==มารู้จักกับท่านคาร์ล พอปเปอร์และหลักการfalsifiable เพื่อไว้ต่อสู้กับ pseudoscience กันเถอะ==

กระทู้สนทนา
มารู้จักกับท่านคาร์ล พอปเปอร์และหลักการfalsifiable เพื่อไว้ต่อสู้กับ pseudoscience กันเถอะ

คาร์ล ปอปเปอร์ (Karl Popper) ประวัติและผลงานคร่าวๆ

สวัสดีครับชาวหว้ากอทุกท่าน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับท่านคาร์ล พอปเปอร์และหลักการการพิสูจน์ว่าเป็นเท็จได้ (falsifiable) กันครับ

ทำไมหน่ะหรือเพราะในสังคมเรายังมี ความเชื่อข้อมูลที่ผิดๆ ซึ่งบางครั้งมันก็ไม่เป็นไรหรอก แต่บางครั้งมันส่งผลกระทบในแง่ลบแก่เราครับ

ผมจะแบ่งง่ายๆเป็น 2 อย่างแล้วกัน

1.คือความเชื่อที่ผิดๆ เช่นเชื่อว่า อยู่ใกล้เสาสัญญาณโทรศัพท์แรงสูงจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย ปวดหัว มึนงง เวียนศีรษะ ซึ่งมีข่าวชาวบ้านมาขับไล่ไม่ให้มาตั้งเสาสัญญาณ เพราะความเข้าใจผิดนี้ แทนที่จะได้เงินค่าเช่าพื้นที่กับได้ใช้โทรศัพท์เครือข่ายสัญญาณดีๆใกล้ๆบ้านก็อด เพราะความเข้าใจผิด





เสาสัญญาณแบบนี้ มนุษย์ไปอยู่ใกล้ๆแล้วจะปวดหัว มึนงงจริงหรือ




2. pseudoscience อันนี้จะต่างกับความเชื่อที่ผิดๆตรงที่ เป็นคำกล่าวอ้าง ที่พยายามอ้างให้คล้ายหลักการทางวิทยาศาสตร์ มีการอธิบายหลักการทำงาน ใส่ศัพท์วิทยาศาสตร์ไปให้ดูขลัง แต่จริงๆแล้วเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง มีการให้เหตุผลที่ผิด ขัดกับวิทยาศาสตร์ที่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปในหมู่นักวิทยาศาสตร์ เช่นกรณีคลาสสิกคือเหรียญสเกลาร์ (ทำไมต้องเป็นเหรียญสเกลาร์ มีแค่ขนาด ไหนๆจะตั้งชื่อเอาศัพท์วิทย์เข้าไปใส่ก็น่าจะเป็นเหรียญเวกเตอร์ มีทั้งขนาดและทิศทาง)    หรือไม้ล้างป่าช้า gt200 (ทำไมต้อง gt200 ยุคนี้ต้อง gtx 980 )     ที่ทั้งสองอย่างนี้ล้วนพยายามอ้างหลักการทำงานที่เป็นวิทยาศาสตร์ แต่จริงๆแล้วตัวมันไม่เป็นวิทยาศาสตร์เลย









ทำไมต้อง gt200 ยุคนี้ต้อง gtx 980 แล้ว เอาไว้เล่น batman arkham knight ปรับสุด










Karl Popper (1902-1994)


แล้วท่าน คาร์ล พอปเปอร์ มาเกี่ยวอะไรด้วยหล่ะ
ก็เพราะท่านนี้เองได้พยายามสร้างทฤษฎีมาตรวจสอบว่า
อันไหนเป็นวิทยาศาสตร์แท้อันไหนเป็นวิทยาศาสตร์เทียม


โดยเราจะมารู้จักกับชีวิตและผลงานของท่านกันครับ




ก่อนเข้าเนื้อหา  ที่จะมีเน้นแนวคิดด้านปรัชญา
มาฟังเพลงพักผ่อนกันก่อนก็ได้ครับ

ขอแนะนำ เพลง Lean On โดย  Major Lazer & DJ Snake ครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เนื้อเพลง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้




----------------------------------




โอเคครับ เรามาเข้าเนื้อหากันเลย


คาร์ล ฟอปเปอร์ เกิดที่กรุงเวียนนา ในครอบครัวชนชั้นกลางครับ พ่อเขาเป็นนักกฎหมายจากโบฮีเมีย ถ้าใครอ่านเชอร์ล็อก โฮมส์ จะมีตอนนึงชื่อตอนว่า เหตุอื้อฉาวในโบฮีเมีย (A Scandal in Bohemia) ก็คือที่นี่แหละครับ ส่วนแม่ของเขามีเชื้อสายมาจากชิชิลีกับฮังการี

ฟอปเปอร์ออกจากโรงเรียนตอนอายุ 16 และชอบเข้าไปฟังเลคเชอร์ในวิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ ปรัชญา ประวัติศาสตร์ดนตรีในฐานะ guest student ที่มหาวิทยาลัยเวียนนาเป็นประจำ



มหาวิทยาลัยเวียนนาที่ฟอปเปอร์ชอบเข้าไปฟังเลคเชอร์วิชาต่างๆ


ในปี 1928 เขาจบปริญญาเอกสาขาจิตวิทยา ทำวิทยานิพนธ์เรื่อง "The question of method in cognitive psychology" ในปี 1929 เขาเป็นอาจารย์มัธยมสอนวิชาคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ และแต่งงานกับ Josefine Anna Henninger ในปี 1930


ณ ตอนนั้นอิทธิพลของพรรคนาซีเยอรมนีเริ่มแผ่ขยายอิทธิพล เขาเริ่มใช้เวลาช่วงเย็นเขียนหนังสือเล่มแรกของเขา ซึ่งจำเป็นเพื่อไว้ขอตำแหน่งวิชาการในประเทศที่ปลอดภัยที่ชาวยิวจะไม่โดนไล่ล่าจับตัว ในปี 1937 เขาสามารถอพยพไปที่นิวซีแลนด์ เป็นอาจารย์สอนวิชาปรัชญาอยู่ที่  Canterbury University College ซึ่งเมื่อก่อนเป็นส่วนหนึ่งของ  University of New Zealand





Canterbury University College



ต่อมาพอสงครามโลกครั้งที่สองจบลง  เขาได้ย้ายมาเป็นอาจารย์ที่ London School of Economics และได้รับตำแหน่งศาสตาจารย์ด้านตรรกศาสตร์และระเบียบวิธีทางวิทยาศาสตร์ตั้งแต่ปี 1949 จนเขาเกษียณในปี 1969


ผลงานที่สำคัญของเขาคือหนังสือเรื่อง The Logic of Scientific Discovery ซึ่งตีพิมพ์ในปี 1934 เนื้อหาเกี่ยวข้องกับปรัชญาวิทยาศาสตร์ โดยเริ่มแรกตีพิมพ์เป็นภาษาเยอรมัน แปลได้ว่า ตรรกศาสตร์แห่งการวิจัย เขาได้เขียนใหม่อีกครั้งและตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษในปี 1959 และทำให้เขามีชื่อเสียง คาร์ล พอปเปอร์ ได้รับคำยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักปรัชญาวิทยาศาสตร์ที่มีอิทธิพลที่สุดในศตวรรษที่ 20




The Logic of Scientific Discovery  ต้นฉบับฉบับภาษาเยอรมัน



เราลองมาทำความเข้าใจกับแนวคิดของเขากัน ลักษณะพื้นฐานของทฤษฎีวิทยาศาสตร์ที่ดีนั้นควรจะสามารถหักล้างได้ ในทางกลับกันทฤษฎีที่ไม่ดีก็คือไม่สามารถหักล้าง พิสูจน์ว่าเป็นเท็จได้ ดังนั้นพอปเปอร์ กล่าวว่าทฤษฎีที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขเหล่านี้ไม่สมควรเรียกว่าวิทยาศาสตร์ เป็นได้แค่เพียง pseudoscience  เท่านั้น

ตัวอย่างกรณีคลาสสิกที่เขามักจะยกมาคือทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์ ที่เขาให้ความเห็นว่านี่ก็เป็น pseudoscience  เพราะคำอธิบายของทฤษฎีนี้สามารถใช้อธิบายได้ทุกเหตุการณ์ คือทฤษฎีนี้ไม่มีผิดเลย ยกตัวอย่างเช่น ชายคนหนึ่งผลักเด็กตกน้ำและอีกคนนึงกระโดดลงน้ำเสี่ยงชีวิตไปช่วยเด็ก ทฤษฎีของฟรอยด์มีคำอธิบายของทั้งสองกรณีคือ ชายคนแรกทำไปเพราะเก็บกด อีกคนนึงทำไปเพราะต้องการชดเชยบางสิ่งบางอย่าง


Sigmund Freud


ทฤษฎีของฟรอยด์สามารถอธิบายพฤติกรรมใดๆของคนได้เพียงใช้แค่เรื่อง ความเก็บกด ความต้องการชดเชยบางสิ่งบางอย่าง  ความปรารถนาไร้จิตสำนึก จึงเป็นทฤษฎีที่หักล้างไม่ได้ และก็ไม่น่าจะเป็นวิทยาศาสตร์



สัญลักษณ์ไม่เป็นทางการของ Psychoanalysis


ถ้าลองไปอ่านทฤษฎีจิตวิเคราะห์ในวิกิพีเดียก็จะพบว่า ทฤษฎีนี้ถูกมองว่าเป็น pseudoscience แบบที่  คาร์ล พอปเปอร์  ตั้งข้อสังเกตไว้จริงๆด้วย (ตอนสมัยก่อนผมก็คิดว่าทฤษฎีนี้เป็นวิทยาศาสตร์เสียอีก)

"Psychoanalysis has received criticism from a wide variety of sources. It is regarded by some critics as a pseudoscience. Nonetheless, it remains a strong influence within the realm of psychiatry, and more so in some quarters than others"



https://en.wikipedia.org/wiki/Psychoanalysis



แล้วทฤษฎีที่ falsifiable  สามารถพิสูจน์ว่าเป็นเท็จได้ เป็นทฤษฎีที่พอปเปอร์  มองว่าเป็นวิทยาศาสตร์จริงๆจะเป็นอย่างไร เดี๋ยวมาต่อกันครับ


-----------------------------------
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่