การเดินทางข้ามจังหวัดหรือเดินทางระหว่างอำเภอในต่างจังหวัดสมัยก่อนนั้นเป็นเรื่องยาก คนมีรถยนต์น้อยราย ส่วนมากเป็นรถของราชการหรือเจ้าหน้าที่ รถโดยสารประจำทางหากมิใช่รถบัสหน้ายาวคันใหญ่ ก็จะเป็นรถบรรทุกที่นำโครงหลังคามาประกอบต่อที่นั่งไม้ยาว หรือที่เรียกกันว่าเป็นรถขนหมู วิ่งวันละไม่กี่รอบ และจอดรอรับคนไปตลอดทางเพื่อให้ได้ค่าโดยสารมากที่สุด ทำให้การขนส่งทั้งผู้คนโดยสารและพัสดุขาดระบบและไม่สามารถกำหนดได้
ส่งผลเสียต่อการนัดหมายและธุรกิจอย่างยิ่ง
แม้ว่าระบบรถโดยสารจะพัฒนาขึ้น มีการเปลี่ยนรุ่นเป็นรถเมล์โดยสาร แต่ด้วยราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงก่อนหน้านี้ทำให้รถเมล์โดยสารขนาดใหญ่ที่เดินทางระหว่างจังหวัดและอำเภอขาดทุน เนื่องจากผู้โดยสารมีไม่ต่อเนื่องเท่ากันตลอดเวลา อีกทั้งคนทั่วไปก็มีรถยนต์ส่วนบุคคลมากขึ้น รถเมล์โดยสารหากออกตามเวลาก็ขาดทุน แต่หากออกเมื่อคนเต็มก็จะเสียเวลาไม่แน่นอน และเมื่อนำรถเมล์ไปติดตั้งถังแก๊สเพื่อลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงก็ต้องใช้เวลารอเติมแก๊สนาน ยิ่งทำให้ความนิยมในรถเมล์รถบัสตกต่ำลง
การนำรถตู้เข้ามาบริการในเส้นทางระหว่างจังหวัดระยะสั้นไม่เกิน 3 ชั่วโมง จึงเป็นการตอบโจทย์ที่ลงตัวของพฤติกรรมของผู้โดยสารสมัยใหม่ เนื่องจากรถตู้มีจำนวนบรรทุกคนไม่มากและสามารถติดแก๊ส NGV ได้โดยใช้เวลาเติมแก๊สไม่นาน
หากมีผู้โดยสารมาก รถเต็ม ก็ออกเดินทางได้ทันทีและเรียกคันต่อไปมารับ หากผู้โดยสารน้อย ออกรถตามเวลาก็ไม่ขาดทุนมากเท่ารถบัสขนาดใหญ่ ผู้เดินทางสามารถกำหนดเวลาได้แน่นอนว่า จะขึ้นรถเมื่อใด และจะถึงเมื่อใด มีบริการฝากส่งสินค้าและพัสดุติดไปกับรถตู้ ทำให้ได้รับของทันเวลาไม่ต้องรอไปรษณีย์ รถตู้โดยสารจึงได้รับความนิยมมากขึ้น จนในหลายเส้นทาง รถตู้ได้มาแทนที่รถเมล์ รถขนหมู แบบดั้งเดิมจนหมด
อย่างไรก็ตาม ข้อเสียร้ายแรงของการโดยสารรถตู้ที่เห็นเป็นประจำคืออุบัติเหตุ เนื่องจากรถตู้โดยสารบรรทุกผู้เดินทางได้ครั้งละไม่มาก หากมีผู้โดยสารติดค้างรออยู่ รถตู้ต้องทำเวลาเพื่อให้คันของตนหมุนเวียนกลับไปรับได้อีกหลายรอบจึงต้องขับรถตู้ด้วยความเร็วสูงอันเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุรุนแรงหลายครั้งบนหน้าข่าว ก่อความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินมากมาย แต่ผู้โยสารก็ยังคงเลือกเดินทางด้วยรถตู้ต่อไปเพราะเหตุผลทั้งทางความแน่นอน ความรวดเร็ว และความตรงต่อเวลา
ภาครัฐได้ออกมาตรการแก้ไขปัญหารถตู้เกิดอุบัติเหตุหลายวิธี ทั้งมาตรการตรวจผู้คาดเข็มขัดนิรภัยและจำนวนที่นั่งดัดแปลง แต่ก็ได้ผลไม่มาก เพราะเมื่อกวดขันกันได้ระยะหนึ่งก็หย่อนยานเลิกทำไปเพราะไม่มีใครมากดดันสั่งงาน อีกทั้งยังมีปัญหารถตู้เถื่อน คือรถตู้ที่นำรถตู้นำเที่ยวส่วนตัวมาให้บริการประจำโยไม่ได้รับใบอนุญาตจากรมการขนส่งทางบก ซึ่งมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากไม่มีประกันอุบัติเหตุให้แก่ผู้โดยสาร อีกทั้งไม่ได้รับการตรวจสภาพ การดูแลควบคุมมาตรฐาน อันอาจเป็นช่องทางก่ออาชญากรรมและการหลอกลวงได้
อย่างไรก็ตาม ตราบเท่าที่ยังไม่มีการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นระบบรถ เรือ หรือระบบราง รถตู้โดยสารก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการเดินทางระหว่างจังหวัดระยะสั้น หรือการเดินทางระหว่างอำเภอในจังหวัด ทางที่เป็นไปได้มากที่สุดคือการเปิดเสรีการแข่งขันภายใต้การกำกับดูแลความปลอดภัยและการคุ้มครองผู้บริโภคที่เข้มงวด เพื่อให้กลไกตลาดตอบสนองประโยชน์ของประชาชนผู้ใช้รถตู้เพื่อเดินทาง และลดจำนวนรถยนต์บนท้องถนน ลดการใช้เชื้อเพลิงสิ้นเปลือง และลดความสูญเสียอันเกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนน เป็นผลดีในภาพรวมต่อประเทศ
ที่มา : คอลัมน์ เดือนหงายที่ชายโขง มติชนรายวัน
โดย ธีรภัทร เจริญสุขhttp://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1440574951
รถตู้ ผู้เปลี่ยนระบบ การเดินทางต่างจังหวัด
การเดินทางข้ามจังหวัดหรือเดินทางระหว่างอำเภอในต่างจังหวัดสมัยก่อนนั้นเป็นเรื่องยาก คนมีรถยนต์น้อยราย ส่วนมากเป็นรถของราชการหรือเจ้าหน้าที่ รถโดยสารประจำทางหากมิใช่รถบัสหน้ายาวคันใหญ่ ก็จะเป็นรถบรรทุกที่นำโครงหลังคามาประกอบต่อที่นั่งไม้ยาว หรือที่เรียกกันว่าเป็นรถขนหมู วิ่งวันละไม่กี่รอบ และจอดรอรับคนไปตลอดทางเพื่อให้ได้ค่าโดยสารมากที่สุด ทำให้การขนส่งทั้งผู้คนโดยสารและพัสดุขาดระบบและไม่สามารถกำหนดได้
ส่งผลเสียต่อการนัดหมายและธุรกิจอย่างยิ่ง
แม้ว่าระบบรถโดยสารจะพัฒนาขึ้น มีการเปลี่ยนรุ่นเป็นรถเมล์โดยสาร แต่ด้วยราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงก่อนหน้านี้ทำให้รถเมล์โดยสารขนาดใหญ่ที่เดินทางระหว่างจังหวัดและอำเภอขาดทุน เนื่องจากผู้โดยสารมีไม่ต่อเนื่องเท่ากันตลอดเวลา อีกทั้งคนทั่วไปก็มีรถยนต์ส่วนบุคคลมากขึ้น รถเมล์โดยสารหากออกตามเวลาก็ขาดทุน แต่หากออกเมื่อคนเต็มก็จะเสียเวลาไม่แน่นอน และเมื่อนำรถเมล์ไปติดตั้งถังแก๊สเพื่อลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงก็ต้องใช้เวลารอเติมแก๊สนาน ยิ่งทำให้ความนิยมในรถเมล์รถบัสตกต่ำลง
การนำรถตู้เข้ามาบริการในเส้นทางระหว่างจังหวัดระยะสั้นไม่เกิน 3 ชั่วโมง จึงเป็นการตอบโจทย์ที่ลงตัวของพฤติกรรมของผู้โดยสารสมัยใหม่ เนื่องจากรถตู้มีจำนวนบรรทุกคนไม่มากและสามารถติดแก๊ส NGV ได้โดยใช้เวลาเติมแก๊สไม่นาน
หากมีผู้โดยสารมาก รถเต็ม ก็ออกเดินทางได้ทันทีและเรียกคันต่อไปมารับ หากผู้โดยสารน้อย ออกรถตามเวลาก็ไม่ขาดทุนมากเท่ารถบัสขนาดใหญ่ ผู้เดินทางสามารถกำหนดเวลาได้แน่นอนว่า จะขึ้นรถเมื่อใด และจะถึงเมื่อใด มีบริการฝากส่งสินค้าและพัสดุติดไปกับรถตู้ ทำให้ได้รับของทันเวลาไม่ต้องรอไปรษณีย์ รถตู้โดยสารจึงได้รับความนิยมมากขึ้น จนในหลายเส้นทาง รถตู้ได้มาแทนที่รถเมล์ รถขนหมู แบบดั้งเดิมจนหมด
อย่างไรก็ตาม ข้อเสียร้ายแรงของการโดยสารรถตู้ที่เห็นเป็นประจำคืออุบัติเหตุ เนื่องจากรถตู้โดยสารบรรทุกผู้เดินทางได้ครั้งละไม่มาก หากมีผู้โดยสารติดค้างรออยู่ รถตู้ต้องทำเวลาเพื่อให้คันของตนหมุนเวียนกลับไปรับได้อีกหลายรอบจึงต้องขับรถตู้ด้วยความเร็วสูงอันเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุรุนแรงหลายครั้งบนหน้าข่าว ก่อความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินมากมาย แต่ผู้โยสารก็ยังคงเลือกเดินทางด้วยรถตู้ต่อไปเพราะเหตุผลทั้งทางความแน่นอน ความรวดเร็ว และความตรงต่อเวลา
ภาครัฐได้ออกมาตรการแก้ไขปัญหารถตู้เกิดอุบัติเหตุหลายวิธี ทั้งมาตรการตรวจผู้คาดเข็มขัดนิรภัยและจำนวนที่นั่งดัดแปลง แต่ก็ได้ผลไม่มาก เพราะเมื่อกวดขันกันได้ระยะหนึ่งก็หย่อนยานเลิกทำไปเพราะไม่มีใครมากดดันสั่งงาน อีกทั้งยังมีปัญหารถตู้เถื่อน คือรถตู้ที่นำรถตู้นำเที่ยวส่วนตัวมาให้บริการประจำโยไม่ได้รับใบอนุญาตจากรมการขนส่งทางบก ซึ่งมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากไม่มีประกันอุบัติเหตุให้แก่ผู้โดยสาร อีกทั้งไม่ได้รับการตรวจสภาพ การดูแลควบคุมมาตรฐาน อันอาจเป็นช่องทางก่ออาชญากรรมและการหลอกลวงได้
อย่างไรก็ตาม ตราบเท่าที่ยังไม่มีการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นระบบรถ เรือ หรือระบบราง รถตู้โดยสารก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการเดินทางระหว่างจังหวัดระยะสั้น หรือการเดินทางระหว่างอำเภอในจังหวัด ทางที่เป็นไปได้มากที่สุดคือการเปิดเสรีการแข่งขันภายใต้การกำกับดูแลความปลอดภัยและการคุ้มครองผู้บริโภคที่เข้มงวด เพื่อให้กลไกตลาดตอบสนองประโยชน์ของประชาชนผู้ใช้รถตู้เพื่อเดินทาง และลดจำนวนรถยนต์บนท้องถนน ลดการใช้เชื้อเพลิงสิ้นเปลือง และลดความสูญเสียอันเกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนน เป็นผลดีในภาพรวมต่อประเทศ
ที่มา : คอลัมน์ เดือนหงายที่ชายโขง มติชนรายวัน
โดย ธีรภัทร เจริญสุขhttp://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1440574951