เมื่อต้นปีผมได้ทำประกันชีวิตของกรุงไทยแอกซ่าโดยหักผ่านบัญชีธนาคารทุกเดือน แต่ด้วยความเข้าใจผิดในรายละเอียดของกรมธรรม์ ผมจึงตัดสินใจยกเลิกกรมธรรม์โดยติดต่อยกเลิก และได้ทำตามขั้นตอนการยกเลิกตามคำแนะนำของศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ของกรุงไทยแอกซ่า โดยส่งกรมธรรม์คืนพร้อมแสดงความจำนงขอยกเลิกกรมธรรม์ และได้รับหนังสือแจ้งสถานะฯจากกรุงไทยแอกซ่า เรื่องการยกเลิกกรมธรรม์ เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 57 ที่ผ่านมา
แต่สุดท้ายผมกลับถูกหักบัญชีธนาคารเพื่อชำระเบี้ยประกันอีกจำนวน 2 งวด โดยที่ทางกรุงไทยแอกซ่า ตัดเงินผมทีเดียว 2 ยอดในวันเดียวกัน (25 ก.ย.57) และส่งใบเสร็จย้อนหลังมาแจ้งว่าเป็นการชำระเบี้ยจำนวน 2 งวด ด้วยความสงสัยผมจึงติดต่อกลับไปที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ของกรุงไทยแอกซ่าเพื่อสอบถามเรื่องราวว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นตรงไหนอย่างไร
ทางเจ้าหน้าที่ที่รับสายยืนยันว่า “ได้รับเอกสารขอยกเลิกกรมธรรม์จากผมแล้ว แต่ยังไม่ดำเนินการยกเลิกให้ โดยให้เหตุผลว่า เผื่อผมเปลี่ยนใจอยากส่งต่อเมื่อไรก็จะได้ส่งต่อได้อีก”
แต่ผมก็แย้งไปว่าผมยังไม่ได้ทำเรื่องอะไรเลย แล้วทางกรุงไทยแอกซ่ามาตัดเงินผมได้อย่างไร ซึ่งได้คำตอบเป็นที่น่าตกใจยิ่งไปกว่าการที่ทางกรุงไทยแอกซ่าไม่ยอมยกเลิกกรมธรรม์ตามความจำนงของผม ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า “นายหน้าตัวแทนของกรุงไทยที่มาเสนอขายประกันฉบับนี้ให้ผมนั้น เป็นคนทำเอกสารกลับคืนมาให้ทางสำนักงานใหญ่เพื่อต่ออายุกรมธรรม์” ซึ่งผมก็บอกว่าผมยังไม่ได้ทำเรื่องอะไรเลย เอกสารมันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ตรงนี้เจ้าหน้าที่ตอบไม่ได้ บอกเพียงแต่ว่าต้องตรวจสอบ
หลังวางสายผมก็ได้รับสายจากนายหน้าที่ขายประกันนี้ให้ผม ในตอนแรกผมก็ยังอุตส่าห์มองโลกในแง่ดีอยู่นะครับ น้องนายหน้าบอกว่าให้ผมทำเรื่องยกเลิกไปอีกครั้ง แล้วครั้งนี้จะยกเลิกจริงๆ และจะไม่มีการต่อกรมธรรม์อีกแล้ว แต่ผมก็ยังงงมากว่ามีการต่อฯโดยที่ไม่แจ้งเจ้าตัวทราบได้อย่างไร เลยซักไซ้ จนน้องตัวแทนประกันสารภาพมาว่าเป็นคนทำเรื่องต่อกรมธรรม์ให้ตัดเงินในบัญชีผมเอง เนื่องจากต้องการรักษายอด เพราะเค้าจะโดนตัดค่าคอมมิชชั่นเพราะยอดเค้าไม่ถึงเป้า เขาขอร้องไม่ให้ผมเอาเรื่องและยอมทำเรื่องยกเลิกเข้าไปที่ศูนย์อีกครั้ง เพราะไม่อยากโดนลงโทษ ผมตัดบทแล้ววางสายไป
หลังทราบความจริงจากตัวแทน ผมโทรเข้าไปที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ของกรุงไทยแอกซ่าอีกครั้ง ผมบอกให้เค้าทราบรายละเอียดทั้งหมด ยอมรับเลยว่าโมโหมากต่อว่าไปเยอะพอสมควรและแจ้งความจำนงให้เดินการลงโทษและแก้ไขปัญหาให้โดยผมไม่สะดวกส่งเอกสารอะไรอีกทั้งสิ้น และทางเจ้าหน้าก็ยืนยันว่าจะดำเนินการยกเลิกกรมธรรม์ให้โดยที่ครั้งนี้ผมไม่จำเป็นต้องส่งเอกสารอะไรมาแล้ว ทางศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ของกรุงไทยแอกซ่าจะดำเนินการยกเลิกให้ทันที
นอกจากนี้ผมก็บอกว่าผมต้องการเงินคืนจำนวน 2 งวดที่ทางกรุงไทยแอกซ่าตัดผ่านบัญชีผมไป โดยบอกว่าให้เวลาจนถึงวันนี้(14 ต.ค. 57) และขอร้องเรียนการทำงานของนายหน้าคนนั้น และบอกให้ทางกรุงไทยโทรมาแจ้งผลการจัดการเรื่องนี้ แต่จนวันนี้ผมกลับไม่ได้รับการติดต่อกลับจากกรุงไทยแอกซ่าเลย และก็ยังไม่ได้รับเงินคืนจาก กรุงไทย แอกซ่าด้วย
ผมคิดไม่ถึงว่า ตัวแทนขายประกันของกรุงไทยแอกซ่า จะกล้าปลอมแปลงเอกสารของลูกค้าเพื่อรักษายอดขายของตัวเอง ส่วนกรุงไทยแอกซ่าเอง ก็ระบบการดำเนินงานที่แย่และเอาเปรียบลูกค้าเป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่ผมทำเรื่องขอยกเลิกก็ไม่ยกเลิกให้ตามความต้องการ ยิ่งไปกว่านั้นยังมาตัดเงินผมทั้งๆ ที่ไม่ได้มีเอกสารแจ้งเป็นรายลักษณ์อักษรจากผมเลย
ผมจึงอยากเตือนเพื่อนๆ ชาวพันทิปให้ระวังทั้งนายหน้าตัวแทนของกรุงไทยแอกซ่า และระบบการดำเนินงานของกรุงไทยแอกซ่า จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อเช่นเดียวกับผม
ปล. ขณะนี้ผมได้ปรึกษาพี่ทราบกฎหมายแล้ว และกำลังรวบรวมเอกสาร-หลักฐานที่มีอยู่ในตัว เพื่อจะแจ้งความให้ดำเนินคดีอาญากับตัวแทนคนนั้น ในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร
เตือนภัยสำหรับคนที่จะทำประกันของ “กรุงไทย แอกซ่า”
แต่สุดท้ายผมกลับถูกหักบัญชีธนาคารเพื่อชำระเบี้ยประกันอีกจำนวน 2 งวด โดยที่ทางกรุงไทยแอกซ่า ตัดเงินผมทีเดียว 2 ยอดในวันเดียวกัน (25 ก.ย.57) และส่งใบเสร็จย้อนหลังมาแจ้งว่าเป็นการชำระเบี้ยจำนวน 2 งวด ด้วยความสงสัยผมจึงติดต่อกลับไปที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ของกรุงไทยแอกซ่าเพื่อสอบถามเรื่องราวว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นตรงไหนอย่างไร
ทางเจ้าหน้าที่ที่รับสายยืนยันว่า “ได้รับเอกสารขอยกเลิกกรมธรรม์จากผมแล้ว แต่ยังไม่ดำเนินการยกเลิกให้ โดยให้เหตุผลว่า เผื่อผมเปลี่ยนใจอยากส่งต่อเมื่อไรก็จะได้ส่งต่อได้อีก”
แต่ผมก็แย้งไปว่าผมยังไม่ได้ทำเรื่องอะไรเลย แล้วทางกรุงไทยแอกซ่ามาตัดเงินผมได้อย่างไร ซึ่งได้คำตอบเป็นที่น่าตกใจยิ่งไปกว่าการที่ทางกรุงไทยแอกซ่าไม่ยอมยกเลิกกรมธรรม์ตามความจำนงของผม ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า “นายหน้าตัวแทนของกรุงไทยที่มาเสนอขายประกันฉบับนี้ให้ผมนั้น เป็นคนทำเอกสารกลับคืนมาให้ทางสำนักงานใหญ่เพื่อต่ออายุกรมธรรม์” ซึ่งผมก็บอกว่าผมยังไม่ได้ทำเรื่องอะไรเลย เอกสารมันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ตรงนี้เจ้าหน้าที่ตอบไม่ได้ บอกเพียงแต่ว่าต้องตรวจสอบ
หลังวางสายผมก็ได้รับสายจากนายหน้าที่ขายประกันนี้ให้ผม ในตอนแรกผมก็ยังอุตส่าห์มองโลกในแง่ดีอยู่นะครับ น้องนายหน้าบอกว่าให้ผมทำเรื่องยกเลิกไปอีกครั้ง แล้วครั้งนี้จะยกเลิกจริงๆ และจะไม่มีการต่อกรมธรรม์อีกแล้ว แต่ผมก็ยังงงมากว่ามีการต่อฯโดยที่ไม่แจ้งเจ้าตัวทราบได้อย่างไร เลยซักไซ้ จนน้องตัวแทนประกันสารภาพมาว่าเป็นคนทำเรื่องต่อกรมธรรม์ให้ตัดเงินในบัญชีผมเอง เนื่องจากต้องการรักษายอด เพราะเค้าจะโดนตัดค่าคอมมิชชั่นเพราะยอดเค้าไม่ถึงเป้า เขาขอร้องไม่ให้ผมเอาเรื่องและยอมทำเรื่องยกเลิกเข้าไปที่ศูนย์อีกครั้ง เพราะไม่อยากโดนลงโทษ ผมตัดบทแล้ววางสายไป
หลังทราบความจริงจากตัวแทน ผมโทรเข้าไปที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ของกรุงไทยแอกซ่าอีกครั้ง ผมบอกให้เค้าทราบรายละเอียดทั้งหมด ยอมรับเลยว่าโมโหมากต่อว่าไปเยอะพอสมควรและแจ้งความจำนงให้เดินการลงโทษและแก้ไขปัญหาให้โดยผมไม่สะดวกส่งเอกสารอะไรอีกทั้งสิ้น และทางเจ้าหน้าก็ยืนยันว่าจะดำเนินการยกเลิกกรมธรรม์ให้โดยที่ครั้งนี้ผมไม่จำเป็นต้องส่งเอกสารอะไรมาแล้ว ทางศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ของกรุงไทยแอกซ่าจะดำเนินการยกเลิกให้ทันที
นอกจากนี้ผมก็บอกว่าผมต้องการเงินคืนจำนวน 2 งวดที่ทางกรุงไทยแอกซ่าตัดผ่านบัญชีผมไป โดยบอกว่าให้เวลาจนถึงวันนี้(14 ต.ค. 57) และขอร้องเรียนการทำงานของนายหน้าคนนั้น และบอกให้ทางกรุงไทยโทรมาแจ้งผลการจัดการเรื่องนี้ แต่จนวันนี้ผมกลับไม่ได้รับการติดต่อกลับจากกรุงไทยแอกซ่าเลย และก็ยังไม่ได้รับเงินคืนจาก กรุงไทย แอกซ่าด้วย
ผมคิดไม่ถึงว่า ตัวแทนขายประกันของกรุงไทยแอกซ่า จะกล้าปลอมแปลงเอกสารของลูกค้าเพื่อรักษายอดขายของตัวเอง ส่วนกรุงไทยแอกซ่าเอง ก็ระบบการดำเนินงานที่แย่และเอาเปรียบลูกค้าเป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่ผมทำเรื่องขอยกเลิกก็ไม่ยกเลิกให้ตามความต้องการ ยิ่งไปกว่านั้นยังมาตัดเงินผมทั้งๆ ที่ไม่ได้มีเอกสารแจ้งเป็นรายลักษณ์อักษรจากผมเลย
ผมจึงอยากเตือนเพื่อนๆ ชาวพันทิปให้ระวังทั้งนายหน้าตัวแทนของกรุงไทยแอกซ่า และระบบการดำเนินงานของกรุงไทยแอกซ่า จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อเช่นเดียวกับผม
ปล. ขณะนี้ผมได้ปรึกษาพี่ทราบกฎหมายแล้ว และกำลังรวบรวมเอกสาร-หลักฐานที่มีอยู่ในตัว เพื่อจะแจ้งความให้ดำเนินคดีอาญากับตัวแทนคนนั้น ในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร