สวัสดีค่ะ...นี่ไม่ใช่กระทู้แรกของหลิวในพันทิพย์...
แต่มันดูเหมือนจะเป็นอันแรก...เพราะเปลี่ยนมาใช้อีกไอดีนึง...
และจะใช้เป็นไอดีหลักแล้วค่ะ...
ออกตัวก่อนเลยว่า...หลิวไม่เคยมาโพสห้องนี้เลยค่ะ...
ปกติอยู่ห้องสยาม เล่าเรื่องผี (เสียดายคนตายไม่ได้เล่า)
แต่เป็นคนเขียนอะไรหลายอย่าง..
เลยอยากมาลองเขียนที่ห้องนี้บ้าง..
ผิดพลาดอย่างไรก็ขออภัยด้วยนะคะ
ก่อนอื่น ต้องขอชี้แจ้ง
สไตล์การรีวิวหนังของหลิวนิดนึงนะคะ...
เพื่อไม่ให้คนอ่านต้องผิดหวังกัน...
คือจริงๆแล้วจะเรียกว่ารีวิวก็คงไม่ถูกน่ะค่ะ
เพราะหลิวไม่ได้มาตัดสิน หรือมาบอกว่า
เรื่องนี้สนุกหรือไม่สนุก
น่าดูมั้ย ได้กี่ดาว....
หลิวไม่ได้เขียนมาด้วยจุดประสงค์นั้นนะคะ
สาเหตุที่หลิวไ่ม่อยากตัดสินแบบนั้น
เพราะหลิวคิดว่า...
เราไม่สามารถตัดสินได้หรอกว่า อะไรดี อะไรไม่ดี
ความชอบของคนมีหลากหลายแบบค่ะ
หลิวชอบแนวนี้
ไม่ได้แปลว่าคนอื่นจะต้องมาชอบแบบหลิว
เช่นเดียวกัน คนอื่นอาจจะไม่ชอบแนวนี้...
หลิวก็ไม่มีสิทธิยัดเยียดบอกเค้าว่า...
หนังเรื่องนี้ดีนะ ต้องดู
ของแบบนี้ ความชอบใคร ความชอบมันค่ะ
เพราะฉะนั้น หลิวจะไม่ตัดสินค่ะ...
ว่าหนังดีมั้ย ควรดูมั้ย...
ให้ลองอ่านกัน แล้วไปตัดสินใจกันเอง
ว่าอยากดูมั้ย ดีกว่าค่ะ
และอย่างที่บอก หลิวไม่ได้มารีวิวหนังค่ะ
แต่หลิวมาพูดถึง ทัศนคติ ความคิด...
สิ่งที่หลิวได้รับ จากการดูหนังค่ะ...
ต่อไปนี้ สิ่งที่ทุกๆคนจะเห็นคือหลิวได้อะไรบ้าง
ลองมาคิดกันดูค่ะว่า ได้เหมือนกันมั้ย...
หรือได้อะไรเพิ่มเติมมั้ย...
มีประโยชน์ยังไง
คุยกันได้ค่ะ
มาร่วมคิดไปด้วยกัน
....................................................................
ขออนุญาติเพิ่มเติมอีกนิด...
หลิวไม่เล่าเรื่องย่อนะคะ
อันนี้บอกตรงๆเลยหลิวเป็นคนขี้เกียจเขียนเรื่องย่อมากเลยค่ะ...
พอมานั่งเขียนเรื่องย่อมันจะขี้เกียจทำอย่างอื่น ขี้เกียจคิด
หลิวขออนุญาติไม่เล่านะคะ ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร...
จะยกตัวอย่างมาประกอบบางส่วน ถ้าเกี่ยวกับประเด็นที่กำลังวิเคราะห์น่ะค่ะ
ยังไงแวะไปดูหนังก่อนก็ได้ หรือจะอ่านก่อนก็ได้ค่ะ
เป็นเรื่องเกี่ยวกับการคิดวิเคราะห์มากกว่า
ไม่ได้วิจารณ์เนื้อเรื่องค่ะ
....................
เริ่มเหอะ เกริ่นนำยาวละ
อ่า..เริ่มละน๊า
เล่าจากหนังอย่างเดียวนะคะ อ้างอิงจากหนังอย่างเดียว
พอดีไม่ได้อ่านในหนังสือน่ะค่ะ
จับหัวข้อวางเลย
CHARLIE AND THE CHOCOLATE FACTORY : เด็กชายชาร์ลี กับแรงงานตัวน้อยๆ
ที่เป็นหัวข้อนี้อาจจะงงๆ
อันนี้ต้องขออธิบายก่อน
หลายๆคนอาจจะเคยเห็นผลงานของทิมเบอร์ตันกันมาบ้าง
ไม่มากก็น้อย...
หรือบางคนอาจจะไม่เคยรู้จักเลย แต่อ่านได้ค่ะ
หลิวไม่รู้คนอื่นมองว่างานของทิมเบอร์ตันเป็นยังไง
แต่ในสายตาหลิว งานของลุงทิม จะมีสองเลเวลทุกเรื่อง!!!!
เลเวลหนึ่ง ทำให้เด็กดู...อันนี้หลิวจะไม่พูดถึง...
เพราะหลิวแก่แล้ว....เลเวลนี้หลิวจะผ่านไป
คนพูดถึงเลเวลนี้กันเยอะแล้วค่ะ
เลเวลที่สอง ทำให้ผู้ใหญ่ดู อันนี้แหละที่หลิวจะพูดถึง...
หลิวว่ามันเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก
ที่คนเราสามารถทำหนังที่
เด็กดูก็ได้อะไรจากหนัง
ผู้ใหญ่ดู ก็ได้อะไรเหมือนกัน...
แต่สเตปของผู้ใหญ่อาจจะเข้าถึงยากขึ้นมาอีกนิดนึง..
จนทำให้บางคนทีดูหนังทิมเบอร์ตัน เดินออกจากโรงด้วยคำถามว่า
"อะไรของมัน"
แต่ไอ่คำนี้แหละ
"อะไรของมัน"
นี่แหละที่มันน่าสนใจ
จริงๆชาร์ลีเหมือนหนังเด็กธรรมดานะ
ดูเผินๆ...
เรื่องนี้หลิวไปดูกับครอบครัวมาค่ะ
จริงๆที่มาดูหนังทิมเบอร์ตัน
ก็เพราะพ่อกับแม่หลิวดูก่อน...
เห็นมันวางอยู่บนชั้นเลยหยิบมาดู.....
จากนั้นก็ตามดูทุกเรื่องค่ะ
ชาร์ลี อาจไม่ใช่เรื่องที่คนพูดถึงกันมากนัก
อย่างที่บอก ดูผิวเผินก็เหมือนหนังเด็ก
เอาเด็กไปคัดเลือก เด็กดีสุดท้ายก็ได้รับผลดีตอบแทน
เด็กไม่ดี ก็ได้รับบทเรียนไป...
อาจจะมีประเด็น ความรัก ปมด้อยวัยเด็กของวิลลี่ วองก้าบ้าง.
ส่วนนี้ขอผ่านเนาะ...
แต่สิ่งที่หลิวจะพูดถึง....มันเริ่มจากวันหนึ่ง...
ที่หลิวกำลังนั่งอยู่ในรถับครอบครัว....
ก็คุยๆกันไป จนมาถึงเรื่องชาร์ลี....แล้วหลิวก็พูดคำนึงว่า
"มีใครสังเกตมั้ย ว่าเผ่าอุมป้าลุมป้า เป็นคนแก่หน้าบึ้ง"
นี่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครสังเกตเลยค่ะ
แต่มันติดใจหลิวตลอดเวลาที่ดูหนัง
คือเหมือนจะเป็นหนังเด็กไง
มีออกมาร้องเพลง อะไรแบบนี้
แต่ทำไมล่ะ คนร้องเพลงถึงหน้าบึ้ง ดูไม่มีความสุข...
นี่คือประเด็นที่หลิวนำมาคิดค่ะ
แล้วทำให้รู้ว่า...
ภาพตรงหน้า ไม่ใช่อย่างที่เราเห็น
จริงๆมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้
มันอาจจะเป็นแค่ความบังเอิญ
หรือในหนังสืออาจเขียนแบบนั้น
แต่หลิวว่านี่เป็นความบังเอิญที่ผิดปกติ
ในหนังของทิมเบอร์ตันจะมีแบบนี้ทุกเรื่องค่ะ
"ความบังเอิญที่ผิดปกติ"
นี่เป็นสาเหตุให้หลิวตามดูทุกเรื่อง
เพื่อตามหา "ความบังเอิญที่ผิดปกติ"
แน่นอน อุมป้าลุมป้า ที่ความผิดปกติที่หลิวหาเจอ
เมื่อหลิวหาเจอ
หลิวก็มานั่งตั้งคำถามกับตัวเองว่า
ทำไม....
ในเมื่ออยากทำหนังเด็ก เอาตัวแฟรี่ สวยๆงามๆ มาร้องเพลงไม่ได้เหรอ
ทำไมเป็นอุมป้าลุมป้าหน้าบึ้ง...
ทั้งเรื่องไม่ยิ้มเลย....
ถึงเวลาหาสาเหตุค่ะ...
มันน่าจะเป็นเรื่องของ "ชนชั้นแรงงาน"
เราจะเห็นได้ว่า เผ่าอุมป้าลุมป้า
ได้กลายมาเป็น แรงงานในโรงงาน ที่ได้รับผลตอบแทนเป็น "โกโก้"
เพราะประเทศที่พวกเขาอยู่ อาหารรสชาติแย่มาก
และเมล็ดโกโก้มีเพียงน้อยนิด
วิลลี่ วองก้าจึงชวนเผ่าอุมป้าลุมป้ามาเป็นแรงงานในโรงงาน
โดยได้รับผลตอบแทนเป็นช็อกโกแลต
จริงๆนี่ไม่ใช่เนื้อหาหลักของเรื่องเลยค่ะ
แค่เผ่าอุมป้าลุมป้า หน้าบึ้งตลอดเรื่องเท่านั้นเอง
ความทุกข์ที่ฉายบนใบหน้า
หนังกำลังเสียดสีแรงงานที่ถูกกดขี่...
และมันเป็นการซ่อนนัยยะที่แนบเนียนมากเลยจริงๆ
อยู่ในทุกส่วนของทั้งเรื่อง...
แต่เราอาจจะละเลย จนไม่สังเกตุเห็น...
และนั่นคือความจริงของโลกใบนี้ค่ะ...
โลกที่เป็นมากกว่าจินตนาการของเด็กๆ
เรามีแรงงานที่ถูกซ่อนอยู่ภายใต้ระบบทุนนิยมมากมาย
และเราละเลยที่จะมองเห็น....หรือเพราะเราเคยชินกับสิ่งเหล่านี้ไปแล้ว
เราอยู่ในยุคที่เรากำลังร้องเพลง
ด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง
เราอยู่ในยุคที่เจ้าของนายทุน...
ชนชั้นแรงงานที่ถูกกดขี่ การถูกเอาเปรียบในระบบบริโภคนิยม
กลายเป็นเรื่องปกติที่เราเคยชิน
และมองข้ามไป
"ช็อกโกแลต" เป็นผลตอบแทนที่ถูกทำให้เรามองว่ามันคุ้มค่า
เพัยงเพราะเรามีความรู้น้อยกว่า
จึงไม่รู้จักสิ่งอื่นๆหรือวิธีการอื่นๆที่ดีกว่า....
เรากำลังทำงานเพื่อช็อกโกแลตเหล่านั้น....
ขนมหวานรสชาติดี
โดยไม่รู้ตัวเลยว่า
รอยยิ้มเราหายไปแล้ว ตั้งแต่เราเข้ามาอยู่ในโรงงานนี้
จำได้มั้ยคะ เผ่าอุมป้าลุมป้าเคยยิ้ม
ในประเทศของเค้า....
แม้ของกินจะรสชาติแย่เหลือเกิน...
แต่พวกเค้ามีรอยยิ้ม
แต่วันนี้ แม้จะมี "ช็อกโกแลตที่แสนวิเศษ"
แต่ อุมป้าลุมป้า ไม่มีรอยยิ้ม
...........................
สุดท้าย ฝากประเด็นให้เอาไปคิดกันเล่นๆค่ะ
ประเด็นนี้หลิวไม่ได้เขียนถึง เพราะเดี๋ยวจะยาวไป
คือประเด็นของ "เด็กชายวิลลี่ กับขนมของเขา"
เราเห็นกันแล้วว่า วิลลี่ วองก้าเติบโตมาเป็นแบบไหน....
เด็กชายที่ถูกห้ามกินขนม....
เด็กๆในประเทศเราทุกวันนี้บางส่วนก็เป็นแบบนั้นค่ะ
เด็กชาย เด็กหญิงที่ถูกห้ามเล่น....
ทุกวันนี้ หลิวเห็นเด็กๆรอบตัวถูกยัดเยียดให้เรียนพิเศษตั้งแต่อายุน้อยๆ
เตรียมสอบเข้าอนุบาล เตรียมสอบเข้าโรงเรียนประถม....
เด็กกับจินตนาการเป็นของคู่กันค่ะ...
ให้โอกาสเด็ก ได้เป็นเด็กบ้าง...ได้มีวัยเด็กบ้าง....
อย่างเพิ่งให้เค้ารีบเรียนรู้เข้ามาแข่งขันทางสังคมในโลกของผู้ใหญ่เลยค่ะ
เพราะเมื่อเค้าเติบโตขึ้น....
เด็กเหล่านี้ จะไม่มีจินตนาการ ไว้เป็นเครื่องช่วยบรรเทา
ความเจ็บปวด ความยากลำบาก
จากการแก่งแย่งชิงดี
การแข่งขันที่ต้องเจอในโลกของผู้ใหญ่...
ให้เด็กได้มีโลกที่สดใสของพวกเค้า....
ก่อนที่จะโตมาเพื่อเผชิญกับความจริง....
images?q=tbn:ANd9GcRKH1tUcOUYDn3cDds_96k
เราโชคดี ที่เกิดมาในยุคที่ยังเป็นเด็กได้...
เราแบ่งให้เค้าบ้างค่ะ...
เพราะเด็กเหล่านั้น ไม่ได้โชคดีเหมือนเรา
สุดท้าย...ฝากผลงานเพจค่ะ...ตรงๆ เลย
ถ้าชอบแวะไปเยี่ยมชมกันได้นะคะ ทั้ง เพจและBlog
เพจ : โลกสวยไปวันวัน
Blog :
http://storylunch.blogspot.com/
CHARLIE AND THE CHOCOLATE FACTORY : เด็กชายชาร์ลี กับแรงงานตัวน้อยๆ
แต่มันดูเหมือนจะเป็นอันแรก...เพราะเปลี่ยนมาใช้อีกไอดีนึง...
และจะใช้เป็นไอดีหลักแล้วค่ะ...
ออกตัวก่อนเลยว่า...หลิวไม่เคยมาโพสห้องนี้เลยค่ะ...
ปกติอยู่ห้องสยาม เล่าเรื่องผี (เสียดายคนตายไม่ได้เล่า)
แต่เป็นคนเขียนอะไรหลายอย่าง..
เลยอยากมาลองเขียนที่ห้องนี้บ้าง..
ผิดพลาดอย่างไรก็ขออภัยด้วยนะคะ
ก่อนอื่น ต้องขอชี้แจ้ง
สไตล์การรีวิวหนังของหลิวนิดนึงนะคะ...
เพื่อไม่ให้คนอ่านต้องผิดหวังกัน...
คือจริงๆแล้วจะเรียกว่ารีวิวก็คงไม่ถูกน่ะค่ะ
เพราะหลิวไม่ได้มาตัดสิน หรือมาบอกว่า
เรื่องนี้สนุกหรือไม่สนุก
น่าดูมั้ย ได้กี่ดาว....
หลิวไม่ได้เขียนมาด้วยจุดประสงค์นั้นนะคะ
สาเหตุที่หลิวไ่ม่อยากตัดสินแบบนั้น
เพราะหลิวคิดว่า...
เราไม่สามารถตัดสินได้หรอกว่า อะไรดี อะไรไม่ดี
ความชอบของคนมีหลากหลายแบบค่ะ
หลิวชอบแนวนี้
ไม่ได้แปลว่าคนอื่นจะต้องมาชอบแบบหลิว
เช่นเดียวกัน คนอื่นอาจจะไม่ชอบแนวนี้...
หลิวก็ไม่มีสิทธิยัดเยียดบอกเค้าว่า...
หนังเรื่องนี้ดีนะ ต้องดู
ของแบบนี้ ความชอบใคร ความชอบมันค่ะ
เพราะฉะนั้น หลิวจะไม่ตัดสินค่ะ...
ว่าหนังดีมั้ย ควรดูมั้ย...
ให้ลองอ่านกัน แล้วไปตัดสินใจกันเอง
ว่าอยากดูมั้ย ดีกว่าค่ะ
และอย่างที่บอก หลิวไม่ได้มารีวิวหนังค่ะ
แต่หลิวมาพูดถึง ทัศนคติ ความคิด...
สิ่งที่หลิวได้รับ จากการดูหนังค่ะ...
ต่อไปนี้ สิ่งที่ทุกๆคนจะเห็นคือหลิวได้อะไรบ้าง
ลองมาคิดกันดูค่ะว่า ได้เหมือนกันมั้ย...
หรือได้อะไรเพิ่มเติมมั้ย...
มีประโยชน์ยังไง
คุยกันได้ค่ะ
มาร่วมคิดไปด้วยกัน
....................................................................
ขออนุญาติเพิ่มเติมอีกนิด...
หลิวไม่เล่าเรื่องย่อนะคะ
อันนี้บอกตรงๆเลยหลิวเป็นคนขี้เกียจเขียนเรื่องย่อมากเลยค่ะ...
พอมานั่งเขียนเรื่องย่อมันจะขี้เกียจทำอย่างอื่น ขี้เกียจคิด
หลิวขออนุญาติไม่เล่านะคะ ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร...
จะยกตัวอย่างมาประกอบบางส่วน ถ้าเกี่ยวกับประเด็นที่กำลังวิเคราะห์น่ะค่ะ
ยังไงแวะไปดูหนังก่อนก็ได้ หรือจะอ่านก่อนก็ได้ค่ะ
เป็นเรื่องเกี่ยวกับการคิดวิเคราะห์มากกว่า
ไม่ได้วิจารณ์เนื้อเรื่องค่ะ
....................
เริ่มเหอะ เกริ่นนำยาวละ
อ่า..เริ่มละน๊า
เล่าจากหนังอย่างเดียวนะคะ อ้างอิงจากหนังอย่างเดียว
พอดีไม่ได้อ่านในหนังสือน่ะค่ะ
จับหัวข้อวางเลย
CHARLIE AND THE CHOCOLATE FACTORY : เด็กชายชาร์ลี กับแรงงานตัวน้อยๆ
ที่เป็นหัวข้อนี้อาจจะงงๆ
อันนี้ต้องขออธิบายก่อน
หลายๆคนอาจจะเคยเห็นผลงานของทิมเบอร์ตันกันมาบ้าง
ไม่มากก็น้อย...
หรือบางคนอาจจะไม่เคยรู้จักเลย แต่อ่านได้ค่ะ
หลิวไม่รู้คนอื่นมองว่างานของทิมเบอร์ตันเป็นยังไง
แต่ในสายตาหลิว งานของลุงทิม จะมีสองเลเวลทุกเรื่อง!!!!
เลเวลหนึ่ง ทำให้เด็กดู...อันนี้หลิวจะไม่พูดถึง...
เพราะหลิวแก่แล้ว....เลเวลนี้หลิวจะผ่านไป
คนพูดถึงเลเวลนี้กันเยอะแล้วค่ะ
เลเวลที่สอง ทำให้ผู้ใหญ่ดู อันนี้แหละที่หลิวจะพูดถึง...
หลิวว่ามันเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก
ที่คนเราสามารถทำหนังที่
เด็กดูก็ได้อะไรจากหนัง
ผู้ใหญ่ดู ก็ได้อะไรเหมือนกัน...
แต่สเตปของผู้ใหญ่อาจจะเข้าถึงยากขึ้นมาอีกนิดนึง..
จนทำให้บางคนทีดูหนังทิมเบอร์ตัน เดินออกจากโรงด้วยคำถามว่า
"อะไรของมัน"
แต่ไอ่คำนี้แหละ
"อะไรของมัน"
นี่แหละที่มันน่าสนใจ
จริงๆชาร์ลีเหมือนหนังเด็กธรรมดานะ
ดูเผินๆ...
เรื่องนี้หลิวไปดูกับครอบครัวมาค่ะ
จริงๆที่มาดูหนังทิมเบอร์ตัน
ก็เพราะพ่อกับแม่หลิวดูก่อน...
เห็นมันวางอยู่บนชั้นเลยหยิบมาดู.....
จากนั้นก็ตามดูทุกเรื่องค่ะ
ชาร์ลี อาจไม่ใช่เรื่องที่คนพูดถึงกันมากนัก
อย่างที่บอก ดูผิวเผินก็เหมือนหนังเด็ก
เอาเด็กไปคัดเลือก เด็กดีสุดท้ายก็ได้รับผลดีตอบแทน
เด็กไม่ดี ก็ได้รับบทเรียนไป...
อาจจะมีประเด็น ความรัก ปมด้อยวัยเด็กของวิลลี่ วองก้าบ้าง.
ส่วนนี้ขอผ่านเนาะ...
แต่สิ่งที่หลิวจะพูดถึง....มันเริ่มจากวันหนึ่ง...
ที่หลิวกำลังนั่งอยู่ในรถับครอบครัว....
ก็คุยๆกันไป จนมาถึงเรื่องชาร์ลี....แล้วหลิวก็พูดคำนึงว่า
"มีใครสังเกตมั้ย ว่าเผ่าอุมป้าลุมป้า เป็นคนแก่หน้าบึ้ง"
นี่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครสังเกตเลยค่ะ
แต่มันติดใจหลิวตลอดเวลาที่ดูหนัง
คือเหมือนจะเป็นหนังเด็กไง
มีออกมาร้องเพลง อะไรแบบนี้
แต่ทำไมล่ะ คนร้องเพลงถึงหน้าบึ้ง ดูไม่มีความสุข...
นี่คือประเด็นที่หลิวนำมาคิดค่ะ
แล้วทำให้รู้ว่า...
ภาพตรงหน้า ไม่ใช่อย่างที่เราเห็น
จริงๆมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้
มันอาจจะเป็นแค่ความบังเอิญ
หรือในหนังสืออาจเขียนแบบนั้น
แต่หลิวว่านี่เป็นความบังเอิญที่ผิดปกติ
ในหนังของทิมเบอร์ตันจะมีแบบนี้ทุกเรื่องค่ะ
"ความบังเอิญที่ผิดปกติ"
นี่เป็นสาเหตุให้หลิวตามดูทุกเรื่อง
เพื่อตามหา "ความบังเอิญที่ผิดปกติ"
แน่นอน อุมป้าลุมป้า ที่ความผิดปกติที่หลิวหาเจอ
เมื่อหลิวหาเจอ
หลิวก็มานั่งตั้งคำถามกับตัวเองว่า
ทำไม....
ในเมื่ออยากทำหนังเด็ก เอาตัวแฟรี่ สวยๆงามๆ มาร้องเพลงไม่ได้เหรอ
ทำไมเป็นอุมป้าลุมป้าหน้าบึ้ง...
ทั้งเรื่องไม่ยิ้มเลย....
ถึงเวลาหาสาเหตุค่ะ...
มันน่าจะเป็นเรื่องของ "ชนชั้นแรงงาน"
เราจะเห็นได้ว่า เผ่าอุมป้าลุมป้า
ได้กลายมาเป็น แรงงานในโรงงาน ที่ได้รับผลตอบแทนเป็น "โกโก้"
เพราะประเทศที่พวกเขาอยู่ อาหารรสชาติแย่มาก
และเมล็ดโกโก้มีเพียงน้อยนิด
วิลลี่ วองก้าจึงชวนเผ่าอุมป้าลุมป้ามาเป็นแรงงานในโรงงาน
โดยได้รับผลตอบแทนเป็นช็อกโกแลต
จริงๆนี่ไม่ใช่เนื้อหาหลักของเรื่องเลยค่ะ
แค่เผ่าอุมป้าลุมป้า หน้าบึ้งตลอดเรื่องเท่านั้นเอง
ความทุกข์ที่ฉายบนใบหน้า
หนังกำลังเสียดสีแรงงานที่ถูกกดขี่...
และมันเป็นการซ่อนนัยยะที่แนบเนียนมากเลยจริงๆ
อยู่ในทุกส่วนของทั้งเรื่อง...
แต่เราอาจจะละเลย จนไม่สังเกตุเห็น...
และนั่นคือความจริงของโลกใบนี้ค่ะ...
โลกที่เป็นมากกว่าจินตนาการของเด็กๆ
เรามีแรงงานที่ถูกซ่อนอยู่ภายใต้ระบบทุนนิยมมากมาย
และเราละเลยที่จะมองเห็น....หรือเพราะเราเคยชินกับสิ่งเหล่านี้ไปแล้ว
เราอยู่ในยุคที่เรากำลังร้องเพลง
ด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง
เราอยู่ในยุคที่เจ้าของนายทุน...
ชนชั้นแรงงานที่ถูกกดขี่ การถูกเอาเปรียบในระบบบริโภคนิยม
กลายเป็นเรื่องปกติที่เราเคยชิน
และมองข้ามไป
"ช็อกโกแลต" เป็นผลตอบแทนที่ถูกทำให้เรามองว่ามันคุ้มค่า
เพัยงเพราะเรามีความรู้น้อยกว่า
จึงไม่รู้จักสิ่งอื่นๆหรือวิธีการอื่นๆที่ดีกว่า....
เรากำลังทำงานเพื่อช็อกโกแลตเหล่านั้น....
ขนมหวานรสชาติดี
โดยไม่รู้ตัวเลยว่า
รอยยิ้มเราหายไปแล้ว ตั้งแต่เราเข้ามาอยู่ในโรงงานนี้
จำได้มั้ยคะ เผ่าอุมป้าลุมป้าเคยยิ้ม
ในประเทศของเค้า....
แม้ของกินจะรสชาติแย่เหลือเกิน...
แต่พวกเค้ามีรอยยิ้ม
แต่วันนี้ แม้จะมี "ช็อกโกแลตที่แสนวิเศษ"
แต่ อุมป้าลุมป้า ไม่มีรอยยิ้ม
...........................
สุดท้าย ฝากประเด็นให้เอาไปคิดกันเล่นๆค่ะ
ประเด็นนี้หลิวไม่ได้เขียนถึง เพราะเดี๋ยวจะยาวไป
คือประเด็นของ "เด็กชายวิลลี่ กับขนมของเขา"
เราเห็นกันแล้วว่า วิลลี่ วองก้าเติบโตมาเป็นแบบไหน....
เด็กชายที่ถูกห้ามกินขนม....
เด็กๆในประเทศเราทุกวันนี้บางส่วนก็เป็นแบบนั้นค่ะ
เด็กชาย เด็กหญิงที่ถูกห้ามเล่น....
ทุกวันนี้ หลิวเห็นเด็กๆรอบตัวถูกยัดเยียดให้เรียนพิเศษตั้งแต่อายุน้อยๆ
เตรียมสอบเข้าอนุบาล เตรียมสอบเข้าโรงเรียนประถม....
เด็กกับจินตนาการเป็นของคู่กันค่ะ...
ให้โอกาสเด็ก ได้เป็นเด็กบ้าง...ได้มีวัยเด็กบ้าง....
อย่างเพิ่งให้เค้ารีบเรียนรู้เข้ามาแข่งขันทางสังคมในโลกของผู้ใหญ่เลยค่ะ
เพราะเมื่อเค้าเติบโตขึ้น....
เด็กเหล่านี้ จะไม่มีจินตนาการ ไว้เป็นเครื่องช่วยบรรเทา
ความเจ็บปวด ความยากลำบาก
จากการแก่งแย่งชิงดี
การแข่งขันที่ต้องเจอในโลกของผู้ใหญ่...
ให้เด็กได้มีโลกที่สดใสของพวกเค้า....
ก่อนที่จะโตมาเพื่อเผชิญกับความจริง....
images?q=tbn:ANd9GcRKH1tUcOUYDn3cDds_96k
เราโชคดี ที่เกิดมาในยุคที่ยังเป็นเด็กได้...
เราแบ่งให้เค้าบ้างค่ะ...
เพราะเด็กเหล่านั้น ไม่ได้โชคดีเหมือนเรา
สุดท้าย...ฝากผลงานเพจค่ะ...ตรงๆ เลย
ถ้าชอบแวะไปเยี่ยมชมกันได้นะคะ ทั้ง เพจและBlog
เพจ : โลกสวยไปวันวัน
Blog : http://storylunch.blogspot.com/