจะมีก๊อกน้ำอเนกประสงค์ค่ะ อาคารเป็นอาคารชั้นเดียวและหน้าต่างสูงประมาณเอว จะมีคนเดินผ่านแถวนี้บ่อยๆแม้กระทั่งชาวบ้านที่ไปไร่ไปสวนก็จะแวะล้างมือล้างเท้าดื่มน้ำตรงนี้ นักเรียนหญิง กรี้ดกร้าดสิคะ นร. มต้น. สาวน้อยทั้งหลายออกอาการปลื้มค่ะแต่ละคนจะมีพี่ค่ายในดวงใจ พี่ s. พี่ t. พี่ k. ก็ว่ากันไป บางรายคลั่งไคล้หนักห่อข้าวจากบ้านมาให้เลยก็มี ส่วนพี่ J เนี่ยป๊อปปูลาร์สุดๆ เราว่าพี่เค้ามาอ่อย เก่งด้วยอ่ะ ก๊อกน้ำที่ไซต์งานก็มีมาล้างมือทำไมตรงนี้ อ่อย นร.เราแหงมๆ