ลูกผมเจ็บตัวเล็กน้อยแต่ผมอยากรู้ความจริงไม่ยอมปล่อยผ่านนี่ผิดหรือครับ

ผมส่งลูกเข้าตรียมอนุบาลที่โรงเรียนเล็กๆในพื้นที่ใกล้ นิคมอุตสาหกรรม ที่อ.ปลวกแดง เข้าไปไม่ถึง2เดือน มีแผลกลับบ้านมา2ครั้งแล้วซึ่งครั้งแรกมีลอยเล็บยาวมากที่แขน แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะครูบอกว่าเด็กทำกันเอง แต่ครั้งที่2นี่มันไม่ใช่

เพราะครั้งนี้ลูกผมมีรอยตามรูป(ถ่ายแผลไม่ค่อยชัด)ยาวตั้วแต่หนังตายาวผ่านคิ้วไปจนถึงไรผม ให้หมอดูบอกว่าเกิดจากวัตถุขอบแคบ เช่นไม้บรรทัดหรือมีด หรือเล็บ ลึกพอสมควรแต่ไม่ต้องเย็บบาดแผล 7วันก็หาย แต่สิ่งที่รับไม่ได้มันอยู่ตรงนี้ครับ




1. ครูบอกลูกผมไปล้มในห้องครัว โรงเรียนแบบไหนกันที่เอาเด็ก2ขวบไปเลี้ยงในห้องครัวกันครับ
2. ตอนเกิดเหตุครูไม่มีการโทรแจ้งเลยแม้แต่ครั้งเดียว ตอนไปรับเขาก็ไม่แจ้งต้องกลับมาบ้านแล้วถึงสังเกตุเห็น แบบนี้มันจงใจปกปิดเรื่องใช่ไหม
3. เด็กเป็นแผล ครูเอายาหม่องมาใส่แผลให้ แล้วมันไม่แสบหรือครับ มันอยู่ใกล้ดวงตา เด็กจะไม่แสบตาเลยหรือไง ครูพยาบาลหรือยาที่ดีกว่านี้ไม่มีหรือไง
4. ตอนสมัครเรียนพูดจาดีมาก บอกมีกล้องทุกที่ ขอดูได้ตลอด พอเกิดเรื่องขอดูกล้องบอกในห้องครัวไม่มี ขอดูกล้องตัวอื่นก็ไม่ได้ ผอ.บอกมันเป็นลิขสิทธิ์
5. ผมเข้าไปดูในห้องครัว สิ่งที่ผมเจอคือ มีดครับ มีดทำครัวเล่มใหญ่ๆ บางอยู่ที่พื้น เตาแก้ส 3เตา บนแต่ละเตามีหม้อต้มแกงที่กำลังเดือด ปุดๆอยู่ ..นี่คนสติดีๆที่ไหนเขาเอาเด็ก2ขวบมาเลี้ยงในที่แบบนี้กันหา คุณบอกลูกผมดิ้น แสดงว่าคุณรู้ทั้งรู้ว่าเด็กดิ้น แล้วยังจะเอามาเลี้ยงในที่แบบนี้เนี่ยนะ ถ้าดิ้นแล้วตกลงไปในหม้อแกงลูกผมจะตายไหม
6.โต๊ะตัวต้นเหตุ มันเป็นโต๊ะตัวเล็กๆครับ จับดูโต๊ะไม่มีเหลี่ยมเลย มนมาก แถมยังหุ้มด้วยผ้าใบบางๆอีก ผมลองเอาหลังมือกดไปตรงมุมโต๊ะ ตรงส่วนที่คิดว่าคมที่สุด กดครูดไปเต็มแรง ตั้งแต่ข้อมือค่อยๆครูดจนไปถึงข้อศอกด้วยกำลังของผู้ชายหนัก 107 กก. ปรากฎว่า ไม่มีแม้แต่รอยถลอก ครูดซ้ำไป3ครั้ง ก็ยังไม่มีแม้แต่รอยข่วน แต่แขนแดงมาก ถามครูว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่แผลจะเกิดจากโต๊ะตัวนี้ ครูบอกว่าผิวเด็กบางมากครูรู้(คงรู้เหมือนที่เอายาหม่องทาแผลสด)  อ้อลูกผมไม่มีรอยเขียวช้ำเลยนะครับ ทั้งบริเวณแผล ล้มใส่โต๊ะจนเกิดแผลได้แต่ไม่มีฟกช้ำแม้แต่นิดเดียว (น้องเคยเดินชนโต๊ะ มีแต่รอยฟกช้ำแต่ไม่เคยได้แผลเลย)
6. ผอ.รับปากว่าจะสอบสวนให้ความเป็นธรรม ผ่านไป3วันโทรไปถาม บอกสอบสวนแล้ว เฮ้ย..สอบยังไง ผอ.คุณไม่เคยสอบถามฝั่งผมเลย ไม่เคยเห็นแผลเด็กด้วยซ้ำ แล้วคุณสอบสวนยังไง คุณรู้ได้ยังไงว่าเกิดจากอะไรในเมื่อไม่เห็นแผล
7.ผอ.ให้เหตุผลว่า ลูกผมไม่ดี ไม่เอาใคร ร้อง เลยจำเป็นต้องพาไปในครัว ขอโทษผมมา แต่ก็ยังไม่ยอมให้ดูกล้องอยู่ดี ทำไมหรือ มันมีอะไรในกล้องวงจรปิดถึงไม่ยอมให้ดู แล้วจะรู้ได้ไงว่าพวกคุณไม่โกหก

ด้วยเหตุผลด้านบนนั่นแหละครับผมจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ ซึ่งเซ็งมากอยู่2-3วันถึงจะนัดไปเจอคู่กรณี แต่เซ็งมากซ้ำอีกรอบครับเพราะตำรวจบอกมันเป็นอุบัติเหตุ ทั้งๆที่ได้แค่ถาม ยังไม่มีการสอบสวนเลย ยังไม่เห็นแผลลูกผมเลย เฮ้ย..ไม่สอบสวนเรอะ ไม่ถามพยายานเรอะ ไม่ดูรูปถ่ายกับโต๊ะหน่อยเรอะทำไมเก่งอย่างนี้ฟังแค่นี้ตัดสินได้แล้ว แถมยังบอกถ้ากลัวลูกเป็นแผลก็เลี้ยงเองคุณผิดตั้งแต่ให้ลูกเกิดมาแล้วแล้ว ให้เอาลูกไปเลี้ยงเองเลี้ยงไว้ในบ้านอย่าให้ออกมา ผมโมโหมากนี่มันเรื่องอะไรวะผมผิดเหรอ ต่อมาผมแย้งไปว่าทางโรงเรียนอาจไม่ได้จงใจ แต่เข้าข่ายประมาทแน่ๆ เพราะห้องครัวไม่ใช่ที่ๆพี่เลี้ยงควรนำเด็กไปเลี้ยงไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆก็ตามแต่ ตำรวจบอกได้เดี๋ยวก็เปรียบเทียบปรับเอาแล้วเดี๋ยวผมก็เรียกสอบเอง (อ้าวแล้วทำไมไม่สอบก่อนตัดสินล่ะครับ) ผมเห็นท่าไม่ดี  เลยบอกไปว่ายังไม่แจ้งความขอปรึกษาทนายก่อนแล้วก็ขอตัวออกมา

อ้อมีคำถามนึงที่ผมติดใจมาก ผมถามว่าในกรณีนี้การที่โรงเรียนเอาลูกผมไปในห้องครัวแล้วได้รับบาดเจ็บถ้าเอาผิดไม่ได้ ผมต้องให้ลูกผมตายก่อนใช่ไหมครับถึงจะเอาผิดได้ ตำรวจบอกว่า ใช่ลูกคุณต้องตายก่อนถึงจะเอาผิดได้ กฎหมายไทยมันเป็นแบบนั้น

  สุดท้ายนี้ผมไม่เข้าใจครับ นี่ผมผิดใช่ไหมที่รับไม่ได้กับการกระทำของโรงเรียน ผมควรปล่อยผ่านใช่ไหมการที่ผมต้องการดำเนินคดีเอาผิดโรงเรียนแบบนี้ผมผิดใช่ไหมครับ ถ้าเป็นพ่อแม่คนอื่นเขาจะไม่สนใจในเรื่องแบบนี้ใช่ไหมครับ



อัพเดท 06/09/58---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1.เรื่องคดีตอนนี้กำลังดำเนินการครับ ไม่ทิ้งแน่นอนแต่กำลังหาช่องทางว่าดำเนินการทางไหนถึงจะทำให้ทางรร.สำนึกได้ดีที่สุด เนื่องจากคดีประมาทโทษมันเล็กน้อยเหลือเกินปรับแค่1000บาท กำลังดูว่าสามารถฟ้อง สคบ.ได้หรือไม่ครับ ถ้าได้นี่ถือว่าแจ็คพ็อตเลยเพราะสามารถลากผู้บริหารไปขึ้นศาลได้ค่อนข้าง 100% ซึ่งส่วนตัวผมต้องการเน้นขึ้นศาลมากกว่าครับฟ้องอาญาแค่ปรับ แต่ถ้าได้ขึ้นศาลมันก็จะสามารถใช้อ้างอิงได้จะได้ไม่ไปทำกับลูกใครอีก แต่ขึ้นตอนนี้ช้าหน่อยครับ เพราะหลายเรื่องประดังมาพร้องกัน ทั้งเรื่องคดี เรื่องปรับจิตใจน้อง เรื่องย้ายโรงเรียน เรื่องปรับปรุงร้าน เข้ามาพร้อมกันหมดเลย

2.เรื่องร้องเรียน ได้ไปคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วครับ ตอนนี้กำลังดำเนินการเรื่องเอกสาร หลักฐานต่างๆ

3เรื่องสุขภาพจิตน้องเอง หลังจากที่ให้หยุดเรียนจากโรงเรียนเดิมตั้งแต่วันที่ 20/8/58 น้องร่าเริงขึ้นเยอะครับเลิกนอนละเมอแล้ว ช่วงเรียนอยู่น้องนอนละเมอไม่ไปโรงเรียนครับ และได้ทำการย้ายโรงเรียนเรียบร้อย ย้ายไปเรียนไกลบ้านอีกนิด แพงขึ้นอีกหน่อย แต่การดูแลเด็กดีมากครับ ชอบมากเท่าที่แอบไปดูไม่มีการตะคอกเด็กแต่อย่างใด และเด็กทุกคนที่เรียนก็ดูมีความสุขมากๆครับต่างกับที่เดิมลิบลับ เวลาที่ที่ไปรับน้องตอนอยู่รร.เก่าน้องร้องไห้ทุกครั้งที่ไปรับครับ แต่พอย้ายแล้วน้องร่าเริงสุดๆเลยครับวันแรกที่ไปรับนี่ผมน้ำตาไหลเลยครับ เพราะที่รร.เดิมบอกทำนองว่าลูกผมมีปัญหา เดินตาม ไม่เล่นกับเพื่อน และอีกสารพัด แต่ที่รร.ใหม่ครูบอกน้องปกติดีครับไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ผมถ่ายคลิปน้องมาฝากครับให้ดูว่าน้องตอนนี้ร่าเริงขึ้นเยอะ ตอนไปรับนี่ไม่มีร้องไห้เลยครับ(ตอนส่งร้องไห้บ้าง พอเป็นพิธีครับ)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
รีบคุยกับทนายแล้วไปแจ้งความด้วยกันค่ะ ไม่งั้นรร.ไม่ยอมให้ดูกล้องแน่ ๆ แล้วก็จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ถ้าเป็นเรา ๆ ก็เอาเรื่องค่ะ  มาทำลับลมคมในแบบนี้ มันผิดปกติที่ครูไม่ยอมแจ้งเลยว่าน้องเกิดอุบัติเหตุ แล้วก็น่าสงสัยว่าทำไมไม่ยอมให้ดูวงจรปิด ถึงไม่มีกล้องในครัว ก็เอากล้องอื่นมาเช็คได้นี่คะว่าครูไม่ได้ทำอะไรเด็กตอนอยู่ในห้องเรียน และครูพาเด็กออกจากห้องเรียน มุ่งหน้าไปที่ครัวจริงไหม และเด็กร้องไห้งอแงอย่างที่บอกจริงไหม ตอนเดินกลับจากห้องครัว เด็กมีอาการเจ็บ กุมหัว อะไรอย่างนั้นจริงไหม แต่ถึงแม้ว่าเป็นอุบัติเหตุจริง ครูก็ผิดคะ ทำอะไรไม่ใช้สมอง พาเข้าไปในห้องครัวแล้วยังปล่อยเดินเพ่นพ่าน แถมยังทายาหม่องให้อีก ครูเด็กเล็กนี่ควรจะมีความรู้เรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้นบ้างนะ ควรล้างแผลและทายาใส่แผลให้ ไม่ใช่ใช้ยาหม่อง
ความคิดเห็นที่ 21
รอฟังความคืบหน้าคะ แต่ที่แปลกกว่าการโดนกระทำคือ ผู้รักษากฏหมายบ่ายเบี่ยงนี่สิ แล้วประชาชนจะพึ่งใครได้บ้างคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่