[SR] ใครว่าพังงา มีดีแค่ทะเล... ทริป 2 วัน 1 คืน (สำหรับคนที่มีเวลาน้อย อยากเที่ยวไกล)

ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราฝึกงาน เป็นช่วงที่น่าเบื่อที่สุดในโลก เพราะฝึกงานทุกวันแต่ไม่ได้ตังค์555555 เลยมีความคิดอยากหนีความจริงไปเที่ยวไกลๆ นึกขึ้นได้มีพี่ที่สนิทด้วยอยู่ใต้นี่หว่า เลยโทรไปหา แต่จะไปไหนหล่ะ เวลาสั้นนิดเดียว โชคดีที่พี่เขามีรีสอร์ทอยู่ที่พังงา คุยกันเสร็จเรียบร้อย ก็ตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินทันที ดีนะที่มีโปรค่าตั๋วบินไป-กลับ ราคาถูกพอดี เบ็ดเสร็จแล้วคนละ 1700 บาท โดยมีผู้ร่วมทริปทั้งหมด 4 คนค่ะ

วันเดินทาง
เราเดินทางจากกรุงเทพ ด้วยสายการบินนกแอร์ มาถึงกระบี่ ด้วยไฟท์เช้าค่ะ ที่ลงกระบี่เพราะพังงาไม่มีสนามบินค่ะ

เพิ่งลงเครื่อง ถึงกระบี่สดๆร้อนๆเลย พี่เค้าก็มารอรับอยู่แล้วค่ะ
ไหนๆก็มาถึงกระบี่ทั้งที ขอแวะเที่ยวทะเลสักนิดก่อนแล้วกันค่ะ อย่างนี้ต้องเปลี่ยนเสื้อให้เข้ากับบรรยากาศซะแล้วว

ที่นี่คือ หาดนพรัตน์ธาราค่ะ ห่างจากตัวเมืองกระบี่ไม่ไกล ทะเลสวยมากค่ะ ไปตอนเช้า แดดดีเลยทีเดียว

แวะถ่ายรูป ชื่นชมบรรยากาศทะเลกระบี่แปปนึง สถานีต่อไปพี่เขาจะพาไปสุสานหอย 75 ล้านปีค่ะ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหาดนพรัตน์ธารา
ค่าเข้าวันธรรมดาลด 50% นะคะ แต่เราไปวันเสาร์ ค่าเข้าเลยเป็น 40 บาทต่อคน

สุสานหอย มีซากดึกดำบรรพ์ของหอยน้ำจืดชนิดต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นหอยขม ซากหอยเหล่านี้ได้ทับถมกันโดยมีน้ำประสานธาตุปูนจับตัวให้กลายเป็นหินแข็งทับอยู่ชั้นหินลิกไนท์ และหินดินดาน ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติมากค่ะ

ถ่ายไปถ่ายมา ก็เที่ยงกว่าไปแล้ว พี่เขาก็ขับรถพาเรามุ่งหน้าไปพังงาค่ะ เพื่อไปทานอาหารที่รีสอร์ท ทางโน้นเขาจัดเตรียมไว้ให้แล้วค่ะ
ระยะทางจาก กระบี่ ไป พังงา ประมาณ 80 กม. ค่ะ ใช้เวลาในการเดินทาง ประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ
พอถึงพังงาพี่เขาก็พามาเที่ยวที่ถ้ำพุงช้างค่ะ สาเหตุที่เรียกถ้ำพุงช้าง คือ ภายนอกภูเขามีรูปทรงเหมือนช้างค่ะ


นำรูปมาจากกูเกิ้ลนะคะ เพราะที่เราถ่ายไว้ หาไม่เจอว่าอยู่กล้องใครจริงๆค่ะ(เสียดายมากเม่าฝนตก)

มาถึงบริเวณด้านใน จริงๆแล้วสามารถล่องเรือเข้าไปดูหินงอกหินย้อยได้นะคะ แต่วันที่พวกเราไปนั้นเป็นช่วงที่พายุเข้าพอดี ทำให้มีน้ำในถ้ำสูงมากจนพายเรือเข้าไปไม่ได้ค่ะ ได้แค่ถ่ายรูปอยู่ด้านนอก บริเวณที่จะลงเรือของถ้ำพุงช้างค่ะ

(ถึงจะไม่ได้เข้าไป ก็ขอเซลฟี่เป็นที่ระลึกสักหน่อย)


เป็นตัวอย่างด้านในถ้ำนะคะ นำรูปมาจากกูเกิ้ลค่ะ



สวยใช่มั๊ยหล่ะคะ ไว้ครั้งหน้าเราจะมาใหม่ ต้องเข้าไปในถ้ำให้ได้!! สภาพอากาศไม่อำนวยจริงๆค่ะ ออกมาจากถ้ำด้วยความผิดหวังเล็กๆ
พี่เขาก็พาไปทัวร์ต่อค่ะ ไปต่อที่วัดถ้ำตาปาน ที่นี่มีดินแดน นรกกับสวรรค์ ได้ยินอย่างนั้นน่าตื่นเต้นใช่มั๊ยหล่ะคะ

พอไปถึงที่ไหนได้ วัดกำลังบูรณะ รถจอดได้แค่ด้านนอก (เฟลอีกแล้ว =*=) ถึงไม่ได้เข้าไปเห็นดินแดนที่ว่า แต่ไม่เป็นไรคะ เพราะแถวรีสอร์ทพี่เขา มีกิจกรรมให้ทำอีกเพียบ แต่พวกเรามีเวลาน้อย เลยได้ทำกิจกรรมแค่บางส่วนค่ะ

นั่งรถมาไม่นานก็ถึงรีสอร์ทค่ะ มาถึงก็หิวโซแร้งลงจนไม่เหลือรูปอาหารมาให้ดู นึกได้อีกทีก็กินซะเกลี้ยงแล้วค่ะ ไอ้เราก็นึกว่าอาหารใต้จะรสเผ็ด พอลองทานเท่านั้นแหละค่ะ อื้อหื้อ เผ็ดจริง!! แต่...อร่อยม๊ากกกกก (ที่รีสอร์ทเค้าเน้นอาหารพื้นบ้านทางภาคใต้นะคะ รสชาติเลยเผ็ดหน่อยสำหรับคนกรุงเทพแบบเรา)
อิ่มท้องแล้ว พักผ่อนตามอัธยาศัย เราเลยเอารูปบรรยากาศรีสอร์ทพี่เขามาฝากค่ะ






ห้องที่พี่เขาจัดไว้ให้ คือห้องนี้ค่ะ ห้องพักติดริมลำธารเลย บรรยากาศดีฝุดๆเยี่ยม

หลังจากหนังท้องเราตึง หนังตาเราหย่อนไปเป็นที่เรียบร้อย พี่เขาก็มาชวนเราขึ้นไปเล่นน้ำตกกันค่ะ (ก็ได้เวลาเปลี่ยนชุดอีกแล้ว อิอิ)
ถึงแล้วค่ะ น้ำตกโตนปริวรรต อยู่ห่างจากรีสอร์ท ประมาณ 8 กม. ค่าเข้าคนไทย 30 บาท/คน ค่ะ


น้ำที่น้ำตกเย็นมากค่ะ ปลาที่นั่นก็ตัวใหญ่ม๊ากกกกก ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารปลาได้ด้วยนะคะ
แช่ได้แค่แปปเดียวจริงๆค่ะ น้ำมันเย็นมากกกก ก็เลยชวนกันกลับลงมาที่พัก เพื่อนเราถึงขั้นไม่สบายเลยทีเดียว
ส่วนเรานะหรอ สบายอยู่แล้ว แช่น้ำตกยังไม่หนำใจไม่เป็นไร ที่รีสอร์ทก็มีให้เล่น

นั่น นั่น นั่นไง!!! "สระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่มหึมา" มีหรอมาถึงนี่เราจะพลาด


ทั้งสระมีแต่เรา เหมือนมีสระว่ายน้ำส่วนตัวเลย อิอิ
หลังจากว่ายน้ำจนหนำใจแล้ว ก็ได้เวลากินอีกแล้วค่ะ พูดแล้วก็หิวเลย มื้อเย็นวันนี้ไม่ลืมที่จะถ่ายรูปเก็บไว้

อาหารพื้นบ้านเหมือนเช่นเคย ปลาอินทรีทอดซีอิ๊ว น้ำพริกระกำกุ้งสด ต้มกะทิผักเหลียงกุ้งสด และกุ้งมะขาม ฟินไปอี๊กกก มาน้ำตกแถมยังได้กินกุ้ง อิ่มหนำสำราญกันไปตามๆกัน หลังมื้อเย็นต่างคนต่างพักผ่อนกันตามอัธยาศัย

วันกลับ
ตื่นมาทานอาหารเช้าที่ทางรีสอร์ทจัดไว้ให้ค่ะ เป็นแบบอเมริกันค่ะ มีไข่ดาว ไส้กรอก ไก่แผ่นค่ะ ให้คนละชุด
(ที่นี่ใช้ไก่ทั้งหมดนะคะ อิสลามทานได้ไม่ต้องกังวล)

ส่วนขนมปังปิ้ง โอวัลติน และกาแฟ ทางรีสอร์ทก็มีไว้ให้นะคะ ทานได้จนกว่าจะอิ่มเลย

ทานอาหารเช้าเสร็จพี่เขาชวนพวกเราล่องแก่งค่ะ ขอบอกว่าใครที่มาสองแพรกแล้วไม่ล่องแก่ง ถือว่า พลาดมากกกกกกกกกกกกกกกกก
(แต่เราก็พลาดอีกจนได้=*= เพราะเพื่อนไม่สบายกันเกือบทั้งหมด จากพิษน้ำตกที่แช่ไปเมื่อวานค่ะ)
ก่อนกลับเราก็ได้แค่ถ่ายรูปเล่นนิดๆหน่อยๆค่ะ

ถ่ายรูปเสร็จ พี่เขาก็ขับรถไปส่งเราทั้ง 4 คนที่สนามบินกระบี่ เดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพค่ะ  

บรรยากาศโดยรวมดีมากๆ ธรรมชาติสุดๆเลยค่ะ ทำให้จิตใจสงบขึ้นเยอะค่ะ พร้อมกลับไปฝึกงานต่อแล้ว

ทริปนี้สรุปแล้วพวกเราจ่ายไปไม่ถึง 2 พันบาท ขอขอบคุณผู้สนับสนุนผู้ใจดีค่ะ ไว้วันหลังพวกเราจะไปหาใหม่นะคะ
ดูข้อมูลรีสอร์ทได้ที่ www.facebook.com/Ingthararesort
ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านจนมาถึงตรงนี้ค่ะนานาขอบคุณ
ชื่อสินค้า:   อิงธารา รีสอร์ท
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่