ช่วงวันแม่ที่ผ่านมา (12 สิงหาคม 2558) ได้มีโอกาสไปเหยียบย่ำ โอซาก้า และได้พยายามตระเวนหาร้านเนื้อย่างชั้นเยี่ยมหลายๆ ร้าน ตระเวณชิมไปหลายร้าน จนได้พบกับ ร้านบุฟเฟ่เนื้อย่างคุณยอดเยี่ยมใจกลางแหล่งช้อปปิ้งโอซาก้า ย่านชินไชบาชิ shinsaibashi เลยอยากจะมาแนะนำเพื่อนๆ ลองหาเวลาไปชิมกัน

ร้านนี้มีชื่อว่า rikimaru เป็นร้านบุฟเฟ่เนื้อย่างที่คัดสรรเนื้อมาให้ชิมเป็นอย่างดี เนื้อมีหลากหลายส่วน หลากหลายประเภท ทั้งของคาว ของหวานแบบต้นฉบับญี่ปุ่น ชนิดอิ่มอร่อยจนต้องอยากกลับไปอีก

ก่อนอื่นขอลงพิกัดให้ก่อนนะครับ สำหรับคนที่นำมือถือไป save ไว้เลยจะได้หาร้านง่ายขึ้น https://www.google.com/maps/place/燒肉力丸/@34.6742481,135.5037376,16.79z/data=!4m2!3m1!1s0x6000e716afff5881:0xe5aa38b2813e17f7

ร้าน rikimaru ตั้งอยู่ในตึก is ชั้น 4 ตามภาพนี้นะครับ


+++ การเดินทาง
ผมขอแนะนำเส้นทางโดยยึดจาก สถานีโอซาก้าเป็นจุดเริ่มต้นนะครับ ขอให้เพื่อนๆ เดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีแดง midosuji มาจะง่ายที่สุด เลือกลงสถานี shinsaibashi ทางออก shinsaibashi เมื่อออกมาทางออกจะอยู่ติดกับห้าง ไดมารู เลยครับ ภาพทางออกตามนี้



เมื่อออกจากสถานีมาเลี้ยวขวาเลยครับไปตามทางในภาพ



เดินตรงไปเรื่อยๆ จนสังเกตุเห็นร้าน Ralph Lauren อยู่ด้านซ้ายมือ และ Pablo อยู่ขวามือ บริเวณนี้จะเป็นสี่แยกเล็กๆ พอดี ตามภาพ



ให้เลี้ยวซ้าย จะเห็นร้าน tagheuer อยู่ด้านซ้ายมือตามภาพ และ Ralph Lauren จะอยู่ขวามือ ให้เดินตรงไป จากจุดในภาพ จะมองเห็นตึก is อยู่ไม่ไกลด้านขวามือ เขียนชัดมาก is... แต่เวลาที่เพื่อนเดินทางหากเป็นเวลากลางคืน จะมองไม่เห็นนะครับ (กรณีเพื่อนๆ ไม่ได้มาตามที่ผมแนะนำ อาจเดินมาจากตึกกูลิโกะ สุดฮิตก็ได้นะครับ จากตึกกูลิโกะ (โดทนโบริ) เดินข้ามสะพานตรงมาทางชินไชบาชิ ตรงมาเรื่อยๆ จนเจอร้าน tagheuer อยู่ขวามือ ก็ไปต่อตามคำแนะนำได้เลยครับ)



จากนั้น เดินตรงไป ผ่านร้านรูปลิงตามภาพ แสดงว่าใกล้ถึงตึก is แล้ว



เดินมาอีกนิดเดียว ตึก is จะอยู่ขวามือ ตามภาพ



เมื่อถึงร้านแล้ว ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้
ร้านจะเปิดตั้งแต่ 17.00 - 05.00 น. ของอีกวัน
ร้านนี้ดังมาก แนะนำต้องจองคิวล่วงหน้า ผมเองก็ตอนแรกไม่ทราบก็ไปตามปกติ ปรากฎว่า คิวเต็มยาวเหยียด ไม่สามารถทานได้ จึงคุยภาษาพูด+ภาษามือ จองที่นั่งไป ใช้คำง่ายๆ book for 2 people แล้วน้องก็ถามชื่อ แล้วก็แจ้งย้ำเขาว่า tomorrow at 19.00 เพื่อสำรองเวลาที่จะมาทาน เป็นอันเสร็จสิ้น การจองที่นี่ ไม่ต้องขึ้นไปบนตึก จะมีน้องรับจองคิวอยู่ด้านล่าง ตามภาพ น้องชุดขาว



เมื่อได้คิวแล้ว ก็มาใหม่ในวันรุ่งขึ้น แต่หากเพื่อนๆ ไปถึงแล้วไม่เจอน้องด้านล่าง ก็ขึ้นลิฟท์ที่อยู่ตรงบันได กดลิฟท์ขึ้นไปชั้น 4 เลย





ออกลิฟท์มาจะเห็นคนนั่งรออยู่เต็ม นั่นละ ร้านตามภาพด้านบน แต่หากโชคดีไม่มีคน ก็เดินเข้าไปในร้านเลย
ที่นี่ พนักงานพอฟังภาษาอังกฤษได้เล็กน้อย ค่อยๆ พูด ใช้ศัพท์ง่ายๆ ก็เรียบร้อยครับ

กรณีจองมาแล้ว ผมก็เดินเข้าไปบอกเขาว่า จองไว้แล้ว 2 ที่ เวลา 19.00 เขาก็จะให้ไปรอข้างนอก รอเรียก ตอนผมไปเจอแกีงค์คนจีน รอเต็มหน้าร้าน พอเขาเห็นพนักงานเรียกผมเข้าไปก่อน เกิดการโวยวายเสียงดังเล็กน้อย แต่ผมก็ทำไม่สนใจ ขี้เกียจอธิบายเข้าไปกินในสบายใจดีกว่า

ค่าอาหารที่นี่มี 2 แบบ แบบบุฟเฟ่ 82 รายการ (2,980 yen) กับ 110 รายการ (3,480 yen) ราคาตามภาพ แนะนำเลือกแบบ 110 รายการ ราคา 3,480 เยน เพราะจะได้ทานเนื้อที่คุณภาพดีกว่ามากกก

ระยะเวลาในการรับประทาน ร้านให้เวลา 90 นาที หรือ 1 ชั่วโมงครึ่งนะครับ (เป็นครั้งแรกในการทานบุฟเฟ่ของผม แบบนั่งเต็มเวลา เกือบลุกออกไม่ทัน เพราะฟินจริง)



ด้วยราคาที่เราเลือกแบบ 110 รายการ ทำให้สามารถเลือกรายการที่มีจุดสีแดง หน้าเมนู เพิ่มเติมได้ นอกเหนือจากเมนูปกติ อาหารมีหลากหลายทั้งของคาว ของหวาน อุดง และอื่นๆ สามารถเลือกสั่งได้ตามชอบ



แต่งานนี้ เราตั้งใจมากินเนื้อ จึงขอแนะนำรายการเด็ดๆ ดังนี้



ใครที่ไม่รู้ว่า ชอบกินแบบไหน แนะนำให้เลือกรายการหมายเลข 23 หรือ 28 เป็นเมนูเนื้อรวมฮิตให้เราลองชิมเนื้อเด็ดๆ ในทุกแบบ หลังจากชิมเนื้อทุกประเภทแล้ว ค่อยมาเลือกสั่งเฉพาะที่ตนเองชอบอีกที ข้อแตกต่างระหว่างเมนู 23 กับ 28 คือ เนื้อธรรมดา กับเนื้อที่หมักเกลือ โดยส่วนตัวผมชอบเนื้อหมักเกลือมากกว่า ให้รสชาติกลมกล่อมมาก (เนื่องจากเราสั่งแบบบุฟเฟ่ ดังนั้น ไม่ต้องกังวลตัวเลขราคาด้านหลัง)





คำแนะนำในการกินเนื้อให้อร่อย เขาบอกว่า ให้ย่างแบบ 70 / 30 หมายถึง ให้ย่างเนื้อกับไฟด้านแรกประมาณ 70% จากนั้นให้กลับเนื้อ ย่างต่ออีกประมาณ 30% แล้วรับประทานเลย เพราะจะให้เนื้อยังคงความชุ่มฉ่ำหอมหวาน และได้รสชาติมากที่สุด รวมทั้ง การย่างเนื้อ ให้กลับเพียง 1 ครั้งเท่านั้น หากกลับไปมา หรือย่างนานเกินไป น้ำในเนื้อจะสูญเสีย ทำให้เนื้อนั้นเหนียวและเสียรสชาติได้

หลังจากที่สั่งแบบรวมฮิตเนื่อสี่แบบแล้ว ผมก็พบว่า เนื้อ rib eye นั้นเด็ดสุด ชนิดที่เรียกว่า ละลายในปาก แบบไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มเลย
ผมว่า เนื้อที่นี่อร่อยโดยธรรมชาติอยู่แล้วไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มเลย อีกทั้ง น้ำจิ้มที่นี่ก็รสอาจไม่ถูกปากพวกเราคนไทยก็ได้



ภาพด้านบนคือ เนื้อ rib eye เมนูเลข 19 รสชาติสุดยอดมาก ทั้งสด ทั้งคุณภาพดี ชนิดที่เนื้อบุฟเฟ่บ้านเราเทียบไม่ติด ยกเว้น เมนูเนื้อที่โรงแรมบันยันทรี ถนนสาทร บ้านเรา หากใครไม่มีโอกาสมากินที่ญี่ปุ่น ไปกินที่นั่น รสชาติสุดยอดไม่แพ้กัน เนื้อละลายในปาก ชุ่ม นุ่มลิ้น เต็มรส จำไม่ลืมครับ








เนื้อ rib eye สุดฟิน ชิ้นนี้ อิ่มอร่อยไม่ลืม

นอกจากนี้ ยังมีเมนูอื่นๆ ให้ลองชิมแบบต้นตำรับ อาทิ ยำปลาหมึกสด รสชาติดีมาก เนื้อปลาหมึกไม่เหนียวอย่างที่คิด ในน้ำซอสรสกิมจิ ผสมผสานหลายอย่าง อร่อยเลิศ แบบไม่สยองเหมือนเกาหลี ที่ให้มาเป็นตัวๆ ที่นี่ เขาหั่นเป็นลูกเต๋าชิ้นเล็กๆ ทานง่าย แต่ใครไม่ชอบของสด ก็ข้ามเมนูนี้ไปครับ




ใครชอบทานกระเทียมอย่างผม ก็สั่งได้ แต่ที่นี่เขาแช่น้ำอะไรมาสักอย่างแปลกๆ ดี

ตอนจบเราตอบท้ายของหวาน ลองสั่งเมนู 113 yuzu citrus sorbet มาแก้เลี่ยน อร่อยดี เปรี้ยวๆ หรือใครชอบหวานอมเปรี้ยวก็ เมนู 115 mango parfait

ลืมบอกอีกเรื่อง พนักงานที่นี่ สุภาพมาก มารับ order นั่งคุกเข่าเรียบร้อยแล้วมาก เห็นเราพูดญี่ปุ่นไม่ได้ก็เอา english menu มาให้ ดีงาม

ตอนทานเสร็จค่าอาหาร จะถูกบวกภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 8% นะครับ ใบเสร็จตามภาพเลยครับ
ค่าอาหารจริงๆ 6,960 yen +  ค่าน้ำ 560 yen + vat 8% 601 yen รวมเป็น 8,121 yen ราคานี้มาทานกัน 2 คนนะครับ



พิเศษสุด ออกมาจากร้าน กลิ่นเนื้อย่างไม่ติดตัวเลย แปลกมาก ระบบดูดควันที่นี่เยี่ยมมากครับ เป็นบ้านเราก็คงรู้กันหมดว่า สองคนนี้ไปกินเนื้อย่างมา หุหุ ประทับใจจริง ชนิดเรียกว่า สามารถทานเสร็จไปช้อปปิ้งต่อได้ หรือขึ้นรถไฟฟ้าไม่อายใคร

กลับถึงห้องลองดมเสื้อผ้าก็ไม่มีกลิ่นสักนิด เยี่ยม

หากเพื่อนๆ คนไหนต้องการข้อมูลใดเพิ่มเติมแจ้งได้นะครับ จะมาอัพเดทให้อีกครั้ง ;)