เรื่องมีอยู่ว่า บริษัทเราเปนบริษัทเล็กๆไม่ได้ใหญ่โตมากมาย ตอนที่เราเข้ามาทำงาน ก็มีน้องคนนึ่งทำงานตำแหน่งเดียวกับเรา
เค้าก็ดูเปนเด็กดีนะ มีลูกและมีครอบครัวแล้ว และเจ้านายก็มีลูกมีครอบครัวแล้วเหมือนกัน ซึ่งเราเข้าไปแรกๆ
รู้สึกว่าเจ้านายเอาอกเอาใจน้องคนนี้เปนพิเศษ ค่อยถามว่ากินข้าวยัง กินอะไรมั้ย เราก็คิดว่าน้องเค้าคงสนิทกับเจ้านายม้าง
เพราะน้องเค้าเปนคนที่เจ้านายใช้ให้ทำอะไรก็ทำ ขนาดแม่ยายจะมาเยี่ยมที่บ้านเจ้านายให้น้องเค้าไปช่วย
ทำความสะอาดที่บ้านเลย และอีกอย่างเราคิดว่าน้องเค้าชีวิตน่าสงสาร
เพราะต้องเลี้ยงลูกคนเดียว สามีเค้าติดคุกเพราะเสพยา และยังต้องอยุ่ในบ้านสามี ซึ่งอย่างว่าค่ะ ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้
เราก็เข้าใจว่าเจ้านายคงเหนใจเพราะต่างคนต่างมีลูกและซึ่งลูกอายุก็พอๆกัน ซึ่งเจ้านายเคยบอกกับพนักงานว่า
กรณีน้องคนนี้เจ้านายจะให้อภิสิทธ์มากเปนพิเศษ เพราะน้องเค้าเข้ามาทำงานที่บริษัทเปนคนแรก
เลยจะให้สิทธิคนที่มาก่อนเป็นพิเศษ แต่มันเริ่มมาชัดเจนตรงที่ว่า
เรื่องแรก น้องแอบเอาตังบริษัทไปใช้ เจ้านายจับได้ เจ้านายเค้าก็ตักเตือนไป ละน้องเค้าก็ทำอีก ละก้อจับได้อีก
ละก็มาบ่นกับเรานะ ว่าน้องเค้าทำอีกแล้ว พี่เบื่อจังเลย เราก็ไม่รู้จะทำไง
ก็พี่ไม่ทำอะไรมันซักอย่างให้เปนบทเรียนเลย น้องมันก็ทำอีกดิ เฮ้อ
เรื่องที่สอง น้องยื่มรถบริษัทไปซื้อของกับแฟนกับลูก เจ้านายโมโห ทั้งๆที่คนอื่นเค้าก็ยื่ม ละอ้างเหตุผลว่า
น้องกับแฟนไม่มีใบขับขี่ เด่วจะโดนตำรวจจับ ซึ่งทางที่น้องไปมันไม่ไกลเลย ละไปต้องทุ่มกว่า
ซึ่งเมื่อก่อนน้องเค้ายังเคยขับรถไปเอาของได้เลย เราเลยรู้สึกว่า เจ้านายไม่อยากให้แฟนน้องเค้าใช้รถรึป่าว
ทั้งๆที่คนอื่นยื่มรถไปรับเมียไปรับลูกกันไม่เคยเหนแกว่าเลย
เรื่องที่สาม เวลาน้องลาซึ่งลาแค่ครึ่งเช้า เจ้านายชอบบ่นชอบโมโหเวลาน้องเค้าไม่มา
พูดแบบว่า เนี้ยมันชอบลาแบบเนี้ย พี่อุตส่าวางแผนไว้ว่า จะให้มันเฝ้าร้านละคนอื่นออกไปทำธุระให้พี่
เราก็บอกว่า พี่! วันนี้วันเสา งานแทบจะไม่มี ละงานส่วนใหญ่เกี่ยวกับงานราชการ ปิดร้านก้ได้ม้าง
เจ้านายบอก บอกมันนะ ไม่ต้องลาครึ่งวันเลย ลาเติมวันไปเลย ไม่ต้องมาละวันเนี้ย
เราก็ไม่เข้าใจ จะอะไรกับมันหนักหนา
เรื่องที่สี่ น้องขาดงานประมาน 15 วัน เพราะแม่สามีไม่สบายไม่มีใครดูลูกให้
สามีน้องไปเกณทหาร ละน้องของสามีก็ไปเฝ้าแม่ที่โรงบาล ส่วนน้องก็เลี้ยงลูกอยู่บ้าน
โทมาลาว่าไม่มีใครเลี้ยงลูก เราก็บอกว่า ก็เอาลูกมาที่มำงานดิจะได้ไม่โดนหักเงินเดือน
น้องก็ไม่ยอม เราก็บอกได้แค่ว่า งั้นก็แล้วแต่นะ เจ้านายก็บ่นกับเราเรื่องน้องอีกละ
จนน้องมา เจ้านายก็ว่าน้องว่า ต่อไปถ้าลาแบบนี้อีก พี่จะให้น้องพักงานละนะ
ลายาวเกิน ขนาดแม่คนอื่นเค้าเปนมะเร็งเข้าโรงบาลยังไม่ลานานขนาดนี้เลย
ละน้องเค้าก็ลาอีก ละไม่บอกไม่กล่าวอะไรซักอย่าง อยู่ดีๆอย่าจะหายก็หาย
ก็ไม่เหนเจ้านายจะว่าอะไรเลย ได้แต่บ่นๆกับเรา แต่พอน้องมาก็เฉยๆ ไม่พูดถึงเรื่องน้องเลย
เรื่องที่ห้า น้องเค้าขอไปเรียน ซึ่งเจ้านายก็อนุญาต อันนั้นเราก็เข้าใจ ซึ่งก็ตกลงกันว่า
ให้น้องลาไปเรียนได้แค่วันศุกวันเดียวเพราะแค่ไปเอาการบ้านมาทำ วันอื่นก็ห้ามลาแล้วนะ
ส่วนเราห้ามลาวันศุกวันที่น้องไปเรียน เราก็โอเค ซึ่งน้องก็ไปบ้างไม่ไปบ้าง จนสุดท้ายก็ไม่เรียนต่อแล้ว
จนมีวันนึง วันนั้นเราโมโหน้องมาก ซึ่งเราบอกน้องแล้วว่า แม่เราจะมาให้คีโมทุกวันพุธ
แล้วให้เสดเราจะตีรถกลับไปส่งแม่ที่ต่างจังหวัด ละส่งเสดเราจะตีรถกลับมาทำงานตอนเช้าเลย
น้องเค้าก็รู้ แต่วันที่เราจะไปส่งแม่ น้องเค้าหายไปเลย ติดต่อไม่ได้ จนเราแบบไม่ไหวอ่า
ทำไมไม่นึกถึงใจเราบ้าง เราก็คุยกันแฟนเจ้านาย ว่าทำไงดี เราต้องมานั่งรับผิดชอบที่น้องทำแบบนี้หรอ
ถ้าจะลาไปเรียนที่เคยตกลงไว้ เราไม่เคยว่า แต่นี้ไม่บอกอะไรเลย ไม่มีการลาด้วย
อยู่ดีๆก็หายไปเลย ทั้งๆทีเมื่อวานก็นั่งอยู่ที่บริษัทด้วยกัน เรามารู้ทั้งหลังว่า
น้องเค้าไม่เข้าบ้านเลย ไปนอนหอเพื่อนเพราะ น้องทะเลาะกับแม่สามี เรื่องที่น้องเค้าติดเกมส์
ไม่ยอมเลี้ยงลูก แล้วยังแอบคุยกับผู้ชายคนอื่นอีก ไอ้เรื่องแอบคุยกับคนอื่นเนี้ย
เรารู้มานานแล้ว เพราะเวลาน้องอยุ่ที่ทำงานน้องเค้าคุยโทสับทั้งวัน เล่นเกมส์ทั้งวัน
จนบ้างครั้งเราต้องมาทำงานแทนน้องเค้าเลย สุดท้ายเราก็ตามน้องจนเจอละบอกน้องเลยว่า
"กูโมโหมาก ไม่มีความรับผิดชอบเลย เวลาไม่อยู่กูทำแทนหมดทุกอย่าง จะไปไหนก็ทิ้งงานไว้ที่โต๊ะกู
เรื่องนั้นกูไม่เคยว่า จะลาไปไหนกูไม่เคยว่า แต่เคยบอกกูซักคำไหม
ละกูต้องมานั่งรับผิดชอบเฝ้าร้านแทนหรอ ละแม่กูอ่า กูก็มีธุระเหมือนกัน ไม่ใช่ต้องให้กูมารับอะไรแทนดิ
กูไม่รู้นะว่าเปนอะไร แต่กูต้องไปส่งแม่พาแม่ไปหาหมอ กูต้องเอาแม่มาก่อน เข้าใจและเหนใจกูบ้าง
กูเคยทำแบบนี้กับไหม นึกจะมาก็มานึกจะหายก็หาย ละมันเปนหน้าที่กูหรอที่ต้องไปตามเนี้ย"
ตอนนั้นโมโหมาก น้องก็ได้แต่ขอโทดๆ
เรื่องที่หก พอน้องมาทำงานได้แค่วันเดียวก็หายไปอีก จนวันนี้ก็ไม่มาอีกเลย จะลาไม่บอก
จะสายไม่บอก จะเอายังไงก้ไม่บอก แต่เราเหนเฟสน้องว่า น้องจะลาออก เราก็ถามเจ้านายว่าจะเอายังไง เจ้านายก็บอกว่า
งั้นก็ทำหนังสือเตือนพอ เค้าอาจจะไม่ได้ออกก็ได้ เราก็บอกว่า เคยเหนน้องคุยโทสับนะ
ว่าจะไป กทม ไม่รู้ไปหาผู้ชายที่คุยกันในเกมรึป่าว เพราะผู้ชายนี้มันอยู่ กทม
เจ้านายถึงกลับหน้าเสียเลย เงียบไปซักพัก แกก็เซนหนังสือเตือน ละก็เงียบไปเลย
เรานี้แบบ เออ แล้วแต่ละกัน ก็เข้าใจนะว่ามีปัญหาที่บ้าน แต่คนอื่นเค้าก็มี ละที่แม่สามีไล่ออกจากบ้าน
ก็เพราะตัวเองไปคุยกับผู้ชายคนอื่น ละแม่สามีเค้าได้ยินเอง น้องเค้าทำตัวเองจริงๆ
ขอระบายหน่อยเถอะค่ะ เรานี้โครตปวดหัวเลย เจ้านายก็ไม่เด็ดขาด มีอะไรก็ไม่พูด ทำผิดก็ไม่ว่า
แต่บ้างครั้งก้มาลงที่เรา ว่าเราว่าทำไมไม่ดูมันละ ปล่อยให้มันทำแบบนี้ได้ไง เรานี้แบบ
โอ้ยยยย กูก็เปนลูกจ้างเหมือนมัน ละคุณเปนเจ้านายยังทำอะไรมันไม่ได้เลย
ละกูจะทำไงได้ ถ้าเปนบริษัทอื่นนะ น้องโดนไล่ออกไปตั้งแต่เอาเงินบริษัทไปใช้ละ
เจ้านายแอบชอบพนักงานรึป่าว ขนาดเอาเงินบริษัทไปใช้ยังไม่ไล่ออกเลย
เค้าก็ดูเปนเด็กดีนะ มีลูกและมีครอบครัวแล้ว และเจ้านายก็มีลูกมีครอบครัวแล้วเหมือนกัน ซึ่งเราเข้าไปแรกๆ
รู้สึกว่าเจ้านายเอาอกเอาใจน้องคนนี้เปนพิเศษ ค่อยถามว่ากินข้าวยัง กินอะไรมั้ย เราก็คิดว่าน้องเค้าคงสนิทกับเจ้านายม้าง
เพราะน้องเค้าเปนคนที่เจ้านายใช้ให้ทำอะไรก็ทำ ขนาดแม่ยายจะมาเยี่ยมที่บ้านเจ้านายให้น้องเค้าไปช่วย
ทำความสะอาดที่บ้านเลย และอีกอย่างเราคิดว่าน้องเค้าชีวิตน่าสงสาร
เพราะต้องเลี้ยงลูกคนเดียว สามีเค้าติดคุกเพราะเสพยา และยังต้องอยุ่ในบ้านสามี ซึ่งอย่างว่าค่ะ ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้
เราก็เข้าใจว่าเจ้านายคงเหนใจเพราะต่างคนต่างมีลูกและซึ่งลูกอายุก็พอๆกัน ซึ่งเจ้านายเคยบอกกับพนักงานว่า
กรณีน้องคนนี้เจ้านายจะให้อภิสิทธ์มากเปนพิเศษ เพราะน้องเค้าเข้ามาทำงานที่บริษัทเปนคนแรก
เลยจะให้สิทธิคนที่มาก่อนเป็นพิเศษ แต่มันเริ่มมาชัดเจนตรงที่ว่า
เรื่องแรก น้องแอบเอาตังบริษัทไปใช้ เจ้านายจับได้ เจ้านายเค้าก็ตักเตือนไป ละน้องเค้าก็ทำอีก ละก้อจับได้อีก
ละก็มาบ่นกับเรานะ ว่าน้องเค้าทำอีกแล้ว พี่เบื่อจังเลย เราก็ไม่รู้จะทำไง
ก็พี่ไม่ทำอะไรมันซักอย่างให้เปนบทเรียนเลย น้องมันก็ทำอีกดิ เฮ้อ
เรื่องที่สอง น้องยื่มรถบริษัทไปซื้อของกับแฟนกับลูก เจ้านายโมโห ทั้งๆที่คนอื่นเค้าก็ยื่ม ละอ้างเหตุผลว่า
น้องกับแฟนไม่มีใบขับขี่ เด่วจะโดนตำรวจจับ ซึ่งทางที่น้องไปมันไม่ไกลเลย ละไปต้องทุ่มกว่า
ซึ่งเมื่อก่อนน้องเค้ายังเคยขับรถไปเอาของได้เลย เราเลยรู้สึกว่า เจ้านายไม่อยากให้แฟนน้องเค้าใช้รถรึป่าว
ทั้งๆที่คนอื่นยื่มรถไปรับเมียไปรับลูกกันไม่เคยเหนแกว่าเลย
เรื่องที่สาม เวลาน้องลาซึ่งลาแค่ครึ่งเช้า เจ้านายชอบบ่นชอบโมโหเวลาน้องเค้าไม่มา
พูดแบบว่า เนี้ยมันชอบลาแบบเนี้ย พี่อุตส่าวางแผนไว้ว่า จะให้มันเฝ้าร้านละคนอื่นออกไปทำธุระให้พี่
เราก็บอกว่า พี่! วันนี้วันเสา งานแทบจะไม่มี ละงานส่วนใหญ่เกี่ยวกับงานราชการ ปิดร้านก้ได้ม้าง
เจ้านายบอก บอกมันนะ ไม่ต้องลาครึ่งวันเลย ลาเติมวันไปเลย ไม่ต้องมาละวันเนี้ย
เราก็ไม่เข้าใจ จะอะไรกับมันหนักหนา
เรื่องที่สี่ น้องขาดงานประมาน 15 วัน เพราะแม่สามีไม่สบายไม่มีใครดูลูกให้
สามีน้องไปเกณทหาร ละน้องของสามีก็ไปเฝ้าแม่ที่โรงบาล ส่วนน้องก็เลี้ยงลูกอยู่บ้าน
โทมาลาว่าไม่มีใครเลี้ยงลูก เราก็บอกว่า ก็เอาลูกมาที่มำงานดิจะได้ไม่โดนหักเงินเดือน
น้องก็ไม่ยอม เราก็บอกได้แค่ว่า งั้นก็แล้วแต่นะ เจ้านายก็บ่นกับเราเรื่องน้องอีกละ
จนน้องมา เจ้านายก็ว่าน้องว่า ต่อไปถ้าลาแบบนี้อีก พี่จะให้น้องพักงานละนะ
ลายาวเกิน ขนาดแม่คนอื่นเค้าเปนมะเร็งเข้าโรงบาลยังไม่ลานานขนาดนี้เลย
ละน้องเค้าก็ลาอีก ละไม่บอกไม่กล่าวอะไรซักอย่าง อยู่ดีๆอย่าจะหายก็หาย
ก็ไม่เหนเจ้านายจะว่าอะไรเลย ได้แต่บ่นๆกับเรา แต่พอน้องมาก็เฉยๆ ไม่พูดถึงเรื่องน้องเลย
เรื่องที่ห้า น้องเค้าขอไปเรียน ซึ่งเจ้านายก็อนุญาต อันนั้นเราก็เข้าใจ ซึ่งก็ตกลงกันว่า
ให้น้องลาไปเรียนได้แค่วันศุกวันเดียวเพราะแค่ไปเอาการบ้านมาทำ วันอื่นก็ห้ามลาแล้วนะ
ส่วนเราห้ามลาวันศุกวันที่น้องไปเรียน เราก็โอเค ซึ่งน้องก็ไปบ้างไม่ไปบ้าง จนสุดท้ายก็ไม่เรียนต่อแล้ว
จนมีวันนึง วันนั้นเราโมโหน้องมาก ซึ่งเราบอกน้องแล้วว่า แม่เราจะมาให้คีโมทุกวันพุธ
แล้วให้เสดเราจะตีรถกลับไปส่งแม่ที่ต่างจังหวัด ละส่งเสดเราจะตีรถกลับมาทำงานตอนเช้าเลย
น้องเค้าก็รู้ แต่วันที่เราจะไปส่งแม่ น้องเค้าหายไปเลย ติดต่อไม่ได้ จนเราแบบไม่ไหวอ่า
ทำไมไม่นึกถึงใจเราบ้าง เราก็คุยกันแฟนเจ้านาย ว่าทำไงดี เราต้องมานั่งรับผิดชอบที่น้องทำแบบนี้หรอ
ถ้าจะลาไปเรียนที่เคยตกลงไว้ เราไม่เคยว่า แต่นี้ไม่บอกอะไรเลย ไม่มีการลาด้วย
อยู่ดีๆก็หายไปเลย ทั้งๆทีเมื่อวานก็นั่งอยู่ที่บริษัทด้วยกัน เรามารู้ทั้งหลังว่า
น้องเค้าไม่เข้าบ้านเลย ไปนอนหอเพื่อนเพราะ น้องทะเลาะกับแม่สามี เรื่องที่น้องเค้าติดเกมส์
ไม่ยอมเลี้ยงลูก แล้วยังแอบคุยกับผู้ชายคนอื่นอีก ไอ้เรื่องแอบคุยกับคนอื่นเนี้ย
เรารู้มานานแล้ว เพราะเวลาน้องอยุ่ที่ทำงานน้องเค้าคุยโทสับทั้งวัน เล่นเกมส์ทั้งวัน
จนบ้างครั้งเราต้องมาทำงานแทนน้องเค้าเลย สุดท้ายเราก็ตามน้องจนเจอละบอกน้องเลยว่า
"กูโมโหมาก ไม่มีความรับผิดชอบเลย เวลาไม่อยู่กูทำแทนหมดทุกอย่าง จะไปไหนก็ทิ้งงานไว้ที่โต๊ะกู
เรื่องนั้นกูไม่เคยว่า จะลาไปไหนกูไม่เคยว่า แต่เคยบอกกูซักคำไหม
ละกูต้องมานั่งรับผิดชอบเฝ้าร้านแทนหรอ ละแม่กูอ่า กูก็มีธุระเหมือนกัน ไม่ใช่ต้องให้กูมารับอะไรแทนดิ
กูไม่รู้นะว่าเปนอะไร แต่กูต้องไปส่งแม่พาแม่ไปหาหมอ กูต้องเอาแม่มาก่อน เข้าใจและเหนใจกูบ้าง
กูเคยทำแบบนี้กับไหม นึกจะมาก็มานึกจะหายก็หาย ละมันเปนหน้าที่กูหรอที่ต้องไปตามเนี้ย"
ตอนนั้นโมโหมาก น้องก็ได้แต่ขอโทดๆ
เรื่องที่หก พอน้องมาทำงานได้แค่วันเดียวก็หายไปอีก จนวันนี้ก็ไม่มาอีกเลย จะลาไม่บอก
จะสายไม่บอก จะเอายังไงก้ไม่บอก แต่เราเหนเฟสน้องว่า น้องจะลาออก เราก็ถามเจ้านายว่าจะเอายังไง เจ้านายก็บอกว่า
งั้นก็ทำหนังสือเตือนพอ เค้าอาจจะไม่ได้ออกก็ได้ เราก็บอกว่า เคยเหนน้องคุยโทสับนะ
ว่าจะไป กทม ไม่รู้ไปหาผู้ชายที่คุยกันในเกมรึป่าว เพราะผู้ชายนี้มันอยู่ กทม
เจ้านายถึงกลับหน้าเสียเลย เงียบไปซักพัก แกก็เซนหนังสือเตือน ละก็เงียบไปเลย
เรานี้แบบ เออ แล้วแต่ละกัน ก็เข้าใจนะว่ามีปัญหาที่บ้าน แต่คนอื่นเค้าก็มี ละที่แม่สามีไล่ออกจากบ้าน
ก็เพราะตัวเองไปคุยกับผู้ชายคนอื่น ละแม่สามีเค้าได้ยินเอง น้องเค้าทำตัวเองจริงๆ
ขอระบายหน่อยเถอะค่ะ เรานี้โครตปวดหัวเลย เจ้านายก็ไม่เด็ดขาด มีอะไรก็ไม่พูด ทำผิดก็ไม่ว่า
แต่บ้างครั้งก้มาลงที่เรา ว่าเราว่าทำไมไม่ดูมันละ ปล่อยให้มันทำแบบนี้ได้ไง เรานี้แบบ
โอ้ยยยย กูก็เปนลูกจ้างเหมือนมัน ละคุณเปนเจ้านายยังทำอะไรมันไม่ได้เลย
ละกูจะทำไงได้ ถ้าเปนบริษัทอื่นนะ น้องโดนไล่ออกไปตั้งแต่เอาเงินบริษัทไปใช้ละ