มีคนเกือบ 200 ล้านคนทั่วโลกที่ติดเชื้อตับอักเสบชนิดซีทุกปีๆ เชื้อไวรัสตับอักเสบซี ติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธุ์และการเปลี่ยนถ่ายเลือดที่มีเชื้อไวรัสชนิดนี้ อาการอักเสบในตับเป็นการป่วยที่เรื้อรังและทำให้ผู้ป่วยร่างกายอ่อนแอ ล่าสุดทีมนักวิจัยชาวเดนนิช ค้นพบว่าหากผู้ป่วยตับอักเสบชนิดซี ได้รับการบำบัดดัวยยาต้านไวรัส พวกเขามีอาการอักเสบในตับน้อยลงและลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งในตับลงอย่างมาก
ทีมนักวิจัยกล่าวว่าผู้ป่วยสามารถกำจัดเชื้อไวรัสได้ผลหากรับประทานยาต้านไวรัส
อินเตอเฟอรอน (interferon) นานหกเดือนติดต่อกันและจะมีโอกาสน้อยมากที่จะกลับไปเกิดอาการอักเสบซ้ำ
ในกลุ่มผู้ป่วย 1,174 คนที่ไม่ได้รับการบำบัดอาการอักเสบในตับด้วยยาต้านไวรัสอินเตอเฟอรอน ปรากฏว่าผู้ป่วยอย่างน้อย 129 คนกลายเป็นมะเร็งในตับ และในการทดลองรักษาในกลุ่มผู้ป่วยอีกกลุ่มหนึ่งในจำนวนเท่าๆกัน ผู้ป่วยโรคตับอักเสบชนิดซีกลุ่มหลังนี้ได้รับยาต้ายไวรัสอินเตอเฟอรอนทุกคน ผลปรากฏว่ามีผู้ป่วยเพียง 81 คนเท่านั้นที่กลายเป็นมะเร็งในตับ
ในเวลาต่อมา
เมื่อเปรียบเทียบผลการทดลองรักษาผู้ป่วยทั้งสองกลุ่มแล้วพบว่าการบำบัดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีด้วยยาต้านไวรัสอินเตอเฟอรอน ช่วยลดโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งตับลงได้ 47 เปอร์เซ็นต์ นักวิจัยทำการเผ้าติกตามผู้ป่วยในการทดลองรักษาทั้งสองกลุ่มนานตั้งแต่ 5 ถึง8 ปี
คุณนีน่า คีเมอร์ แพทย์โรคทางเดินอาหารที่มหาวิทยาลัยโคเพนเฮเก้นเป็นหัวหน้าการศึกษาวิจัยครั้งนี้ เธอกล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าแม้แต่ผู้ป่วยตับอักเสบชนิดซีที่ไม่ค่อยตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาต้านไวรัสอินเตอเฟอรอน ยังมีโอกาสเสี่ยงน้อยลงที่จะพัฒนากลายเป็นมะเร็งในตับ
หัวหน้าการวิจัยกล่าวว่าการวิจัยนี้ไม่ได้เป็นการวิจัยครั้งแรกที่พบหลักฐานดังกล่าว แต่ผลการวิจัยนี้ช่วยหนุนข้อสมมุติฐานที่ว่าแม้ผู้ป่วยบางคนจะไม่ตอบสนองต่อยาต้านไวรัสเท่าที่ควรจะเป็น พวกเขายังได้รับประโยชน์จากยาชนิดนี้เพราะช่วยลดโอกาสเป็นมะเร็งในตับได้
คุณคีเมอร์กล่าวว่าผลการศึกษานี้ชี้ว่าการตรวจพบโรคตับอักเสบชนิดซีและการบำบัด
แต่เนิ่นๆมีความสำคัญมาก
หัวหน้าทีมวิจียกล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าหากผู้ป่วยไปโรงพยาบาลด้วยอาการปวดท้อง แพทย์ไม่ควรสรุปสาเหตุของโรคเพียงสาเหตุเดียวเท่านั้น แพทย์ควรวินิจฉัยหาโรคอื่นๆด้วยเพราะการตรวจพบโรคตับอักเสบแต่เินิ่นๆเป็นผลดีต่อการรักษา
เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดซีทำให้เกิดมะเร็งในตับได้เนื่องจากไปทำให้เกิดอาการตับแข็ง
Report : LIV Capsule
การใช้ยาต้านไวรัสรักษาโรคตับอักเสบชนิดซีช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะร็งในตับลงครึ่งหนึ่ง
ทีมนักวิจัยกล่าวว่าผู้ป่วยสามารถกำจัดเชื้อไวรัสได้ผลหากรับประทานยาต้านไวรัส
อินเตอเฟอรอน (interferon) นานหกเดือนติดต่อกันและจะมีโอกาสน้อยมากที่จะกลับไปเกิดอาการอักเสบซ้ำ
ในกลุ่มผู้ป่วย 1,174 คนที่ไม่ได้รับการบำบัดอาการอักเสบในตับด้วยยาต้านไวรัสอินเตอเฟอรอน ปรากฏว่าผู้ป่วยอย่างน้อย 129 คนกลายเป็นมะเร็งในตับ และในการทดลองรักษาในกลุ่มผู้ป่วยอีกกลุ่มหนึ่งในจำนวนเท่าๆกัน ผู้ป่วยโรคตับอักเสบชนิดซีกลุ่มหลังนี้ได้รับยาต้ายไวรัสอินเตอเฟอรอนทุกคน ผลปรากฏว่ามีผู้ป่วยเพียง 81 คนเท่านั้นที่กลายเป็นมะเร็งในตับ
ในเวลาต่อมา
เมื่อเปรียบเทียบผลการทดลองรักษาผู้ป่วยทั้งสองกลุ่มแล้วพบว่าการบำบัดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีด้วยยาต้านไวรัสอินเตอเฟอรอน ช่วยลดโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งตับลงได้ 47 เปอร์เซ็นต์ นักวิจัยทำการเผ้าติกตามผู้ป่วยในการทดลองรักษาทั้งสองกลุ่มนานตั้งแต่ 5 ถึง8 ปี
คุณนีน่า คีเมอร์ แพทย์โรคทางเดินอาหารที่มหาวิทยาลัยโคเพนเฮเก้นเป็นหัวหน้าการศึกษาวิจัยครั้งนี้ เธอกล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าแม้แต่ผู้ป่วยตับอักเสบชนิดซีที่ไม่ค่อยตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาต้านไวรัสอินเตอเฟอรอน ยังมีโอกาสเสี่ยงน้อยลงที่จะพัฒนากลายเป็นมะเร็งในตับ
หัวหน้าการวิจัยกล่าวว่าการวิจัยนี้ไม่ได้เป็นการวิจัยครั้งแรกที่พบหลักฐานดังกล่าว แต่ผลการวิจัยนี้ช่วยหนุนข้อสมมุติฐานที่ว่าแม้ผู้ป่วยบางคนจะไม่ตอบสนองต่อยาต้านไวรัสเท่าที่ควรจะเป็น พวกเขายังได้รับประโยชน์จากยาชนิดนี้เพราะช่วยลดโอกาสเป็นมะเร็งในตับได้
คุณคีเมอร์กล่าวว่าผลการศึกษานี้ชี้ว่าการตรวจพบโรคตับอักเสบชนิดซีและการบำบัด
แต่เนิ่นๆมีความสำคัญมาก
หัวหน้าทีมวิจียกล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าหากผู้ป่วยไปโรงพยาบาลด้วยอาการปวดท้อง แพทย์ไม่ควรสรุปสาเหตุของโรคเพียงสาเหตุเดียวเท่านั้น แพทย์ควรวินิจฉัยหาโรคอื่นๆด้วยเพราะการตรวจพบโรคตับอักเสบแต่เินิ่นๆเป็นผลดีต่อการรักษา
เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดซีทำให้เกิดมะเร็งในตับได้เนื่องจากไปทำให้เกิดอาการตับแข็ง
Report : LIV Capsule