ทนไม่ไหวกับกรุงไทยแอกซ่าแล้วค่ะ

คือก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าที่บ้านทำกิจการเป็นอู่ซ่อมรถค่ะ ซึ่งเป็นอู่เล็กๆไม่ได้ใหญ่โตอะไร
ซักช่วงประมาณเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคมที่ผ่านมา พอดีญาติเขาแนะนำประกันของกรุงไทยแอกซ่าเข้ามาที่บ้าน
โดยในครั้งแรกนั้นคุณแม่ก็ฟังเขาอธิบายเพราะไม่อยากจะเสียมารยาท อันนี้เราไม่รู้รายละเอียดว่าประกันอะไรแบบไหน
แล้วช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ทางคุณแม่ก็ไม่อยากมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม โดยได้บอกปัดไปว่าไม่สนใจโดยอ้างเรื่องเศรษฐกิจ
ทางกรุงไทยแอกซ่าก็ยังถามอีกว่ามีใครแนะนำอีกไหม คือประมาณว่าจะแนะนำใครให้เขาไหม คุณแม่เลยบอกว่าไม่มี

คิดว่าปัญหาจะจบ ไม่เลยค่ะ หลังจากนั้นไม่นาน ทิ้งช่วงไปเกือบเดือนมีตัวแทนจากกรุงไทยแอกซ่าเข้ามาหาที่บ้านอีก
ทั้งๆที่ครั้งที่แล้วตอนคุยคุณแม่ก็บอกปัดว่าไม่สนใจทำไปแล้ว แต่ครั้งนี้มาเปลี่ยนตัวแทนคนใหม่ พอดีวันนั้นคุณแม่ไม่อยู่
เราเลยออกไปรับหน้าแทน บอกไม่มีคนอยู่ ( เราเพิ่งเรียนจบยังไม่หางานทำ คิดว่าเขาคงไม่มาเสนอขายกับเราแน่ๆ )
ซึ่งเขาก็โอเค ขอตัวกลับ วันต่อมามีตัวแทนกรุงไทยแอกซ่าเข้ามาอีก แต่คนละคนกับเมื่อวาน บอกจะมาขอคุยอธิบายแผนประกันกับคนงานที่บ้าน
คือคนงานที่บ้านเป็นคนงานต่างจังหวัดมาจากทางภาคอีสานค่ะ ทำงานหาเช้ากินค่ำคิดว่าพวกเขาจะสนใจไหมคะ? ประกอบกับตอนที่กรุงไทยแอกซ่า
เข้ามานั้นเป็นช่วงพักกลางวัน เราเลยบอกว่าติดพักกลางวันค่ะ คนงานไปทานข้าวกันหมด เขาก็ถามมาว่าพรุ่งนี้ตอนเที่ยงเข้ามาจะได้ไหม
ซึ่งเราก็บอกกลับไปว่าตอนเที่ยงเป็นช่วงพักกลางวันของที่นี่ค่ะ เขาก็ตอบกลับมาว่า ค่ะๆ แล้วก็ขอตัวกลับ เราคิดว่าจะจบเรื่อง แต่ไม่เลยค่ะ
วันต่อมาก็ยังเข้ามาอีก โดยเปลี่ยนตัวแทนขายเป็นอีกกลุ่มซึ่งในวันนั้นพอดีเราไปธุระข้างนอกกับคุณแม่ กลับมาก็เจอกลุ่มนั้นกำลังขึ้นรถกลับ
เราเห็นป้ายคล้องคอเลยรู้ว่าเป็นของทางกรุงไทยแอกซ่า เท่ากับว่าทางกรุงไทยแอกซ่าเข้ามาที่บ้านติดๆกัน 3วันเลย หลังจากนั้นก็ทางกรุงไทยแอกซ่าก็ไม่เข้ามาอีกเลย

ล่าสุด เมื่อวาน 1/09/58 ทางกรุงไทยแอกซ่าเข้ามาที่บ้านอีกแล้ว รอบนี้คุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่บ้านค่ะ เราอยู่บ้านแทนเพราะบางครั้งจะมีลูกค้าเข้ามาติดต่องานและน้องชายเพิ่งกลับจากหอมา เราก็แจ้งกับเขาไปว่าคุณแม่ไม่อยู่ค่ะ พอดีอยู่กับน้องชายแค่2คนค่ะ เขาเลยบอก อ่อ น้องชายหรอครับ เหมือนตอนแรกจะขอคุยกับน้องเพราะน้องเราตัวใหญ่คงคิดว่าน่าจะอายุเยอะกว่าเรา คงจะขอคุยได้ พอรู้ว่าเป็นน้องเลยจะขอคุยกับเราแทน เราเลยบอกว่าไม่สะดวกค่ะ เขาก็ถามว่าถ้าพรุ่งนี้เข้ามาใหม่จะได้ไหมซึ่งก็คือวันนี้ เราก็บอกไปว่าวันนี้ก็ไม่มีคนอยู่นะ เพราะที่บ้านเขาไปงานกันหมด เขาเลยขอตัวกลับ

คือที่เรามาตั้งกระทู้แบบนี้ คือเราทนไม่ไหวกับกรุงไทยแอกซ่าแล้วค่ะ ทางเราบอกปัดตั้งแต่ทีแรกแล้วว่าไม่สนใจ คือก็น่าจะรู้แล้วว่าไม่อยากทำ
นี่ก็ยังเข้ามาเรื่อยๆ เดือนนึงมามากกว่า 2 รอบ จะให้ที่บ้านมารับหน้าทุกครั้งก็ไม่ใช่ เราเข้าใจว่าเป็นอาชีพของเขา แต่ก็น่าจะเข้าใจคนอื่นๆบ้าง
นั่งฟังแผนก็เป็นชั่วโมงแล้วค่ะ ที่บ้านเราเป็นกิจการ บางทีลูกค้ามาก็ต้องคุยกับลูกค้าจะให้มาคุยทุกๆครั้งก็ใช่เรื่อง
ฝากถึงผู้บริหารกรุงไทยแอกซ่าด้วยค่ะ

แท๊กผิดขออภัยด้วยค่ะ

*แก้ไขคำผิดค่ะ*
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่