เลื้ยงลูก 2 (หัวปี-ท้ายปี พี่ชายกับน้องสาว) นอกจากมีความถูกต้องและต้องมีความยุติธรรมด้วย
ลูก 2 คนทะเลาะเรื่องแย่งของ แบ่งของ กันเป็นประจำจนผมจะซื้ออะไรเข้าบ้านต้อง x2ตลอด แล้ววันนั้นเขาเล่นต่อเลโก้(ของเล่นเสริมทักษะที่พ่อแม่หลายคนคงมีไว้ให้ลูกเล่น)แล้วก็เริ่มทะเลาะกันตามปกติแล้ว
เราก็ต้องเข้าไปห้ามตามปกติด้วยเหมือนกัน
พี่ชาย: กล่องนั้นของเรานี่ มันมีรถคันนั้นอยู่ในกล่อง
น้องสาว: ของเราๆ
แล้วน้องสาวก็ต้องไปเอาเลโก้อีกกล่องมาเล่น
น้องสาว: วงกลมมันน้อย ไม่พอๆ (เลโก้วงกลมชิ้นเล็กๆ สีสดๆ, สีใสโปรงแสง เธอชอบเอามาต่อกันเป็นแท่งยาวๆ)
พี่ชาย: ของหนูก็น้อยกว่า พ่อมานับให้ใหม่ (เราก็คอยห้ามอยู่ก็เลยต้องมานับแบ่งแต่น้องสาวไม่ยอมรื้อของที่เธอต่อไว้)
พ่อ(ตัวเรา): งั้นแบ่งเฉพาะวงกลมมานับนะเพราะว่าน้องไม่ยอมรื้อเองนี่
ทั้งสองคนถูกแม่เรียกให้ไปกินข้าวกลางวันเมื่อน้องสาวคอยวนเวียนมาดูวงกลมของตัวเอง ระหว่างนี้มีอีกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตลอดและคอยห้ามปรามด้วยนั่นก็คือเจ้าของเลโก้ตัวจริงน้าสาวของเธอเป็นคนซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อเดือนที่ผ่านมา
อี้(น้าสาว): เอางี้ถ้าใครพูดไม่เลิก อี้จะยึดเลโก้คืน
น้องสาว: พ่อๆ ของหนูมีกี่อัน
พ่อ: ก็เกือบ 2o อัน
อี้: ...(พูดอะไรหรือเปล่าไม่แน่ใจ ผมจำไม่ได้)
แล้วอี้ก็จัดการยึดเลโก้ไปแอบ....แล้วน้องสาวงอนไปร้องไหนหลังบ้าน ผ่านไปครึ่งชั่วโมง แม่เธอตามไปสระผม เธอก็ยังร้องอยู่ ตอนสระผมก็ร้อง สระเสร็จก็ยังร้องอยู่ (ตอนที่เธอร้องเธอก็ออกมาแอบดูพี่ชายเธอเล่นเลโก้ออกเสียงเฟี้ยว-ฟ้าว กับเครื่องบิน โดยไม่สงสารน้องสาวเลย) ผมเริ่มหงุดหงิดกับการกระทำของอี้ แต่อี้เธอกลับพูดคำคมๆออกมาว่า "ถ้าอี้เอามาคืนเรียกอี้ว่าหมาได้เลย"
ขอหยุดเรื่องแค่นี้ก่อน ที่เหลือเป็นความคิดเห็นของคนเป็นพ่ออย่างผมและการแก้ปัญหา(บางคนอ่านแล้วไม่เห็นด้วยก็แล้วแต่ครับ)
1. ทุกครั้งที่ของเล่นที่ซื้อมาพร้อมกันแต่ชำรุดไป 1 ชิ้น และชิ้นที่เหลืออยู่ถูกนำมาเล่นคนที่ไม่มีของเล่นก็จะงอแง
2. กติกาที่อี้ตั้งขึ้นทำให้พี่ชายไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยทั้งๆที่ ทะเลาะกันทั้ง 2 คน พี่ชายออกจะหัวหมอนิดๆ เพราะทุกครั้งที่น้องถูกลงโทษตัวเองจะเงียบ..ทันที
3. คำพูดคมๆของอี้ไม่ได้สอนเด็ก แต่มันเหมือนกระทบกระแทกผมมากกว่า ซึ่งถ้าอยากทะเลาะกับผมอย่ามารังแกเด็กแบบนี้
ผมทนไม่ไหวการทะเลาะกันของเด็กมันยืดยาวขนาดนี้ มันไม่จำเป็นต้องค้างคานาน วันหยุดของผมกับภรรยา ผมทำหน้าที่รีดชุดนักเรียน พับผ้า จัดอุปกรณ์การเรียน ส่วนภรรยาจะทำงานบ้าน จัดข้าวและสอนลูกอ่านหนังสือและภรรยาผมก็ไม่ได้ไปพูดคุยอะไรกับอี้(น้องสาวของเธอ เพื่อถามกันภาษาผู้ใหญ่คุยกันเลย) ผมโมโหถามภรรยาว่า
พ่อ(ผม): จะไม่ทำอะไรเลยเหรอ มันจะอีกนานไหม จะยังไงต่อ
(อี้)สวนมาทันควัน: ก็เพราะ(ผม)เป็นแบบนี้ไงเด็กถึงเอาแต่ใจ อีกหน่อยร้องอยากไปขายตัวก็ต้องปล่อยไป
ผมเดินหนี้เลย(ในใจอยากตบปาก หรือ อยากด่ากลับถึงพ่อถึงแม่เขาไปเลย) แต่ที่นั่นบ้านเขา ผมเบื่อยิ่งทะเลาะชีวิตผมก็ยิ่งพังลง ซักพักผมกลับมาคุยกับภรรยา (ปกติภรรยาไม่เคยเข้าข้างผมกับลูก แต่วันนี้พอคุยกันได้) ผมสรุปจะซื้อเลโก้ใหม่แล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปซื้อ แล้วเอามาซ่อนไว้ก่อน เพราะที่ผมซื้อก็ไม่ได้จะโอ๋ลูกสาว แต่จะลงโทษอะไรมีความพอดีบ้างแล้ว กับลูกชายที่ก็ไม่ได้ถูกยึดของเล่นก็ไม่ได้แปลว่าเขานิสัยดีกว่า ผมว่ามันทำร้ายจิตใจกันมากไป กับของที่เขาเล่นอยู่ แล้วถูกยึดไป แถมพี่ชายมานั่งเล่นอยู่ตรงหน้า โดยไม่ถูกลงโทษอะไรเลย
สิ่งที่อี้ทำมันถูกต้อง...แต่เขาไม่ได้นึกถึงความยุติธรรมกับเหตุการณ์หลังจากนั้น ทุกครั้งที่พี่ชายเอาเลโก้มาเล่นความผิดจากความโมโหในครั้งนี้น้องสาวจะตามลงโทษตลอดไป การตัดสินแบบนี้ผมไม่ยอมรับ และการกระทำข้ามหน้าข้ามตา พยายามเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล ไม่ฟังความเห็นผม แถมยังมาพูดจาแย่ๆใส่ผม(ไม่ใช่ครั้งแรก)มันมากเกินไป ถึงเธอจะเก่งหรืออ่านบทความาการเลี้ยงเด็กที่แสนจะดีมากจากไหน แต่การที่เธอจะเอามาใช้จริงๆ อย่างน้อยเธอควรบอกหรือปรึษาภรรยาผมก็ยังดี ถ้าเธอถือเอาว่าผมสอนลูกไม่ดีอยากจะอะไรกับผมกับลูกเมื่อไหร่ก็ได้ วันหน้าถ้าเธอ(อี้)ทำกริยาแย่ๆกับแม่เธอ(แม่ยาย)ผมก็มีสิทธิ์ว่ากล่าวด้วยหรือเปล่า
เหตุการณ์วันนั้น สุดท้ายแล้วหลังจากลูกสาวผมร้องไห้จนหลับไป ตอนเย็นหลังจากเธอตื่นผมเอาสแครบเบิ้ลมาให้เธอเล่นแล้วเธอก็เรียกพี่ชายมาเล่นโดยไม่โกรธพี่เธอเลย...แล้วอย่างนี้การทะเลาะกันเล็กๆน้อยของเด็กมันไม่ได้วุ่นวายจนผู้ใหญ่ต้องมาหงุดหงิดมีเรื่องกันอย่างนี้
ปล. ลูกผมในแต่ละวันไม่เหมือนกัน เดี๋ยวพูดเพราะขยันช่วยงาน บางที่ร้องไห้โยเย จับผิดกันสองคนพี่น้อง แล้วก็ฟ้องพ่อ ผมก็สอนกันไป ดีก็ชม, ไม่ดีก็ตำหนิ อย่างนี้ไม่ถูกใช่ไหม อี้ต้องการอะไร ต้องการหุ่นยนต์เด็กที่ถูกสั่งสอนหรือทำโทษเพียงครั้งเดียว แล้วไม่ทำผิดอีกเลยใช่ไหม ถามจริงเถอะ ไอ้ที่โตๆกันแล้วเนี่ย ไม่ทำผิดกันเลยใช่ไหม.......
เพิ่มเติมนะครับ ผมตัดบทส่วนของการตักเตือนลูกของผมออกไปเพราะ มองว่าเป็นเรื่องปกติของผม จนทำให้เนื้อเรื่องไม่สมบูรณ์หาก คห.ต่างๆ ให้ความสำคัญสำหรับส่วนนี้ ผมสาบานได้ว่าระหว่างที่ลูกผมทะเลาะหรือ ร้องไห้ หรือ เล่นของเล่นโดยไม่แบ่งน้อง ฯลฯ ผมพูดคุยกับเขาไม่ได้หนีไปไหนเลยครับ และด้วยเหตุที่ผมต้องเป็นคนคอยตอบ คอยสอน ทุกๆคำถามของลูก จึงสาเหตุที่โกรธน้องเมียมากที่ไม่ไว้หน้าผมทั้งๆที่ผมก็เฝ้าสอนอยู่ เข้าใจแล้วนะครับ
ได้ของเล่นราคาแพงให้ลูก แต่ไม่มีความสุขเลย ทั้งพ่อและลูก
ลูก 2 คนทะเลาะเรื่องแย่งของ แบ่งของ กันเป็นประจำจนผมจะซื้ออะไรเข้าบ้านต้อง x2ตลอด แล้ววันนั้นเขาเล่นต่อเลโก้(ของเล่นเสริมทักษะที่พ่อแม่หลายคนคงมีไว้ให้ลูกเล่น)แล้วก็เริ่มทะเลาะกันตามปกติแล้วเราก็ต้องเข้าไปห้ามตามปกติด้วยเหมือนกัน
พี่ชาย: กล่องนั้นของเรานี่ มันมีรถคันนั้นอยู่ในกล่อง
น้องสาว: ของเราๆ
แล้วน้องสาวก็ต้องไปเอาเลโก้อีกกล่องมาเล่น
น้องสาว: วงกลมมันน้อย ไม่พอๆ (เลโก้วงกลมชิ้นเล็กๆ สีสดๆ, สีใสโปรงแสง เธอชอบเอามาต่อกันเป็นแท่งยาวๆ)
พี่ชาย: ของหนูก็น้อยกว่า พ่อมานับให้ใหม่ (เราก็คอยห้ามอยู่ก็เลยต้องมานับแบ่งแต่น้องสาวไม่ยอมรื้อของที่เธอต่อไว้)
พ่อ(ตัวเรา): งั้นแบ่งเฉพาะวงกลมมานับนะเพราะว่าน้องไม่ยอมรื้อเองนี่
ทั้งสองคนถูกแม่เรียกให้ไปกินข้าวกลางวันเมื่อน้องสาวคอยวนเวียนมาดูวงกลมของตัวเอง ระหว่างนี้มีอีกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตลอดและคอยห้ามปรามด้วยนั่นก็คือเจ้าของเลโก้ตัวจริงน้าสาวของเธอเป็นคนซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อเดือนที่ผ่านมา
อี้(น้าสาว): เอางี้ถ้าใครพูดไม่เลิก อี้จะยึดเลโก้คืน
น้องสาว: พ่อๆ ของหนูมีกี่อัน
พ่อ: ก็เกือบ 2o อัน
อี้: ...(พูดอะไรหรือเปล่าไม่แน่ใจ ผมจำไม่ได้)
แล้วอี้ก็จัดการยึดเลโก้ไปแอบ....แล้วน้องสาวงอนไปร้องไหนหลังบ้าน ผ่านไปครึ่งชั่วโมง แม่เธอตามไปสระผม เธอก็ยังร้องอยู่ ตอนสระผมก็ร้อง สระเสร็จก็ยังร้องอยู่ (ตอนที่เธอร้องเธอก็ออกมาแอบดูพี่ชายเธอเล่นเลโก้ออกเสียงเฟี้ยว-ฟ้าว กับเครื่องบิน โดยไม่สงสารน้องสาวเลย) ผมเริ่มหงุดหงิดกับการกระทำของอี้ แต่อี้เธอกลับพูดคำคมๆออกมาว่า "ถ้าอี้เอามาคืนเรียกอี้ว่าหมาได้เลย"
ขอหยุดเรื่องแค่นี้ก่อน ที่เหลือเป็นความคิดเห็นของคนเป็นพ่ออย่างผมและการแก้ปัญหา(บางคนอ่านแล้วไม่เห็นด้วยก็แล้วแต่ครับ)
1. ทุกครั้งที่ของเล่นที่ซื้อมาพร้อมกันแต่ชำรุดไป 1 ชิ้น และชิ้นที่เหลืออยู่ถูกนำมาเล่นคนที่ไม่มีของเล่นก็จะงอแง
2. กติกาที่อี้ตั้งขึ้นทำให้พี่ชายไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยทั้งๆที่ ทะเลาะกันทั้ง 2 คน พี่ชายออกจะหัวหมอนิดๆ เพราะทุกครั้งที่น้องถูกลงโทษตัวเองจะเงียบ..ทันที
3. คำพูดคมๆของอี้ไม่ได้สอนเด็ก แต่มันเหมือนกระทบกระแทกผมมากกว่า ซึ่งถ้าอยากทะเลาะกับผมอย่ามารังแกเด็กแบบนี้
ผมทนไม่ไหวการทะเลาะกันของเด็กมันยืดยาวขนาดนี้ มันไม่จำเป็นต้องค้างคานาน วันหยุดของผมกับภรรยา ผมทำหน้าที่รีดชุดนักเรียน พับผ้า จัดอุปกรณ์การเรียน ส่วนภรรยาจะทำงานบ้าน จัดข้าวและสอนลูกอ่านหนังสือและภรรยาผมก็ไม่ได้ไปพูดคุยอะไรกับอี้(น้องสาวของเธอ เพื่อถามกันภาษาผู้ใหญ่คุยกันเลย) ผมโมโหถามภรรยาว่า
พ่อ(ผม): จะไม่ทำอะไรเลยเหรอ มันจะอีกนานไหม จะยังไงต่อ
(อี้)สวนมาทันควัน: ก็เพราะ(ผม)เป็นแบบนี้ไงเด็กถึงเอาแต่ใจ อีกหน่อยร้องอยากไปขายตัวก็ต้องปล่อยไป
ผมเดินหนี้เลย(ในใจอยากตบปาก หรือ อยากด่ากลับถึงพ่อถึงแม่เขาไปเลย) แต่ที่นั่นบ้านเขา ผมเบื่อยิ่งทะเลาะชีวิตผมก็ยิ่งพังลง ซักพักผมกลับมาคุยกับภรรยา (ปกติภรรยาไม่เคยเข้าข้างผมกับลูก แต่วันนี้พอคุยกันได้) ผมสรุปจะซื้อเลโก้ใหม่แล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปซื้อ แล้วเอามาซ่อนไว้ก่อน เพราะที่ผมซื้อก็ไม่ได้จะโอ๋ลูกสาว แต่จะลงโทษอะไรมีความพอดีบ้างแล้ว กับลูกชายที่ก็ไม่ได้ถูกยึดของเล่นก็ไม่ได้แปลว่าเขานิสัยดีกว่า ผมว่ามันทำร้ายจิตใจกันมากไป กับของที่เขาเล่นอยู่ แล้วถูกยึดไป แถมพี่ชายมานั่งเล่นอยู่ตรงหน้า โดยไม่ถูกลงโทษอะไรเลย
สิ่งที่อี้ทำมันถูกต้อง...แต่เขาไม่ได้นึกถึงความยุติธรรมกับเหตุการณ์หลังจากนั้น ทุกครั้งที่พี่ชายเอาเลโก้มาเล่นความผิดจากความโมโหในครั้งนี้น้องสาวจะตามลงโทษตลอดไป การตัดสินแบบนี้ผมไม่ยอมรับ และการกระทำข้ามหน้าข้ามตา พยายามเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล ไม่ฟังความเห็นผม แถมยังมาพูดจาแย่ๆใส่ผม(ไม่ใช่ครั้งแรก)มันมากเกินไป ถึงเธอจะเก่งหรืออ่านบทความาการเลี้ยงเด็กที่แสนจะดีมากจากไหน แต่การที่เธอจะเอามาใช้จริงๆ อย่างน้อยเธอควรบอกหรือปรึษาภรรยาผมก็ยังดี ถ้าเธอถือเอาว่าผมสอนลูกไม่ดีอยากจะอะไรกับผมกับลูกเมื่อไหร่ก็ได้ วันหน้าถ้าเธอ(อี้)ทำกริยาแย่ๆกับแม่เธอ(แม่ยาย)ผมก็มีสิทธิ์ว่ากล่าวด้วยหรือเปล่า
เหตุการณ์วันนั้น สุดท้ายแล้วหลังจากลูกสาวผมร้องไห้จนหลับไป ตอนเย็นหลังจากเธอตื่นผมเอาสแครบเบิ้ลมาให้เธอเล่นแล้วเธอก็เรียกพี่ชายมาเล่นโดยไม่โกรธพี่เธอเลย...แล้วอย่างนี้การทะเลาะกันเล็กๆน้อยของเด็กมันไม่ได้วุ่นวายจนผู้ใหญ่ต้องมาหงุดหงิดมีเรื่องกันอย่างนี้
ปล. ลูกผมในแต่ละวันไม่เหมือนกัน เดี๋ยวพูดเพราะขยันช่วยงาน บางที่ร้องไห้โยเย จับผิดกันสองคนพี่น้อง แล้วก็ฟ้องพ่อ ผมก็สอนกันไป ดีก็ชม, ไม่ดีก็ตำหนิ อย่างนี้ไม่ถูกใช่ไหม อี้ต้องการอะไร ต้องการหุ่นยนต์เด็กที่ถูกสั่งสอนหรือทำโทษเพียงครั้งเดียว แล้วไม่ทำผิดอีกเลยใช่ไหม ถามจริงเถอะ ไอ้ที่โตๆกันแล้วเนี่ย ไม่ทำผิดกันเลยใช่ไหม.......
เพิ่มเติมนะครับ ผมตัดบทส่วนของการตักเตือนลูกของผมออกไปเพราะ มองว่าเป็นเรื่องปกติของผม จนทำให้เนื้อเรื่องไม่สมบูรณ์หาก คห.ต่างๆ ให้ความสำคัญสำหรับส่วนนี้ ผมสาบานได้ว่าระหว่างที่ลูกผมทะเลาะหรือ ร้องไห้ หรือ เล่นของเล่นโดยไม่แบ่งน้อง ฯลฯ ผมพูดคุยกับเขาไม่ได้หนีไปไหนเลยครับ และด้วยเหตุที่ผมต้องเป็นคนคอยตอบ คอยสอน ทุกๆคำถามของลูก จึงสาเหตุที่โกรธน้องเมียมากที่ไม่ไว้หน้าผมทั้งๆที่ผมก็เฝ้าสอนอยู่ เข้าใจแล้วนะครับ