[CR] ##เที่ยเกาหลีเหอะ## 6วัน5คืน งบ16600 บาท (รวมทุกอย่าง). ตม.ใจดี!! ผ่านง่ายกว่าปอยเปต!!

อันยองอาเซโย๊ะ!!ยิ้ม สวัสดีค่ะ นี่คือกระทู้แรกของเรา (ภูมิใจอ่า) กระทู้นี้ก็จะมาเสนอทุกอย่างในการเดินทางไปเที่ยวเกาหลีของเรา Backpack นะจ๊ะ (งบ16600 )  ปล.รายละเอียดคชจ.อยู่ด้านล่างตอนท้ายนะ เราสรุปแต่ละวันให้เลยว่าหมดไปเท่าไหร่  (ละเอียดยิบ) (ราคานี้รวมทุกอย่างแล้วจริงๆจ้าา)
ขอบอกอีกด้วยว่า นี่เป็นการไปเมืองนอกครั้งแรก!! นั่งเครื่องบินครั้งแรก!! เราเคยคิดว่าชีวิตนี้ต้องไปเมืองนอกกับเค้าสักครั้งดิวะ เลยเลือกใกล้ๆก่อน ตอนแรกก็มีหลายประเทศใกล้ๆให้เลือกสรรนะ แต่พิจาราณาจาก คชจ. ต่างๆบวกกับความชอบ เลยเลือก เกาหลี!! นี่ล่ะ เหตุผลที่เลือก บอกก่อนเลยเราไม่ใช่ติ่งนะ !!แต่ที่เลือกไปเพราะเรา อยากไปเห็น ชีวิตSlowlife ของคนเกาหลี อยากไปเห็นวัฒนธรรมของเค้า อยากไปกินอาหารที่เป็นต้นฉบับเลย ไม่ใช่กินตามห้างบ้านเราไรงี้ แล้วก็อยากไปเห็นสถานที่ฮิตๆๆที่เค้าไปกัน สรุปคืออยากไปเห็นกับตา!!อ่านะ
เอาล่ะ!!พล่ามมาเยอะละ เข้าเรื่องเลยดีกว่าเนอะ 55555  (รูปอาจไม่ค่อยสวยนะ เพราะถ่ายจากโทรศัพท์กากๆของเรา ซะส่วนใหญ่ในกล้องก็มีบ้าง)

       ทริปนี้ ออกเดินทางคืนวันที่ พฤ23/07/2015  เวลา 21.00 น. ที่สนามบินดอนเมือง แต่ต้องมาเช็คอิน รอขึ้นเครื่อง ในวัน ศ.24/07/2015 เวลา 01.55 น. (ปล.เรารีบมาเพราะกลัวตกเครื่องไม่ได้ไป) เห่อมากๆๆๆๆ หัวเราะ เดินทางด้วยสายการบิน ที่ใครๆก็รู้จัก หางแดง Airasia X นี่เอง เที่ยวXJ700   (เอ้อ!เราจองตั๋วผ่าน expedia )ส่วนราคาเดี๋ยวสรุปให้ตอนท้ายนะ หลังจากผ่านการเช็คอิน ตรวจสัมภาระ กรอกใบออกนอกประเทศ ก็ไปรอที่เกท เดินไกลมากกกกก พอได้เวลาอันสมควรเครื่องก็ออก ตรงเวลาเป๊ะ เพื่อมุ่งหน้าสู่ สนามบิน อินชอน (ไฟลท์ที่เราไปคนไทยน้อยมาก มีแต่คนเกาหลีแทบทั้งลำเลย)
       นี่คือภาพที่ถ่ายมาตอนเช้า ฟ้าสวยจัง (น่าจะเข้าเกาหลี แล้วมั้ง)

       พอได้เวลาอันสมควร เครื่องลงจอดที่ อินชอน เวลา 09.05 น. ตอนนั้นมีฝนลงมาประปราย

       ลงจากเครื่องมาก็เดินไปตามทางเลย ตามผู้คนเค้าไป เพราะทุกคนต้องมุ่งหน้าสู่ด่าน ตม.!!!

และแล้ว!!!ก้มาถึง ด่านประหาร เฮ้ย!!ด่านที่ใครๆก็เคยกล่าวขาน อันเลื่องชื่อ สุดสะพรึง นั่นก็คือด่าน ตม. สุดโหดที่สุดแล้วมั้ง ตรงนี้ยาวหน่อยนะ เผื่ออยากรู้กันว่าโดนไรมาบ้าง (ปล.ให้เราเล่าเหอะ อยากเล่าเรื่องมันเยอะ)ยิ้ม

จากรูปจะเห็นว่าไม่มีคนเลย ณ ตอนนั้นอ่ะ เราลืมกลัว ตม.เลย มัวแต่อัพรูปลงFacebook,IG,คุยไลน์กับแม่ (ปล.ไวไฟ ที่นั่นโอเครเลย เร็ว แรง ได้ใจอ่ะ) พอเงยหน้าจากโทรศัพท์ มาเท่านั้นล่ะ แม่เจ้าคนไปไหนหมดวะ โชคดีเจอคนไทยอยู่ 3 คน เป็นผญ.ล้วน น่าจะเป็น เด็กม.ต้น 2 คน มากับ อาม่า แล้วก็ยังมีฝรั่ง 2 คน น่าจะเป็นแฟนกันนะ ก็ไม่ต้องต่อคิวอ่ะ มีกันอยู่แค่นั้น เดินเข้าไปเลยค่ะ ช่องไหนก็ได้ เราก็เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า แล้วรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปอย่างมั่นใจ เข้าหาพี่ ตม. เราได้ ตม.ผญ. เดินเข้าไปเราก็ถอดหมวก วางตรงเคาท์เตอร์วางมันบนนั้นล่ะ ยื่นพาสปอร์ตพร้อมใบขาเข้า ยื่นปุ้ป นางก็มองหน้า 2 วิ จากนั้นก็ก้มหน้าไปคีย์ข้อมูล จากนั้นก็มีเสียงภาษาไทยดังขั้น (เสียงจากเครื่อง) ให้แสกนนิ้วและถ่ายรูปค่ะ มองกล้อง ยิ้มหวานๆ สยามเมืองยิ้มไงค่ะ จากนั้น!!!วินาทีระทึกค่ะ ทันใดนั้นเอง!!นางหยิบตราปั้ม!! ปึ้ง!!ลงไปในพาสปอร์ตเรา โอ้โห แม่เจ้า!! ตอนนั้นนี่กรูอยากจิกรี๊ด ให้ลั่นอินชอน
เลยค่ะ จากนั้นก็ มี ตัวอักษร ขึ้นมา ว่าHave a nice trip แล้วประตูกั้นก็เปิด เดินออกมาอย่างสวยงาม พออกมาได้เรารีบเดินอ่ะ กลัวตม.จะเรียกกลับไปคุยด้วย 5555  ตรงนั้ล่ะขอระบายนิสสสสส เราอ่ะนะด้วยความที่ Backpack มากันเองไง เรื่อง ตม. อ่ะอ่านมาเยอะ โดนขู่มาเยอะ คิดดูเหอะขู่กันตั้งแต่ จนท.ในดอนเมืองอ่ะคิดดู แล้วก่อนหน้าจะเดินทางได้ 5 วัน มั้งมีกระทู้ที่มีคนโดนเข้าห้องเย็น แล้วถ่ายรูปมาแฉลงใน พันทิป ให้ดูด้วย โอ้ย ตอนนั้นเครียดค่ะประสาทจะแดรกกกจิตตกกันไปเลยดิ ก่อนมาเราก็ตระเวนไหว้พระ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์นะ ขอให้ผ่านด่านตม.อย่างง่ายดาย ส่วนเอกสารน่ะหรอ หึหึ เตรียมมาเป็นลังค่า เยอะกว่าเสื้อผ้าอี้กกก มีทั้งใบรับรองการทำงาน บัตรพนักงาน สลิป บัตรเครดิต บุ๊คแบงค์ ตั่วขากลับ แผนที่เดินทาง สมุดบันทึก ใบจองที่พัก ฯลฯ ไม่ขอดูไรสักอย่าง นี่ก็เตรียมฝึกภาษา(อังกฤษ)มาเพื่อจะตอบคำถาม พี่ตม. พี่แกก็ไม่ถามไรสักคำ ไม่ถงไม่ถามสุขภาพสักคำ55 ไม่พูดไรเลยหรอ ง่ายจุง ผ่านง่ายอย่างก่ะด่านปอยเปตอีก 555+
       (ปล.ขากลับนี่เราเจอคนไทยที่โดนส่งกลับ กลับมาไฟท์เดียวกับเราตั้งเกือบๆ20กว่าคนได้.แต่เราแค่อยากจะบอกว่าแต่ละคนที่โดนส่งกลับอ่ะ ดูจากการแต่งตัวก็มองออกแล้วอ่ะ ว่าไม่น่าจะมาเที่ยวกันอ่ะ.เหมือนพวกแรงงานมากๆเราไม่ได้ดูถูกนะ.แต่เรามองจากภาพที่เห็น )เพื่อนๆคนไหนที่ตั้งใจมาเที่ยวก็ไม่ต้องกลัวนะ.ทำใจสบายๆเรามาเที่ยวพักผ่อน ยังไงก็ผ่าน อีกอย่างที่อยากจะฝาก คือเรื่องการแต่งกาย ก็ควรแต่งกายให้เหมาะสม.และให้เกียรติบ้านเค้าด้วย.เพราะการแต่งกายก้ส่งผลกับการพิจารณาผ่านเข้าประเทศส่วนหนึ่งนะ หลังจากผ่าน ด่านสรวงสวรรค์มา เราก็เดินมายื่นใบศุลกากร จากนั้นก็เดินไปหาห้องน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน แต่งหน้าสวยๆออกไปเฉิดฉายหาโอปป้ากัน (ปล.เราไม่ได้โหลดกระเป๋า) จากนั้ก็ เดินหา GS25 เพื่อซื้อ T-Money กัน เราซื้อตั้ง 4000 won แน่ะ แพงอ่า จิงๆ2500-3000 wonเท่านั้นล่ะ  พอได้บัตรก็เดินไปหา ตู้เติมเลยค่ะ  
       เราเลือกเดินทางเข้าโซล ด้วยรถไฟจ้า แล้วเราก็เลือก แบบ Commuter (สนามบินบ้านเค้าอลังอ่ะ เราชอบ สวยหรู มีระดับ เรามาจากดอนเมือง แล้วมาเจออินชอน นี่ยืนตะลึงอ่ะโอ้โห สวยจัง มีโรงหนังด้วย)



        ตื้ดบัตรแล้วก็เข้าไปได้เลยจ้า (สวยอลัง)

        ได้นมกล้วยมาด้วย มาถึงนี่ก็ต้องกินสินะ

         เรานั่งจากอินชอน มาลงที่สถานีโซลเลย

แล้วที่แรก ที่จะไปนั่นก็คือ ตลาดกวางจัง เราจะไปกินกันค่ะ!!เรามาเพื่อกินค่ะ 555+  นั่งเครื่องมา 5 ชม. ไม่ได้กินไรเล้ยย หิวมากกกกก ไปถึงแม่จะจัดให้หนักเลย จากสถานีโซลก็ transfer มาเป็นสายสีน้ำเงิน เพื่อไปยังสถานีjongno 5 o ga. ให้ออกทางออก5 เดินขึ้นมา20เมตร ก้จะเจอตลาดกวางจังแย้ววว
ข้อแนะนำ นะ ควรโหลดแอพsubway Korea มาเก็บไว้ในโทรศัพท์นะ มันช่วยได้มากเลย ไม่มีเนตก้ใช้งานได้นะ มันดีมากบอกเลย ถึงแล้วตลาดกวางจัง อาหารเกาหลีเพียบเลยยยย เลือกไม่ถูก นี่ก็อีกเหตุผลที่อยากมาเกาหลี อยากมากินให้ถึงที่ ไม่ใช่กินในห้างบ้านเรา มันไม่ได้ฟิวส์




คือของกินนี่เยอะนะ(มาก) คือเราถ่ายมาทุกอย่างที่เรากิน เดี่ยวจะทำรีวิวของกินอีกกระทู้นะ รอติดตามนะ อิอิ ตลาดกวางจัง ไม่ได้มีแค่ของกินนะ เค้าก้ขายอย่างอื่นด้วย เสื้อผ้า ของสด ของฝากไรงี้ คล้ายๆตลาดยิ่งเจริญบ้านเราแหละ


หลังจากตระเวนกินจนอิ่มท้องแล้ว เดินเกือบทั่วแล้ว ก็กลับทางเดิมไปลงสถานีโซล เพื่อมุ่งหน้าไป.N Seoul tower ก้ออกทางออก9 เพื่อรอขึ้นรถเมล์สาย 03 อันนี้เป็นตู้กดขนม เรามีเศษตังค์เหลืออยู่ เลยลองหยอดเล่นๆ สนุกดีอ่ะ ได้ช็อคโกแลตมาแท่งนึง  รสชาติคล้ายๆเบงๆ 400 won

         ถีงแล้วจ้า N Seoul tower  รถบัสจะไม่ขึ้นไปสุด เค้าจะจอดให้เราเดินออกกำลังกาย เล่นเอาแอบเหนื่อยอยู่นะ

        ที่เราเลือกมาที่นี่เพราะเคยดูกวนมึนโฮ แล้วอยากมาเห็นกับตา


       แต่สิ่งที่เราชอบมากกว่าการคล้องกุญแจ คือ บรรยากาศและที่ชอบที่สุดคือ ตอนระหว่างทางลงจาก n Seoul tower คือมันสวยอ่า มีต้นไม้ดอกไม้ สองข้างทาง.ร่มรื่นสดชื่นดี มีวิวเมืองให้ชมตลอดทาง เราก็ดินเรื่อยเปื่อย จนมาเจอกับที่ไหนเนี่ย!!เอิ่มโทดน้าาเราก็ไม่รู้อ่าว่ามันคือที่ไหน ใครรู้บอกด้วยนะ




       จากนั้นก้เดินเตร็ดเตร่ มาโผล่นัมแดมุน ของกินเพียบอีกละ แต่ไม่แวะค่ะเพราะคืนนี้จะไปฝากท้องกับทงแดมุน บางทีจะเห็นว่าระหว่างทางมันมีอะไรให้น่าค้นหากว่าจุดหมายที่จะไปอีก

ก่อนหน้านี้เจอสะพานลอยด้วย แปลกตรงไหนเนี่ย55 แปลกสิเพราะ.สะพานลอยมีลิฟท์ด้วย ยิ้มเจ๋งอ่าา

เข้าใจทำอ่ะ เมื่อไหร่บ้านเราจะมีบ้าง55.ระหว่างเดินมาก็เจอคนเกาหลีต่อแถวรอรถเมล์.โหยสุดยอดอ่ะอย่าให้ต้องเปรียบเทียบกับบ้านเราเลย ผ่านเหอะ

        จากนั้นก้นั่งรถไฟจากสถานี.city hall (คือเดินหลงมาเจอ55)เพื่อที่จะไปเช็คอินได้แล้ว  ที่พักของเราก็ที่ชาวbackpackน่าจะ รู้จักกันดีล่ะ นั่นก็คือ namsan Guesthouse 4 ยิ้มวิธีไป ก็นั่งไปสถานีเมียงดงค่ะ ออกทาง 3,4 เดินเข้าซอยไป ประมาณ 300 เมตร แต่ต้องเดินขึ้นเนินค่ะเพราะมันเป็น
เขา  กว่าจะได้เช็คอินก็ปาไป ทุ่มกว่าๆละ   เราพักแบบ drom หญิง ห้องน้ำรวมนะ. ด้านบริการเค้าก็มีมาม่า ขนมปัง ชากาแฟ ให้กินได้ตลอดเวลา ดีตรงนี้ล่ะ555+  ที่นี่ก็ดีนะ ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้แหล่งท่องเที่ยว เดินข้ามฝากมาก็เมียงดงเลย

ชื่อสินค้า:   เกาหลี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่