หลังจากที่เครื่องได้ลงจอดที่สนามบินเวลาประมาณ 05.50 น. ขนาดดีเลย์จากเมืองไทย กัปตันยังพาซิ่งมาจนถึงเกาหลีแบบไม่ดีเลย์ แต่ยังวิ่งอยู่ที่รันเวย์(เรียกแบบนี้ไหมคะที่เครืองบินวิ่งกัน) เลยมองออกไปนอกหน้าต่าง ลุ้นว่าอากาศจะหนาวไหม ทำไมไม่มีหิมะตก แล้วทริปตามล่าหาหิมะจะเป็นยังไง หลังจากที่ออกจากเครื่องบินก็เดินตามๆกันออกไปเลยคะ ไม่ต้องนั่งรถไฟต่อไปเหมือนสายการบิน lowcost พอออกจากสนามบินจะมีพี่ไกด์ยืนรอเราอยู่ ต้องรอสมาชิกจนครบแล้วเดินไปตม.ด้วยกัน ตอนนั้นเรากับน้องแบบอยากรีบออกไปข้างนอกสนามบินเร็วๆอยากไปสูดอากาศหนาวๆ อยากไปตามรอยอุปป้า แต่ทำได้แค่ซื้อของในมินิมาร์ทเนื่องจากมาทัวร์ อดเลยคะกังนัมมมม ทริปติ่งรออีกแป๊บบบ
รูปนี้ถ่ายมาระหว่างรอสมาชิกแก็งค์ทัวร์ครั้งนี้ ตอนนั้นใจสั่นขาสั่นอยากออกไปเร็วๆ
พอสมาชิกแก็งค์มาครบ ก็เดินไปที่ ตม.ด้วยกัน ตอนนั้นตกใจมาก ตายยยยยแล้ววันนี้จะได้ออกไปข้างนอกกี่โมง เจอมวลมหาประชาชนทั้งจีน ญี่ปุ่น ไทย ต่อแถวกันยาวเต็มทุกช่อง ขออภัยคะ ช๊อตนี้ไม่มีภาพ เนื่องจากตอนนั้นกำลังเคียดเมื่อไรจะได้ออกไปซะที และเขาห้ามถ่ายรูปด้วย แอบบบกลัวไม่ได้เข้าเกาหลี ตอนนั้นใส่เสื้อไหมพรมตัวนี้คะ พร้อมเสื้อขนเป็ดยืนรอ อารมณ์ว่าถ้าผ่านแล้วจะรีบวิ่งไปเอากระเป๋า แล้วรีบล้างหน้าแปรงฟัน ออกไปมินิมาร์ทหาของอุปป้าซื้อก่อนขึ้นรถ
ยืนรอจนเหงื่อแตกไปทั้งตัวเลยคะ
ตอนเข้า ตม. หลายๆคนจะกังวลกลัวว่าจะไม่ผ่าน แต่เราว่าถ้าแต่งตัวพอดูเหมือนนักท่องเที่ยว ไปหน้าหนาวก็ควรมีเสื้อกันหนาว ใส่เสื้อแขนยาว หน้าตาสดใสเหมือนคนไปเที่ยวก็ไม่มีปัญหานะคะ
พอรอดผ่านพ้นจาก ตม. มารีบวิ่งไปที่สายพานเลยคะออกจากเครื่อง 6 โมงกว่า 7 โมงกว่าแล้วเพิ่งรอดจากด่าน ลงไปรับกระเป๋าตามหมายเลขสายพานที่เขาแจ้งมา พอไปถึงงานงอกกก สายพานนั้นไม่มีกระเป๋าของไฟล์ทเราแล้ว ถ้ากระเป๋าไม่ได้เอามาจากเมืองไทยทำไงเนี่ย ไม่มีเสื้อผ้าใส่ !!! เลยไปถามพนักงานแถวนั้น เขาบอกว่าเราออกมาช้า ยกกระเป๋ามาวางไว้ให้ตรงนี้แล้ว โอ๊ยยยประทับใจไม่ต้องยกกระเป๋าเองง
พอได้กระเป๋ามารีบเปิดกระเป๋าเลยคะ ให้น้องไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนแล้วเราเฝ้ากระเป๋า น้องไปซะนานแล้วแถมความเอ๋อมาอีก เดินกลับมานึกว่าเสร็จแล้ว ลืมของ สุดท้ายกลัวช้า ถ่วงคนอื่น ฝากกระเป๋าไว้กับพี่ที่มาทัวร์เดียวกันเลยคะ เห็นเขานั่งรอแฟนอยู่ ยึดคตินี้เลยคะ คนไทยต้องช่วยเหลือกัน 55555
ค้นๆหาของในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หายาสีฟันและแปรงสีฟันเจอ แล้วโฟมหล่ะ โฟมล้างหน้าหายไปไหน ตอนนั้นไม่ล้างแล้วโฟมน้ำปกติเลยย เอาเสื้อใหม่ไปเปลี่ยนด้วย เนื่องจากเสื้อตัวเก่าเหม็นเหงื่อตอนต่อแถว เข้าไปล้างหน้า แปรงฟัน เข้าห้องน้ำ คิวก็ยาวมากกกกก หน้าก็ล้างน้ำปกติ ไม่แต่งแล้วหน้า วันนี้สด อุปป้าต้องหลงรักความเป็นธรรมชาติของหญิงไทย ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น อยากออกไปมินิมาร์ทเร็วๆ จากเหตุการณ์นี้สอนให้รู้ว่าควรเตรียมแปรงสีฟัน ยาสีฟันกับโฟมล้างหน้าหลอดเล็กๆขึ้นเครื่อง เพื่อความสะดวกรวดเร็วที่สนามบินคะะะ ยอมลุกขึ้นมาบนเครื่องบินเพื่อล้างหน้าแปรงฟันก่อนเลยคะ จะได้มีเวลาทำธุระอย่างอื่นที่สนามบิน จากประสบการณ์ตรง เพราะก่อนหน้านี้ทำบนเครื่องก่อนเครื่องลง แต่ครั้งนี้ขี้เกียดลุกบนเครื่อง
หลังจากนั้นเลยขอพี่ไกด์ออกมาก่อน เพื่อซื้อของ พี่ไกด์บอกว่ามีไกด์เกาหลีรอเราอยู่เขามารอแล้ว ออกไปหาได้เลย ตอนนั้นคิดได้ต้องเป็นอุปป้าหล่อๆแบบครั้งก่อนแน่ๆ สรุปเป็นผู้หญิง แอบเซงงงงง
ด้านนอกสนามบินก็จะมีเซเว่น GS25 ร้านขนมปัง ร้านกาแฟมากมาย เลือกซื้อตามสะดวก ใครจะเช่า wifi ก็มีนะคะ แต่เราไม่ได้เช่า เนื่องจากอยากมาเที่ยวจริงๆไม่อยากติดต่อใครตอนกำลังเที่ยว รอกลับไปเล่นที่โรงแรมก็ได้ เขามี wifi ฟรี แต่ความจริงคืองก 55555 ไป 2 คนหารกันมันไม่คุ้ม อยู่แบบเงียบๆดีกว่า พอสมาชิกมากันครบ ก็ต้องลากกระเป๋าออกมาจากสนามบินเพื่อขึ้นรถ ก่อนที่จะออกจากประตู คิดได้แล้วเปิดมาลมต้องกระแทกหน้าแรกๆ พอความจริงไม่มีเลย มันไม่หนาวอย่างที่ใจต้องการ อากาศประมาณ 4 องศา ตอนนั้นแบบเซงงมากกก
บรรยากาศนอกสนามบินนะคะ รูปไม่ค่อยมีเนื่องจากต้องลากกระเป๋าคะ ซอรี่มว๊ากกกก
พอออกมายืนรอรถเลยขอซักรูป เพื่อการยืนยันว่ามาถึงแล้ว 55555
หลายๆคนอาจจะถามว่าไปเกาหลีหน้าหนาวเตรียมตัวอย่างไรดีเรื่องเสื้อผ้า อันนี้บอกแบบพื้นๆเลยนะคะ อากาศ เลขตัวเดียวถึงติดลบ
ด้านในของด้านบนแนะนำเป็นฮีตเทค ของ uniqlo ซึ่งไม่มีขายตลอดนะคะ รู้สึกจะวางขายช่วง ตุลาคมถึงมกราคม แค่ช่วงหน้าหนาว จะเป็นเสื้อสีพื้นเลยคะเลือกแบบไม่ใหญ่กว่าตัวเรามากนะคะ พอดีตัวแต่ไม่แน่น เพราะเดี๋ยวใหญ่ไปลมเข้าแล้วหนาวนะคะ หรือใครอยากใส่ไหมพรมแนะนำแบบที่ทอแน่นๆหน่อยนะคะ เดี๋ยวกันลมไม่ได้ ข้างในใส่ลองจอนอีกชั้นนึงก็ได้คะ เผื่อทนหนาวไม่ได้ แล้วเราก็โป๊ะท่อนบนด้วยเสื้อขนเป็ดอีกทีนึง เสื้อกันหนาวขนเป็ดเวลาซื้อถามคนขายว่าเป็ดขนเป็ดกี่เปอร์เซน บางทีจะเป็นขนเป็ด 90 เปอร์ ขนไก่ 10 เปอร์ ขนเป็ดเยอะๆราคาจะแพง อันนี้เลือกเอาตามใจเลยคะ ราคาน่าจะอยู่ที่ 2,500 -3,500 บาท จำราคาไม่ได้แล้ว ซื้อที่แพลตินัม แนะนำว่าไปซื้อช่วงตุลาคม พฤศจิกายนนะคะ ไปช่วงใกล้ๆปีใหม่หรือหลังปีใหม่ของมีแบบให้เลือกน้อยแล้ว
ส่วนท่อนล่างแนะนำเป็นลองจอนแบบหน้าคะ แบบที่บุขนด้านใน หรือไม่บุก็ได้ ถ้ามีขนด้านในจะทำให้อุ่น เวลาใส่แบบมีขนก็ตัวเดียวเอาอยู่สำหรับคนขี้ร้อนแล้วใส่กระโปรงขับไป แต่ถ้าใส่กางเกง ใส่ลองจอนแบบบางก็ได้คะ จะได้ไม่อึดอัด ส่วนถุงมือแนะนำแบบที่ทัชสกรีนนะ เวลาเราใส่มือถือถ่ายรูปจะได้ไม่ต้องถอดถุงมือ ถ้าใครไปแล้วเจออากาศหนาวมากๆนี่ไม่อยากถอดถุงมือเลยนะ แต่เราใช้แบบผ้าร่มแล้วมุมนุ่นข้างในกับแบบหนัง ชอบแบบหนังมากกว่านะมันไม่หนาวแล้วก็หยิบจับของง่ายกว่าแบบผ้าร่มคะ ผ้าพันคอตามใจเลยคะ เพราะจริงเสื้อโค้ชก็ปิดคออยู่แล้ว หมวกก็ทำให้หัวหายเย็นนะคะ แต่ถ้าเสื้อโค้ชมีหมวกแล้วก็ไม่ต้องก็ได้แต่ถ้าอยากสวยก็เอาเลยคะะะ เสื้อโค้ชแบบที่มีหมวกจะช่วยเวลาลมพัดมาได้นะคะ เพราะว่าลมพัดมาทีนึงนี่อยากจะหายตัวไปอีกที่เลย สำหรับคนไม่ชอบอากาศหนาวๆ แต่สำหรับเรา โอ๊ยยยสวรรค์ชัดๆ ถุงเท้าเลือกแบบหนาๆเลยคะ แบบที่แพลตินัมที่เป็นขนๆสีๆเอาไม่อยู่คะ ลุ่ยเลยคะะะ แนะนำแบบหนาๆใส่ออกกำลังกายคะ รองเท้าผู้หญิงอาจจะอยากใส่บูทเพื่อความสวยงาม เอาเลยคะ แต่แนะนำเอาผ้าใบขึ้นรถทัวร์ติดไปเวลาออกไปเที่ยว เพราะบางทีเดินเยอะๆเมื่อยขามากคะ ยิ่งเป็นส้นสูง แล้วไปหน้าหนาวเวลาเดินต้องระวังลื่นคะ เพราะว่าบางทีหิมะตกแล้วละลายเป็นน้ำแข็งที่พื้น อย่าคิดไปเดินบนนั้นนะคะ เหมือนเราเล่นไอซ์สเก็ตเลยคะ คุมเท้าไม่ได้เลยคะ ล้มมม!!! ทางที่ดีผ้าใบ work สุด แบบที่พื้นรองเท้ามีดอกยางเยอะๆอะคะ ที่ปิดหูแล้วแต่เลยนะคะ แต่ผู้ชายแนะนำติดไว้อันนึงนะ เพราะว่าไม่เหมือนผู้หญิงที่ผมยาวแล้วเอาผมปิดหูได้ แต่เอาไปแทบไม่ใช้เลยคะ รำคานนน 55555 อันนี้เอาเป็นไอเดียในการเตรียมตัวแบบพื้นๆเนอะะ
อันนี้ภาพตอนรถกำลังออกจากสนามบินนะคะ
เรามาขึ้นรถออกเดินทางไปเที่ยวกันดีกว่าคะ พอเราขึ้นรถก็เลือกที่นั่งตามสบายเลยคะ กรุ๊ปเรามีสมาชิกแค่ 21 คนเอง เพราะฉะนั้น จะนั่งคนละแถวเลยก็ได้คะ สบายๆ พอออกจากสนามบินก็จะสามารถนั่งมองวิว นั่งชมวิว ข้าสะพานแขวนที่มีรัศมีที่ 38 ที่เป็นจุดแบ่งเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ ไกด์ก็จะอธิบายเหตุการณ์ให้ฟังนะคะ ก็จะได้รู้ความเป็นมาแบบคร่าวๆ
อันนี้เป็นภาพระหว่างทางนะคะ
ระหว่างทางไกด์ก็จะพูดแนะนำกันไป และแน่นอนต้องสอนภาษาเกาหลีนะคะ ตามเดิมนะ อันยองฮาเซโย แปลว่าสวัสดี คัมซาฮัมนีดา แปลว่าขอบคุณ และที่สำคัญคำนี้ คีซานิม แปลว่าคนขับรถ ทุกวันตอนเช้านอกว่าจะสวัสดีไกด์แล้ว เราต้องสวัสดีคุณลุงคนขับทุกเช้านะคะ อันยองฮาเซโยคีซานิม ตามสเตปเลยคะ คาดว่าไม่ต่างกันเกือบทุกทัวร์ นั่งรถมาประมาณ 15-20 นาทีก็จะถึงร้านอาหาร ซึ่งเหนือความคาดหมายว่ามีอาหารเช้าให้ทาน อุตส่าห์ไปซื้อของจากมินิมาร์ทตุนไว้
ตึกนี้เลยคะ ขึ้นไปข้างบน มื้อแรกวันนี้ จัดว่าเหลือเชื่อ เพราะไม่มีเขียนในรายการทัวร์ว่ามีอาหารเช้า แต่ดีคะ ถือว่าลาภปาก
เดินขึ้นไปนั่งโต๊ะละ 4 คน เราก็ตีเนียนไปตีซี้กันพี่ผู้หญิง 2 คนเลยคะ เกาะเขาไว้จะได้อยู่รอดจนวันกลับคะะะ 55555
อาหารเช้าอันนี้ไม่รู้เกาหลีเรียกว่าอะไร คล้ายอุด้งของญี่ปุ่น
รสชาติดีนะคะ ไม่จืดเลย เค็มๆหน่อย ถูกปากนะคะ น้ำซุปอุ่นๆน้ำให้รู้สึกดีเลยคะ ที่ขาดไม่ได้มาถึงเกาหลี ทุกมื้อต้องมีอันนี้เลยคะ
กิมจิ และหัวไชเท้าดอง กิมจิร้านนี้ออกแนวจืดเลยคะ ไม่ปลื้มมมม
แต่ทดแทนได้ด้วยวิวแบบพาโนราม่า
ได้เห็นเกาหลีในอีกมุมหนึ่ง แบบที่ซีรีย์ไม่ค่อยได้มาถ่ายทำ รีบทานแล้วรีบลงไปถ่ายรูปเล่นหน้าร้านกัน
ใครเป็นแฟนคลับใครมาเกาหลี เตรียมตัวแต่งหน้าทำผมเป็นมาถ่ายรูปคู่ลงไอจีอวดเพื่อนได้ตลอดทริปคะ มีทุกที่ ดักทั้งเมือง อันนี้ลงลิฟต์มาเจอหลายคนมายืนรอ ลีมินโฮก็มานะคะ
อันนี้น้องชอบคะ 5555
ออกไปถ่ายรูปเล่นหน้าตึก รถที่นี่ส่วนมากจะเป็นฮุนไดนะคะ รถสัญชาติเกาหลี
หลังจากนั้นเราก็ขึ้นรถไปสถานที่แรก นั่นคือเกาะนามิ ที่99.9999999999999 % ของทัวร์จะพาไป มันคือสถานที่ถ่านทำซีรีย์ที่โด่งดังมากของเอเชีย ซึ่งดิฉันมั่นใจว่า มากกว่า 99 % ของผู้ที่เดินทางมาไม่เคยดูซีรีย์ เพราะว่าทุกคนในครอบครัวและคนใกล้ตัวที่ไปเที่ยวเกาะนามิคือไม่เคยดู แต่ไม่เป็นไรคะ ไม่เคยดูก็ไปเหอะคะ มันดี !!
พอขึ้นรถพี่ไกด์ก็จะบรรยายไปเรื่อยๆให้ความรู้ประดับหนังหัวเรากันนะคะ ใจก็อยากฟังอยากใช้สายตาดูวิวเก็บวิวในสายตาไว้เยอะๆ แต่สุดท้ายไปชมวิวในฝันเลยคะ หลับไปตอนไหนไม่รู้ เลยได้รู้ระหว่างทางมาฝากเล็กน้อย
อันนี้จะเป็นแม่น้ำที่เราขับผ่านนะคะ มันคือแบบน้ำฮัน ซึ่งเปนแม่น้ำสายหลักของเกาหลีใต้
มองไปจะเจอแต่ Apartment นะคะเพราะคนเกาหลีนิยมอยู่กันใน Apartment เนื่องจากที่ดินน้อยและประชากรเยอะ พื้นที่ส่วนมากเป็นภูเขาอีกด้วย
รูปนี้มองดีๆจะเห็นภูเขานะคะ
[CR] (Review) Winter in South Korea 21-25 Jan 2015 Ep.2
รูปนี้ถ่ายมาระหว่างรอสมาชิกแก็งค์ทัวร์ครั้งนี้ ตอนนั้นใจสั่นขาสั่นอยากออกไปเร็วๆ
พอสมาชิกแก็งค์มาครบ ก็เดินไปที่ ตม.ด้วยกัน ตอนนั้นตกใจมาก ตายยยยยแล้ววันนี้จะได้ออกไปข้างนอกกี่โมง เจอมวลมหาประชาชนทั้งจีน ญี่ปุ่น ไทย ต่อแถวกันยาวเต็มทุกช่อง ขออภัยคะ ช๊อตนี้ไม่มีภาพ เนื่องจากตอนนั้นกำลังเคียดเมื่อไรจะได้ออกไปซะที และเขาห้ามถ่ายรูปด้วย แอบบบกลัวไม่ได้เข้าเกาหลี ตอนนั้นใส่เสื้อไหมพรมตัวนี้คะ พร้อมเสื้อขนเป็ดยืนรอ อารมณ์ว่าถ้าผ่านแล้วจะรีบวิ่งไปเอากระเป๋า แล้วรีบล้างหน้าแปรงฟัน ออกไปมินิมาร์ทหาของอุปป้าซื้อก่อนขึ้นรถ
ยืนรอจนเหงื่อแตกไปทั้งตัวเลยคะ
ตอนเข้า ตม. หลายๆคนจะกังวลกลัวว่าจะไม่ผ่าน แต่เราว่าถ้าแต่งตัวพอดูเหมือนนักท่องเที่ยว ไปหน้าหนาวก็ควรมีเสื้อกันหนาว ใส่เสื้อแขนยาว หน้าตาสดใสเหมือนคนไปเที่ยวก็ไม่มีปัญหานะคะ
พอรอดผ่านพ้นจาก ตม. มารีบวิ่งไปที่สายพานเลยคะออกจากเครื่อง 6 โมงกว่า 7 โมงกว่าแล้วเพิ่งรอดจากด่าน ลงไปรับกระเป๋าตามหมายเลขสายพานที่เขาแจ้งมา พอไปถึงงานงอกกก สายพานนั้นไม่มีกระเป๋าของไฟล์ทเราแล้ว ถ้ากระเป๋าไม่ได้เอามาจากเมืองไทยทำไงเนี่ย ไม่มีเสื้อผ้าใส่ !!! เลยไปถามพนักงานแถวนั้น เขาบอกว่าเราออกมาช้า ยกกระเป๋ามาวางไว้ให้ตรงนี้แล้ว โอ๊ยยยประทับใจไม่ต้องยกกระเป๋าเองง
พอได้กระเป๋ามารีบเปิดกระเป๋าเลยคะ ให้น้องไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนแล้วเราเฝ้ากระเป๋า น้องไปซะนานแล้วแถมความเอ๋อมาอีก เดินกลับมานึกว่าเสร็จแล้ว ลืมของ สุดท้ายกลัวช้า ถ่วงคนอื่น ฝากกระเป๋าไว้กับพี่ที่มาทัวร์เดียวกันเลยคะ เห็นเขานั่งรอแฟนอยู่ ยึดคตินี้เลยคะ คนไทยต้องช่วยเหลือกัน 55555
ค้นๆหาของในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หายาสีฟันและแปรงสีฟันเจอ แล้วโฟมหล่ะ โฟมล้างหน้าหายไปไหน ตอนนั้นไม่ล้างแล้วโฟมน้ำปกติเลยย เอาเสื้อใหม่ไปเปลี่ยนด้วย เนื่องจากเสื้อตัวเก่าเหม็นเหงื่อตอนต่อแถว เข้าไปล้างหน้า แปรงฟัน เข้าห้องน้ำ คิวก็ยาวมากกกกก หน้าก็ล้างน้ำปกติ ไม่แต่งแล้วหน้า วันนี้สด อุปป้าต้องหลงรักความเป็นธรรมชาติของหญิงไทย ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น อยากออกไปมินิมาร์ทเร็วๆ จากเหตุการณ์นี้สอนให้รู้ว่าควรเตรียมแปรงสีฟัน ยาสีฟันกับโฟมล้างหน้าหลอดเล็กๆขึ้นเครื่อง เพื่อความสะดวกรวดเร็วที่สนามบินคะะะ ยอมลุกขึ้นมาบนเครื่องบินเพื่อล้างหน้าแปรงฟันก่อนเลยคะ จะได้มีเวลาทำธุระอย่างอื่นที่สนามบิน จากประสบการณ์ตรง เพราะก่อนหน้านี้ทำบนเครื่องก่อนเครื่องลง แต่ครั้งนี้ขี้เกียดลุกบนเครื่อง
หลังจากนั้นเลยขอพี่ไกด์ออกมาก่อน เพื่อซื้อของ พี่ไกด์บอกว่ามีไกด์เกาหลีรอเราอยู่เขามารอแล้ว ออกไปหาได้เลย ตอนนั้นคิดได้ต้องเป็นอุปป้าหล่อๆแบบครั้งก่อนแน่ๆ สรุปเป็นผู้หญิง แอบเซงงงงง
ด้านนอกสนามบินก็จะมีเซเว่น GS25 ร้านขนมปัง ร้านกาแฟมากมาย เลือกซื้อตามสะดวก ใครจะเช่า wifi ก็มีนะคะ แต่เราไม่ได้เช่า เนื่องจากอยากมาเที่ยวจริงๆไม่อยากติดต่อใครตอนกำลังเที่ยว รอกลับไปเล่นที่โรงแรมก็ได้ เขามี wifi ฟรี แต่ความจริงคืองก 55555 ไป 2 คนหารกันมันไม่คุ้ม อยู่แบบเงียบๆดีกว่า พอสมาชิกมากันครบ ก็ต้องลากกระเป๋าออกมาจากสนามบินเพื่อขึ้นรถ ก่อนที่จะออกจากประตู คิดได้แล้วเปิดมาลมต้องกระแทกหน้าแรกๆ พอความจริงไม่มีเลย มันไม่หนาวอย่างที่ใจต้องการ อากาศประมาณ 4 องศา ตอนนั้นแบบเซงงมากกก
บรรยากาศนอกสนามบินนะคะ รูปไม่ค่อยมีเนื่องจากต้องลากกระเป๋าคะ ซอรี่มว๊ากกกก
พอออกมายืนรอรถเลยขอซักรูป เพื่อการยืนยันว่ามาถึงแล้ว 55555
หลายๆคนอาจจะถามว่าไปเกาหลีหน้าหนาวเตรียมตัวอย่างไรดีเรื่องเสื้อผ้า อันนี้บอกแบบพื้นๆเลยนะคะ อากาศ เลขตัวเดียวถึงติดลบ
ด้านในของด้านบนแนะนำเป็นฮีตเทค ของ uniqlo ซึ่งไม่มีขายตลอดนะคะ รู้สึกจะวางขายช่วง ตุลาคมถึงมกราคม แค่ช่วงหน้าหนาว จะเป็นเสื้อสีพื้นเลยคะเลือกแบบไม่ใหญ่กว่าตัวเรามากนะคะ พอดีตัวแต่ไม่แน่น เพราะเดี๋ยวใหญ่ไปลมเข้าแล้วหนาวนะคะ หรือใครอยากใส่ไหมพรมแนะนำแบบที่ทอแน่นๆหน่อยนะคะ เดี๋ยวกันลมไม่ได้ ข้างในใส่ลองจอนอีกชั้นนึงก็ได้คะ เผื่อทนหนาวไม่ได้ แล้วเราก็โป๊ะท่อนบนด้วยเสื้อขนเป็ดอีกทีนึง เสื้อกันหนาวขนเป็ดเวลาซื้อถามคนขายว่าเป็ดขนเป็ดกี่เปอร์เซน บางทีจะเป็นขนเป็ด 90 เปอร์ ขนไก่ 10 เปอร์ ขนเป็ดเยอะๆราคาจะแพง อันนี้เลือกเอาตามใจเลยคะ ราคาน่าจะอยู่ที่ 2,500 -3,500 บาท จำราคาไม่ได้แล้ว ซื้อที่แพลตินัม แนะนำว่าไปซื้อช่วงตุลาคม พฤศจิกายนนะคะ ไปช่วงใกล้ๆปีใหม่หรือหลังปีใหม่ของมีแบบให้เลือกน้อยแล้ว
ส่วนท่อนล่างแนะนำเป็นลองจอนแบบหน้าคะ แบบที่บุขนด้านใน หรือไม่บุก็ได้ ถ้ามีขนด้านในจะทำให้อุ่น เวลาใส่แบบมีขนก็ตัวเดียวเอาอยู่สำหรับคนขี้ร้อนแล้วใส่กระโปรงขับไป แต่ถ้าใส่กางเกง ใส่ลองจอนแบบบางก็ได้คะ จะได้ไม่อึดอัด ส่วนถุงมือแนะนำแบบที่ทัชสกรีนนะ เวลาเราใส่มือถือถ่ายรูปจะได้ไม่ต้องถอดถุงมือ ถ้าใครไปแล้วเจออากาศหนาวมากๆนี่ไม่อยากถอดถุงมือเลยนะ แต่เราใช้แบบผ้าร่มแล้วมุมนุ่นข้างในกับแบบหนัง ชอบแบบหนังมากกว่านะมันไม่หนาวแล้วก็หยิบจับของง่ายกว่าแบบผ้าร่มคะ ผ้าพันคอตามใจเลยคะ เพราะจริงเสื้อโค้ชก็ปิดคออยู่แล้ว หมวกก็ทำให้หัวหายเย็นนะคะ แต่ถ้าเสื้อโค้ชมีหมวกแล้วก็ไม่ต้องก็ได้แต่ถ้าอยากสวยก็เอาเลยคะะะ เสื้อโค้ชแบบที่มีหมวกจะช่วยเวลาลมพัดมาได้นะคะ เพราะว่าลมพัดมาทีนึงนี่อยากจะหายตัวไปอีกที่เลย สำหรับคนไม่ชอบอากาศหนาวๆ แต่สำหรับเรา โอ๊ยยยสวรรค์ชัดๆ ถุงเท้าเลือกแบบหนาๆเลยคะ แบบที่แพลตินัมที่เป็นขนๆสีๆเอาไม่อยู่คะ ลุ่ยเลยคะะะ แนะนำแบบหนาๆใส่ออกกำลังกายคะ รองเท้าผู้หญิงอาจจะอยากใส่บูทเพื่อความสวยงาม เอาเลยคะ แต่แนะนำเอาผ้าใบขึ้นรถทัวร์ติดไปเวลาออกไปเที่ยว เพราะบางทีเดินเยอะๆเมื่อยขามากคะ ยิ่งเป็นส้นสูง แล้วไปหน้าหนาวเวลาเดินต้องระวังลื่นคะ เพราะว่าบางทีหิมะตกแล้วละลายเป็นน้ำแข็งที่พื้น อย่าคิดไปเดินบนนั้นนะคะ เหมือนเราเล่นไอซ์สเก็ตเลยคะ คุมเท้าไม่ได้เลยคะ ล้มมม!!! ทางที่ดีผ้าใบ work สุด แบบที่พื้นรองเท้ามีดอกยางเยอะๆอะคะ ที่ปิดหูแล้วแต่เลยนะคะ แต่ผู้ชายแนะนำติดไว้อันนึงนะ เพราะว่าไม่เหมือนผู้หญิงที่ผมยาวแล้วเอาผมปิดหูได้ แต่เอาไปแทบไม่ใช้เลยคะ รำคานนน 55555 อันนี้เอาเป็นไอเดียในการเตรียมตัวแบบพื้นๆเนอะะ
อันนี้ภาพตอนรถกำลังออกจากสนามบินนะคะ
เรามาขึ้นรถออกเดินทางไปเที่ยวกันดีกว่าคะ พอเราขึ้นรถก็เลือกที่นั่งตามสบายเลยคะ กรุ๊ปเรามีสมาชิกแค่ 21 คนเอง เพราะฉะนั้น จะนั่งคนละแถวเลยก็ได้คะ สบายๆ พอออกจากสนามบินก็จะสามารถนั่งมองวิว นั่งชมวิว ข้าสะพานแขวนที่มีรัศมีที่ 38 ที่เป็นจุดแบ่งเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ ไกด์ก็จะอธิบายเหตุการณ์ให้ฟังนะคะ ก็จะได้รู้ความเป็นมาแบบคร่าวๆ
อันนี้เป็นภาพระหว่างทางนะคะ
ระหว่างทางไกด์ก็จะพูดแนะนำกันไป และแน่นอนต้องสอนภาษาเกาหลีนะคะ ตามเดิมนะ อันยองฮาเซโย แปลว่าสวัสดี คัมซาฮัมนีดา แปลว่าขอบคุณ และที่สำคัญคำนี้ คีซานิม แปลว่าคนขับรถ ทุกวันตอนเช้านอกว่าจะสวัสดีไกด์แล้ว เราต้องสวัสดีคุณลุงคนขับทุกเช้านะคะ อันยองฮาเซโยคีซานิม ตามสเตปเลยคะ คาดว่าไม่ต่างกันเกือบทุกทัวร์ นั่งรถมาประมาณ 15-20 นาทีก็จะถึงร้านอาหาร ซึ่งเหนือความคาดหมายว่ามีอาหารเช้าให้ทาน อุตส่าห์ไปซื้อของจากมินิมาร์ทตุนไว้
ตึกนี้เลยคะ ขึ้นไปข้างบน มื้อแรกวันนี้ จัดว่าเหลือเชื่อ เพราะไม่มีเขียนในรายการทัวร์ว่ามีอาหารเช้า แต่ดีคะ ถือว่าลาภปาก
เดินขึ้นไปนั่งโต๊ะละ 4 คน เราก็ตีเนียนไปตีซี้กันพี่ผู้หญิง 2 คนเลยคะ เกาะเขาไว้จะได้อยู่รอดจนวันกลับคะะะ 55555
อาหารเช้าอันนี้ไม่รู้เกาหลีเรียกว่าอะไร คล้ายอุด้งของญี่ปุ่น
รสชาติดีนะคะ ไม่จืดเลย เค็มๆหน่อย ถูกปากนะคะ น้ำซุปอุ่นๆน้ำให้รู้สึกดีเลยคะ ที่ขาดไม่ได้มาถึงเกาหลี ทุกมื้อต้องมีอันนี้เลยคะ
กิมจิ และหัวไชเท้าดอง กิมจิร้านนี้ออกแนวจืดเลยคะ ไม่ปลื้มมมม
แต่ทดแทนได้ด้วยวิวแบบพาโนราม่า
ได้เห็นเกาหลีในอีกมุมหนึ่ง แบบที่ซีรีย์ไม่ค่อยได้มาถ่ายทำ รีบทานแล้วรีบลงไปถ่ายรูปเล่นหน้าร้านกัน
ใครเป็นแฟนคลับใครมาเกาหลี เตรียมตัวแต่งหน้าทำผมเป็นมาถ่ายรูปคู่ลงไอจีอวดเพื่อนได้ตลอดทริปคะ มีทุกที่ ดักทั้งเมือง อันนี้ลงลิฟต์มาเจอหลายคนมายืนรอ ลีมินโฮก็มานะคะ
อันนี้น้องชอบคะ 5555
ออกไปถ่ายรูปเล่นหน้าตึก รถที่นี่ส่วนมากจะเป็นฮุนไดนะคะ รถสัญชาติเกาหลี
หลังจากนั้นเราก็ขึ้นรถไปสถานที่แรก นั่นคือเกาะนามิ ที่99.9999999999999 % ของทัวร์จะพาไป มันคือสถานที่ถ่านทำซีรีย์ที่โด่งดังมากของเอเชีย ซึ่งดิฉันมั่นใจว่า มากกว่า 99 % ของผู้ที่เดินทางมาไม่เคยดูซีรีย์ เพราะว่าทุกคนในครอบครัวและคนใกล้ตัวที่ไปเที่ยวเกาะนามิคือไม่เคยดู แต่ไม่เป็นไรคะ ไม่เคยดูก็ไปเหอะคะ มันดี !!
พอขึ้นรถพี่ไกด์ก็จะบรรยายไปเรื่อยๆให้ความรู้ประดับหนังหัวเรากันนะคะ ใจก็อยากฟังอยากใช้สายตาดูวิวเก็บวิวในสายตาไว้เยอะๆ แต่สุดท้ายไปชมวิวในฝันเลยคะ หลับไปตอนไหนไม่รู้ เลยได้รู้ระหว่างทางมาฝากเล็กน้อย
อันนี้จะเป็นแม่น้ำที่เราขับผ่านนะคะ มันคือแบบน้ำฮัน ซึ่งเปนแม่น้ำสายหลักของเกาหลีใต้
มองไปจะเจอแต่ Apartment นะคะเพราะคนเกาหลีนิยมอยู่กันใน Apartment เนื่องจากที่ดินน้อยและประชากรเยอะ พื้นที่ส่วนมากเป็นภูเขาอีกด้วย
รูปนี้มองดีๆจะเห็นภูเขานะคะ