[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้.บทที่ 1 http://ppantip.com/topic/34061981
บทที่ 2 http://ppantip.com/topic/34074142
บทที 3 http://ppantip.com/topic/34086850
บทที่ 4 http://ppantip.com/topic/34099828
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้วันหนึ่งๆปาริชาติทำอะไรบ้าง ในขณะที่จดหมายจากเยอรมันก็มีมาอย่างสม่ำเสมอ
เสียงโทรศัพท์ของปาริชาติดังขึ้นมาอีก หล่อนมองหน้าจอแล้วกดรับ
“ ฮัลโหล”
“ เกด ผมนะ กำลังจะเข้ากรุงเทพ เพิ่งตัดสินใจเข้ามา จะต้องหาอะไหล่ไปซ่อมคอมพ์หน่อย จะไปพันทิพย์พลาซ่า เกดจะไปเดินด้วยมั้ย”
“ เกดยังไม่ได้ซักผ้าเลย ตัวเองไปเถอะ แล้วจะกลับศรีราชาเมื่อไรล่ะ”
“ โอเค งั้นเสร็จแล้วจะโทรมาใหม่นะ แค่นี้ก่อนนะขับรถอยู่”
แค่นี้สั้นๆ หล่อนนึกว่าถ้าไปกับเขาคงยาวแน่ๆ เลยบอกทำงานก่อน ส่วนจะต้องเจอตอนไหนค่อยว่ากันอีกที
เย็นวันนั้นชัยรัตน์มารับหล่อนไปทานข้าวแล้วก็เลยเถิดดูการแสดงของเหล่าตลกและโชว์ต่างๆจนดึก ชัยรัตน์จึงได้มาส่งหล่อนที่บ้าน เพราะความอึดอัดหรืออะไรก็เหลือเดาเมื่อลงจากรถได้ หล่อนแทบจะวิ่งราวกับใครเอาระเบิดมาโยนใส่หลัง ถึงห้องก็ถอนใจเฮือกใหญ่ คิดต่อว่าจะทำอย่างไรดี จะไม่ต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำอีก อีเมล์ที่จะส่งถึงอนาวิลก็ยังไม่ได้ส่งเลย ป่านนี้เขาคงคอยแย่แล้วถ้าไม่ได้ส่งหล่อนนคงนอนไม่หลับ
แน่ๆ ตัดสินใจลงมาเปิดเน็ตส่งอีเมล์ที่ห้องข้างล่าง นึกหาคำพูดที่จะเขียนก็รวบรวมไม่เป็นสำนวนที่ไม่ลื่นไหลน่าอ่านเลย เขาคงได้ทันอ่านเพราะขณะนี้ก็เป็นเวลาเย็นของที่โน่น หล่อนรู้สึกโกรธตัวเองที่เป็นแบบนี้จนได้ส่งเมล์ไปแล้วก็รู้สึกดีขึ้น
อนาวิลเหลือบดูนาฬิกาอยู่บ่อยๆ ป่านนี้ยังไม่มีอีเมล์เข้ามาเลย เปิดรอจนเครื่องโน๊ตบุคร้อนแล้วร้อนอีก ป่านนี้แล้วคงไม่มีมาแล้ว เขาจึงปิดจอลง ใจที่จดจ่อก็ค่อยๆแฟบลงตามลำดับต่างกับเมื่อตอนโทรศัพท์ ที่ผ่านมา เขานึกถึงคำว่า ‘ รอคอย’ ที่ไม่รู้ว่ามันเริ่มเข้ามามีบทบาทกับเขาตั้งแต่เมื่อไร คำนี้ทำให้เขานึกถึงเพลง ‘ คอยเธอ’ ชะรอยว่าเขาต้องอยู่กับคำเหล่านี้เสียแล้วกระมัง เขาลุกไปเปิดเพลงฟังอย่างตั้งใจ ทอดสายตาเหม่อลอยผ่านกระจกไปยังแนวต้นไม้ข้างตึกที่อยู่ตรงข้าม
.......มันแห้งมันโหยหา คล้ายลมพรายพัดใจฉัน
ขาดเธอเปรียบชีวัน ฉันสิ้นสวาทขาดคลาย
ตายฉันคงตายอย่างเดียวดายและเดียวแด......
ปาริชาติก้มหน้าก้มตาคีย์ชื่อผลิตภัณฑ์จัดเป็นหมวดหมู่ เงยหน้าขึ้นมาก็พบฝรั่งที่กำลังยืนมองมาที่หล่อน ไม่เคยเห็นหน้าหล่อนนึกในใจ
“ ฮัลโหล ผมชื่อ Charles มีนัดกับบอสคุณเวลาสิบโมงครับ”
“ ฮัลโหล โอ...บอสอยู่ในโรงงานค่ะ กรุณานั่งรอสักครู่นะคะ”
“ ไม่เป็นไร ผมรอได้” เขากล่าวตอบพร้อมรอยยิ้ม
ปาริชาติพาเขามานั่งรอที่หน้าห้องบอสใกล้หน้าต่าง ซึ่งก็เป็นระยะห่างจากหล่อนแค่ Partition กั้น คิดว่าเดี๋ยวบอสก็ขึ้นมาเอง เพราะเป็นคนตรงต่อเวลาตามนิสัยเยอรมันและไม่เคยผิดนัด หล่อนจึงกลับมานั่งพิมพ์งานต่อ สักครู่ก็ได้ยินเสียงบอสเดินเร็วๆเข้ามาและร้องทัก Mr.Charles เสียงเปิดประตูเข้าห้องกันไป
สักครู่บอสโทรมาขอกาแฟรับแขก หล่อนจึงชงกาแฟและชาสำหรับบอสนำเข้าไปให้ บอสพูดว่า
“คุณ ปาริชาตินี่มร.ชาร์ลจะมาทำงานกับเรา” หล่อนจึงหันไปมอง มร.ชาร์ลรีบลุกขึ้นยื่นมือมาจับกับหล่อน บอสคงบอกไปแล้วว่าหล่อนเป็นเลขา เราก็เห็นกันแล้วเมื่อกี้ เห็นว่ามร.ชาร์ลตัวสูงแบบฝรั่งทั่วไป หน้าตาคมสัน ตาดูจะออกสีฟ้าสักหน่อย ผมสีทองอ่อนมาก อ่อนกว่าผมของ
บอสที่สีเข้มกว่า เขาคงอายุสามสิบกว่าอ่อนกว่าบอสที่สี่สิบต้นๆ หน้าตาเขาไม่แข็งแบบคนเยอรมันอย่างบอส
ในขณะที่มร.ชาร์ลจับมือกับหล่อนมองหน้าก็พบว่าหล่อนหน้าตาสดใส รับกับรูปร่างสมส่วนชวนมองสมกับเป็นเลขาเสียจริง เขาจึงยิ้มเหมือนฝากตัวในฐานะผู้มาใหม่ หล่อนกลับออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่เพิ่งยิ้มตอบ มร. ชาร์ลไป
ตำแหน่งของมร.ชาร์ลคือ โพรดักส์เมเนเจอร์ ตำแหน่งนี้มาช่วยผู้จัดการโรงงานที่เสมือนมีบอสคุมอยู่กึ่งหนึ่งโดยพฤติกรรม โปรเจ็คใหม่ราคาเป็นล้านสำหรับค่าซอฟแวร์ที่ใช้ควบคุมการผลิต Manufacturing Resource Planning ด้วยคอมพิวเตอร์ออนไลน์ ทุกคนก็รอดูกันอยู่ว่าใครจะมาเป็นลีดเดอร์
สัปดาห์เดียวเท่านั้นที่ทำให้ทุกอย่างชัดเจนขึ้นมา โปรเจ็คใหม่นี้ มร.ชาร์ลรับไปทั้งหมดนั่นหมายถึงแบ่งงานจากบอสที่เริ่มกับปาริชาติก่อนแล้ว เปลี่ยนเป็นปาริชาติทำต่อกับมร.ชาร์ล โดยบอสจะให้หล่อนใช้เวลาหลังเบรคสิบโมงเช้าไปทำงานกับมร.ชาร์ล ช่วงเช้าหล่อนทำงานให้บอสและยังคีย์งานของบอสที่จะค่อยๆเปลี่ยนเป็นให้ มร.ชาร์ลทำในที่สุด
ปาริชาตินึกว่าหล่อนจะต้องมีนายอีกคนหรือเปล่า หล่อนต้องพยายามไม่ให้เป็นเช่นนั้น เพราะงานนี้เป็นงานเฉพาะกิจ เมื่อฐานข้อมูลภาษาอังกฤษเสร็จเมื่อไร หล่อนก็คงหลุดพ้นโปรเจ็คนี้ไป
เมื่อหล่อนถูกเรียกเข้าห้องประชุมโปรเจ็คใหม่ รวมทั้งผู้จัดการทุกแผนกที่ห้องประชุมฝ่ายขาย ด้วยทางวิทยากรซอฟแวร์จะต้องจัดการอบรม พร้อมลองเดินเครื่องคอมพิวเตอร์ออนไลน์ของโรงงาน ข้อมูลสำหรับสูตรการผลิตที่ต้องใช้ชื่อชิ้นส่วนพร้อมสเปค ต้องเรียบร้อยอย่างน้อย ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งในขณะ
ทดลองให้ทุกแผนกหัดทำการเบิกจ่ายวัสดุหรือชื่อชิ้นงานให้คล่อง โดยสรุปว่าขาดกำลังคนพิมพ์ภาษาอังกฤษในการย่อชื่อ สเปคและบริษัทของวัสดุ
ที่มีอยู่ บอสจึงบอกยินดีให้ปาริชาติไปช่วยงานเร่งด่วน เพียงแต่ขอให้เริ่มหลังสิบโมง เช้าก็อยู่ทำหน้าที่ประจำเสียก่อน เมื่อพูดจบบอสนึกได้ จึงหันมาถามความเห็นกับหล่อน
(มีต่อค่ะ)
๐๐๐--- ทำงานกับฝรั่ง 5---๐๐๐
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เสียงโทรศัพท์ของปาริชาติดังขึ้นมาอีก หล่อนมองหน้าจอแล้วกดรับ
“ ฮัลโหล”
“ เกด ผมนะ กำลังจะเข้ากรุงเทพ เพิ่งตัดสินใจเข้ามา จะต้องหาอะไหล่ไปซ่อมคอมพ์หน่อย จะไปพันทิพย์พลาซ่า เกดจะไปเดินด้วยมั้ย”
“ เกดยังไม่ได้ซักผ้าเลย ตัวเองไปเถอะ แล้วจะกลับศรีราชาเมื่อไรล่ะ”
“ โอเค งั้นเสร็จแล้วจะโทรมาใหม่นะ แค่นี้ก่อนนะขับรถอยู่”
แค่นี้สั้นๆ หล่อนนึกว่าถ้าไปกับเขาคงยาวแน่ๆ เลยบอกทำงานก่อน ส่วนจะต้องเจอตอนไหนค่อยว่ากันอีกที
เย็นวันนั้นชัยรัตน์มารับหล่อนไปทานข้าวแล้วก็เลยเถิดดูการแสดงของเหล่าตลกและโชว์ต่างๆจนดึก ชัยรัตน์จึงได้มาส่งหล่อนที่บ้าน เพราะความอึดอัดหรืออะไรก็เหลือเดาเมื่อลงจากรถได้ หล่อนแทบจะวิ่งราวกับใครเอาระเบิดมาโยนใส่หลัง ถึงห้องก็ถอนใจเฮือกใหญ่ คิดต่อว่าจะทำอย่างไรดี จะไม่ต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำอีก อีเมล์ที่จะส่งถึงอนาวิลก็ยังไม่ได้ส่งเลย ป่านนี้เขาคงคอยแย่แล้วถ้าไม่ได้ส่งหล่อนนคงนอนไม่หลับ
แน่ๆ ตัดสินใจลงมาเปิดเน็ตส่งอีเมล์ที่ห้องข้างล่าง นึกหาคำพูดที่จะเขียนก็รวบรวมไม่เป็นสำนวนที่ไม่ลื่นไหลน่าอ่านเลย เขาคงได้ทันอ่านเพราะขณะนี้ก็เป็นเวลาเย็นของที่โน่น หล่อนรู้สึกโกรธตัวเองที่เป็นแบบนี้จนได้ส่งเมล์ไปแล้วก็รู้สึกดีขึ้น
อนาวิลเหลือบดูนาฬิกาอยู่บ่อยๆ ป่านนี้ยังไม่มีอีเมล์เข้ามาเลย เปิดรอจนเครื่องโน๊ตบุคร้อนแล้วร้อนอีก ป่านนี้แล้วคงไม่มีมาแล้ว เขาจึงปิดจอลง ใจที่จดจ่อก็ค่อยๆแฟบลงตามลำดับต่างกับเมื่อตอนโทรศัพท์ ที่ผ่านมา เขานึกถึงคำว่า ‘ รอคอย’ ที่ไม่รู้ว่ามันเริ่มเข้ามามีบทบาทกับเขาตั้งแต่เมื่อไร คำนี้ทำให้เขานึกถึงเพลง ‘ คอยเธอ’ ชะรอยว่าเขาต้องอยู่กับคำเหล่านี้เสียแล้วกระมัง เขาลุกไปเปิดเพลงฟังอย่างตั้งใจ ทอดสายตาเหม่อลอยผ่านกระจกไปยังแนวต้นไม้ข้างตึกที่อยู่ตรงข้าม
.......มันแห้งมันโหยหา คล้ายลมพรายพัดใจฉัน
ขาดเธอเปรียบชีวัน ฉันสิ้นสวาทขาดคลาย
ตายฉันคงตายอย่างเดียวดายและเดียวแด......
ปาริชาติก้มหน้าก้มตาคีย์ชื่อผลิตภัณฑ์จัดเป็นหมวดหมู่ เงยหน้าขึ้นมาก็พบฝรั่งที่กำลังยืนมองมาที่หล่อน ไม่เคยเห็นหน้าหล่อนนึกในใจ
“ ฮัลโหล ผมชื่อ Charles มีนัดกับบอสคุณเวลาสิบโมงครับ”
“ ฮัลโหล โอ...บอสอยู่ในโรงงานค่ะ กรุณานั่งรอสักครู่นะคะ”
“ ไม่เป็นไร ผมรอได้” เขากล่าวตอบพร้อมรอยยิ้ม
ปาริชาติพาเขามานั่งรอที่หน้าห้องบอสใกล้หน้าต่าง ซึ่งก็เป็นระยะห่างจากหล่อนแค่ Partition กั้น คิดว่าเดี๋ยวบอสก็ขึ้นมาเอง เพราะเป็นคนตรงต่อเวลาตามนิสัยเยอรมันและไม่เคยผิดนัด หล่อนจึงกลับมานั่งพิมพ์งานต่อ สักครู่ก็ได้ยินเสียงบอสเดินเร็วๆเข้ามาและร้องทัก Mr.Charles เสียงเปิดประตูเข้าห้องกันไป
สักครู่บอสโทรมาขอกาแฟรับแขก หล่อนจึงชงกาแฟและชาสำหรับบอสนำเข้าไปให้ บอสพูดว่า
“คุณ ปาริชาตินี่มร.ชาร์ลจะมาทำงานกับเรา” หล่อนจึงหันไปมอง มร.ชาร์ลรีบลุกขึ้นยื่นมือมาจับกับหล่อน บอสคงบอกไปแล้วว่าหล่อนเป็นเลขา เราก็เห็นกันแล้วเมื่อกี้ เห็นว่ามร.ชาร์ลตัวสูงแบบฝรั่งทั่วไป หน้าตาคมสัน ตาดูจะออกสีฟ้าสักหน่อย ผมสีทองอ่อนมาก อ่อนกว่าผมของ
บอสที่สีเข้มกว่า เขาคงอายุสามสิบกว่าอ่อนกว่าบอสที่สี่สิบต้นๆ หน้าตาเขาไม่แข็งแบบคนเยอรมันอย่างบอส
ในขณะที่มร.ชาร์ลจับมือกับหล่อนมองหน้าก็พบว่าหล่อนหน้าตาสดใส รับกับรูปร่างสมส่วนชวนมองสมกับเป็นเลขาเสียจริง เขาจึงยิ้มเหมือนฝากตัวในฐานะผู้มาใหม่ หล่อนกลับออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่เพิ่งยิ้มตอบ มร. ชาร์ลไป
ตำแหน่งของมร.ชาร์ลคือ โพรดักส์เมเนเจอร์ ตำแหน่งนี้มาช่วยผู้จัดการโรงงานที่เสมือนมีบอสคุมอยู่กึ่งหนึ่งโดยพฤติกรรม โปรเจ็คใหม่ราคาเป็นล้านสำหรับค่าซอฟแวร์ที่ใช้ควบคุมการผลิต Manufacturing Resource Planning ด้วยคอมพิวเตอร์ออนไลน์ ทุกคนก็รอดูกันอยู่ว่าใครจะมาเป็นลีดเดอร์
สัปดาห์เดียวเท่านั้นที่ทำให้ทุกอย่างชัดเจนขึ้นมา โปรเจ็คใหม่นี้ มร.ชาร์ลรับไปทั้งหมดนั่นหมายถึงแบ่งงานจากบอสที่เริ่มกับปาริชาติก่อนแล้ว เปลี่ยนเป็นปาริชาติทำต่อกับมร.ชาร์ล โดยบอสจะให้หล่อนใช้เวลาหลังเบรคสิบโมงเช้าไปทำงานกับมร.ชาร์ล ช่วงเช้าหล่อนทำงานให้บอสและยังคีย์งานของบอสที่จะค่อยๆเปลี่ยนเป็นให้ มร.ชาร์ลทำในที่สุด
ปาริชาตินึกว่าหล่อนจะต้องมีนายอีกคนหรือเปล่า หล่อนต้องพยายามไม่ให้เป็นเช่นนั้น เพราะงานนี้เป็นงานเฉพาะกิจ เมื่อฐานข้อมูลภาษาอังกฤษเสร็จเมื่อไร หล่อนก็คงหลุดพ้นโปรเจ็คนี้ไป
เมื่อหล่อนถูกเรียกเข้าห้องประชุมโปรเจ็คใหม่ รวมทั้งผู้จัดการทุกแผนกที่ห้องประชุมฝ่ายขาย ด้วยทางวิทยากรซอฟแวร์จะต้องจัดการอบรม พร้อมลองเดินเครื่องคอมพิวเตอร์ออนไลน์ของโรงงาน ข้อมูลสำหรับสูตรการผลิตที่ต้องใช้ชื่อชิ้นส่วนพร้อมสเปค ต้องเรียบร้อยอย่างน้อย ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งในขณะ
ทดลองให้ทุกแผนกหัดทำการเบิกจ่ายวัสดุหรือชื่อชิ้นงานให้คล่อง โดยสรุปว่าขาดกำลังคนพิมพ์ภาษาอังกฤษในการย่อชื่อ สเปคและบริษัทของวัสดุ
ที่มีอยู่ บอสจึงบอกยินดีให้ปาริชาติไปช่วยงานเร่งด่วน เพียงแต่ขอให้เริ่มหลังสิบโมง เช้าก็อยู่ทำหน้าที่ประจำเสียก่อน เมื่อพูดจบบอสนึกได้ จึงหันมาถามความเห็นกับหล่อน
(มีต่อค่ะ)