...ส่วนที่จำเลยยื่นคำร้องขอคัดค้านบัญชีพยานโจทก์ โดยอ้างว่าโจทก์เพิ่มเติมพยานโดยไม่สุจริต ไม่เป็นธรรม ขอให้ศาลไม่รับพยานดังกล่าวเข้าสู่สำนวนนั้น องค์คณะผู้พิพากษาเห็นว่า แม้ตามกฎหมายในการไต่สวนจะให้ยึดสำนวนจาก สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.เป็นหลัก แต่ศาลฎีกาฯ ก็มีอำนาจเรียกพยานไต่สวนได้ และฝ่ายจำเลยก็สามารถนำพยานเข้าสืบเพื่อหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ จึงให้ยกคำร้อง...
http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9580000098484
เหนื่อยครับ
ไม่ใช่เหนื่อยกับคุณยิ่งลักษณ์ แต่เหนื่อยกับเหตุผลของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ
ประเด็นคือ คนทำสำนวนน่ะ คือ ป.ป.ช. ทำเสร็จเห็นว่าควรฟ้อง ก็ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด
อัยการสูงสุดก็ตรวจสอบสำนวน หากเห็นว่ายังไม่สมบูรณ์เพียงพอ ก็ให้ ป.ป.ช. ทำสำนวนใหม่ให้สมบูรณ์
หากเห็นว่าสมบูรณ์เพียงพอแล้ว ก็สั่งฟ้องตามที่ ป.ป.ช. เสนอ
อัยการสูงสุดสั่งฟ้องคดีจำนำข้าว แปลว่าสำนวน ป.ป.ช. สมบูรณ์แล้ว
แต่ทำไม สั่งฟ้องไปแล้วหกเดือน ถึงได้เพิ่มพยานหลักฐานอีกมากมาย ???
ศาลสามารถเรียกพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องได้
เรียกอย่างไร ?
เรียกเพื่อความครบถ้วนสมบูรณ์รอบด้านในการหาข้อเท็จจริงใช่ไหม
ไม่ใช่เรียกเพื่อให้ผิด หรือเพื่อให้พ้นความผิด
นี่คือเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ให้อำนาจศาลในการเรียกพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้
กฎหมายบอกว่า ให้ยึดสำนวนของ ป.ป.ช. เป็นหลัก
แปลว่า ป.ป.ช. ทำสำนวนมาอย่างไร ก็ยึดตามนั้น กล่าวหาอย่างไร มีพยานหลักฐานแค่ไหน ก็สู้กันไป
ก่อนสั่งฟ้อง อัยการสูงสุดก็เห็นพ้องแล้วว่าสำนวนนั้นสมบูรณ์แล้ว
แล้วทำไมถึงได้เพิ่มพยานหลักฐาน กลายเป็นเหมือนว่าอัยการสุงสุดทำสำนวนเองซะงั้น
บางเรื่อง ไม่ใช่แค่อ้างตัวบทกฎหมาย
แต่ต้องคำนึงถึงความเป็นธรรมด้วย
พยานหลักฐานบกพร่อง ไม่สมบูรณ์ มีแต่คำกล่าวหา แต่ก็ดันทุรังฟ้อง ดันทุรังเดินเรื่องถอดถอน
ผลจึงกลายเป็นว่า สุดท้าย อัยการสูงสุดต้องลงทุนโดดลงมาเล่นเอง
เป็นธรรมตรงไหน ?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ไม่ถึงห้านาที หายวับ
เหนื่อยนะครับ แต่ไม่กล้าพูด
http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9580000098484
เหนื่อยครับ
ไม่ใช่เหนื่อยกับคุณยิ่งลักษณ์ แต่เหนื่อยกับเหตุผลของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ
ประเด็นคือ คนทำสำนวนน่ะ คือ ป.ป.ช. ทำเสร็จเห็นว่าควรฟ้อง ก็ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด
อัยการสูงสุดก็ตรวจสอบสำนวน หากเห็นว่ายังไม่สมบูรณ์เพียงพอ ก็ให้ ป.ป.ช. ทำสำนวนใหม่ให้สมบูรณ์
หากเห็นว่าสมบูรณ์เพียงพอแล้ว ก็สั่งฟ้องตามที่ ป.ป.ช. เสนอ
อัยการสูงสุดสั่งฟ้องคดีจำนำข้าว แปลว่าสำนวน ป.ป.ช. สมบูรณ์แล้ว
แต่ทำไม สั่งฟ้องไปแล้วหกเดือน ถึงได้เพิ่มพยานหลักฐานอีกมากมาย ???
ศาลสามารถเรียกพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องได้
เรียกอย่างไร ?
เรียกเพื่อความครบถ้วนสมบูรณ์รอบด้านในการหาข้อเท็จจริงใช่ไหม
ไม่ใช่เรียกเพื่อให้ผิด หรือเพื่อให้พ้นความผิด
นี่คือเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ให้อำนาจศาลในการเรียกพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้
กฎหมายบอกว่า ให้ยึดสำนวนของ ป.ป.ช. เป็นหลัก
แปลว่า ป.ป.ช. ทำสำนวนมาอย่างไร ก็ยึดตามนั้น กล่าวหาอย่างไร มีพยานหลักฐานแค่ไหน ก็สู้กันไป
ก่อนสั่งฟ้อง อัยการสูงสุดก็เห็นพ้องแล้วว่าสำนวนนั้นสมบูรณ์แล้ว
แล้วทำไมถึงได้เพิ่มพยานหลักฐาน กลายเป็นเหมือนว่าอัยการสุงสุดทำสำนวนเองซะงั้น
บางเรื่อง ไม่ใช่แค่อ้างตัวบทกฎหมาย
แต่ต้องคำนึงถึงความเป็นธรรมด้วย
พยานหลักฐานบกพร่อง ไม่สมบูรณ์ มีแต่คำกล่าวหา แต่ก็ดันทุรังฟ้อง ดันทุรังเดินเรื่องถอดถอน
ผลจึงกลายเป็นว่า สุดท้าย อัยการสูงสุดต้องลงทุนโดดลงมาเล่นเอง
เป็นธรรมตรงไหน ?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้