เพลงตามคำขอของคุณเพื่อนอ๋อย
เป็นเพลงที่ได้ยินตั้งแต่สมัยอยู่ชั้นประถม
แต่งโดย Joni Mitchell
แรงบันดาลใจจากหนังสือนิยายของ Saul Bellow's เรื่อง Henderson the Rain King
บรรยายถึงก้อนเมฆที่เขาเห็นขณะบินไปอาฟริกา เหมือนเธอตอนนั้น
บันทึกแผ่นเสียงครั้งแรกโดย Judy Collins พ.ศ. 2510
YouTube/ Uploaded by RHINO
Joni Mitchell ได้บันทึกเพลงนี้ในอัลบัม Clouds พ.ศ. 2512
YouTube/ Uploaded by BluesAnders
ในปี 2543 Joni Mitchell ได้ออกอัลบัม Both Sides Now โดยใช้ ออเคสตร้า บรรเลง
YouTube/ Uploaded by CritiquesMaster
เพื่อนอ๋อยบอกว่า อยากให้แสดงความคิดเห็น และความหมายเกี่ยวกับเพลง นี้สักครั้ง
Rows and flows of angel hair
And ice cream castles in the air
And feather canyons everywhere
I've looked at clouds that way
But now they only block the sun
They rain and they snow on everyone
So many things I would have done
But clouds got in my way
I've looked at clouds from both sides now
From up and down and still somehow
It's cloud illusions I recall
I really don't know clouds at all
Moons and Junes and Ferris wheels
The dizzy dancing way that you feel
As every fairy tale comes real
I've looked at love that way
But now it's just another show
You leave 'em laughing when you go
And if you care, don't let them know
Don't give yourself away
I've looked at love from both sides now
From give and take and still somehow
It's love's illusions I recall
I really don't know love at all
Tears and fears and feeling proud
To say "I love you" right out loud
Dreams and schemes and circus crowds
I've looked at life that way
But now old friends are acting strange
They shake their heads, they say I've changed
Well something's lost, but something's gained
In living every day
I've looked at life from both sides now
From win and lose and still somehow
It's life's illusions I recall
I really don't know life at all
I've looked at life from both sides now
From up and down, and still somehow
It's life's illusions I recall
I really don't know life at all
It's life's illusions I recall
I really don't know life
I really don't know life at all
เนื้อเพลง Both Sides Now เพื่อประโยชน์ในการศึกษาเท่านั้น
สิทธิ์ในเนื้อเพลงยังคงเป็นของผู้ประพันธ์หรือผู้ถือสิทธิ์เช่นเดิม
ลอนที่จับเป็นแถวราวเส้นผมของนางฟ้า
และ ปราสาทไอศครีมที่ล่องลอยอากาศ
หุบเขาลึกทั่วไปหมด
นั่นคือที่ฉันเห็นในก้อนเมฆ
... ด้านบนของเมฆเหมือนภาพนิทานในอากาศที่ชวนฝัน ...
แต่เมื่อมันแค่ขวางกั้นแสงแดด
แล้วตกเป็นฝนเป็นหิมะลงบนทุกผู้คน
หลายสิ่งมากมายที่ฉันควรได้ทำ
แต่เมฆก็เข้ามาเป็นอุปสรรค
... ด้านล่างของเมฆ ที่ถูกกั้นแสงไว้ทำให้เกิด ฝนหิมะ เป็นอุปสรรคแทนที่จะได้ทำอะไรๆ ...
ฉันได้มองก้อนเมฆทั้งสองด้าน
จากบนสู่ล่างก็ยังไม่รู้ว่าทำไม
ฉันจึงจำได้ถึงภาพมายาของก้อนเมฆ
ในเมื่อฉันไม่รู้จักก้อนเมฆเลย
... แต่เมื่อมองทั้งสองด้านของก้อนเมฆ กลับจำได้แค่ภาพลวงของเมฆที่แปรเปลี่ยน โดยรัจักตัวตนของเมฆเลย ...
แสงจันทร์ เดือนแห่งความรัก และชิงช้าสวรรค์อันแสนโรแมนติด
การเต้นรำที่ทำให้รู้สึกตาลายและสับสน
เหมือนนิทานทุกเรื่องกลายเป็นเรื่องจริง
นั่นคือที่ฉันเห็นในความรัก
... ด้านที่เห็นในความรักคือภาพแห่งความสุข ...
แต่เมื่อมันแค่อีกการแสดงหนึ่ง
ที่ทิ้งเสียงหัวเราะไว้เมื่อคุณจากไป
และหากคุณใส่ใจ จงอย่าให้พวกเขารู้
จงอย่าได้แพร่งพรายความลับออกไป
... อีกด้านหนึ่งคือภาพแห่งความไม่จริงใจ ...
ฉันมองความรักจากทั้งสองด้าน
ทั้งการให้และการรับก็ยังไม่รู้ว่าทำไม
ฉันจึงจำได้ถึงภาพมายาของความรัก
ในเมื่อฉันไม่รู้จักความรักเลย
... แต่เมื่อมองทั้งสองด้านของความรัก กลับจำได้แค่ภาพลวงของรัก โดยรัจักตัวตนของรักเลย ...
น้ำตาและความกลัวและความภาคภูมิใจ
การพูดลอย ๆ ว่า " ฉันรักคุณ" ออกมา
ความฝัน และ แบบแผน และ ความไร้สาระ
นั่นคือที่ฉันมองเห็นในชีวิต
... ด้านที่เห็นภาพชีวิต มองเห็น ความเศร้า ความกลัว ความสุข ความเพ้อฝัน การวางแผน ความไร้สาระ ...
แต่เมื่อเพื่อนเก่าต่างแปลกไป
เขาต่างส่ายหน้า เขาว่าฉันเปลี่ยน
ก็บางสิ่งหายไป บางสิ่งได้มา
ในทุกวันของชีวิต
... เมื่อภาพเปลี่ยนไปจากที่เห็นไว้ จะเป็นความแปลก การเปลี่ยนแปลง การเกิดและดับในทุกวันของชีวิต ...
ฉันมองชีวิตจากทั้งสองด้าน
ทั้งชัยชนะและพ่ายแพ้ก็ยังไม่รู้ว่าทำไม
ฉันจึงจำได้ถึงภาพมายาของชีวิต
ในเมื่อฉันไม่รู้จักชีวิตเลย
... แต่เมื่อมองทั้งสองด้านของชีวิต กลับจำได้แค่ภาพลวงของชีวิต โดยรัจักตัวตนของชีวิตเลย ...
... เมื่อมองทั้งสองด้านของอะไรก็ตาม เราจะจำได้แต่ภาพลวงตาเพราะมันคือความงดงามที่น่าจดจำ โดยไม่รู้จักและอาจไม่สนใจตัวตนจริง ๆ ของสิ่งนั้นเลย ...
Both Sides Now ... Oldies
เป็นเพลงที่ได้ยินตั้งแต่สมัยอยู่ชั้นประถม
แต่งโดย Joni Mitchell
แรงบันดาลใจจากหนังสือนิยายของ Saul Bellow's เรื่อง Henderson the Rain King
บรรยายถึงก้อนเมฆที่เขาเห็นขณะบินไปอาฟริกา เหมือนเธอตอนนั้น
บันทึกแผ่นเสียงครั้งแรกโดย Judy Collins พ.ศ. 2510
Rows and flows of angel hair
And ice cream castles in the air
And feather canyons everywhere
I've looked at clouds that way
But now they only block the sun
They rain and they snow on everyone
So many things I would have done
But clouds got in my way
I've looked at clouds from both sides now
From up and down and still somehow
It's cloud illusions I recall
I really don't know clouds at all
Moons and Junes and Ferris wheels
The dizzy dancing way that you feel
As every fairy tale comes real
I've looked at love that way
But now it's just another show
You leave 'em laughing when you go
And if you care, don't let them know
Don't give yourself away
I've looked at love from both sides now
From give and take and still somehow
It's love's illusions I recall
I really don't know love at all
Tears and fears and feeling proud
To say "I love you" right out loud
Dreams and schemes and circus crowds
I've looked at life that way
But now old friends are acting strange
They shake their heads, they say I've changed
Well something's lost, but something's gained
In living every day
I've looked at life from both sides now
From win and lose and still somehow
It's life's illusions I recall
I really don't know life at all
I've looked at life from both sides now
From up and down, and still somehow
It's life's illusions I recall
I really don't know life at all
It's life's illusions I recall
I really don't know life
I really don't know life at all
เนื้อเพลง Both Sides Now เพื่อประโยชน์ในการศึกษาเท่านั้น
สิทธิ์ในเนื้อเพลงยังคงเป็นของผู้ประพันธ์หรือผู้ถือสิทธิ์เช่นเดิม
ลอนที่จับเป็นแถวราวเส้นผมของนางฟ้า
และ ปราสาทไอศครีมที่ล่องลอยอากาศ
หุบเขาลึกทั่วไปหมด
นั่นคือที่ฉันเห็นในก้อนเมฆ
... ด้านบนของเมฆเหมือนภาพนิทานในอากาศที่ชวนฝัน ...
แต่เมื่อมันแค่ขวางกั้นแสงแดด
แล้วตกเป็นฝนเป็นหิมะลงบนทุกผู้คน
หลายสิ่งมากมายที่ฉันควรได้ทำ
แต่เมฆก็เข้ามาเป็นอุปสรรค
... ด้านล่างของเมฆ ที่ถูกกั้นแสงไว้ทำให้เกิด ฝนหิมะ เป็นอุปสรรคแทนที่จะได้ทำอะไรๆ ...
ฉันได้มองก้อนเมฆทั้งสองด้าน
จากบนสู่ล่างก็ยังไม่รู้ว่าทำไม
ฉันจึงจำได้ถึงภาพมายาของก้อนเมฆ
ในเมื่อฉันไม่รู้จักก้อนเมฆเลย
... แต่เมื่อมองทั้งสองด้านของก้อนเมฆ กลับจำได้แค่ภาพลวงของเมฆที่แปรเปลี่ยน โดยรัจักตัวตนของเมฆเลย ...
แสงจันทร์ เดือนแห่งความรัก และชิงช้าสวรรค์อันแสนโรแมนติด
การเต้นรำที่ทำให้รู้สึกตาลายและสับสน
เหมือนนิทานทุกเรื่องกลายเป็นเรื่องจริง
นั่นคือที่ฉันเห็นในความรัก
... ด้านที่เห็นในความรักคือภาพแห่งความสุข ...
แต่เมื่อมันแค่อีกการแสดงหนึ่ง
ที่ทิ้งเสียงหัวเราะไว้เมื่อคุณจากไป
และหากคุณใส่ใจ จงอย่าให้พวกเขารู้
จงอย่าได้แพร่งพรายความลับออกไป
... อีกด้านหนึ่งคือภาพแห่งความไม่จริงใจ ...
ฉันมองความรักจากทั้งสองด้าน
ทั้งการให้และการรับก็ยังไม่รู้ว่าทำไม
ฉันจึงจำได้ถึงภาพมายาของความรัก
ในเมื่อฉันไม่รู้จักความรักเลย
... แต่เมื่อมองทั้งสองด้านของความรัก กลับจำได้แค่ภาพลวงของรัก โดยรัจักตัวตนของรักเลย ...
น้ำตาและความกลัวและความภาคภูมิใจ
การพูดลอย ๆ ว่า " ฉันรักคุณ" ออกมา
ความฝัน และ แบบแผน และ ความไร้สาระ
นั่นคือที่ฉันมองเห็นในชีวิต
... ด้านที่เห็นภาพชีวิต มองเห็น ความเศร้า ความกลัว ความสุข ความเพ้อฝัน การวางแผน ความไร้สาระ ...
แต่เมื่อเพื่อนเก่าต่างแปลกไป
เขาต่างส่ายหน้า เขาว่าฉันเปลี่ยน
ก็บางสิ่งหายไป บางสิ่งได้มา
ในทุกวันของชีวิต
... เมื่อภาพเปลี่ยนไปจากที่เห็นไว้ จะเป็นความแปลก การเปลี่ยนแปลง การเกิดและดับในทุกวันของชีวิต ...
ฉันมองชีวิตจากทั้งสองด้าน
ทั้งชัยชนะและพ่ายแพ้ก็ยังไม่รู้ว่าทำไม
ฉันจึงจำได้ถึงภาพมายาของชีวิต
ในเมื่อฉันไม่รู้จักชีวิตเลย
... แต่เมื่อมองทั้งสองด้านของชีวิต กลับจำได้แค่ภาพลวงของชีวิต โดยรัจักตัวตนของชีวิตเลย ...
... เมื่อมองทั้งสองด้านของอะไรก็ตาม เราจะจำได้แต่ภาพลวงตาเพราะมันคือความงดงามที่น่าจดจำ โดยไม่รู้จักและอาจไม่สนใจตัวตนจริง ๆ ของสิ่งนั้นเลย ...