สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
เสริมข้อมูลจากแหล่งข่าวเพื่อนผมที่อยู่อังกฤษนะครับ
ขอบอกเลยนะครับ ผู้อพยพมุสลิมหลายพันคนที่อพยพมายังยุโรปเปลี่ยนศาสนาเลยครับ และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย พวกเขาเล่าให้ฟังกันว่าตอนอยู่ในประเทศบ้านเกิดพวกเขา เขาจะถูกสอนให้มองว่าพวกตะวันตกจิตใจโหดเหี้ยม เป็นพวกนอกรีต เป็นคนชั่วร้าย และ ฯลฯ พอพวกเขาได้มาพบเจอจริงๆกับตรงกันข้ามกับสิ่งที่พวกเขาได้รับฟังและเสี้ยมสอนกันมา พวกเขาหลายคนมองว่าคนอาหรับมุสลิมพี่น้องตนมากกว่าที่มีจิตใจโหดเหี้ยมและเป็นพวกนอกรีตเสียเอง....
ขอบอกเลยนะครับ ผู้อพยพมุสลิมหลายพันคนที่อพยพมายังยุโรปเปลี่ยนศาสนาเลยครับ และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย พวกเขาเล่าให้ฟังกันว่าตอนอยู่ในประเทศบ้านเกิดพวกเขา เขาจะถูกสอนให้มองว่าพวกตะวันตกจิตใจโหดเหี้ยม เป็นพวกนอกรีต เป็นคนชั่วร้าย และ ฯลฯ พอพวกเขาได้มาพบเจอจริงๆกับตรงกันข้ามกับสิ่งที่พวกเขาได้รับฟังและเสี้ยมสอนกันมา พวกเขาหลายคนมองว่าคนอาหรับมุสลิมพี่น้องตนมากกว่าที่มีจิตใจโหดเหี้ยมและเป็นพวกนอกรีตเสียเอง....
ความคิดเห็นที่ 21
มุสลิมกราบกราน อ้อนวอนกาเฟรหรั่งที่ตัวเองเกลียดชัง
ขอเข้าไปอาศัยอยู่ด้วยอย่างน่าสงสาร
พอได้ไปอยู่เสร็จมันก็สร้างความเดือดร้อน
ตอบแทน กาเฟรเจ้าบ้านซะกระอักเลือด
แถมมุสลิมด้วยกันที่มันไม่ได้ตกที่นั่งลำบาก
มันก็ไม่สำนึก คอยแต่ด่า เพ่งโทษไอ้พวกกาเฟร
ที่อุตส่าห์ใจบุญ ให้ที่พึ่งพิงกับเรือนร่างเดียวกัน
ใครวิจารณ์ปัญหาจากมุสลิมอพยพ
มันก็โบ๊ยให้กาเฟรเจ้าบ้านทุกอย่าง
แล้วมันไม่โทษ มุสลิม ISIS ที่เป็นต้นเหตุสักคำ
ลักษณะนี้เป็นการเนรคุณไหมล่ะ? คิดว่า
เรือนร่างเดียวกันจะซวยก็เพราะปากเรือนร่างเดียวกันนี่แหละ
ขอเข้าไปอาศัยอยู่ด้วยอย่างน่าสงสาร
พอได้ไปอยู่เสร็จมันก็สร้างความเดือดร้อน
ตอบแทน กาเฟรเจ้าบ้านซะกระอักเลือด
แถมมุสลิมด้วยกันที่มันไม่ได้ตกที่นั่งลำบาก
มันก็ไม่สำนึก คอยแต่ด่า เพ่งโทษไอ้พวกกาเฟร
ที่อุตส่าห์ใจบุญ ให้ที่พึ่งพิงกับเรือนร่างเดียวกัน
ใครวิจารณ์ปัญหาจากมุสลิมอพยพ
มันก็โบ๊ยให้กาเฟรเจ้าบ้านทุกอย่าง
แล้วมันไม่โทษ มุสลิม ISIS ที่เป็นต้นเหตุสักคำ
ลักษณะนี้เป็นการเนรคุณไหมล่ะ? คิดว่า
เรือนร่างเดียวกันจะซวยก็เพราะปากเรือนร่างเดียวกันนี่แหละ
ความคิดเห็นที่ 3
ทำไมชาวซีเรียถึงไม่อพยพลี้ภัยไปยังประเทศภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียที่มีฐานะร่ำรวย
ในขณะที่การหลั่งไหลของผู้อพยพชาวซีเรียเข้าไปยังยุโรปกำลังอยู่ในขั้นวิกฤต มีหลายฝ่ายตั้งคำถามว่า ทำไมผู้อพยพชาวซีเรียถึงไม่เดินทางไปลี้ภัยในประเทศอ่าวเปอร์เซียที่มีฐานะร่ำรวย และอยู่ในทำเลที่ใกล้ซีเรียมากกว่าด้วย อมิรา ฟาธัลลาแห่งแผนกบีบีซีมอนิเตอริงที่ติดตามการรายงานข่าวของสื่อในภูมิภาคดังกล่าวอธิบายว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา คนซีเรียที่หนีภัยสงครามในบ้านเกิดได้ข้ามเข้าไปยังเลบานอน, จอร์แดน และตุรกีแล้วเป็นจำนวนมาก แต่การอพยพเข้าไปยังประเทศอาหรับชาติอื่น โดยเฉพาะชาติในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียเป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อน
ตามกฎหมาย ชาวซีเรียสามารถยื่นขอวีซ่าทำงานหรือวีซ่านักท่องเที่ยวเพื่อเข้าไปยังประเทศภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียได้ แต่วิธีนี้มีค่าใช้จ่ายสูง และชาวซีเรียยังรู้ดีว่า หลายชาติในอ่าวเปอร์เซียไม่ต้อนรับพวกเขา ดังนั้นในทางปฏิบัติแล้วจึงเป็นเรื่องยากที่จะได้วีซ่ามาแบบง่าย ๆ ในกรณีที่ประสบความสำเร็จนั้น ส่วนใหญ่เป็นคนซีเรียที่อาศัยในประเทศอ่าวเปอร์เซียอยู่แล้ว และได้ขอขยายเวลาการพำนักออกไป หรือเป็นกลุ่มที่มีครอบครัวอยู่ที่นั่น อุปสรรคอีกอย่างคือ หากไม่มีวีซ่า พวกเขาก็ไม่สามารถเข้าประเทศอาหรับชาติอื่นได้เช่นกัน ยกเว้นแอลจีเรีย มอริเตเนีย ซูดานและเยเมน นอกจากนั้น การขอวีซ่าเข้าประเทศอาหรับชาติอื่นนั้น ตามปกติก็ไม่ค่อยได้รับการอนุมัติด้วย
การที่ซีเรียมีเพื่อนบ้านอาหรับหลายชาติที่มีฐานะร่ำรวย ทำให้สื่อทั้งกระแสหลักและสังคมออนไลน์ชี้ว่า ชาติอาหรับเพื่อนบ้านที่มีฐานะร่ำรวยต่างหาก ที่มีภาระรับผิดชอบต่อผู้อพยพชาวซีเรียมากกว่าชาติในยุโรป และมีการใช้แฮชแทค #Welcoming_Syria's_refugees_is_a_Gulf_duty ขึ้นมาเพื่อรณรงค์เรื่องนี้ และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ใช้แฮชแทคนี้ทางทวิตเตอร์มากกว่า 30,000 ครั้งแล้ว ผู้ใช้ต่างโพสต์ภาพที่สะท้อนถึงชีวิตที่ลำบากของผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย เช่น ภาพคนจมน้ำ ภาพเด็ก ๆ ที่มุดผ่านรั้วลวดหนาม และครอบครัวที่ต้องร่อนเร่และหลับนอนตามถนนหนทาง
เฟซบุ๊กของชุมชนชาวซีเรียในเดนมาร์ก ได้โพสต์คลิปวิดีโอหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า มีผู้อพยพชาวซีเรียได้รับอนุญาตให้เข้าออสเตรียได้
และมีผู้ใช้รายหนึ่งโพสต์ต่อโดยตั้งคำถามว่า พวกเขามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร “พวกเราหนีภัยจากภูมิภาคของผองพี่น้องมุสลิมซึ่งควรจะแสดงความรับผิดชอบต่อพวกเรา มากกว่าประเทศที่พวกเขาบอกว่าเป็นประเทศนอกรีตได้อย่างไรกัน?”
ผู้ใช้อีกคนหนึ่งแสดงความเห็นต่อว่า “สาบานต่อพระผู้เป็นเจ้าว่าคนอาหรับคือพวกนอกรีต”
เรื่องการอพยพลี้ภัยของชาวซีเรียเป็นประเด็นที่สื่อในภูมิภาคให้ความสนใจ หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งในซาอุดีอาระเบียตีพิมพ์ภาพการ์ตูน ซึ่งต่อมาได้มีการแชร์ต่อตามสื่อสังคมออนไลน์ ภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นชายคนหนึ่งในชุดแบบที่คนในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียนิยมสวมใส่ ยืนอยู่หลังประตูที่มีลวดหนามกั้นและชี้ไปที่ประตูที่มีธงสหภาพยุโรปที่มีผู้อพยพนั่งรออยู่หน้าประตู พร้อมกับถามว่า “ทำไมไม่ให้พวกเขาเข้าไป พวกคุณเสียมารยาทจริง ๆ”
อมิรา ฟาธัลลา แห่งแผนกบีบีซีมอนิเตอริง บอกว่าทั้ง ๆ ที่มีการรณรงค์ตามสื่อสังคมออนไลน์ แต่ดูเหมือนว่าชาติในอ่าวเปอร์เซียยังไม่เปลี่ยนท่าทีของตนต่อผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะมีแรงงานต่างชาติเพียงพอแล้ว ชาติในอ่าวเปอร์เซีย เช่น คูเวต ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไม่จำเป็นต้องง้อแรงงานชาวซีเรีย เพราะในขณะนี้มีแรงงานจากประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้อยู่แล้ว ส่วนใหญ่เป็นแรงงานไร้ฝีมือ ขณะที่แรงงานที่มีฝีมือที่ทำงานในระดับกลางด้านการศึกษาและสาธารณสุข เป็นแรงงานคนอาหรับที่ไม่ได้เป็นคนท้องถิ่นของประเทศในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย นอกจากนั้น รัฐบาลซาอุฯ และคูเวตในขณะนี้ยังมีนโนบายที่ต้องการสร้างงานให้พลเมืองของตนก่อนแรงงานต่างชาติด้วย สำหรับแรงงานต่างชาติที่อาศัยในประเทศดังกล่าว หากไม่ได้รับสัญชาติ ก็ยากที่จะลงหลักปักฐานได้ เพราะประเทศดังกล่าวไม่ให้สัญชาติใครง่าย ๆ และเมื่อปี 2555 รัฐบาลคูเวตยังประกาศด้วยว่าจะลดจำนวนแรงงานต่างชาติลง 1 ล้านคน ภายในเวลา 10 ปี
https://www.facebook.com/BBCThai/posts/1693197274234639
ในขณะที่การหลั่งไหลของผู้อพยพชาวซีเรียเข้าไปยังยุโรปกำลังอยู่ในขั้นวิกฤต มีหลายฝ่ายตั้งคำถามว่า ทำไมผู้อพยพชาวซีเรียถึงไม่เดินทางไปลี้ภัยในประเทศอ่าวเปอร์เซียที่มีฐานะร่ำรวย และอยู่ในทำเลที่ใกล้ซีเรียมากกว่าด้วย อมิรา ฟาธัลลาแห่งแผนกบีบีซีมอนิเตอริงที่ติดตามการรายงานข่าวของสื่อในภูมิภาคดังกล่าวอธิบายว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา คนซีเรียที่หนีภัยสงครามในบ้านเกิดได้ข้ามเข้าไปยังเลบานอน, จอร์แดน และตุรกีแล้วเป็นจำนวนมาก แต่การอพยพเข้าไปยังประเทศอาหรับชาติอื่น โดยเฉพาะชาติในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียเป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อน
ตามกฎหมาย ชาวซีเรียสามารถยื่นขอวีซ่าทำงานหรือวีซ่านักท่องเที่ยวเพื่อเข้าไปยังประเทศภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียได้ แต่วิธีนี้มีค่าใช้จ่ายสูง และชาวซีเรียยังรู้ดีว่า หลายชาติในอ่าวเปอร์เซียไม่ต้อนรับพวกเขา ดังนั้นในทางปฏิบัติแล้วจึงเป็นเรื่องยากที่จะได้วีซ่ามาแบบง่าย ๆ ในกรณีที่ประสบความสำเร็จนั้น ส่วนใหญ่เป็นคนซีเรียที่อาศัยในประเทศอ่าวเปอร์เซียอยู่แล้ว และได้ขอขยายเวลาการพำนักออกไป หรือเป็นกลุ่มที่มีครอบครัวอยู่ที่นั่น อุปสรรคอีกอย่างคือ หากไม่มีวีซ่า พวกเขาก็ไม่สามารถเข้าประเทศอาหรับชาติอื่นได้เช่นกัน ยกเว้นแอลจีเรีย มอริเตเนีย ซูดานและเยเมน นอกจากนั้น การขอวีซ่าเข้าประเทศอาหรับชาติอื่นนั้น ตามปกติก็ไม่ค่อยได้รับการอนุมัติด้วย
การที่ซีเรียมีเพื่อนบ้านอาหรับหลายชาติที่มีฐานะร่ำรวย ทำให้สื่อทั้งกระแสหลักและสังคมออนไลน์ชี้ว่า ชาติอาหรับเพื่อนบ้านที่มีฐานะร่ำรวยต่างหาก ที่มีภาระรับผิดชอบต่อผู้อพยพชาวซีเรียมากกว่าชาติในยุโรป และมีการใช้แฮชแทค #Welcoming_Syria's_refugees_is_a_Gulf_duty ขึ้นมาเพื่อรณรงค์เรื่องนี้ และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ใช้แฮชแทคนี้ทางทวิตเตอร์มากกว่า 30,000 ครั้งแล้ว ผู้ใช้ต่างโพสต์ภาพที่สะท้อนถึงชีวิตที่ลำบากของผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย เช่น ภาพคนจมน้ำ ภาพเด็ก ๆ ที่มุดผ่านรั้วลวดหนาม และครอบครัวที่ต้องร่อนเร่และหลับนอนตามถนนหนทาง
เฟซบุ๊กของชุมชนชาวซีเรียในเดนมาร์ก ได้โพสต์คลิปวิดีโอหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า มีผู้อพยพชาวซีเรียได้รับอนุญาตให้เข้าออสเตรียได้
และมีผู้ใช้รายหนึ่งโพสต์ต่อโดยตั้งคำถามว่า พวกเขามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร “พวกเราหนีภัยจากภูมิภาคของผองพี่น้องมุสลิมซึ่งควรจะแสดงความรับผิดชอบต่อพวกเรา มากกว่าประเทศที่พวกเขาบอกว่าเป็นประเทศนอกรีตได้อย่างไรกัน?”
ผู้ใช้อีกคนหนึ่งแสดงความเห็นต่อว่า “สาบานต่อพระผู้เป็นเจ้าว่าคนอาหรับคือพวกนอกรีต”
เรื่องการอพยพลี้ภัยของชาวซีเรียเป็นประเด็นที่สื่อในภูมิภาคให้ความสนใจ หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งในซาอุดีอาระเบียตีพิมพ์ภาพการ์ตูน ซึ่งต่อมาได้มีการแชร์ต่อตามสื่อสังคมออนไลน์ ภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นชายคนหนึ่งในชุดแบบที่คนในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียนิยมสวมใส่ ยืนอยู่หลังประตูที่มีลวดหนามกั้นและชี้ไปที่ประตูที่มีธงสหภาพยุโรปที่มีผู้อพยพนั่งรออยู่หน้าประตู พร้อมกับถามว่า “ทำไมไม่ให้พวกเขาเข้าไป พวกคุณเสียมารยาทจริง ๆ”
อมิรา ฟาธัลลา แห่งแผนกบีบีซีมอนิเตอริง บอกว่าทั้ง ๆ ที่มีการรณรงค์ตามสื่อสังคมออนไลน์ แต่ดูเหมือนว่าชาติในอ่าวเปอร์เซียยังไม่เปลี่ยนท่าทีของตนต่อผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะมีแรงงานต่างชาติเพียงพอแล้ว ชาติในอ่าวเปอร์เซีย เช่น คูเวต ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไม่จำเป็นต้องง้อแรงงานชาวซีเรีย เพราะในขณะนี้มีแรงงานจากประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้อยู่แล้ว ส่วนใหญ่เป็นแรงงานไร้ฝีมือ ขณะที่แรงงานที่มีฝีมือที่ทำงานในระดับกลางด้านการศึกษาและสาธารณสุข เป็นแรงงานคนอาหรับที่ไม่ได้เป็นคนท้องถิ่นของประเทศในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย นอกจากนั้น รัฐบาลซาอุฯ และคูเวตในขณะนี้ยังมีนโนบายที่ต้องการสร้างงานให้พลเมืองของตนก่อนแรงงานต่างชาติด้วย สำหรับแรงงานต่างชาติที่อาศัยในประเทศดังกล่าว หากไม่ได้รับสัญชาติ ก็ยากที่จะลงหลักปักฐานได้ เพราะประเทศดังกล่าวไม่ให้สัญชาติใครง่าย ๆ และเมื่อปี 2555 รัฐบาลคูเวตยังประกาศด้วยว่าจะลดจำนวนแรงงานต่างชาติลง 1 ล้านคน ภายในเวลา 10 ปี
https://www.facebook.com/BBCThai/posts/1693197274234639
ความคิดเห็นที่ 20
จริง มันดูเหมือนมุสลิมในพันทิป หลายคนจะรู้สึกภูมิใจมากเลยนะกับการที่ มีมุสลิมจำนวนมากอพยพ ไปอยู่ในยุโรป ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องที่น่าละอายมากเลยนะ ที่มุสลิมต้องยอม ลดศักดิ์ศรีของตัวเองในการ ไปบากหน้า อ้อนวอน กาเฟรฝรั่ง ที่ตัวเองบอกว่าจะต้องตกนรก เพื่อที่จะขออยู่ อาศัยในดินแดนของกาเฟร
มุสลิมในพันทิพบางคน ดูภูมิใจ แต่ผมว่ามันไม่มีเกียรติ์ยังไงไม่รู้อะ
at the end ฝรั่งมันไม่โง่หรอกครับ ตอนนี้ลองคิดดูสิ ว่าในตอนนี้มี ปรัชากรมุสลิมอย่างมากที่สุด 5-6% ในฝรั่งเศษหรือเยอรมัน จากการอพยพไปขายแรงงานตั้งแต่ 50-60-70 ปีที่แล้ว ไม่ลองคิดบ้างละว่า 50 กว่าปีไปได้แค่นี้ แถมมีทั้งอัด youtube โปรโมททุกวิธีทาง ถ้าคิดว่าจะกลืนฝรั่งได้ จนมุสลิมได้เป็นเกือบครึ่ง คงใช้เวลาอีกหลายร้อยปี และอีกอย่าง พวก ex-muslim นี่ไม่น้อยนะทั้งแบบเปิดตัวเเละแบบไม่เปิดตัว
หลักการทำสงคราม ข่าวสาร ฝรั่งมันเป็นเจ้าของทฤษฎีนะครับ การมาหาข้อขัดแย้ง ของคำสอนของอิสลามมันไม่เกินฝีมือมันหรอกครับ
และที่ 5-6% น่ะก็เป็นพวกอพยพที่ไม่ยอมกลืน แต่ไม่สามารถกลืนฝรั่งตาน้ำข้าวได้ (ไม่ต้องไปเอา youtube อัดเทปฝรั่งไม่กี่คนมาให้ดูหรอกนะครับ) อยากที่บอก 50 กว่าปีทำได้เท่านี้ ฝรั่งมันเป็นสังคม critical thinking ครับ เผลอๆ พวกที่อพยพไปน่ะ เปลี่ยนไปเป็น ex-muslim ซะเอง
อย่าลืมว่า แม้ฝรั่งหลายคนจะบอกว่าไม่มีศาสนา แต่รากเหง้าของชาติมันคือคริสต์อะนะ
มุสลิมในพันทิพบางคน ดูภูมิใจ แต่ผมว่ามันไม่มีเกียรติ์ยังไงไม่รู้อะ
at the end ฝรั่งมันไม่โง่หรอกครับ ตอนนี้ลองคิดดูสิ ว่าในตอนนี้มี ปรัชากรมุสลิมอย่างมากที่สุด 5-6% ในฝรั่งเศษหรือเยอรมัน จากการอพยพไปขายแรงงานตั้งแต่ 50-60-70 ปีที่แล้ว ไม่ลองคิดบ้างละว่า 50 กว่าปีไปได้แค่นี้ แถมมีทั้งอัด youtube โปรโมททุกวิธีทาง ถ้าคิดว่าจะกลืนฝรั่งได้ จนมุสลิมได้เป็นเกือบครึ่ง คงใช้เวลาอีกหลายร้อยปี และอีกอย่าง พวก ex-muslim นี่ไม่น้อยนะทั้งแบบเปิดตัวเเละแบบไม่เปิดตัว
หลักการทำสงคราม ข่าวสาร ฝรั่งมันเป็นเจ้าของทฤษฎีนะครับ การมาหาข้อขัดแย้ง ของคำสอนของอิสลามมันไม่เกินฝีมือมันหรอกครับ
และที่ 5-6% น่ะก็เป็นพวกอพยพที่ไม่ยอมกลืน แต่ไม่สามารถกลืนฝรั่งตาน้ำข้าวได้ (ไม่ต้องไปเอา youtube อัดเทปฝรั่งไม่กี่คนมาให้ดูหรอกนะครับ) อยากที่บอก 50 กว่าปีทำได้เท่านี้ ฝรั่งมันเป็นสังคม critical thinking ครับ เผลอๆ พวกที่อพยพไปน่ะ เปลี่ยนไปเป็น ex-muslim ซะเอง
อย่าลืมว่า แม้ฝรั่งหลายคนจะบอกว่าไม่มีศาสนา แต่รากเหง้าของชาติมันคือคริสต์อะนะ
ความคิดเห็นที่ 11
เอาแบบโลกไม่สวยรึมองถึงแผนการเบื้องหลังก็ต้องบอกว่าให้อพยพมาอยู่ประเทศมุสลิมทำไม ประเทศมุสลิมก็มีมุสลิมมากอยู่แล้ว ให้เข้ามาก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อสภาพของโลกมุสลิม สู้ให้อพยพไปประเทศของศาสนิกอื่นๆดีกว่า ให้อพยพเข้าไปเยอะๆผลิตลูกแยะๆเพื่อจะได้เพิ่มอัตราส่วนของมุสลิมในประเทศนั้นๆ และในที่สุดก็ค่อยๆเปลี่ยนประเทศนั้นให้กลายเป็นประเทศมุสลิมไป ทำให้เกิดประเทศมุสลิมขึ้นใหม่ส่งผลต่อสิทธิเสียงของโลกมุสลิม เพิ่มประเทศมุสลิมขึ้นมาเรื่อยๆค่อยๆสร้างรัฐอิสลามขึ้นมาบนโลกด้วย สุดท้ายอิสลามก็ครองโลก
แสดงความคิดเห็น
ผู้อพยพชาวมุสลิม
เราสงสัยว่าทำไมพวกเค้าต้องการลี้ภัยไปประเทศในยุโรปทั้งๆที่ประเทศต่างๆนั้นก็อึดอัดในการให้ที่พักและอาหาร
อีกทั้งคนในประเทศก็ออกแนวไม่พอใจและไม่ต้อนรับ
ถึงตอนนี้เราอยากทราบเหลือเกินว่า ประเทศที่ร่ำรวยและเป็นพี่น้องมุสลิมของเราเช่น ประเทศ ซาอุดิอารเบีย ดูไบ การ์ตาร์
(ประเทศในตะวันออกกลางที่รวยๆอ่ะค่ะ) ทำไมไม่ออกมาช่วยเหลือ ต้อนรับ พี่น้องที่กำลังลำบาก จิตใจทำด้วยอะไร
เราไม่ประณามประเทศทางยุโรป หรือ ประเทศไทยที่เคยส่งพี่น้องมุสลิมกลับบ้านนะคะ เราเข้าใจพวกเค้านะ
แต่เราว่าพี่น้องมุสลิมที่มาจากประเทศที่มีฐานะร่ำรวย ใช้ชีวิตสุขสบาย ช๊อปปิ้งที่ถนนหรูในนิวยอร์ค ลอนดอน ปารีส
พวกนี้น่าประณามมากกว่าคนต่างศาสนาในประเทศต่างๆในยุโรปอีก
ทั้งหมดคือความเห็นส่วนตัวนะคะ ไม่เอาดราม่านะคะ เราแค่อยากรู้ว่าพี่น้องมุสลิมคิดยังไงกับเรื่องนี้บ้าง
ขอบคุณค่ะ