เล่าที่มาก่อนนะคะ

ที่ดินผืนหนึ่งติดถนน เดิมยายเป็นผู้บุกเบิกไว้
ยายมีลูก2คน พี่ชาย(ลุง)-น้องสาว(คือแม่เรา)
ยายออกปากยกที่ดินนี้ให้ลูกทั้ง2คน
พี่ชาย(ลุง)ไปทำงานต่างประเทศ น้องสาว(แม่)จึงไปทำ เอกสาร น.ส.3 เป็นชื่อตัวเองไว้ทั้งผืน และปลูกบ้านไว้ฝั่งด้านหนึ่ง
ต่อมาแม่มีลูกคือเรา ไม่กี่ปีถัดมาพ่อกับแม่เลิกกัน แม่จึงรื้อบ้านออก และไปทำงานที่อื่น
ต่อมาลุงกลับจากต่างประเทศ มาปลูกบ้านอีกฝั่งหนึ่ง(คนละด้านกับที่แม่เคยปลูกไว้)
ต่อมาแม่เราตาย เรายังเด็กจึงไม่ได้สนใจทำธุรกรรมอะไร

สำนักงานที่ดินมีโครงการแปลงที่ทำกินเป็นโฉนด มารังวัด
เขาถามหาเอกสารสิทธิ์เก่า ลุงแจ้งว่าไม่มี (ลุงบอกเราว่าแกหาน.ส.3ชื่อแม่ไม่เจอ และติดต่อเราไม่ได้)
ลุงจึงบอกให้แยกเป็น2ผืน ฝั่งที่ลุงปลูกบ้านใช้ชื่อป้าสะใภ้ ฝั่งที่เคยเป็นของแม่เรา ลุงใส่ชื่อลุงไว้
โฉนดติด เงื่อนไข ห้ามโอน 10ปี
ลุงแจ้งเราให้มารับโอนหลังพ้น 10ปี ในผืนที่แกใส่ชื่อแกไว้
ต่อมาลุงไปเป็นกรรมการสหกรณ์การเกษตร มีการโกง ถูกฟ้องจนเป็นคดีแดงยึดทรัพย์
ลุงถูกอายัดบัญชี กรรมการอื่นๆถูกยึดบ้านที่ดิน ขายทอดตลาด (ฟ้องโดยเจ้าหนี้หลายคนซึ่งเป็นเจ้าของเงิน)
เขามีสัญญาประนีประนอมลงกำหนดไว้ 31ธ.ค.58 ให้ผ่อนเเป็นงวด แต่ลุงไม่ให้เขาสักงวดเลยตั้งแต่ต้นปี
ฟ้องกรรมการรวม15คน
แต่ที่ผืนนี้ติด10ปีอยู่ เมื่อครบกำหนดเราไปทำการโอน
มีฝ่ายกฏหมายสหกรณ์มารอยึดทรัพย์เช่นกัน แต่เขาไม่มีหมายอายัดมา
เจ้าหน้าที่ที่ดินแจ้งว่าถ้าเรายืนยันจะโอนเราทำได้เพราะเขาจะถือว่ายังไม่ได้รับหมาย
เรายืนยันโอน เจ้าหน้าที่สหกรณ์ขู่จะฟ้องอาญาลุงฐานโยกทรัพย์โกงเจ้าหนี้
เขาบอกออกจากที่ดินนี่เขาจะไปโรงพักเลย

คำถามค่ะ
1.ผ่านมาหลายวันแล้วลุงยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ ไม่มีตำรวจมา แสดงว่าเขายังไม่ได้ไปแจ้งความใช่ไหมคะ
2.ลุงเจรจาจะขอขายที่ผืนที่เป็นชื่อป้าสะใภ้ให้เรา เพื่อเอาเงินไปให้สหกรณ์ขอให้เขาไม่ฟ้องอาญา แต่เราเกรงปัญหาว่าเขาจะมายึดส่วนของเมียลุงในภายหลังด้วย เราจะเสียเงินฟรี
3.ถ้าสหกรณ์ฯฟ้องจริงเราตัดสินใจจะสู้ว่าไม่ใช่การโยกย้ายทรัพย์หนีเจ้าหนี้ แต่เป็นการรับตามสิทธิที่เราควรได้คือเป็นของแม่เราแต่เดิม มีโอกาสชนะแค่ไหนคะ

มีประเด็นใดที่เราควรหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเตรียมรับมือไหมคะ
ขอบคุณมากๆค่ะ