คือเป็นที่รู้กันว่ายุโรปนั้นประกอบด้วยศาสนาใหญ่ๆนั้นคือคริสต์ และในทวีปยุโรป ก็มีอิสลามดั้งเดิมนั่นคืออิสลามที่มาจากประเทศยุโรปตะวันออกอดีตออตโตมัน เช่นตุรกี และยุโปรตะวันออกหลายประเทศ
ซึ่งกลุ่มแรกของมุสลิมในยุโรป คืออิสลามดั้งเดิมที่มาจากออตโตมัน เช่นตุรกี อดีตยูโกสลาเวีย เป็นต้น ซึ่งต่อมามุสลิมกลุ่มนี้อพยพไปสู้ฝั่งตะวันตก ด้วยเหตุผลด้านขาดแคลนแรงงานหลังสงครามโลกครั้งที่2 ซึ่งกลุ่มนี้จะมีสำนึกการเป็นยุโรปสูง โดยเฉพาะตุรกี (แต่ก็มียกเว้น ในกรณีที่รุ่นแรกไม่เอาไหน) คือแต่เดิมพวกตุรกี เข้ามาหลังสงครามโลกครั้งที่2ในฐานะผู้ใช้แรงงานครับ แต่ในกลุ่มผู้ใช้แรงงานก็มีหลายเกรดคือ เกรด ผู้ใช้แรงงาน กับผู้ลดเกรดตัวเองลงมาเพื่ออนาคต กลุ่มหลังไม่มีปัญหา เพราะมาหาอนาคตอยู่แล้ว แต่กลุ่มแรกนั้น ก็มีที่ไม่สนับสนุนการศึกษาลูก ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับเยอรมัน จนกลายเป็นปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ึงกับปัญหาร้ายแรง เพราะเดิมที พวกตุรกี ก็ไม่เหมือนอาหรับอยู่แล้ว
กลุ่มที่2คือกลุ่มชาวอาณานิคม เช่น ชาวปากีสถาน ในอังกฤษ อินโดนีเซีย ในเนเธอร์แลนด์ แอฟริกาและเลบานอนในฝรั่งเศส พวกนี้ ตอบยาก มันก็แล้วแต่คล้ายๆกับกลุ่มแรก แต่ที่ต่างกันคือความเคร่งศาสนา คือแต่ไหนแต่ไรมาพวกเติร์ก เคร่งศาสนาน้อยกว่ามุสลิมเชื้อชาติอื่นๆอยู่แล้ว ดังนั้นหากมีปัญหาเรื่องศาสนาก็น่าจะมากกว่ากลุ่มแรก
ทั้งนี้ทั้งนั้น กลุ่มแรกและกลุ่ม2 นั้นเข้าเมืองมาอย่างถูกกฏหมาย
แต่กรณีผู้อพยพเข้าเมืองแบบผิดกฏหมาย ผู้ที่อยู่ในสถานะลี้ภัย ซึ่งตอนนี้อยู่ในรุ่น1รุ่น2 ซึ่งคงไม่อยากหากจะใช้ช่องทาง กฏหมายเนรเทศออกนอกประเทศเช่น ไทยเนรเทศชาวโรฮิงยา หรือผู้อพยพชาวอุยกูห์
แต่คำถามคือมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่ยุโรปทั้งหมดจะพร้อมใจกันเนรเทสผู้ที่อพยพเข้าเมืองแบบผิดกฏหมาย ผู้ลี้ภัยสงครามแล้วไม่ยอมกลับประเทศ หรือการเพิกถอนสิทธิพำนัก หากเกิดการกระทำที่ผิดกฏหมาย
คือผมไม่ได้รังเกียจอิสลาม แต่ด้วยปัจจุบันนั้นเป็นปัญหา เช่น ตุรกียังไม่ได้รับการตอบรับเข้าอียู เพราะปัญหาผู้อพยพตะวันออกกลางที่ใช้ตุรกีเป็นทางผ่านมาสู่ยุโรปแบบผิดกฏหมาย ปัญหาอาชญากรรมในชุมชนผู้อพยพ ซึ่งในทางปฏิบัติ ถ้าเข้าเมืองมาแบบผิดกฏหมาย พวกนีวีซ่า แค่ไม่กี่คนมันเนรเทศได้อยู่แล้ว แต่ในกรณีที่มันมากๆจะทำอย่างไร และปัญหานั้นยังไม่นับ การที่ผู้ก่อการร้ายแฝงตัวเข้ามาในฐานะผู้อพยพเองหรือครอบครัวผู้อพยพด้วยซ้ำ
ความเป็นไปได้ในการเนรเทศผู้อพยพมุสลิมที่ผิดกฏหมายในยุโรป
ซึ่งกลุ่มแรกของมุสลิมในยุโรป คืออิสลามดั้งเดิมที่มาจากออตโตมัน เช่นตุรกี อดีตยูโกสลาเวีย เป็นต้น ซึ่งต่อมามุสลิมกลุ่มนี้อพยพไปสู้ฝั่งตะวันตก ด้วยเหตุผลด้านขาดแคลนแรงงานหลังสงครามโลกครั้งที่2 ซึ่งกลุ่มนี้จะมีสำนึกการเป็นยุโรปสูง โดยเฉพาะตุรกี (แต่ก็มียกเว้น ในกรณีที่รุ่นแรกไม่เอาไหน) คือแต่เดิมพวกตุรกี เข้ามาหลังสงครามโลกครั้งที่2ในฐานะผู้ใช้แรงงานครับ แต่ในกลุ่มผู้ใช้แรงงานก็มีหลายเกรดคือ เกรด ผู้ใช้แรงงาน กับผู้ลดเกรดตัวเองลงมาเพื่ออนาคต กลุ่มหลังไม่มีปัญหา เพราะมาหาอนาคตอยู่แล้ว แต่กลุ่มแรกนั้น ก็มีที่ไม่สนับสนุนการศึกษาลูก ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับเยอรมัน จนกลายเป็นปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ึงกับปัญหาร้ายแรง เพราะเดิมที พวกตุรกี ก็ไม่เหมือนอาหรับอยู่แล้ว
กลุ่มที่2คือกลุ่มชาวอาณานิคม เช่น ชาวปากีสถาน ในอังกฤษ อินโดนีเซีย ในเนเธอร์แลนด์ แอฟริกาและเลบานอนในฝรั่งเศส พวกนี้ ตอบยาก มันก็แล้วแต่คล้ายๆกับกลุ่มแรก แต่ที่ต่างกันคือความเคร่งศาสนา คือแต่ไหนแต่ไรมาพวกเติร์ก เคร่งศาสนาน้อยกว่ามุสลิมเชื้อชาติอื่นๆอยู่แล้ว ดังนั้นหากมีปัญหาเรื่องศาสนาก็น่าจะมากกว่ากลุ่มแรก
ทั้งนี้ทั้งนั้น กลุ่มแรกและกลุ่ม2 นั้นเข้าเมืองมาอย่างถูกกฏหมาย
แต่กรณีผู้อพยพเข้าเมืองแบบผิดกฏหมาย ผู้ที่อยู่ในสถานะลี้ภัย ซึ่งตอนนี้อยู่ในรุ่น1รุ่น2 ซึ่งคงไม่อยากหากจะใช้ช่องทาง กฏหมายเนรเทศออกนอกประเทศเช่น ไทยเนรเทศชาวโรฮิงยา หรือผู้อพยพชาวอุยกูห์
แต่คำถามคือมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่ยุโรปทั้งหมดจะพร้อมใจกันเนรเทสผู้ที่อพยพเข้าเมืองแบบผิดกฏหมาย ผู้ลี้ภัยสงครามแล้วไม่ยอมกลับประเทศ หรือการเพิกถอนสิทธิพำนัก หากเกิดการกระทำที่ผิดกฏหมาย
คือผมไม่ได้รังเกียจอิสลาม แต่ด้วยปัจจุบันนั้นเป็นปัญหา เช่น ตุรกียังไม่ได้รับการตอบรับเข้าอียู เพราะปัญหาผู้อพยพตะวันออกกลางที่ใช้ตุรกีเป็นทางผ่านมาสู่ยุโรปแบบผิดกฏหมาย ปัญหาอาชญากรรมในชุมชนผู้อพยพ ซึ่งในทางปฏิบัติ ถ้าเข้าเมืองมาแบบผิดกฏหมาย พวกนีวีซ่า แค่ไม่กี่คนมันเนรเทศได้อยู่แล้ว แต่ในกรณีที่มันมากๆจะทำอย่างไร และปัญหานั้นยังไม่นับ การที่ผู้ก่อการร้ายแฝงตัวเข้ามาในฐานะผู้อพยพเองหรือครอบครัวผู้อพยพด้วยซ้ำ